วิธีการ รับมือกับแฟนหนุ่มขี้หึง

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

การเยียวยาความสัมพันธ์กับแฟนหนุ่มขี้หึง

การดึงตัวเองออกจากสถานการณ์

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

แม้เราจะรู้สึกดีที่ถูกรักหรือเทิดทูนแต่มันมีเพียงเส้นบางๆ ที่กั้นระหว่างพฤติกรรมที่แสดงออกถึงความห่วงใยกับความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเท่านั้น หากคุณรู้สึกว่าแฟนหนุ่มของคุณเป็นหรือกำลังกลายมาเป็นคนขี้หึงหวง คุณก็ควรพูดเรื่องนี้กับเขาให้เร็วที่สุด แม้พฤติกรรมขี้หึงหวงนั้นก่อเกิดจากความเชื่อมั่นในตัวเองที่ต่ำแต่คนรักที่ขี้หึงจะโยนความรู้สึกเหล่านี้กลับมาที่คุณ แฟนหนุ่มขี้หึงอาจจะทำให้คุณไม่สามารถมีความเห็นหรือความรู้สึกของตัวเองและอาจะทำให้คุณรู้สึกผิดที่มีชีวิตแยกออกมาจากของเขา เขาอาจจะพยายามห้ามไม่ให้คุณเจอเพื่อนๆ และค่อยๆ เข้ามาบงการชีวิตคุณ หากคุณไม่หยุดพฤติกรรมเหล่านี้ของเขา มันก็มีทีท่าว่าจะยิ่งร้ายแรงกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม คุณมีวิธีในการรับมือกับแฟนหนุ่มขี้หึงหวงได้ดังนี้

ขั้นตอน

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 2:

การเยียวยาความสัมพันธ์กับแฟนหนุ่มขี้หึง

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   บรรยายความรู้สึกของคุณ. แฟนของคุณอาจไม่รู้ว่าเขากำลังประพฤติตนในทางหึงหวงกับคุณ นี่อาจจะเป็นความสัมพันธ์ครั้งแรกของเขาหรือแฟนเก่าคนล่าสุดของเขามีนิสัยต่างจากคุณ เขาอาจจะกำลังเผชิญกับเหตุการณ์ในชีวิตที่ทำให้เขาดึงคุณเข้ามาอยู่ใกล้ตัวมากกว่าที่คุณต้องการ การพูดถึงความต้องการของคุณในความสัมพันธ์นี้จึงเป็นการเริ่มต้นที่ดี

   • ลองเริ่มด้วยตัวอย่างเช่น “ฉันเริ่มรู้สึกว่าเธอไม่ไว้ใจฉันที่เธอโทรหาฉันหลายๆ รอบเวลาที่ฉันไปกับบรรดาเพื่อนสาว” หรือ “ฉันรู้สึกอึดอัดมากเวลาที่เธอไม่คุยกับฉันหลังจากที่ฉันไปเที่ยวกับบรรดาเพื่อนผู้ชาย”
   • กล่าวถึงเหตุการณ์เฉพาะเจาะจงที่คุณรู้สึกว่าเขากำลังทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ “ฉันเสียใจมากตอนที่เราไปดูบอลด้วยกันและเธอไม่พูดกับฉันเลยหลังจากที่ฉันไปเล่นเกมส์เกือกม้ากับเพื่อนๆ จากโรงเรียน”
   • เลี่ยงการเรียกชื่ออื่นๆ เช่น อย่าเรียกเขาว่า “คนขี้หึง” แทนการทำเช่นนั้น คุณอาจจะอยากบอกว่าคุณรู้สึกว่าพฤติกรรมของเขานั้นเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเกินไปและคุณรู้สึกอึดอัด การเรียกชื่ออื่นๆ อาจนำไปสู่การทะเลาะเบาะแว้งแต่การอธิบายความรู้สึกของคุณจะไม่เป็นเช่นนั้น
2. 
   2
   พูดถึงพฤติกรรมที่คุณรู้สึกรับไม่ได้. การพูดคุยนี้ต้องชัดเจนและเป็นส่วนตัวซึ่งคุณสามารถพูดถึงพฤติกรรมที่คุณไม่อยากให้มาทำลายความสัมพันธ์นี้อย่างหมดเปลือก สิ่งเหล่านี้ควรเป็นปัญหาที่คุณไม่อยากที่จะประนีประนอมให้ ตัวอย่างของพฤติกรรมที่คุณอาจจะรู้สึกรับไม่ได้มีดังนี้:

   • ขอให้คุณหยุดไปเที่ยวกับเพื่อน โดยเฉพาะเพื่อนผู้ชายโดยไม่มีเหตุผลที่ดี
   • สั่งว่าต้องใส่ชุดอะไรหรือติเตียนหากเขาคิดว่าคุณแต่งตัว “ไม่เหมาะสม”
   • โทรหรือส่งข้อความหาคุณซ้ำไปซ้ำมาเมื่อคุณไม่ได้อยู่ด้วยกัน
   • เช็คโทรศัพท์มือถือ อีเมล์และของใช้ส่วนตัวของคุณ
   • ถามหาคำอธิบายของทุกการเคลื่อนไหวของคุณในแต่ละวัน
   • ทำให้คุณรู้สึกผิดที่ต้องเปลี่ยนแผนกะทันหันเพื่อทำการใดการหนึ่งที่สำคัญ
   • โกรธสุดเหวี่ยงหรือขู่หากคุณไม่มีเวลาให้เขามากพอ
3. 
   3
   อธิบายความต้องการของคุณในความสัมพันธ์นี้. แฟนของคุณอาจจะไม่รู้ความต้องการที่ไม่เหมือนใครของคุณในความสัมพันธ์นี้ ฉะนั้นคุณต้องสื่อสารกับเขา วิธีนี้อาจจะช่วยบรรเทาพฤติกรรมขี้หึงหวงของเขาได้

   • อธิบายความต้องการของคุณต่อการใช้ชีวิตของตัวเอง บอกแฟนของคุณว่าแม้คุณจะชอบใช้เวลาร่วมกับเขามากแต่คุณก็อยากใช้เวลากับเพื่อนๆ และครอบครัวของคุณเช่นกัน การมีชีวิตส่วนตัวที่ไม่เกี่ยวกับแฟนนั้นสำคัญสำหรับความสัมพันธ์ที่ดี สนับสนุนให้เขาใช้เวลากับเพื่อนๆ และครอบครัวของเขาเช่นกัน
   • สื่อสารความต้องการที่จะให้เขาไว้ใจคุณ เขาควรจะไว้ใจคุณมากพอกับที่คุณไว้ใจเขา สิ่งนี้คือเสาหลักของความสัมพันธ์ที่ดี
   • ต่อรองกฎเกณฑ์บางข้อในความสัมพันธ์ของคุณ เช่น คุณทั้งคู่สามารถใช้เวลากับเพื่อนต่างเพศได้ อย่างไรก็ตาม คุณต้องคาดหวังที่จะได้รับความซื่อสัตย์ ความจงรักภักดีและความรักเดียวใจเดียว
4. 
   4
   พูดถึงพันธะสัญญาในความสัมพันธ์นี้. พฤติกรรมขี้หึงหวงส่วนใหญ่มีรากฐานมาจากความเชื่อมั่นและความมั่นใจในตัวเองที่ต่ำ หากพฤติกรรมขี้หึงหวงของแฟนหนุ่มนั้นไม่ค่อยรุนแรง คุณก็สามารถเตือนเขาว่าคุณยังซื่อตรงต่อความสัมพันธ์นี้และเขาไม่มีความจำเป็นที่ต้องกังวลกับความตั้งใจของคุณ

   • การตอกย้ำที่เป็นคำพูดเป็นวิธีที่ทรงพลังสำหรับการทำให้แฟนหนุ่มของคุณมั่นใจ คำพูดง่ายๆ เช่น “ฉันรักเธอและเธอคนเดียว” มักจะได้ผลเสมอ
5. 
   5
   รวมเขาเข้าไปในแผนการของคุณกับเพื่อนๆ. บ่อยครั้งที่ความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของของเขามาจากความหึงหวงเช่นเดียวกับความไม่มั่นใจ การรวมแฟนของคุณเข้าไปในกิจกรรมของคุณกับเพื่อนๆ สามารถทำให้เขารู้สึกอุ่นใจมากขึ้นกับชีวิตที่คุณมีเมื่ออยู่ห่างจากเขา

   • โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันอาจจะเป็นประโยชน์ในการพาแฟนมาเจอกับเพื่อนผู้ชายของคุณ เขาอาจจะรู้สึกอึดอัดกับหนุ่มคนอื่นๆ ที่คุณใช้เวลาด้วย อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่เหตุผลที่คุณต้องหยุดใช้เวลากับเพื่อนๆ ผู้ชายและแทนที่จะทำเช่นนั้น คุณควรชวนแฟนของคุณมาด้วยเพื่อให้เขาเห็นว่าไม่มีอะไรที่เขาต้องกังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์นี้
6. 
   6
   ให้เวลาในการเยียวยาความสัมพันธ์. หลังจากที่คุณได้พูดคุยถึงความรู้สึกแง่ลบที่คุณมีเกี่ยวกับความสัมพันธ์นี้แล้ว ความรู้สึกของคุณทั้งคู่ก็อาจจะเดือดพล่าน นี่คือเวลาที่ดีในการอยู่ห่างกันและคิดทบทวนถึงสิ่งที่พูดก่อนที่จะกลับมาหากันและพยายามมีความสัมพันธ์ที่มีความสุขและดีมากกว่าเดิม

   • ตระหนักว่ากระบวนการนี้ต้องใช้เวลา แฟนของคุณอาจจะมาเปลี่ยนในทันที คุณต้องพร้อมที่จะให้เวลาและความพยายามในการช่วยเขาเปลี่ยนพฤติกรรมขี้หึงหวงเหล่านี้
   • อย่ากลัวที่จะบอกเมื่อเขามีพฤติกรรมขี้หึงหวงอีกครั้ง อย่าปล่อยให้มันผ่านไป คุณต้องบอกเขาในทันทีที่เขามีพฤติกรรมนั้นและอธิบายให้เขาฟังว่าคุณรู้สึกอย่างไร
   • สนับสนุนเขาเมื่อทำตัวน่ารักโดยไม่ทำตัวหึงหวง บอกเขาเมื่อเขาประพฤติตัวในทางที่คุณชอบและเขาจะอยากทำแบบนี้อีกบ่อยๆ
7. 
   7
   ยึดหลักความจริงว่าความสัมพันธ์นี้คุ้มค่าที่จะแก้ไขหรือไม่. หากแฟนของคุณต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของเขาและยินยอมที่จะเคารพความรู้สึกและรับฟังความต้องการของคุณ คุณก็อาจจะพร้อมให้โอกาสความสัมพันธ์นี้อีกสักครั้ง แต่หากคุณรู้สึกหดหู่ กลัว เครียดหรือประหม่า คุณก็ต้องเดินออกจากความสัมพันธ์นี้

   • จำไว้ว่าถึงแม้คุณจะอยากให้เขาเปลี่ยนแปลงมากแค่ไหนแต่คุณก็เปลี่ยนเขาไม่ได้ เขาต้องเป็นคนที่เริ่มและบรรลุการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของเขาเอง
   โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 2:

การดึงตัวเองออกจากสถานการณ์

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   เตรียมตัวเลิกรากับแฟนหนุ่มขี้หึง. หากพฤติกรรมขี้หึงหวงของแฟนหนุ่มยิ่งแย่ลงหรืออยู่ที่ระดับที่น่าเป็นห่วงแล้ว คุณต้องตระหนักว่าคุณไม่อาจสามารถเปลี่ยนแปลงเขาได้ (หรือหากไม่มีคำแนะนำอย่างมืออาชีพ) ความปรารถนาของเขาในการบงการคนรักอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของนิสัยของเขาแต่คุณจำเป็นต้องหยุดสิ่งนั้น จากนั้นจึงถึงเวลาเลิกรา

   • เตรียมสิ่งที่คุณจะพูด จำไว้ว่าความเห็นของคุณมีความหมายและคุณสมควรต้องเป็นที่รับฟัง อย่าให้แฟนหนุ่มขี้หึงโยนความรู้สึกผิดมาที่คุณ จำไว้ว่าคุณคือคนที่กำลังยุติความสัมพันธ์และคุณทำสิ่งนั้นเพื่อเหตุผลที่สมควร
2. 
   2
   ทำการบอกเลิก. การบอกเลิกนั้นไม่เคยง่ายดายและมันจะยิ่งยากหากคุณคือคนที่ถูกบงการในความสัมพันธ์นี้

   • เลือกสถานที่และวันบอกเลิกแฟนของคุณ แม้การบอกเลิกที่ดีที่สุดคือการบอกซึ่งๆ หน้าแต่แฟนหนุ่มขี้หึงอาจจะประพฤติตนในทางที่อ่อนไหวเกินไปหรือรุนแรงได้
     • สถานที่ที่มีคนพลุกพล่านอาจจะปลอดภัยที่สุดสำหรับการบอกเลิกหากคุณกังวลเกี่ยวกับปฏิกิริยาตอบโต้ของแฟนหนุ่ม
   • บอกถึงความตั้งใจในการบอกเลิกกับแฟนหนุ่มขี้หึงให้กับเพื่อนที่ไว้ใจได้หรือสมาชิกครอบครัวได้รับรู้ ขอให้บุคคลนี้เป็นที่พึ่งของคุณเพื่อก้าวผ่านการบอกเลิกครั้งนี้
   • ทำให้เขาปล่อยให้คุณพูด คุณน่าจะสามารถบอกเขาในสิ่งที่คุณต้องการโดยไม่โดนขัดจังหวะ เขาน่าจะฟังคุณตราบใดที่คุณทำสิ่งนั้นในทางที่ควบคุมได้และสุภาพ
   • อย่ายื้อ หลังจากที่คุณพูดสิ่งที่ต้องการและให้เวลาเขาในการตอบแล้วคุณควรออกจากสถานการณ์นั้นทันที ให้เวลากับเขาสักพักก่อนที่จะติดต่อเขาอีก
3. 
   3
   เตรียมตัวกับผลที่จะตามมา. หากแฟนของคุณขี้หึงเมื่อตอนที่คบกัน เขาก็น่าจะคงนิสัยนี้หลังการเลิกรา การเตรียมตัวรับมือกับสิ่งนี้สามารถช่วยให้คุณจัดการกับมันได้เมื่อถึงเวลา

   • ระวังความพยายามของเขาในการทำให้คุณรู้สึกผิดโดยการขอให้คุณอยู่กับเขาต่อไป เขาอาจจะพูดว่า “จำตอนที่เราเดินบนชายหาดตอนพระอาทิตย์ตกดินได้มั้ย?” หรือเขาอาจจะให้คำขู่ที่จริงจังมากกว่านั้น (เช่น เขาจะจบชีวิตของเขา) สิ่งที่สำคัญคือคุณต้องตระหนักว่านี่คือเรื่องของอารมณ์ล้วนๆ ฉะนั้นอย่าหลงกลเด็ดขาด!
     • หากแฟนเก่าของคุณขู่ว่าจะทำร้ายตัวเองหรือผู้อื่นคุณต้องบอกคนอื่นทันที โทรแจ้งตำรวจหากคุณเชื่อว่าเขาหรือผู้อื่นกำลังตกอยู่ในอันตราย
   • ยืนหยัดกับตัวเอง ไม่ว่าแฟนของคุณจะมีทีท่าโต้ตอบอย่างไร จำไว้ว่าคุณได้ตัดสินใจอย่างชาญฉลาดแล้วที่จะจบความสัมพันธ์ที่ไม่ดีนี้
4. 
   4
   ขอกำลังใจจากเพื่อนและครอบครัว. คุณควรขอความช่วยเหลือจากเพื่อนแท้หรือครอบครัวในสิ่งที่คุณต้องการ คุณอาจจะอยากให้พวกเขาตอกย้ำการตัดสินใจในการเลิกราของคุณหรือย้ำเตือนคุณเกี่ยวกับพฤติกรรมที่น่าเป็นห่วงของแฟนเก่า

   • การกลับไปติดต่อกับคนที่หายจากชีวิตของคุณไปเมื่อตอนที่ยังคบกับแฟนเก่าอาจจะเป็นประโยชน์ในการเดินหน้าต่อไปจากความสัมพันธ์ครั้งเก่าที่ไม่ดี
5. 
   5
   ขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญหากคุณต้องการ. การดึงตัวเองออกจากความสัมพันธ์ที่เป็นเจ้าข้าวเจ้าของอาจจะเป็นสิ่งที่ท้าทาย อย่างไรก็ตาม ความกลัวการอยู่คนเดียวนั้นไม่ใช่เหตุผลของการอยู่กับใครสักคนที่คุณรู้สึกว่าเขาบงการคุณ ผู้เชี่ยวชาญสามารถช่วยให้คุณรับมือกับความรู้สึกที่เป็นลบทุกอย่างที่คุณมีและช่วยจัดการกับความเจ็บปวดจากการเลิกรา

   • การพูดระบายถึงความสัมพันธ์สามารถเป็นวิธีที่ดีในการเผชิญหน้ากับความจริงที่ว่าพฤติกรรมของแฟนเก่าของคุณนั้นไม่ถูกต้อง
6. 
   6
   ให้เวลาตัวเองเพื่อเยียวยา. ไม่ว่ามันจะดีหรือร้ายแต่การจบความสัมพันธ์นั้นไม่เคยง่ายเลย คุณควรใช้เวลาอยู่กับตัวเองก่อนที่จะเริ่มความสัมพันธ์ใหม่ เมื่อคุณพร้อมคุณจึงควรทำตามสิ่งเหล่านี้เพื่อเดินหน้าต่อไปในชีวิตหลังจากความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับแฟนเก่า:

   • ทบทวนข้อดีและข้อเสียของความสัมพันธ์ครั้งสุดท้าย คุณต้องตระหนักว่าคุณก็มีช่วงเวลาที่ดีเช่นเดียวกับช่วงเวลาที่ไม่ดี คุณไม่ได้เสียเวลากับความสัมพันธ์ครั้งนี้ ในทางกลับกัน ความสัมพันธ์นี้ได้บรรลุเป้าหมายของมันแล้วซึ่งก็คือมันสอนให้คุณได้รู้ว่าคุณไม่ต้องการอะไรในตัวของคนรัก
   • เรียนรู้ที่จะตระหนักถึงสัญญาณของแฟนหนุ่มขี้หึงตั้งแต่เนิ่นๆ ครั้งต่อไปคุณจะได้คุ้นเคยกับสัญญาณเตือนของความขี้หึงและพฤติกรรมแสดงความเป็นเจ้าของ คุณจะรอบคอบมากขึ้นกับคนที่คุณจะเดทต่อจากนี้
   • คุณต้องรักตัวเอง หากความสัมพันธ์ครั้งนี้ทำให้คุณเสียความเชื่อมั่น ความมั่นใจและความรักตัวเองไป คุณก็ต้องใช้เวลาเพื่อดึงสิ่งเหล่านั้นกลับมา การใช้เวลากับเพื่อนๆ การเรียนรู้งานอดิเรกใหม่ๆ หรือการเสาะหาสถานที่โปรดใหม่ๆ คือวิธีที่ดีในการเข้าถึงตัวตนภายในของคุณอีกครั้ง
   • เข้าสู่ความสัมพันธ์ครั้งใหม่ด้วยความใส่ใจและความระมัดระวัง เรียนรู้บทเรียนจากความสัมพันธ์ที่เพิ่งจบไปและใช้มันเพื่อสร้างความสัมพันธ์ครั้งใหม่ที่มีความสุขและดีเมื่อถึงเวลาที่ใช่
   โฆษณา