ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

การรับมือกับคนที่กำลังโกรธคุณอยู่อาจทำได้ยาก ความโกรธอาจประทุขึ้นมาในสถานการณ์ใดก็ได้ เช่น ขณะอยู่กับเพื่อน กับคนแปลกหน้า ที่บ้าน หรือระหว่างเดินทาง การเผชิญหน้าด้วยความโกรธยังอาจเกิดขึ้นได้ ระหว่างการทำงานกับเพื่อนร่วมงาน กับซุปเปอร์ไวเซอร์ หรือกับลูกค้า และสิ่งนี้มีความน่าจะเป็นๆ พิเศษ หากงานของคุณเกี่ยวข้องกันโดยตรงกับสาธารณชน เช่น เป็นผู้ให้บริการ หรือเป็นผู้จัดการด้านการเงิน[1] ประสบการณ์ในเรื่องนี้อาจพบกันได้ทั่วไป แต่ก็ไม่ได้น่ายินดีและทำให้สับสน คุณไม่อาจควบคุมว่าคนอื่นจะมีปฏิกิริยากับคุณอย่างไร แต่ก็มีบางกลยุทธ์ที่สามารถใช้ได้เพื่อช่วยให้ตัวคุณปลอดภัย และควบคุมปฏิกิริยาของคุณ[2]

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 5:

ทำให้มั่นใจว่าคุณปลอดภัย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ถอนตัวจากสถานการณ์ที่คุณรู้สึกว่าอันตราย.
    คุณอาจไม่มีทางเลือกเสมอไปที่จะผละจากสถานการณ์โกรธเกรี้ยวได้ในทันที เช่น ลูกค้ากำลังตะโกนใส่คุณขณะกำลังทำงาน อย่างไรก็ตาม หากคุณรู้สึกได้ว่ากำลังตกอยู่ในอันตราย จงออกจากสถานการณ์นั้น หรือพยายามให้มีระยะห่างมากที่สุดระหว่างคุณกับภัยคุกคาม
    • หากคุณกำลังรับมือกับบุคคลผู้โกรธเกรี้ยวที่บ้านของคุณเอง หรือในที่ทำงาน จงออกไปยังสถานที่ปลอดภัย ซึ่งจะดีมากกว่าหากเป็นสถานที่สาธารณะ หลีกเลี่ยงสถานที่ซึ่งไม่มีทางออก เช่น ห้องน้ำ หลีกเลี่ยงสถานที่ซึ่งมีสิ่งที่ใช้ทำอาวุธได้ เช่น ห้องครัว [3]
    • หากคุณกำลังรับมือกับลูกค้าผู้โกรธเกรี้ยวเพราะงานของคุณ จงพยายามให้ตัวคุณอยู่ห่างจากลูกค้าคนนั้น เช่น อยู่ข้างหลังเคาน์เตอร์ หรืออยู่ห่างในระยะเอื้อมไม่ถึง[4]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ร้องขอความช่วยเหลือ.
    คุณมีสิทธิที่จะยังคงปลอดภัยอยู่ ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของภัยคุกคาม คุณสามารถโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากเพื่อน หากรู้สึกว่าคุณหมิ่นเหม่ต่ออันตราย จงโทรแจ้ง 191 หรือบริการฉุกเฉินต่างๆ[5]
    • หากอยู่ ณ ที่ทำงาน จงเรียกหาบุคคลผู้มีอำนาจ เช่น ผู้จัดการ หรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย[6]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ขอ “เวลานอก”.
    หากสถานการณ์เครียด แต่ยังไม่อันตรายถึงขั้นเอาเป็นเอาตาย จงขอเวลานอก โดยใช้ถ้อยแถลงที่ใช้คำว่า “ผม” ตัวอย่างเช่น “ผมจำเป็นต้องขอเวลา 15 นาทีเพื่อให้ใจเย็นลงก่อนที่เราจะคุยกัน” ในระหว่างนั้น ให้ทำบางสิ่งที่ทำให้สงบใจ เพื่อควบคุมอารมณ์ของคุณเอง และให้เวลาอีกฝ่ายได้สงบใจ ก่อนจะกลับไปหารือปัญหากัน ณ สถานที่และเวลาที่ได้กำหนดไว้[7]
    • จงใช้ถ้อยแถลงที่ใช้คำว่า “ผม” ตอนขอเวลานอก แม้แต่ในกรณีที่คุณเชื่อว่าอีกฝ่ายหนึ่งสมควรจะถูกตำหนิโดยสิ้นเชิงสำหรับสถานการณ์ดังกล่าว การพูดว่า “ผมต้องการเวลาเล็กน้อยที่จะคิด” อาจทำให้ผู้ที่โกรธคุณรู้สึกเป็นปรปักษ์น้อยลง แทนที่จะทำให้เขาหรือเธอตั้งหลักป้องกันตัวเอง
    • หลีกเลี่ยงการใช้ถ้อยแถลงกล่าวหา เช่น “คุณจำเป็นต้องขอเวลานอก” หรือ “ใจเย็นๆ ” แม้หากคุณรู้สึกว่าการพูดแบบนั้นคือสิ่งที่ถูกต้อง ถ้อยแถลงแบบนั้นจะทำให้อีกฝ่ายหนึ่งเพิ่มการป้องกันตัวเองมากขึ้น และอาจทำให้เขาหรือเธอถึงกับโกรธมากกว่าเดิมได้
    • อย่ากลัวที่จะขอเวลานอกอีกครั้ง หากว่าอีกฝ่ายหนึ่งยังคงไม่เป็นมิตร หรือยังคงโกรธอยู่ ตามหลักการนั้น คุณทั้งสองฝ่ายจะทำบางสิ่งเพื่อให้สงบลง และปลอบประโลมใจตัวคุณในระหว่างขอเวลานอก
    • หากการขอเวลานอกเพียงเล็กน้อยยังไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายหนึ่งสงบลง จงพิจารณาเสนอแนะว่าคุณจะขอเลื่อนการหารือปัญหานี้ ออกไปก่อน จนกว่าจะสามารถหาบุคคลที่สามผู้เป็นกลาง มาอยู่ด้วยตอนหารือ ซึ่งคนนี้อาจจะเป็น นักบำบัด (Therapist) ตัวแทนฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR Representative) บุคคลสำคัญด้านจิตวิญญาณ (Spiritual figure) ฯลฯ[8]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 5:

ตรวจสอบการโต้ตอบของคุณ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 หายใจลึกๆ .
    สถานการณ์ที่ตึงเครียด เช่น เมื่อมีคนบางคนโกรธเรา อาจกระตุ้นให้เกิดการโต้ตอบแบบ “สู้-หรือ-หนี” ซึ่งจะกระตุ้นอัตราการเต้นหัวใจของเรา แรงกระตุ้นจะทำให้คุณหายใจเร็วและตื้นๆ และส่งฮอร์โมนความเครียดให้พรั่งพรูไปทั่วร่างกาย[9]จงลดผลกระทบของการโต้ตอบแบบนี้ด้วยการหายใจลึกๆ เพื่อช่วยให้คุณยังสงบอยู่ จงจำไว้ว่า คนที่โกรธเกรี้ยวสองคนทำให้สถานการณ์ตึงเครียดเลวร้ายกว่าเดิมเป็นเท่าตัว[10]
    • สูดหายใจเข้าโดยนับหนึ่งถึงสี่ คุณสมควรจะรู้สึกว่าปอดและช่องท้องขยายออกในขณะที่คุณหายใจเข้า[11]
    • กลั้นหายใจไว้ 2 วินาที ก่อนจะค่อยๆ ผ่อนลมหายใจโดยนับ 1 ถึง 4
    • ในขณะที่หายใจออก ให้เน้นผ่อนคลายกล้ามเนื้อบนใบหน้า ลำคอ และบ่า
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ตรวจสอบอารมณ์ต่างๆ ของคุณ.
    จงมีปฏิกิริยาอย่างสงบต่อบุคคลผู้โกรธเกรี้ยว จะช่วยทำให้สถานการณ์ตึงเครียดน้อยลง การโต้ตอบด้วยความโกรธของคุณเองรังแต่จะทำให้สถานการณ์บานปลาย และตามปกติจะทำให้สิ่งต่างๆ ยิ่งเลวร้ายลง จงออกไปเดิน ทำสมาธิ และนับถอยหลังจากเลข 50 เหล่านี้คือวิธีทั้งหมดที่คุณสามารถทำให้ตัวคุณเองสงบลง[12]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 หลีกเลี่ยงการถือเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว....
    หลีกเลี่ยงการถือเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว. อาจทำได้ยากมากที่จะแยกแยะความรู้สึกส่วนตัวจากการเผชิญหน้ากับผู้ที่กำลังโกรธสักคนหนึ่ง จงจำว่าความโกรธมักเป็นสัญญาณว่าอีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้เรียนรู้ที่จะโต้ตอบอย่างกล้าแสดงออก และอย่างดีต่อสุขภาพ ต่อสถานการณ์ที่เขาหรือเธอประสบเหตุในฐานะภัยคุกคาม[13]ผลการศึกษาหลายรายการได้แสดงให้เห็นว่า เวลาที่ผู้คนเตือนใจตัวเองว่า ตนไม่ได้รับผิดชอบต่อความโกรธของคนอื่นนั้น พวกเขาน่าจะรู้สึกอารมณ์เสียเพราะเรื่องนี้น้อยลง[14]
    • ความโกรธทวีความรุนแรงขึ้นเพราะหลากหลายปัจจัย ซึ่งรวมทั้งความไม่มั่นคง การขาดทางเลือก การมีพฤติกรรมหยาบคาย หรือมีการโต้ตอบที่ก้าวร้าว หรือมีการโต้ตอบต่อปัญหาแบบผู้ถูกกระทำ
    • คนเราจะรู้สึกไม่มั่นคงเมื่อมีความไม่สามารถคาดเดาได้ระดับหนึ่งในสถานการณ์หนึ่ง. เมื่อระดับพื้นฐานของความเป็นระเบียบและความมั่นคงถูกคุกคาม ผู้คนจะแสดงปฏิกิริยาด้วยความโกรธ[15]
    • คนเราอาจจะโต้ตอบอย่างเกลียดชังเมื่อรู้สึกว่ามีทางเลือกจำกัด เรื่องนี้เกิดจากความรู้สึกว่าตัวเองไร้อำนาจ เพราะมีทางเลือกน้อยหรือไม่มีเลยในสถานการณ์หนึ่ง[16]
    • เวลาที่คนเรารู้สึกว่าตนไม่ได้รับความเคารพ พวกเขาอาจมีปฏิกิริยาเพราะความโกรธ ตัวอย่างเช่น หากคุณพูดกับใครบางคนด้วยโทนเสียงที่โกรธเกรี้ยว หรือไม่เคารพต่อเวลาของบางคน เขาหรือเธออาจจะโกรธคุณได้[17]
    • คนเราอาจจะโกรธเพื่อทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น หากบางคนโกรธ จงพิจารณาความเป็นไปได้ว่าอาจเป็นการโต้ตอบต่อบางสิ่งเกี่ยวกับชีวิตของเขาหรือเธอ ไม่ใช่ต่อสิ่งใดก็ตามที่คุณได้กระทำลงไป[18]
    • หากคุณได้ทำผิดต่ออีกฝ่ายหนึ่ง จงรับผิดชอบต่อการกระทำและขออภัย คุณไม่มีวันต้องรับผิดชอบต่อการโต้ตอบของอีกฝ่ายหนึ่ง ไม่มีใคร “ทำให้” ใครอื่นโกรธได้ อย่างไรก็ตาม การยอมรับเรื่องพฤติกรรมผิดพลาดของคุณเอง อาจช่วยให้อีกฝ่ายหนึ่งจัดการกับความรู้สึกโกรธและเจ็บปวดของเขาหรือเธอ
  4. How.com.vn ไท: Step 4 จงยังคงสงบ.
    พูดด้วยโทนเสียงสงบ อย่าขึ้นเสียง หรือตะโกนตอบโต้กับบุคคลผู้โกรธเกรี้ยว จงใช้ความสงบแต่กล้าแสดงออกด้วยภาษากาย[19]
    • พยายามหลีกเลี่ยงการงอแขนหรือไขว้แขน การกระทำแบบนี้สื่อว่าคุณเบื่อ หรือปิดการสื่อสาร[20]
    • จงดูแลให้ร่างกายของคุณผ่อนคลาย จงกล้าแสดงออก กล่าวคือวางเท้าของคุณอย่างมั่นคงบนพื้น ยืนโดยดันบ่าไปข้างหลังและดันอกมาข้างหน้า จงสบตากับอีกฝ่ายหนึ่ง ภาษากายแบบนี้แสดงว่าคุณสงบและควบคุมตัวเองอยู่ แต่ก็ไม่ใช่คนที่ยอมแพ้ง่ายๆ [21]
    • มองหาการโต้ตอบแบบก้าวร้าว เช่น กำกำปั้นหรือขบกราม การละเมิด “พื้นที่ส่วนตัว” (ตามปกติคือระยะห่างสามฟุต) ของคนอื่น เป็นสัญญาณบ่งชี้เช่นกันว่าคุณอาจกำลังเริ่มจะก้าวร้าวเกินไป[22]
    • ยืนทำมุมจากผู้ที่กำลังโกรธ แทนที่จะยืนตรงข้ามโดยตรงกับเขาหรือเธอ การยืนด้วยท่าทีแบบนี้อาจรู้สึกว่าเป็นการเผชิญหน้าน้อยลง[23]
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ระวังการติดต่อสื่อสารที่แตกสลาย.
    อาจทำได้ยากมากที่คุณจะยังอารมณ์เย็นในตอนที่มีบางคนโกรธคุณอยู่ แต่มีความสำคัญที่คุณจะยังคงไว้ซึ่งการติดต่อสื่อสารที่สงบ และมีอารมณ์ที่มั่นคง หากคุณสังเกตว่ามีอาการใดๆ ดังต่อไปนี้คืบคลานเข้ามาในปฏิกิริยาต่อกัน แสดงว่าการติดต่อสื่อสารของคุณกำลังพลาดพลั้ง และคุณจำเป็นต้องแก้ไขในทันที:[24]
    • ตะโกน
    • ข่มขู่
    • เรียกชื่อ
    • ใช้ถ้อยแถลงที่เหมือนกับเล่นละคร หรือเกินความจริง
    • ใช้คำถามที่แสดงความเกลียดชัง
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 5:

มีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลที่โกรธเกรี้ยว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 จงรู้ว่าเมื่อไรไม่ใช่เวลาที่ดีสำหรับการพูดคุย....
    จงรู้ว่าเมื่อไรไม่ใช่เวลาที่ดีสำหรับการพูดคุย. มีการบ่งบอกเป็นนัยทางอารมณ์และทางกายบางประการ ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้หลักว่าเมื่อไรจะเกิดการติดต่อสื่อสารที่แตกสลาย ตัวบ่งชี้เหล่านี้อธิบายด้วยตัวอักษรย่อภาษาอังกฤษว่า H.A.L.T. ซึ่งย่อมาจากคำว่า ความหิว (Hungry) ความโกรธ (Angry) ความเปล่าเปลี่ยว (Lonely) และความเหนื่อย (Tired) อาการเหล่านี้สามารถทำให้สถานการณ์ที่ร้อนอยู่แล้วรุนแรงมากขึ้น และขัดขวางการแก้ปัญหา แน่นอนว่า บุคคลผู้นี้โกรธคุณอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม หากความโกรธของอีกฝ่ายหนึ่งไม่ลดน้อยลง (ทั้งที่ได้ขอเวลานอกแล้ว) หรือหากถูกนำไปเชื่อมต่อกับอีกเรื่องหนึ่งในสถานการณ์อื่นๆ จะดีที่สุดที่จะเลื่อนการถกปัญหาระหว่างกันออกไป จนกว่าความจำเป็นทั้งทางอารมณ์และร่างกายของทุกคนจะได้รับการตอบสนองแล้ว เราจะถกปัญหากันสั้นๆ ว่าเหตุใดแต่ละอาการเหล่านี้จึงขัดขวางความคืบหน้าของการติดต่อสื่อสารและการแก้ปัญหา[25]
    • เวลาที่คุณประสบกับ ความหิว ทางกายภาพ ความคิดที่มีเหตุมีผลและมีความหมายจะเปล่าประโยชน์ ร่างกายของคุณมีเชื้อเพลิงต่ำ และคุณอาจพูดหรือทำอะไรก็ได้เพื่อเต็มน้ำมันให้กลับมาเต็มถัง ผลวิจัยแสดงให้เห็นว่าคนและสัตว์ที่หิวโหยจะยอมเสี่ยงเพิ่มขึ้น ความหิวส่งผลกระทบต่อทักษะ และพฤติกรรมด้านการตัดสินใจของเรา ซึ่งเป็นสองสิ่งที่แน่นอนว่าคุณไม่ต้องการให้หลุดจากการควบคุมในระหว่างการเผชิญหน้ากัน[26]
    • ความโกรธ เป็นอารมณ์ซึ่งมีน้อยคนเรียนรู้ที่จะแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ ตามปกตินั้น ความโกรธจะแสดงออกพร้อมกับการดูถูก การเรียกชื่อ การหัวเราะเยาะ หรือแม้แต่ความรุนแรงทางกายภาพ ที่ยิ่งกว่านั้นก็คือ ผู้คนมักแสดงความโกรธ ทั้งที่ในความเป็นจริงนั้น พวกเขากำลังเจ็บปวด สับสน อิจฉา หรือถูกปฏิเสธ และเมื่ออารมณ์ที่สำคัญและซ่อนอยู่ถูกชักนำไปเป็นความโกรธ คนผู้นั้นจะมีความน่าจะเป็นน้อยลง ที่จะมองดูสถานการณ์อย่างถูกต้องและพยายามอย่างหนักเพื่อแก้ปัญหา จะดีที่สุดที่จะให้เวลาและพื้นที่แก่คนผู้นี้เพื่อดึงเอาความรู้สึกของเขาเข้ามา ก่อนจะเกิดการติดต่อสื่อสารใดๆ ที่เกิดผล
    • ความเปล่าเปลี่ยว หมายความว่า คนๆ หนึ่งรู้สึกว่าถูกโดดเดี่ยวจากคนอื่นๆ บุคคลผู้ที่ไม่ผสมผเสไปกับความรู้สึกของชุมชน จะมีปัญหาที่จะรักษาไว้ซึ่งความเป็นกลางในระหว่างการเผชิญหน้า
    • การรู้สึก เหนื่อย ระหว่างการโต้เถียงกัน อาจนำสู่หายนะ การอดนอนนำมาซึ่งอารมณ์ขุ่นมัว กระบวนการรับรู้ทำงานได้ไม่ดี การรู้สึกเหนื่อยยังส่งผลกระทบต่อความสามารถในการตัดสินใจของคุณด้วย คุณอาจสามารถมองเห็นหนทางแก้ไขปัญหาได้อย่างชัดเจน หากได้พักผ่อนอย่างดี แต่ความง่วงนอนอาจส่งผลให้การโต้เถียงของคุณวกวนเป็นงูกินหางอยู่นานหลายชั่วโมงโดยมองไม่เห็นทางออก[27]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 รับรู้ถึงความโกรธของอีกฝ่ายหนึ่ง.
    เวลาที่มีคนกำลังแผดเสียงใส่คุณ สิ่งสุดท้ายที่คุณอาจจะต้องการ คือการยอมรับรู้เรื่องความโกรธของเขาหรือเธอ อย่างไรก็ตาม ความโกรธมักเป็นการโต้ตอบต่อความรู้สึกว่าตนถูกเข้าใจผิดหรือถูกเมิน[28] การรับรู้ว่าอีกฝ่ายหนึ่ง กำลัง โกรธ ไม่เหมือนกับการพูดว่า เธอ/เขากำลังมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม[29]
    • พยายามพูดบางสิ่งเช่น “ผมเข้าใจว่าคุณกำลังรู้สึกโกรธ ผมต้องการจะเข้าใจว่าอะไรกำลังเกิดขึ้น อะไรทำให้คุณกำลังรู้สึกโกรธ?” การทำเช่นนี้แสดงว่าคุณกำลังพยายามจะมองสิ่งต่างๆ จากมุมมองของคนอื่น ซึ่งอาจจะช่วยให้เขาหรือเธอรู้สึกดีขึ้น
    • พยายามหลีกเลี่ยงการทำเสียงเหมือนกับว่าคุณได้ตัดสินไปแล้ว ในเวลาเช่นนี้ อย่าตั้งคำถามประเภท “ทำไมคุณถึงได้ช่างทำตัวเหมือนไอ้งั่งขี้โมโห?”
    • ขอให้อีกฝ่ายหนึ่งพูดอย่างชัดเจน. สอบถามอย่างสงบเรื่องสิ่งเฉพาะเจาะจง ที่อีกฝ่ายหนึ่งกำลังจะตอบโต้ ตัวอย่างเช่น “คุณได้ยินผมพูดอะไรที่ทำให้คุณอารมณ์เสียหรือครับ?” การพูดเช่นนี้อาจกระตุ้นให้อีกฝ่ายหนึ่งชะงัก และคิดว่าทำไมเขา/เธอถึงได้โกรธ – แล้วเขา/เธออาจตระหนักว่าทั้งหมดเป็นเรื่องเข้าใจผิด
  3. How.com.vn ไท: Step 3 งดเว้นการปิดกั้นไม่ให้อีกฝ่ายหนึ่งพูด.
    “การปิดปากอีกฝ่ายหนึ่ง” หรือการหยุดอีกฝ่ายไม่ให้แสดงความรู้สึกของเขาหรือเธอ จะไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น มันอาจทำให้กับอีกฝ่ายหนึ่งโกรธมากขึ้น[30]
    • การปิดกั้นไม่ให้อีกฝ่ายหนึ่งพูด คือการส่งข่าวสารว่า คุณไม่ได้มองความรู้สึกของเขาหรือเธอว่ามีความชอบธรรม จงจำไว้ว่าถึงหากคุณไม่เข้าใจประสบการณ์ของอีกฝ่ายหนึ่ง แต่มันจริงจังมากสำหรับเจ้าตัว การเมินเฉยต่อสิ่งนั้นจะไม่ช่วยให้คุณสามารถปลดชนวนของสถานการณ์ได้[31]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 รับฟังอีกฝ่ายหนึ่ง.
    จงเป็นผู้ฟังที่กระตือรือร้น จงแสดงว่าคุณมีส่วนร่วมกับอีกฝ่ายหนึ่งด้วยการสบตา ผงกศีรษะ และใช้วลีเช่น “ฮา ฮะ” หรือ “อึม-อึม”[32][33]
    • อย่าหมกมุ่นกับการเตรียมการป้องกันตัวคุณเอง ในขณะที่คู่กรณีกำลังพูด จงเพ่งความสนใจต่อสิ่งที่เขา/เธอกำลัง พูด[34]
    • จงฟังเหตุผลต่างๆ ที่ทำให้อีกฝ่ายหนึ่งโกรธ. พยายามจินตนาการสถานการณ์จากมุมมองของเขาหรือเธอ หากคุณประสบกับสถานการณ์นี้ คุณจะรู้สึกแบบเดียวกันไหม?
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ยืนยันสิ่งที่อีกฝ่ายหนึ่งพูด.
    เหตุผลหนึ่งที่สถานการณ์เคร่งเครียดเพิ่มมากขึ้นเพราะการสื่อสารที่ผิดพลาด เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งบอกกับคุณว่าทำไมเธอ/เขาถึงได้โกรธคุณ จงยืนยันสิ่งที่คุณได้ยิน.[35]
    • ใช้ถ้อยแถลงที่เน้น “ผม” ตัวอย่างเช่น “ผมได้ยินคุณพูดว่าคุณโมโหเพราะนี่เป็นโทรศัพท์เครื่องที่สามซึ่งคุณได้ซื้อจากเรา และมันไม่ทำงาน นั่นถูกต้องใช่ไหมครับ?”
    • พูดสิ่งต่างๆ เช่น “ฟังดูเหมือนกับว่าคุณกำลังพูดว่า______” หรือ “_________คุณหมายความว่าอย่างไรครับ?” จะช่วยให้คุณเข้าใจอีกฝ่ายหนึ่ง และยังจะช่วยให้อีกฝ่ายหนึ่งรู้สึกว่าเป็นที่ยอมรับด้วย ซึ่งสามารถช่วยให้อารมณ์โกรธบรรเทาลงได้
    • อย่าเพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่เป็นจริง หรือเปลี่ยนคำพูดใหม่สำหรับถ้อยแถลงของอีกฝ่ายหนึ่ง ในตอนที่คุณกล่าวยืนยันถ้อยแถลงนั้น ตัวอย่างเช่น หากอีกฝ่ายหนึ่งได้บ่นว่าคุณไปรับเขาล่าช้าในช่วง 6 วันที่ผ่านมา อย่าพูดบางสิ่งประเภท “ผมได้ยินคุณพูดว่า คุณโกรธผมเพราะผมมาช้าเสมอ”แทนที่จะทำเช่นนั้น จงให้ความสนใจกับสิ่งที่เขาพูดจริงๆ โดยพูดว่า “ผมได้ยินคุณพูดว่าคุณโกรธเพราะผมมาช้าในช่วง 6 วันที่ผ่านมา”
  6. How.com.vn ไท: Step 6 ใช้ถ้อยแถลงประเภท “ผม” เพื่อสื่อสารว่าเป็นความจำเป็นของคุณเอง....
    ใช้ถ้อยแถลงประเภท “ผม” เพื่อสื่อสารว่าเป็นความจำเป็นของคุณเอง. หากอีกฝ่ายหนึ่งยังคงกำลังตะโกนหรือก้าวร้าวใส่คุณ จงใช้ถ้อยแถลงที่เน้นคำว่า “ผม”-เพื่อสื่อสารความจำเป็นต่างๆ ของคุณ การทำเช่นนี้จะหลีกเลี่ยงการฟังเหมือนกับว่าคุณกำลังตำหนิอีกฝ่ายหนึ่ง
    • ตัวอย่างเช่น หากอีกฝ่ายหนึ่งกำลังตะโกนใส่คุณ คุณสามารถพูดบางสิ่งประเภท “ผมอยากจะช่วยคุณ แต่ผมไม่อาจจะเข้าใจได้ว่าคุณกำลังพูดอะไร คุณพูดเสียงดังเหลือเกิน คุณช่วยพูดซ้ำสิ่งที่ได้พูดไปด้วยเสียงที่นุ่มนวลกว่านี้ได้ไหมครับ?”
  7. How.com.vn ไท: Step 7 เห็นอกเห็นใจอีกฝ่ายหนึ่ง.
    พยายามพิจารณาสถานการณ์จากมุมมองของอีกฝ่ายหนึ่ง[36] การทำเช่นนั้นอาจช่วยให้คุณควบคุมการตอบสนองทางอารมณ์ของตัวเองได้ มันยังสามารถช่วยให้คุณสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพกับคนอื่นอย่างได้ผล[37][38]
    • พูดบางสิ่งเช่น “นั่นฟังน่าผิดหวังมากนะครับ” หรือ “ผมสามารถเห็นได้ว่า ทำไมเรื่องนั้นถึงได้น่ายุ่งยากใจ” จะสามารถช่วยทำให้ตึงเครียดน้อยลง ในบางกรณีนั้น บางคนเพียงแค่อยากให้ความรู้สึกคับข้องใจของตนมีค่า เมื่อพวกเขารู้สึกว่ามีคนเข้าใจ พวกเขาอาจจะสงบลง
    • คุณอาจจะต้องบอกกับตัวเองในใจว่า ฝ่ายตรงข้ามอารมณ์เสีย และกำลังทำอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อสื่ออารมณ์ของตนออกมา สิ่งนี้สามารถช่วยให้คุณเปลี่ยนมุมมองของสถานการณ์ในใจของคุณเอง[39]
    • อย่าทำให้ปัญหาดูเป็นเรื่องเล็ก แม้จะดูจิ๊บจ๊อยสำหรับคุณ แต่เห็นได้อย่างชัดเจนว่า อีกฝ่ายหนึ่งรู้สึกรุนแรงเกี่ยวกับมัน[40]
  8. How.com.vn ไท: Step 8 หลีกเลี่ยงการพูดถึงความตั้งใจของคุณ.
    แทนที่จะทำเช่นนั้น จงคิดถึงผลที่จะตามมาหากใครบางคนโกรธคุณมาก บุคคลผู้นี้รู้สึกไม่ดีกับคุณในบางรูปแบบ ปฏิกิริยาแรกของคุณอาจเพื่อปกป้องตัวคุณเอง และระบุความตั้งใจของคุณ ตัวอย่างเช่น จงละเว้นการพูดว่า "ผมตั้งใจจะไปรับชุดสูทของคุณจากร้านซักแห้ง ผมแค่ลืมเพราะผมออกจากที่ทำงานช้า" แม้ความตั้งใจของคุณอาจจะดี แต่ ณ จุดนี้ อีกฝ่ายหนึ่งไม่สนใจแล้ว บุคคลผู้นั้นกำลังรับมือกับผลที่ตามมาจากการกระทำต่างๆ ของคุณ และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้เขา/เธออารมณ์เสีย[41]
    • แทนที่จะประกาศความตั้งใจดีของคุณ จงพยายามเอาใจเขามาใส่ใจเรา และสังเกตว่าผลกระทบที่ตามมาจากการกระทำต่างๆ ของคุณได้ส่งผลกระทบต่อคนผู้นี้อย่างไร จงกล่าวแสดงความเห็นประเภท "ผมเห็นแล้วในตอนนี้ว่าการที่ผมลืมชุดสูทของคุณได้ทำให้คุณไม่รู้จะทำอย่างไรสำหรับการประชุมของคุณในวันพรุ่งนี้"
    • แนวคิดนี้อาจจะดูเหมือนกับว่าคุณกำลังไม่ซื่อตรงกับความเชื่อของตัวเอง คุณอาจรู้สึกอย่างซื่อตรงว่าคุณได้ทำสิ่งที่ถูกต้อง และมีปัญหาที่จะรับมือกับนิยามที่ว่าคุณเป็นฝ่ายผิด หากนี่คือปัญหา จงพยายามจินตนาการว่าอีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้โกรธคุณ แต่โกรธคนอื่น/สิ่งอื่น จงพิจารณาว่าคุณจะแก้ไขสถานการณ์นี้อย่างไรหากว่าคุณไม่ได้เป็น 'ฝ่ายผิด'
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 5:

แก้ปัญหาเรื่องความโกรธ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ปฏิบัติต่อสถานการณ์นี้ ด้วยใจที่เปิดกว้าง.
    เมื่อคุณได้รับฟังอีกฝ่ายหนึ่ง จงพิจารณาว่าคุณจะสามารถจัดการกับสถานการณ์นี้ได้อย่างไร[42]
    • หากคุณเชื่อว่าอีกฝ่ายหนึ่ง มีความไม่พอใจคุณอย่างมีเหตุผล จงยอมรับความผิดของตัวเอง และสอบถามว่าคุณสามารถทำอะไรได้บ้างเพื่อแก้ไข[43]
    • อย่าหาข้อแก้ตัว หรือพยายามปกป้องตัวคุณเอง. การทำเช่นนี้มักทำให้อีกฝ่ายหนึ่งโมโหมากยิ่งขึ้น เพราะเธอ/เขาจะรู้สึกราวกับว่า คุณกำลังเมินเฉยต่อความต้องการของเขาหรือเธอ[44]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 เสนอหนทางแก้ไข.
    จงมีเหตุผล กับจงติดต่อสื่อสารอย่างสงบและชัดเจน พยายามคุมให้คำอธิบายของคุณเพ่งความสนใจอยู่ที่สิ่งที่อีกฝ่ายหนึ่งสื่อสารมาถึงคุณ[45]
    • ตัวอย่างเช่น หากอีกฝ่ายหนึ่งโกรธเพราะลูกของคุณโยนลูกบอลใส่หน้าต่างจนทำกระจกหน้าต่างแตก จงบอกกล่าวว่าคุณเต็มใจจะทำอะไรบ้าง ตัวอย่างเช่น “ลูกสาวของผมโยนลูกบอลใส่หน้าต่างของคุณจนกระจกแตก ผมสามารถส่งช่างซ่อมไปเปลี่ยนให้ใหม่ภายในสองวัน หรือ คุณให้ช่างของคุณซ่อมก็ได้ครับ แล้วส่งใบแจ้งค่าบริการมาให้ผม”
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ร้องขอทางเลือกอื่นๆ .
    หากฝ่ายตรงข้ามไม่พอใจกับข้อเสนอแนะของคุณ จงขอให้เขาหรือเธอเสนอแนะหนทางแก้ไขสักทางหนึ่งที่เขา/เธอจะพอใจ[46] ตัวอย่างเช่น คุณอาจถามว่า "คุณอยากเห็นอะไรเกิดขึ้นในสถานการณ์แบบนี้ครับ?"
    • พยายามจะเสนอทางเลือกนี้ในฐานะเป็นหนทางแก้ปัญหาซึ่งเน้น “เรา” เพื่อสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือกันตัวอย่างเช่น “โอเค หากข้อเสนอแนะของผมไม่อาจจะยอมรับได้ ผมยังคงอยากทราบว่าเราจะสามารถหาทางที่จะแก้ปัญหานี้ เราจะทำอย่างไรกันดีเพื่อแก้ไขสถานการณ์นี้?”[47]
    • หากอีกฝ่ายหนึ่งยื่นข้อเสนอแนะบางสิ่งที่คุณพบว่าไม่สมเหตุสมผล อย่าเริ่มต้นด่าว่าฝ่ายนั้น แทนที่จะทำเช่นนั้น จงยื่นข้อเสนอกลับ ตัวอย่างเช่น "ผมได้ยินคุณพูดว่าต้องการให้ผมซ่อมกระจกหน้าต่างที่แตก และจ่ายค่าทำความสะอาดพรมของคุณทั้งบ้าน ผมคิดว่าจะเป็นธรรมสำหรับผม ที่จะเปลี่ยนกระจกบานที่แตก กับจ่ายค่าทำความสะอาดพรมในห้อง นั่งเล่น นั่นฟังเป็นอย่างไรบ้างครับ?"
    • การพยายามหาข้อตกลงร่วมกันระหว่างคุณกับคนที่โกรธคุณ สามารถช่วยหันเหปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันไปสู่การแก้ปัญหา[48] ตัวอย่างเช่น คุณสามารถพูดบางสิ่ง ได้แก่ "ผมเข้าใจว่าความยุติธรรมมีความสำหรับคุณ มันสำคัญสำหรับผมเช่นกันครับ…" คำพูดนี้สามารถช่วยสื่อสารว่าคุณกำลังทำงานไปสู่เป้าหมายเดียวกัน[49]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 หลีกเลี่ยงการใช้คำว่า “แต่”.
    คำว่า “แต่” เป็นที่รู้จักว่าเป็น “คำพูดที่เหมือนกับยางลบ” เพราะมันสามารถลบล้างสิ่งที่คุณพูดก่อนหน้านั้นโดยสมบูรณ์ เวลาที่คนได้ยินคำว่า“แต่” พวกเขามีแนวโน้มที่จะหยุดรับฟัง เพราะทั้งหมดที่พวกเขาได้ยินคือ ”คุณผิด”[50]
    • ตัวอย่าง เช่น อย่าใช้คำพูดประเภท "ผมเข้าใจสิ่งที่คุณกำลังพูด แต่ คุณจำเป็นต้อง________"
    • ให้ใช้คำว่า "และ" ในถ้อยแถลงเช่น "ผมสามารถมองเห็นประเด็นของคุณได้ และผมสามารถเห็นความจำเป็นสำหรับ _______".
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ขอบคุณอีกฝ่ายหนึ่ง.
    หากคุณสามารถหาข้อสรุปได้ จงห่อหุ้มการสื่อสารของคุณด้วยคำพูดแสดงความขอบคุณอีกฝ่ายหนึ่ง การทำเช่นนี้แสดงความเคารพของคุณต่ออีกฝ่ายหนึ่ง และสามารถช่วยให้เขาหรือเธอรู้สึกว่า ความจำเป็นของเขาหรือเธอได้รับการตอบสนอง[51]
    • ตัวอย่างเช่น หากคุณสามารถจะเจรจาต่อรองกับลูกค้าผู้โกรธเกรี้ยว คุณสามารถพูดได้ว่า “ขอบคุณที่อนุญาตให้เราแก้ไขปัญหานี้ให้ถูกต้องครับ”
  6. How.com.vn ไท: Step 6 ให้เวลาช่วยแก้ปัญหา.
    ในบางกรณีนั้น ความโกรธของอีกฝ่ายหนึ่งอาจจะไม่หายไปในทันที แม้หากว่าคุณได้ทำทั้งหมดที่สามารถทำได้เพื่อแก้ไขสถานการณ์แล้ว เรื่องนี้จะเป็นจริงเป็นพิเศษในสถานการณ์ที่มีความเจ็บปวดทางอารมณ์อย่างล้ำลึก เช่น ความรู้สึกของอีกฝ่ายหนึ่ง ถูกทรยศ หรือถูกชักใยในบางรูปแบบ จงยอมรับว่าอาจใช้เวลาบ้าง เพื่อที่ความโกรธจะแก้ปัญหาด้วยตัวมันเอง และอย่ากดดัน
  7. How.com.vn ไท: Step 7 หากว่าจำเป็น จงหาสื่อกลางซึ่งเป็นบุคคลที่สาม....
    หากว่าจำเป็น จงหาสื่อกลางซึ่งเป็นบุคคลที่สาม. ไม่ใช่ว่าความขัดแย้งจะสามารถแก้ไขได้ และไม่ใช่ว่าความโกรธของทุกคนจะค่อยๆ ลดลง ถึงแม้หากคุณยังคงใจเย็น และน่าเคารพตลอดวัน หากคุณได้ลองใช้กลยุทธ์ต่างๆ ที่นี่ แล้วไม่มีความคืบหน้า อาจถึงเวลาที่จะก้าวออกไปหาบุคคลที่สาม เช่น นักบำบัด. คนกลาง หรือตัวแทนของฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ อาจสามารถช่วยให้คุณเจรจาต่อรองสถานการณ์ได้[52]
  8. How.com.vn ไท: Step 8 พิจารณาเรื่องขอความช่วยเหลือจากมืออาชีพ.
    นอกเหนือจากการใช้บริการของคนกลาง การเข้าพบนักบำบัด หรือนักจิตวิทยา ผู้ได้รับการฝึกเรื่องแก้ไขความขัดแย้ง หรือการจัดการกับความโกรธ อาจจะช่วยได้ เรื่องนี้มีความสำคัญเป็นพิเศษ หากคนที่โกรธอยู่กับคุณเป็นคนสำคัญในชีวิตคุณ ตัวอย่างเช่น คู่สมรส ผู้ปกครอง พี่น้อง หรือ ลูก หากพวกคุณสองคนโต้เถียงกันอย่างไม่ลดละ หรือหากคนหนึ่งมีแนวโน้มจะโกรธจัดเพียงด้วยสิ่งเร้าเล็กน้อยที่สุด คุณอาจจำเป็นต้องหามืออาชีพผู้ไม่เพียงแค่เข้าช่วยประนีประนอมสถานการณ์ แต่ยังสอนคุณเรื่องทักษะในการสื่อสาร และแก้ปัญหาอย่างได้ผล
    • นักบำบัดสามารถสอนให้สมาชิกในครอบครัวของคุณ หรือเพื่อนๆ รู้จักวิธีที่จะผ่อนคลาย และจัดการกับความเครียด วิธีเอาชนะความโกรธ ยุทธศาสตร์ของการแสดงอารมณ์ และวิธีที่จะยอมรับรูปแบบต่างๆ ของความคิดในด้านลบที่ทำให้เกิดความโกรธ [53]
    โฆษณา
วิธีการ 5
วิธีการ 5 ของ 5:

การขอโทษอย่างมีประสิทธิผล

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 คิดถึงสิ่งที่คุณทำให้อีกฝ่ายหนึ่งโกรธ.
    หากคุณทำบางสิ่งที่ผิดพลาด คุณอาจจำเป็นต้องเยียวยาสถานการณ์ ด้วยการขออภัยและแก้ไขความผิดพลาดนั้น [54]
    • อย่าพยายามหาข้อแก้ตัวเรื่องพฤติกรรมของคุณ หากคุณทำผิดกับคนอื่น คุณจำเป็นต้องยอมรับเรื่องความผิดพลาดของคุณ
    • คิดว่าสิ่งที่ดีที่สุดคือ สมควรกล่าวขอโทษในระหว่างที่กำลังมีปฏิกิริยากันอยู่ หรือในช่วงหลังจากนั้น ในตอนที่เธอ/เขาได้สงบลงแล้ว
    • ประเมินว่าการกล่าวขอโทษจะทำให้รู้สึกซาบซึ้งใจและมีความหมายหรือไม่ในสถานการณ์นั้น คุณไม่สมควรกล่าวขอโทษหากคุณไม่ได้คิดเช่นนั้น เพราะการทำเช่นนี้ยิ่งอาจทำให้ปัญหาลุกลามไปไกลมากขึ้น
  2. How.com.vn ไท: Step 2 แสดงอารมณ์ร่วมและความเสียใจ.
    คุณจำเป็นต้องแสดงต่ออีกฝ่ายหนึ่งว่า คุณรู้สึกเสียใจต่อการที่คำพูดหรือปฏิกิริยาของคุณ ได้ส่งผลกระทบต่อเขาหรือเธอ[55]
    • คุณอาจจะไม่ได้ตั้งใจจะทำให้คนๆ นี้โกรธ หรือทำร้ายความรู้สึกของเขาหรือเธอ แต่ไม่ว่าคุณจะตั้งใจหรือไม่ คุณจำเป็นต้องยอมรับว่าการกระทำของคุณส่งผลกระทบในด้านลบต่ออีกฝ่ายหนึ่ง
    • ตีกรอบคำขออภัยของคุณโดยเริ่มต้นขั้นแรกด้วยการกล่าวแสดงความเสียใจ ตัวอย่างเช่น คุณอาจเริ่มด้วยการพูดว่า "ผมเสียใจมาก ผมรู้ว่าผมทำร้ายความรู้สึกของคุณ"
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ยอมรับผิดชอบสำหรับการกระทำของคุณ.
    คำขอโทษของคุณจำเป็นต้องรวมถึงถ้อยแถลงเกี่ยวกับความรับผิดชอบ เพื่อที่จะเกิดผล และช่วยแก้ไขสถานการณ์ที่เลวร้าย พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ คุณจำเป็นต้องระบุว่า พฤติกรรมของคุณเป็นสาเหตุของความรู้สึกเจ็บปวด หรือผิดหวังของอีกฝ่ายหนึ่งอย่างไร[56]
    • การกล่าวถ้อยแถลงแสดงความรับผิดชอบ อาจฟังดูคล้ายๆ กันกับ "ขอโทษครับ ผมทราบแล้วว่าการที่ผมมาสายได้ทำให้เราพลาดงานนี้"
    • อีกทางเลือกหนึ่งก็คือ คุณอาจพูดว่า "ขอโทษครับ ผมรู้ว่าความสะเพร่าของผมทำให้คุณล้มเหลว"
  4. How.com.vn ไท: Step 4 เสนอวิธีเยียวยาสถานการณ์.
    การกล่าวขอโทษจะไร้ความหมาย นอกเสียจากคุณจะได้ระบุด้วยว่าจะแก้ไขสถานการณ์อย่างไร หรือวิธีหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคต[57]
    • ข้อเสนอที่จะเยียวยาสถานการณ์ อาจรวมถึงข้อเสนอที่จะช่วยอีกฝ่ายหนึ่ง หรือวิธีการที่จะช่วยไม่ให้คุณทำผิดซ้ำเดิมอีกในอนาคต
    • ตัวอย่างเช่น คุณอาจจะพูดว่า "ขอโทษครับ ผมรู้ว่าผมมาสายจนพลาดงานนี้ นับจากนี้ไป ผมจะตั้งเตือนบนโทรศัพท์มือถือ หนึ่งชั่วโมงก่อนเวลาที่ผมจำเป็นจะต้องพร้อม "
    • อีกตัวอย่างหนึ่ง อาจจะเป็น "ขอโทษครับ ผมรู้ว่าความสะเพร่าของผมทำให้คุณพลาด ผมจะใส่ใจมากกว่านี้เรื่องสถานที่วางสิ่งของๆ ผมในคราวหน้า"
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • อย่ากลัวที่จะขอเวลาอยู่ตามลำพังสี่ห้านาที ก่อนจะรับมือกับสถานการณ์ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับความโกรธ การทำแบบนี้จะช่วยให้คุณผ่อนคลายจากสถานการณ์ และจะช่วยให้คุณควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้
  • พยายามพูดให้ฟังดูจริงใจในเวลาที่คุณกล่าวขอโทษ มนุษย์เราเก่งมากเรื่องตรวจจับท่าทีเอื้อเฟื้อ และความไม่จริงใจ ซึ่งมักจะทำให้เรายิ่งโกรธมากขึ้น
  • จงจำใส่ใจ: คุณไม่อาจควบคุมการโต้ตอบของบุคคลอื่น คุณสามารถเพียงควบคุมพฤติกรรมของคุณเองเท่านั้น
โฆษณา

คำเตือน

  • จงระวังคนที่พูดบางสิ่ง เช่น “ทำไมคุณชอบ ทำให้ ผมโกรธเสียเหลือเกิน?” นี่เป็นสัญญาณว่าพวกเขาไม่ได้กำลังยอมรับผิดชอบต่อการกระทำต่างๆ ของ พวกเขา
  • หากรู้สึกว่าคุณตกอยู่ในอันตราย จงร้องขอความช่วยเหลือ และพยายามผละจากสถานการณ์นั้น
  • อย่าหันไปใช้คำพูดรุนแรง หรือแสดงพฤติกรรมรุนแรงของตัวคุณเอง
โฆษณา
  1. http://psychcentral.com/blog/archives/2012/07/26/how-to-switch-off-an-angry-person/
  2. http://www.health.harvard.edu/mind-and-mood/relaxation-techniques-breath-control-helps-quell-errant-stress-response
  3. http://academicaffairs.ucsd.edu/_files/ug-ed/uaac/Dealing_with_an_Angry_Individual.pdf
  4. http://psychcentral.com/blog/archives/2012/07/26/how-to-switch-off-an-angry-person/
  5. http://pss.sagepub.com/content/23/4/346.short
  6. http://www.medicalteams.org/docs/default-source/Volunteer-Materials/preventing_and_diffusing_anger_and_hostility.pdf?sfvrsn=2
  7. http://www.medicalteams.org/docs/default-source/Volunteer-Materials/preventing_and_diffusing_anger_and_hostility.pdf?sfvrsn=2
  8. http://www.medicalteams.org/docs/default-source/Volunteer-Materials/preventing_and_diffusing_anger_and_hostility.pdf?sfvrsn=2
  9. http://psycnet.apa.org/journals/psp/81/1/17/
  10. http://www.bodylanguageexpert.co.uk/bodylanguagetodealwithdifficultpeople.html
  11. http://www.northeastern.edu/careers/blog/keep-calm-and-body-language/
  12. http://changingminds.org/techniques/body/assertive_body.htm
  13. http://www.cci.health.wa.gov.au/docs/Assertmodule%202.pdf
  14. https://access.ewu.edu/caps/facultystaffres/defusinganger
  15. http://www.health.qld.gov.au/mentalhealth/docs/aggressive.pdf
  16. http://www.chinnstreetcounseling.com/zomerland/zomerland_11.shtml
  17. http://bigthink.com/risk-reason-and-reality/the-risks-of-hunger-it-makes-you-take-more-risks
  18. http://greatergood.berkeley.edu/article/item/sleep_before_you_bicker
  19. http://www.ext.colostate.edu/pubs/consumer/10237.html
  20. http://academicaffairs.ucsd.edu/_files/ug-ed/uaac/Dealing_with_an_Angry_Individual.pdf
  21. http://academicaffairs.ucsd.edu/_files/ug-ed/uaac/Dealing_with_an_Angry_Individual.pdf
  22. http://www.mindtools.com/pages/article/dealing-with-angry-people.htm
  23. http://www.angermanagementresource.com/angry-people.html
  24. http://www.mindtools.com/CommSkll/ActiveListening.htm
  25. https://access.ewu.edu/caps/facultystaffres/defusinganger
  26. http://www.mindtools.com/CommSkll/ActiveListening.htm
  27. http://bottomlinehealth.com/how-to-handle-someone-elses-rage/
  28. http://www.mindtools.com/pages/article/dealing-with-angry-people.htm
  29. https://access.ewu.edu/caps/facultystaffres/defusinganger
  30. http://www.medicalteams.org/docs/default-source/Volunteer-Materials/preventing_and_diffusing_anger_and_hostility.pdf?sfvrsn=2
  31. http://bottomlinehealth.com/how-to-handle-someone-elses-rage/
  32. https://www.psychologytoday.com/blog/how-we-work/201304/what-do-when-you-ve-made-someone-angry
  33. http://www.ext.colostate.edu/pubs/consumer/10237.html
  34. http://www.mindtools.com/CommSkll/ActiveListening.htm
  35. http://www.mindtools.com/pages/article/dealing-with-angry-people.htm
  36. http://bottomlinehealth.com/how-to-handle-someone-elses-rage/
  37. http://bottomlinehealth.com/how-to-handle-someone-elses-rage/
  38. http://www.ext.colostate.edu/pubs/consumer/10237.html
  39. http://www.medicalteams.org/docs/default-source/Volunteer-Materials/preventing_and_diffusing_anger_and_hostility.pdf?sfvrsn=2
  40. https://access.ewu.edu/caps/facultystaffres/defusinganger
  41. http://strategicdiscipline.positioningsystems.com/blog-0/bid/82716/Verbal-Eraser-Destroys-Positive-Reinforcement
  42. http://bottomlinehealth.com/how-to-handle-someone-elses-rage/
  43. http://www.ext.colostate.edu/pubs/consumer/10237.html
  44. http://www.apa.org/topics/anger/help.aspx
  45. http://www.umass.edu/fambiz/articles/resolving_conflict/meaningful_apology.html
  46. http://www.umass.edu/fambiz/articles/resolving_conflict/meaningful_apology.html
  47. http://www.umass.edu/fambiz/articles/resolving_conflict/meaningful_apology.html
  48. http://www.umass.edu/fambiz/articles/resolving_conflict/meaningful_apology.html

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Trudi Griffin, LPC, MS
ร่วมเขียน โดย:
ผู้ให้คำปรึกษามืออาชีพที่มีใบอนุญาต
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Trudi Griffin, LPC, MS. ทรูดี้ กริฟฟินเป็นผู้ให้คำปรึกษามืออาชีพที่มีใบอนุญาตในวิสคอนซิน เธอได้รับปริญญาโทด้านการให้คำปรึกษาเรื่องสุขภาพจิตจากมหาวิทยาลัยมาร์เกว็ตต์ในปี 2011 บทความนี้ถูกเข้าชม 5,244 ครั้ง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 5,244 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา