วิธีการ ปรับกระดูกสันหลังให้เหยียดตรง

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

กระดูกสันหลังจะไล่ลงไปกลางหลังของคุณ โดยมีไขสันหลัง (spinal cord) ที่เปรียบเสมือน "ทางด่วน" ของเส้นประสาทที่เชื่อมต่อสมองกับทุกเนื้อเยื่อของร่างกายเข้าด้วยกัน ถึงตรงนี้คงไม่ต้องบอกว่าสุขภาพอันดีของกระดูกสันหลังนั้นสำคัญขนาดไหน ถ้ามองจากทางด้านข้าง กระดูกสันหลังจะมี 3 โค้งใหญ่ๆ ซึ่งจำเป็นต่อความยืดหยุ่นและการทรงตัว[1] แต่ถ้ามองจากทางด้านหลัง กระดูกสันหลังต้องเหยียดตรง ไม่คดหรือโค้งไปทางด้านใดด้านหนึ่ง บางคนก็เกิดมาพร้อมกระดูกสันหลังคดงอ แต่ถึงจะเกิดมาปกติสมบูรณ์ดี ถ้าสุขภาพไม่แข็งแรง จัดท่าทางไม่ถูกต้องเป็นเวลานาน และขาดสารอาหาร ก็ทำให้กระดูกสันหลังผิดปกติได้เช่นกัน

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

ดูแลกระดูกสันหลังให้ถูกวิธี

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 จัดระเบียบร่างกาย.
    ต้องนั่ง เดิน และนอนให้ถูกท่า ถ้าอยากให้กระดูกสันหลังเหยียดตรงไม่คดงอ[2] ด้วยหน้าที่การงาน โดยเฉพาะพนักงานบริษัท ทำให้หลายคนต้องนั่งที่โต๊ะหรือหน้าคอมทั้งวัน เลยทำให้ความสูงของเก้าอี้ต้องพอดี เบาะก็ต้องนุ่ม และพนักรองรับสรีระ พยายามเลือกเก้าอี้ทำงานที่ปรับระดับได้ตามสรีระและความถนัดของคุณ ถ้าพนักโค้งรับหลังส่วนล่างได้ด้วยยิ่งดี ส่วนเวลาอยู่บ้านให้ใช้หมอนหนุนหลังและขา ตอนนั่งเล่นดูทีวี
    • อย่าพยายามนั่งไขว่ห้างหรือไขว้เท้า เพราะทำให้สะโพกไม่เสมอกัน เพิ่มภาระให้หลังส่วนล่าง
    • หน้าจอคอมพิวเตอร์ต้องอยู่ที่ระดับสายตา เวลานั่งแล้วต้องอยู่กลางจอ ไม่งั้นคอจะเกร็ง แถมกระดูกสันหลังคดได้
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ใส่รองเท้าดีๆ.
    เท้าสำคัญมากไม่ว่าจะทำท่าทางแบบไหน เพราะเป็นรากฐานของทั้งร่างกาย ต้องสวมรองเท้าแข็งแรง รองรับอุ้งเท้า และส้นหนาขึ้นมาหน่อย (1/2 – 3/4 นิ้ว) ที่สำคัญคือมีที่ว่างให้ขยับนิ้วได้ อย่าคับแน่น พยายามอย่าใส่ส้นสูงทุกวัน เพราะทำให้จุดศูนย์ถ่วงของร่างกายผิดเพี้ยนไป ร่างกายต้องพยายามปรับการเรียงตัวทดแทน ทำให้เกิดภาวะ hyperlordosis คือแอ่นมากเกินไปบริเวณบั้นเอว[3]
    • ถ้าน้ำหนักตัวเยอะเกินพิกัด เท้าแบน หรือขาสั้น ควรใช้อุปกรณ์เสริมเท้า (orthotics) ไม่ให้ส้นเท้าแบนราบ แบบนี้ถึงจะดีต่อสุขภาพกระดูกสันหลัง เพราะรองรับอุ้งเท้า ทำให้วิ่งหรือเดินได้ถูกท่าถูกทางยิ่งขึ้น (ตามหลักชีวกลศาสตร์ (biomechanics))
    • orthotics นั้นต้องให้หมอรักษาโรคเท้า (podiatrists) แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือนักจัดกระดูก (chiropractors) เป็นคนจัดทำให้
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ใช้ที่นอนแน่นๆ.
    อย่างน้อย 1/3 ของชีวิตเราหมดไปกับการนอน เพราะงั้นต้องเลือกเบาะหรือที่นอนให้ดีๆ หน่อย รวมถึงจัดท่าทางการนอนให้ถูกต้อง ซึ่งการใช้ที่นอนแน่นๆ นี่แหละ ที่ช่วยรองรับและดูแลกระดูกสันหลังได้เป็นอย่างดี แผ่นรองที่เป็นเมโมรี่โฟมก็ช่วยได้ ปกติเราควรเปลี่ยนที่นอนทุก 8 - 10 ปี ส่วนความหนาของหมอนก็ต้องสัมพันธ์กันกับระยะห่างระหว่างด้านข้างของหัวกับปลายไหล่ พูดง่ายๆ คือนอนแล้วคอต้องเหยียดตรง
    • ท่านอนที่ดีต่อกระดูกสันหลังที่สุด คือนอนตะแคง ให้สะโพกกับเข่างอเล็กน้อย โดยมีหมอนใบเล็กๆ สอดอยู่ระหว่างต้นขา สะโพกจะได้ไม่บิดเบี้ยวด้วย[4]
    • อย่าหนุนหมอนหลายใบให้คอตั้งเพราะจะอ่านหนังสือ แบบนี้คอจะเกร็ง แถมอาจจะฝืนให้ส่วนโค้งของคอบิดผิดด้าน
  4. How.com.vn ไท: Step 4 อย่าสะพายเป้หรือใช้กระเป๋าสะพายเฉียงหนักๆ.
    ถึงจะบอกว่าเดินเรียนแค่นิดหน่อย หรือแค่เดินกลับบ้าน แต่น้ำหนักกดทับจากเป้ใบโตก็ส่งผลเสียร้ายแรงได้ เพราะไปกดทับกระดูกสันหลัง ดีไม่ดีจะทำกระดูกสันหลังคด โดยเฉพาะเด็กๆ อาจโตไม่เต็มความสูง![5] ที่น่ากลัวกว่าคือถ้าสะพายกระเป๋าเฉียงหรือรับน้ำหนักด้วยไหล่ข้างเดียว เช่น กระเป๋า messenger หรือกระเป๋าสะพายเฉียง/ข้าง แบบนี้ทำกระดูกสันหลังคดได้เลย[6]
    • เวลาสะพายกระเป๋าหรือเป้ ต้องกระจายน้ำหนักลงไปที่ไหล่ 2 ข้างเท่ากัน ถ้าถือกระเป๋าเดินทางหรือกระเป๋าเอกสาร ก็ต้องสลับมือเรื่อยๆ
    • ถ้าของหนักมาก ให้ใช้เป้หรือกระเป๋าเอกสารแบบมีล้อ
    • ยอมเสียเวลาเดินกลับไปเก็บหนังสือเรียนเก่า และหยิบหนังสือเรียนใหม่ที่โต๊ะในห้องเรียนหรือล็อคเกอร์ จะได้ไม่ต้องแบกเดินเรียนไปทั้งหมด แต่ถ้าไกล มีเวลาก่อนคาบใหม่เริ่มแค่สั้นๆ ก็บอกครูว่าแวะไปห้องพยาบาล/ห้องน้ำมา หรือใครเคยหาหมอเรื่องกระดูกโดยเฉพาะก็ยื่นใบรับรองแพทย์ให้อาจารย์ซะเลย
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ออกกำลังกายและเคลื่อนไหวให้มากขึ้น.
    การออกกำลังกายแบบหนักปานกลางดีต่อสุขภาพในหลายๆ ด้าน ทั้งช่วยลดน้ำหนัก เสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ซึ่งทั้ง 2 อย่างนี้ดีต่อกระดูกสันหลัง[7] ถ้าน้ำหนักตัวเยอะเกินไป เท่ากับเพิ่มแรงกดทับให้ข้อต่อของกระดูกสันหลังโดยใช่เหตุ เพิ่มความเสี่ยงเรื่องข้อเสื่อมและกระดูกสันหลังคด นอกจากนี้ถ้ากล้ามเนื้อแข็งแรง ก็จะยึดกระดูกและข้อไม่ให้เคลื่อน เล่นเวทนี่แหละช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อได้ดีที่สุด แต่ระวังอย่าเจาะบริหารเฉพาะบางกลุ่มกล้ามเนื้อ เพราะจะทำให้ยืนเดินผิดท่าผิดทางได้ ทางที่ดีควรปรึกษาคุณหมอหรือฟิตเนสเทรนเนอร์เก่งๆ ถ้าไม่แน่ใจว่าควรบริหารจุดไหนยังไง
    • ทุกเช้าหลังตื่นนอน ให้นอนหงายแล้วทำท่า "snow angels" คือกวาดแขน-ขาไปมาช้าๆ 3 - 5 นาที ท่านี้ใช้วอร์มและยืดเหยียดเบาๆ ได้หลายกลุ่มกล้ามเนื้อที่จำเป็นต่อการเรียงตัวของกระดูกสันหลัง
    • เล่นเครื่องกรรเชียงบก (rowing machine) ที่ฟิตเนส เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อระหว่างสะบัก ดีต่อท่าทางการเคลื่อนไหวของร่างกายท่อนบนด้วย
    • พิลาทิสกับโยคะก็เป็นอีกกิจกรรมที่ช่วยยืดเหยียด และช่วยเรื่องการทรงตัวของร่างกาย โดยเฉพาะกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว (ท้อง เชิงกราน และหลังส่วนล่าง) ซึ่งเป็นรากฐานของท่าทางที่ดี
  6. How.com.vn ไท: Step 6 ร่างกายต้องได้รับสารอาหารที่จำเป็น.
    ถ้าอยากให้กระดูกเหยียดตรง แข็งแรง สุขภาพดี ร่างกายต้องได้รับสารอาหารที่จำเป็นครบถ้วน แร่ธาตุ เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม และโบรอนจะมาสะสมที่เนื้อเยื่อ เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกระดูก ถ้าขาดไป กระดูกจะเปราะ แตกหรือหักง่าย (ที่เรียกว่าโรคกระดูกพรุน (osteoporosis)) วิตามินดีก็สำคัญต่อสุขภาพกระดูก ถ้าขาดไปกระดูกจะนิ่ม คดงอหรือบิดผิดรูปง่าย (เรียกว่าโรคกระดูกอ่อนในเด็ก (rickets) หรือโรคกระดูกน่วม/อ่อน (osteomalacia) ในผู้ใหญ่)
    • ผิวหนังจะสร้างวิตามินดีได้ถ้าโดนแดดเพียงพอ ถ้าเมืองร้อนแบบบ้านเรา แนะนำให้ออกไปเดินรับแดดเช้า จะไม่แรงจนเป็นอันตราย
    • ปริมาณแคลเซียมที่แนะนำในแต่ละวันคือ 1,000 – 1,200 มก. ตามช่วงอายุ โดยอาหารที่เป็นแหล่งแคลเซียมชั้นดีคือ คะน้าฝรั่ง (collards) เคล ปวยเล้ง ปลาซาร์ดีน เต้าหู้ อัลมอนด์ และงา[8]
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

รักษากระดูกสันหลัง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ไปจัดกระดูก.
    ไปหานักจัดกระดูกเป็นประจำ (อาจจะเดือนละครั้ง) นอกจากช่วยบรรเทาอาการปวดกระดูกสันหลังอย่างเห็นผลแล้ว ยังทำให้กระดูกเรียงตัวตรงขึ้นด้วย[9] นักจัดกระดูกจะใช้การทำกายภาพที่เรียงว่าการดัดหรือจัดกระดูก (spinal adjustments) เพื่อให้กระดูกเรียงตัวตามปกติ หรือแก้ข้อกระดูกสันหลังขัด วิธีนี้แก้โรคกระดูกสันหลังคดไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ทำให้กระดูกสันหลังตรงขึ้นได้เล็กน้อย โดยเฉพาะหลังถูกกระแทก เช่น เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์
    • เวลาจัดกระดูกสันหลัง อาจจะได้ยินเสียงกระดูกลั่น เหมือนเวลาหักข้อนิ้วดัง “ป๊อก” นั่นเพราะความดันในข้อต่อเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดฟองอากาศ
    • จัดกระดูกสันหลังแล้วอาจไม่ค่อยสบายตัวบ้าง แต่ไม่ถึงกับเจ็บจนทนไม่ไหว
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ไปนวด.
    ให้หมอนวดที่ผ่านการอบรมและมีใบอนุญาต นวดหลัง ไหล่ และ/หรือคอ จะช่วยคลายกล้ามเนื้อ ดีต่อการเรียงตัวของกระดูก โดยเฉพาะคนที่กล้ามเนื้อแถวกระดูกสันหลังตึงเกร็งจนดึงรั้ง นอกจากนี้นวดแล้วยังช่วยคลายเครียด ที่ปกติเป็นสาเหตุให้คุณยืน เดิน นั่งผิดท่าทาง โดยเฉพาะลำตัวช่วงบน
    • นวดแล้วช่วยขับกรดแลคติก สารพิษ และสารประกอบต่างๆ ที่ก่ออาการอักเสบ ออกจากกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่ออ่อน ไปยังกระแสเลือด เพราะงั้นต้องดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อขับต่อจนออกไปจากร่างกาย
    • หมอนวดบางคนจะทำ reflexology หรือนวดกดจุดสะท้อนฝ่าเท้า ให้คุณได้ด้วย เป็นการกดจุดกระตุ้นให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น ถ้าทำได้ ก็ลองให้หมอนวดช่วยกดจุดที่เกี่ยวกับกระดูกสันหลังดู
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ทำกายภาพบำบัด (physiotherapy หรือ Physical Therapy).
    นักกายภาพบำบัด (physical therapist) จะวางแผนว่าคุณควรยืดเหยียดและเสริมสร้างความแข็งแรงให้กระดูกสันหลังยังไง โดยเน้นป้องกันกระดูกสันหลังคดงอ ถ้าจำเป็นก็อาจต้องบำบัดกล้ามเนื้อด้วยวิธีต่างๆ เช่น ใช้อัลตราซาวด์ หรือกระตุ้นกล้ามเนื้อด้วยไฟฟ้า การเน้นบริหารกล้ามเนื้อหลัง คอ (ก้มเงย) และกล้ามเนื้อเชิงกรานก็สำคัญต่อท่าทางที่ดี
    • เล่นเวทเพิ่มแรงต้านทาน เสริมสร้างความแข็งแรง ก็ช่วยยับยั้งหรือรักษาการสูญเสียมวลกระดูกได้ในบางกรณี เลยทำให้ดีต่อการเรียงตัวและสุขภาพของกระดูกสันหลังโดยรวม
    • ถ้าล้าหรือปวดกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกายหรือนวด ให้แช่น้ำผสมดีเกลือฝรั่ง (Epsom salt bath) เพราะแมกนีเซียมในเกลือจะช่วยคลายกล้ามเนื้อและบรรเทาปวด
  4. How.com.vn ไท: Step 4 กินยาตามหมอสั่ง.
    ถ้าคุณเป็นโรคกระดูกพรุนหรือกระดูกสันหลังเปราะ ไม่ค่อยหนาแน่น แล้วกลัวกระดูกคดหรือหักง่าย ให้ปรึกษาคุณหมอเรื่องกินยาให้กระดูกแข็งแรง ปกติจะเป็นยากลุ่ม bisphosphonates ที่ขายกันทั่วไป เช่น Boniva, Reclast และ Fosamax ส่วนยาฮอร์โมนที่ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกก็เช่น raloxifene, calcitonin และ parathyroid hormone
    • Bisphosphonates อาจทำให้เสี่ยงกระดูกหักแบบเคสที่หายาก และทำให้ปวดกระดูก ข้อ หรือกล้ามเนื้อ
    • Teriparatide ที่เป็นพาราไทรอยด์ฮอร์โมนชนิดหนึ่ง จะไปเพิ่มอัตราการสร้างกระดูก เป็นยา "ตัวแรก" ที่ FDA หรือองค์การอาหารและยาของอเมริการให้การรับรอง ว่าใช้รักษาโรคกระดูกพรุนและสร้างกระดูกทดแทนได้จริง
  5. How.com.vn ไท: Step 5 อาจจะต้องผ่าตัด.
    ควรเก็บการผ่าตัดสันหลังไว้เป็นหนทางสุดท้ายจริงๆ เว้นแต่ผู้ป่วยเป็นเด็กที่กระดูกพรุนจนกระดูกสันหลังคดงอเสียรูปอย่างรวดเร็ว การผ่าตัดรักษาโรคกระดูกพรุนคือ spinal fusion ก็คือ "เชื่อม" ข้อกระดูกสันหลังนั่นเอง[10] จุดประสงค์หลักคือให้กระดูกสันหลังที่คดงอกลับมาเรียงตัว เชื่อมต่อกัน ตามปกติ กลายเป็นกระดูกท่อนทึบยาวท่อนเดียว โดยจะทำการปลูกถ่ายกระดูก (bone graft) คือเอากระดูกชิ้นเล็กๆ มาต่อในช่องว่างระหว่างข้อกระดูกสันหลังแล้วเชื่อมติดกัน ให้กระดูกงอกตามปกติ เหมือนตอนรักษากระดูกที่แตกหรือหัก
    • บางทีก็ใช้แท่งเหล็กยึดกระดูกสันหลังจนกว่าจะเชื่อมติดกัน โดยยึดไว้ด้วยสกรู ตะขอ และ/หรือลวด แล้วค่อยเอาออกทีหลัง
    • ผลข้างเคียงที่อาจพบหลังผ่าตัดก็เช่น การติดเชื้อ อาการแพ้ยาสลบ เส้นประสาทเสียหาย และปวด/บวมเรื้อรัง
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

ตรวจกระดูกสันหลัง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ตรวจหากระดูกสันหลังคด.
    Scoliosis คือโรคกระดูกสันหลังคด มักเกิดแถว thoracic region (กระดูกสันหลังส่วนอก (ระหว่างสะบัก)) ทำให้ปวดหลังและขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวได้จำกัด[11] บางคนก็เกิดมาเป็นโรคกระดูกสันหลังคดแบบหาสาเหตุไม่ได้ แต่บางคนก็มาเป็นเอาตอนเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น แนะนำให้พาลูกไปตรวจหากระดูกสันหลังคดเมื่อขึ้นม.ต้น จะหมอหรือพยาบาลก็ตรวจให้ได้ วิธีการคือให้เด็กโก้งโค้งตั้งแต่ส่วนสะโพกลงไป แล้วดูว่าสะบักข้างไหนยื่นออกมามากกว่า
    • การตรวจหากระดูกสันหลังคดควรทำในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ เพราะการรักษาและบรรเทาอาการ (ใส่หรือฝังแท่งเหล็ก) จะเห็นผลกว่า ถ้าทำตอนกระดูกสันหลังยังพัฒนา
    • เด็กผู้หญิงจะมีโอกาสเป็นโรคกระดูกสันหลังคดได้ง่ายกว่า แถมเสี่ยงอาการหนัก ต้องรีบตรวจรักษา[12]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 หาหมอเฉพาะทาง.
    ถ้าพยาบาลหรือหมอทั่วไปตรวจพบกระดูกสันหลังคด หรือความผิดปกติใดก็ตาม ให้หาหมอเฉพาะทางต่อไป ศัลยแพทย์กระดูกและข้อจะตรวจวินิจฉัยกระดูกสันหลังโดยละเอียด รวมถึงเอกซเรย์ให้เห็นปัญหาชัดเจนยิ่งขึ้น นอกจากนี้คุณหมอจะตรวจหาโรคของกระดูกสันหลังที่เกี่ยวข้องและพบบ่อยเพิ่มเติม เช่น ข้อเสื่อม (osteoarthritis) กระดูกพรุน (osteoporosis) และหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท (herniated discs) ทั้งหมดนี้เป็นสาเหตุก่อโรคกระดูกสันหลังคดและความผิดปกติทางชีวกลศาสตร์[13]
    • คุณหมออาจจะทำ CT scans, MRI, สแกนกระดูก หรือเอกซเรย์ละเอียดเพิ่มเติมประกอบการวินิจฉัยด้วย
    • คุณหมอไม่ค่อยนิยมรักษาโรคหรือความผิดปกติที่กระดูกสันหลังด้วยการผ่าตัด
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ปรึกษานักจัดกระดูก.
    chiropractor หรือ osteopath เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกสันหลัง ที่เน้นรักษากระดูกสันหลังและส่วนอื่นๆ ของร่างกายด้วยวิธีธรรมชาติ โดยไม่ใช้ยาหรือการผ่าตัด นักจัดกระดูกจะสามารถตรวจหาความผิดปกติในกระดูกสันหลังได้ เช่น ความคดงอ ข้อจำกัดในการเคลื่อนไหว หรือกล้ามเนื้อตึงเกร็ง
    • ถึงปกติกระดูกสันหลังส่วนบนถึงกลางจะโค้งไปด้านหน้าเล็กน้อย แต่ถ้ามากเกินไป จะทำให้หลังค่อม (hyper-kyphosis หรือ hunchback) ได้[14] ซึ่งสาเหตุหลักๆ คือ โรคกระดูกพรุน ข้ออักเสบ เนื้องอก และยืนหรือนั่งหลังงอจนชิน
    • ถ้ากระดูกสันหลังส่วนบนเหยียดตรงเกินไปก็ถือว่าผิดปกติ เรียกว่า "military spine"
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ระวังเรื่องเชิงกรานข้างหนึ่งเล็กกว่าอีกข้าง (small hemipelvis)....
    ระวังเรื่องเชิงกรานข้างหนึ่งเล็กกว่าอีกข้าง (small hemipelvis). ปกติกระดูกเชิงกรานจะประกอบด้วยกระดูก 2 ชิ้นที่เชื่อมกันด้วยเอ็นยึด (ligaments) ถ้ากระดูกชิ้นหนึ่งเล็กกว่าอีกข้าง จะทำให้นั่งหรือยืนแล้วเอียงไปทางข้างที่กระดูกชิ้นเล็กกว่า[15] ทำให้กระดูกสันหลังคดได้พอกับๆ ปัญหาด้านสุขภาพและท่าทาง ถ้าสังเกตว่าตัวเองนั่งแล้วเอียงไปข้างหนึ่ง ให้ลองปรึกษาคุณหมอดู อาจจะมีปัญหานี้
    • วิธีแก้คือให้เสริมพื้นรองเท้า แล้วหาหนังสือ นิตยสาร หมอน หรือเบาะมารองนั่ง จะได้ไม่เอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง[16]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • จะจัดวางท่าทางของตัวเองได้เหมาะสม ก็ต้องมีสติรู้ตัวซะก่อน แรกๆ ให้สำรวจท่าทางของตัวเองในกระจกก่อน แล้วปรับแก้ไป ลองสังเกตว่าถ้าเปลี่ยนท่าทางแล้วรู้สึกยังไง จากนั้นก็ฝึกให้รู้ตัวและจัดท่าทางให้ดูดีอยู่เสมอ
  • การผ่าตัดรักษากระดูกสันหลังถือเป็นการผ่าตัดใหญ่ ที่ต้องย้ายกล้ามเนื้อและจัดเรียงกระดูกซะใหม่ ส่วนจะเจ็บหรือปวดแค่ไหนหลังผ่าตัด ก็แตกต่างกันไปตามแต่ละคน
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Karen Litzy, PT, DPT
ร่วมเขียน โดย:
นักกายภาพบำบัด
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Karen Litzy, PT, DPT. ดร. คาเรน ลิทซี่, PT, DPT เป็นนักกายภาพบำบัดที่มีใบอนุญาต ผู้บรรยายระดับนานาชาติ เจ้าของ Karen Litzy Physical Therapy, PLLC และพิธีกรของ Healthy Wealthy & Smart podcast ด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปี เธอเชี่ยวชาญในวิธีการที่ครอบคลุมในการฝึกกายภาพบำบัดโดยใช้การออกกำลังกายเพื่อการบำบัด การบำบัดด้วยตนเอง การให้ความรู้เกี่ยวกับความเจ็บปวด และโปรแกรมการออกกำลังกายที่บ้าน คาเรนสำเร็จการศึกษาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิตสาขากายภาพบำบัดและดุษฎีบัณฑิตสาขากายภาพบำบัดจาก Misericordia University คาเรนเป็นสมาชิกของสมาคมกายภาพบำบัดสหรัฐอเมริกา (APTA) และเป็นโฆษกอย่างเป็นทางการของ APTA ในฐานะสมาชิกของคณะสื่อของพวกเขา เธออาศัยและทำงานในนิวยอร์กซิตี้ บทความนี้ถูกเข้าชม 16,721 ครั้ง
หมวดหมู่: ยาทางเลือก
มีการเข้าถึงหน้านี้ 16,721 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา