วิธีการ นิยามความรัก

“คนเราจะไปสามารถใช้กฎของเคมีและฟิสิกส์มาอธิบายปรากฏการณ์ทางชีววิทยาอันทรงพลังอย่างการมีความรักครั้งแรกได้อย่างไรกัน?”
— อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์

ความรักเป็นสิ่งที่นิยามได้ยากยิ่ง คุณจะไปรู้ได้อย่างไรว่านี่คือความรัก ความหลงใหลได้ปลื้มเพียงชั่วคราวหรือเพียงแค่ความปรารถนาเท่านั้น? นักปรัชญาและนักจิตวิทยาต่างพยายามหาหนทางนิยามความรัก หรืออย่างน้อยก็ขอแค่แยกความแตกต่างระหว่างความรักกับความหลงและความปรารถนาได้ก็ยังดี หากคุณกำลังมองหาความรักอยู่ ข้อสังเกตด้านล่างอาจมีประโยชน์กับคุณก็ได้นะความรักไม่ได้นำความเสี่ยงธรรมดาๆ มาให้ แต่คือการที่คุณยอมเสี่ยงคว้ารักไว้และตกไปอยู่ในห้วงกันดำมืด ขุดหลุมฝังตัวเองและจะคลานกลับขึ้นมาได้ก็ต่อเมื่อคุณเอาชนะอารมณ์ของตัวเองได้เท่านั้นคนเราจะนิยามความรักอย่างแท้จริงได้อย่างไรกัน? กระทั่งผู้มากด้วยประสบการณ์ก็ยังไม่อาจจับต้องหรืออธิบาย “ความรัก” ได้อย่างถ่องแท้ถึงแก่นเลยด้วยซ้ำ แนวคิดเรื่องความรักนั้นเป็นสิ่งที่ถกกันได้ไม่มีวันจบในหนังสือที่ชื่อว่าประสบการณ์ชีวิต แต่หากความรักไม่ปรากฏในหัวใจแล้ว ความทรงจำใดเล่าจะคงเหลืออยู่นอกจากเงามืดที่ทอดผ่านจิตวิญญาณของเราไว้

ความรักก็คือการที่คุณยอมมอบอำนาจให้ใครคนหนึ่งทำลายหัวใจ แต่คุณก็เชื่อใจว่าเขาจะไม่ทำเช่นนั้น

ขั้นตอน

ดาวน์โหลดบทความ

1
นิยามความรักโดยคิดว่าความรักมีความหมายอย่างไรสำหรับคุณ. คุณอาจจะทำให้เป็นเรื่องเป็นราวโดยเขียนความรู้สึกและความคิดที่คุณมีเกี่ยวกับความรักออกมาก็ได้ พจนานุกรมได้นิยามคำว่ารักไว้หลากหลายรูปแบบโดยขึ้นกับการเลือกใช้คำ ตัวอย่างเช่น ความรักคือ:
- อารมณ์เชิงบวกอันทรงพลัง ความรักใคร่หรือชื่นชมยินดี ตัวอย่างเช่น “เขารู้สึกเบิกบานที่เธอรักใคร่ชอบพอเขา”
- สิ่งใดๆ ก็ตามที่ได้รับความรักใคร่ ทุ่มเทหรือนิยมชมชอบ: “ละครเวทีคือรักแรกของเธอเลยล่ะ” หรือ “ฉันรักอาหารฝรั่งเศส"
- การเป็นที่รัก: ผู้เป็นที่รักซึ่งเป็นคำที่ใช้เรียกเพื่อแสดงความรัก
- ความรู้สึกลึกซึ้งที่สื่อถึงความปรารถนาและแรงดึงดูดทางเพศ ตัวอย่างเช่น "เธอคือรักแรกของเขา" หรือ "เธอรักสามีของเธอ"
- สำนวนภาษาอังกฤษ แปลว่าคะแนนเท่ากับศูนย์เวลาแข่งเทนนิสหรือสควอช "ชนะด้วยคะแนนสี่สิบ-เลิฟ! (40-love!)”
- การร่วมรัก: การมีเพศสัมพันธ์ระหว่างคนสองคน ตัวอย่างเช่น “พวกเขาทำรักกัน” “เขาไม่ได้ร่วมรักกับใครมาหลายเดือนแล้ว”
2
ลองพิจารณาความรักสี่ประเภทที่นิยามไว้โดยชาวกรีกโบราณแล้วคิดดูว่าความรักแบบไหนที่คุณรู้สึกกับคนใกล้ตัว
1. อาเกป คือความรักอย่างไม่มีเงื่อนไข เป็นความรักที่ต้องรักแม้ว่าคุณอาจจะไม่ได้พอใจจะรัก ตัวอย่างก็เช่น "พระเจ้ารักเราผู้เป็นคนบาป"
2. ฟิเลีย คือความรู้สึกอันเป็นกุศลหรือความรักฉันพี่น้องซึ่งเกิดจากความชอบพอหรือความต้องการและความปรารถนาที่ดีและไม่ดีของเรา นี่คือเหตุผลว่าทำไมเมือง “ฟิลาเดเฟีย” ถึงมีความหมายว่า “เมืองแห่งความรักฉันพี่น้อง” นั่นเอง
3. สเตอร์เก้ คือคำที่ใช้นิยาม "ความรักของคนในครอบครัว" การแสดงออกทางกายที่สื่อถึง "ความรักใคร่" และความต้องการสัมผัสร่างกายกัน บางครั้งความรักชนิดนี้ก็เป็นความรักระหว่างเพื่อนคนพิเศษ (เช่นความรักของตัวละครในภาพยนต์เรื่อง "Grumpy Old Men” ไงล่ะ)
4. อีรอส" คือความปรารถนาทางเพศของร่างกายซึ่งก็คือการได้ร่วมรัก คำนี้เป็นรากศัพท์ของคำว่า “อีโรติก” และ “อีโรติกซิซึม” นั่นเอง
พึงมีสติเสมอเมื่อเกิดรู้สึกรักใครหรืออะไรขึ้นมา.
นี่คือความรักที่แท้จริงหรือเปล่าหรือแค่ความใกล้ชิดที่สามารถแปรเปลี่ยนไปได้อย่างง่ายดาย? หากความรู้สึกนี้เกิดจากการต้องการได้สิ่งตอบแทนคุณก็อาจจะเผลอตัวไปและความปรารถนาอาจจะทำให้คุณสับสนว่านั่นคือรักก็ได้นะ
ลองคิดดูว่าคุณจะยังรู้สึกเหมือนเดิมไหมหากหน้าตาของคนๆ นั้นเปลี่ยนแปลงไป. คุณอาจจะแค่ถูกใจหรือเปล่า?
ถ่ายทอดความรู้สึกของคุณผ่านการใช้คำเปรียบเปรย บทกลอนหรือบทเพลงดูสิ. “ความรักเปรียบเหมือน…”
7
ลองอธิบายความรักเหมือนนักจิตวิทยาโดยแบ่งองค์ประกอบของความรักออกเป็นสามส่วน
1. ความหลงใหล ซึ่งก็คือความปรารถนาต่อร่างกาย พฤติกรรมและสิ่งเร้าทางเพศซึ่งเป็นความรู้สึกทางกาย
2. ความสนิทสนม ซึ่งเป็นความรู้สึกทางอารมณ์ที่สื่อความใกล้ชิด ความเข้าอกเข้าใจกันและความอบอุ่นของมิตรภาพ
3. ความยึดมั่นในความสัมพันธ์ คือการตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะอยู่ด้วยกันไปตราบนานเท่านาน คุณพร้อมที่จะไปถึงขั้นนั้นหรือยัง?
8
ถามตัวเองว่าความรักจะคงอยู่ไปตลอดไหม. ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใดหรือไม่ว่าจะต้องพบอุปสรรคที่มาทักทายเส้นทางรักอันแท้จริงและบริสุทธ์มากเพียงใด รักนั้นจะคงอยู่เสมอ แม้ว่านิยามนี้อาจจะยิ่งใหญ่เกินจริงไปบ้าง แต่หลายคนก็รู้สึกว่านี่ช่างเป็นจินตนาการที่ชวนให้อบอุ่นหัวใจเมื่อนึกถึง
- แม้อาจจะฟังดูเหมือนความรักจะนำแต่ความสุขความเบิกบานมากให้ แต่ก็มีบางสถานการณ์ที่ความรักอาจจะนำความทุกข์มาให้เช่นกัน ถ้าจะให้อธิบายง่ายๆ ก็คือการที่คนสองคนหลงผิดมารักกันทั้งๆ ที่ไม่ใช่คู่แท้นั่นแหละ (แต่ถ้าคู่กันแล้วก็ไม่แคล้วกันหรอก)
- ความรักอาจก่อสงครามได้ในกรณีที่เป็นความรักต่อศาสนาหรือความรักต่อเงินตรา สงครามอาจจะทำให้คนปล้นฆ่ากัน และอาจนำไปสู่การฆ่าตัวตายและชีวิตแต่งงานและชีวิตครอบครัวที่พังทลายได้ สงครามยังอาจะทำให้เกิดโรคระบาดและนำไปสู่หายนะได้อีกด้วย
- ดั่งคำปราชญ์ที่ว่าไม่มีอะไรคงอยู่ตลอดไป ความรักก็เช่นกัน ไม่มีอะไรคงอยู่มาตั้งแต่สมัยเพิ่งเกิดโลกและก็คงไม่มีใครมีอายุอยู่ยืนยาวพอจนรู้ว่าจะมีอะไรที่เป็นนิรันดร์หรือไม่ ฟังๆ ดูแล้วก็ขัดหูเพราะเรามักจะพูดว่ารักกันไปตลอดกาลทั้งๆ ที่คำว่าตลอดกาลมันยาวนานถึงเมื่อไหร่ก็หามีใครรู้ไม่ แล้วถึงแม้ว่าจิตใจของมนุษย์จะสามารถรู้สึกได้ยาวนานขนาดนั้น ธรรมชาติของมนุษย์ก็คงจะต้องรู้สึกโกรธ เบื่อไม่ก็รำคาญกันบ้างซึ่งก็คงจะทำให้ต้องจบความสัมพันธ์กันหลังจากใช้เวลาด้วยกันมาเกินพอแล้วอยู่ดี
โฆษณา

เคล็ดลับ

ความรักอย่างไม่มีเงื่อนไขไม่ได้แปลว่าคุณจะต้องให้ความสำคัญกับอีกคนเท่านั้นแต่คือการที่คุณต้องหาจุดสมดุลระหว่างการสร้างความสุขให้ตัวเองและอีกฝ่ายซึ่งทำให้คุณทั้งสองมีชีวิตที่ดีขึ้น
ลองหาแรงบันดาลใจด้วยการอ่านบทกลอนอันโด่งดังของเอลิซาเบธ บาร์เร็ตที่ชื่อว่า "เหตุใดฉันถึงรักเธอ? (“How Do I Love Thee?”) ดูสิ แล้วก็ลองพิจาราณาคำของเช็คสเปียร์ที่ว่า “ความรักจะไม่ใช่ความรักหากแปรเปลี่ยนเมื่อเปลี่ยนแปร” (ซอนเน็ทที่ 116) ดูด้วย
ความรักคือการตระหนักรู้ถึงการมีอยู่และองค์ประกอบของความรัก ความรักคือน้ำยาชีวภาพที่บ่มเพาะผ่านพ้นวิวัฒนาการของมนุษย์เรา พยายามทำความเข้าใจกลไกของความรักแต่ก็ปล่อยให้ตัวเองได้ค้นหาความสำคัญและความหวังจากความรักเพื่อที่เราจะได้เปลี่ยนแปลงตัวเองทั้งกายและใจไปด้วยกัน
หากพฤติกรรมบางแง่มุมของคนที่คุณรักทำร้ายหรือทำให้คุณรู้สึกไม่ดีก็ต้องกล้าที่จะตักเตือนและให้โอกาสอีกฝ่ายได้ปรับปรุงตัวก่อนที่คุณจะหมดรัก
ความรักคือการไม่เห็นแก่ตัว ความรักคือความพร้อมจะทุ่มทีชีวิตและจิตวิญญาณและความรักนี้ไม่ใช่เพียงแต่รักมนุษย์ด้วยกัน แต่หมายถึงรักโลกด้วย
ความรักคือแก่นแท้ของความหมายในชีวิต

โฆษณา

คำเตือน

คนเรานั้นตกหลุมรักได้ก็ถอนตัวจากความรักได้เช่นกัน หากคนที่คุณคิดว่าเป็น "รักแท้" กลายเป็นคนที่ชอบใช้กำลังและทำให้คุณร้องไห้บ่อยกว่ายิ้มก็จบความรักนี้ซะและหันไปรักคนดีๆ เถอะ

โฆษณา