วิธีการ ทำแป้งโดว์แบบไม่ต้องผสมครีมออฟทาร์ทาร์

บอกเลยว่าคุณผสมแป้งโดว์ (play-dough) ไว้ปั้นเล่น แบบไม่ต้องใส่ครีมออฟทาร์ทาร์ (cream of tartar) ได้ง่ายนิดเดียว แถมสนุกด้วย! สูตรดั้งเดิมที่คนนิยมใช้กัน ก็ประกอบไปด้วยแป้งทำขนม เกลือ น้ำ และน้ำมันเท่านั้น แต่จะใช้แป้งข้าวโพด (cornstarch) กับครีมนวดแทนก็ได้ สุดท้ายแต่งสีด้วยสีผสมอาหารหรือผงชงน้ำ Kool-Aid แล้วแต่งกลิ่นได้ตามใจชอบเลย

ส่วนประกอบ

ใช้ครีมนวดกับแป้งข้าวโพด (cornstarch)

ครีมนวด 1/2 ถ้วยตวง (120 มล.)
แป้งข้าวโพด (cornstarch) 1 ถ้วยตวง (120 กรัม)
สีผสมอาหาร
กลิตเตอร์ (ถ้ามี)

ใช้แป้งทำขนม เกลือ และน้ำมัน

แป้งอเนกประสงค์ 1 ถ้วยตวง (120 กรัม)
เกลือปรุงอาหาร 1/4 ถ้วยตวง (75 กรัม)
น้ำ 3/4 ถ้วยตวง (180 มล.)
น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ (45 มล.)
น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ (15 มล.)
สีผสมอาหาร 4 - 5 หยด หรือผงชงน้ำ Kool-Aid 2 ซอง

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 2:

ใช้ครีมนวดกับแป้งข้าวโพด (cornstarch)

ดาวน์โหลดบทความ

) ลงในชาม. จะใช้ครีมนวดกลิ่นไหนก็ตามชอบ แต่เตือนกันก่อนว่าแป้งโดว์ที่ได้ จะเปลี่ยนสีไปตามครีมนวดที่ใช้ด้วย ต้องเลือกดีๆ^{[1]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} ถ้าอยากแต่งสีเองทีหลัง ให้ใช้ครีมนวดสีขาวเท่านั้น
จะใช้ครีมนวดยี่ห้อไหนก็ได้ แต่ใช้ครีมนวดราคาถูกหน่อยจะดีกว่า^{[2]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
เริ่มจากแค่ 1 - 2 หยดก่อน คนผสมให้เข้ากัน แล้วค่อยหยดเพิ่มตามต้องการ^{[3]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} ถ้าครีมนวดมีสีอยู่แล้ว แต่อยากได้สีเข้มขึ้น ก็ให้ใช้สีผสมอาหารสีเดียวกัน
ใส่กลิตเตอร์ด้วยก็ได้ ถ้าอยากได้แป้งโดว์วิบวับ. จะใช้กลิตเตอร์สีเดียวกับครีมนวดหรือสีผสมอาหารด้วยก็ได้ แต่จะใช้กลิตเตอร์สีอื่นก็ไม่ว่ากัน ถ้าใช้กลิตเตอร์ละเอียดหน่อยจะดีที่สุด แต่ถ้าไม่มี ใช้กลิตเตอร์เกล็ดใหญ่ธรรมดาก็ได้ เริ่มจากใส่ทีละน้อย แค่หยิบมือเดียว แล้วค่อยเพิ่มเติมตามต้องการ
4
ผสมแป้งข้าวโพด 1 ถ้วยตวง (120 กรัม). ตอนแรกแป้งโดว์จะร่วนหน่อย แต่ยิ่งผสมนานๆ ก็ยิ่งเนียนนุ่มขึ้น พอแป้งโดว์ออกมาเนื้อสัมผัสเหมือนครีมแต่งหน้าเค้ก ก็ให้เอาออกจากชามผสม ไปวางที่หน้าเคาน์เตอร์เรียบๆ หรือเขียงได้เลย^{[4]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้าหาซื้อแป้งข้าวโพดแบบ cornstarch ให้ใช้ cornflour แทน
นวดแป้งโดว์ แล้วเพิ่มแป้งข้าวโพดเข้าไปตามต้องการ. ยิ่งนวดแป้งโดว์นานเท่าไหร่ ก็ยิ่งหนึบเป็นก้อนมากขึ้น ให้นวดไปประมาณ 1 นาที ถ้าแป้งโดว์เหนียวหนืดไป ให้เพิ่มแป้งข้าวโพดอีก แล้วนวดต่อ^{[5]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
ถ้าแป้งโดว์แข็งหรือแน่นไป ให้บีบครีมนวดผสมลงไป 1 ก้อนเล็กๆ แล้วนวดต่อ
เพื่อให้แป้งโดว์นิ่มพร้อมเล่นอยู่เสมอ ไม่ต้องกลัวแห้งแข็งไปซะก่อน
โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 2:

ใช้แป้งทำขนม เกลือ และน้ำมัน

ดาวน์โหลดบทความ

ผสมน้ำ น้ำมะนาว และน้ำมันเข้าด้วยกันในหม้อใบใหญ่. ตวงน้ำ 3/4 ถ้วยตวง (180 มล.) แล้วเทใส่หม้อขนาดกลาง คนผสมน้ำมะนาวลงไป 3 ช้อนโต๊ะ (45 มล.) สุดท้ายใส่น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ (15 มล.)^{[6]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
จะใช้ น้ำมะนาวคั้นสด หรือน้ำมะนาวบรรจุขวดก็ได้ ถ้าใช้น้ำมะนาวคั้นสด อย่าลืมกรองกากและเมล็ดออกก่อน!
ยกส่วนผสมขึ้นตั้งไฟอ่อนปานกลาง จนเกือบเดือด. ยกหม้อขึ้นตั้งไฟบนเตา แล้วเปิดไฟอ่อนปานกลาง ให้ส่วนผสมค่อยๆ ร้อนขึ้นช้าๆ^{[7]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
3
ใส่สีผสมอาหาร หรือผง Kool-Aid แล้วคนผสม. ถ้าอยากแต่งสีแป้งโดว์ ให้ใส่สีผสมอาหารไปสัก 4 - 5 หยดแล้วคนผสม ถ้าอยากแต่งสีและแต่งกลิ่นไปพร้อมๆ กัน อาจจะใส่ผง Kool-Aid 2 ซองแล้วตีผสมจนเข้ากัน แต่ถ้าอยากได้แป้งโดว์สีสดเป็นพิเศษ ก็ใส่มันทั้ง 2 อย่างเลย!^{[8]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- คุณเพิ่มลดสีผสมอาหารหรือผง Kool-Aid ได้ตามใจชอบเลย จนได้เฉดสีที่ต้องการ
- ย้ำว่าต้องใช้ผง Kool-Aid แบบไม่แต่งรสหวาน ไม่งั้นแป้งโดว์จะออกมาเหนียวเหนอะได้^{[9]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
4
ผสมแป้งกับเกลือเข้าด้วยกันในชามอีกใบ. เทแป้งอเนกประสงค์ 1 ถ้วยตวง (120 กรัม) ลงในชามผสม จากนั้นโรยเกลือ ¼ ถ้วยตวง (75 กรัม) คนผสมด้วยช้อน^{[10]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ให้ใช้แป้งอเนกประสงค์สีขาว อย่าใช้แป้งโฮลวีท
- ใช้เกลือละเอียดสำหรับปรุงอาหาร อย่าใช้เกลือสินเธาว์ (rock salt) หรือ sea salt
ค่อยๆ ใส่แป้งที่ผสมแล้ว ลงในส่วนผสมเหลวในหม้อที่ตั้งไฟไว้ทีละน้อย. ค่อยๆ ใส่ส่วนผสมลงไปในหม้อ และกวนไปเรื่อยๆ ระหว่างเท เพื่อไม่ให้แป้งโดว์จับตัวเป็นก้อนแข็ง หรือก้อนเล็กก้อนน้อย ไม่เนียนเป็นเนื้อเดียว!^{[11]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
6
กวนผสมไปเรื่อยๆ จนเริ่มได้ก้อนแป้งกลมๆ. ระหว่างกวนผสม ส่วนผสมแห้งจะดูดซับเอาส่วนผสมเปียกเข้าไป ได้เป็นก้อนแป้งกลมๆ พอไม่เหลือส่วนผสมที่เป็นน้ำแล้ว ก็หยุดกวนได้เลย^{[12]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้าส่วนผสมเหนียวเหนอะไป ให้กดแป้งโดว์ราบไปกับก้นหม้อ แล้วทิ้งไว้สัก 2 - 3 วินาที จากนั้นกลับด้าน แล้วทำซ้ำแบบเดียวกัน ให้พลิกกลับไปมาแบบนี้ จนได้ความหยุ่นตามต้องการ
- ระวังอย่าทำแป้งโดว์สุก! เพราะเดี๋ยวพอแป้งเย็นตัวลง จะเป็นก้อนแน่นขึ้นเอง
วางก้อนแป้งโดว์บนกระดาษไข ถ้าร้อนไป จับไม่ไหว ก็ทิ้งไว้ให้เย็นตัวลงสัก 2 - 3 นาที ค่อยนวดแป้งโดว์ 1 - 2 นาที เท่านี้ก็เสร็จสิ้นขั้นตอนการผสม^{[13]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
8
ทิ้งแป้งโดว์ไว้จนเย็น ค่อยเก็บใส่ตู้เย็น. พอแป้งโดว์เย็นตัวลงแล้ว ก็เอาใส่กล่องทัพเพอร์แวร์พลาสติกที่มีฝาปิดสูญญากาศ แล้วเอาแช่ตู้เย็นได้เลย ปกติแป้งโดว์สูตรนี้จะเต็มกล่องขนาด 16 ออนซ์^{[14]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- จริงๆ ไม่ต้องเอาแป้งโดว์แช่ตู้เย็นก็ได้ แต่ถ้าแช่ ก็จะเก็บไว้ได้นานกว่า
โฆษณา

เคล็ดลับ

ไม่แนะนำให้ผสมกลิตเตอร์ในแป้งโดว์สูตรน้ำ Kool Aid เพราะกลิ่นจะน่ากินเกินไป เด็กหยิบเข้าปากจะเป็นอันตรายได้ เว้นแต่เป็นเด็กโตหน่อย หรืออยู่ในสายตาพ่อแม่ผู้ปกครอง ก็อาจจะผสมไปเล็กน้อย 1 - 2 หยิบมือได้
บางทีเก็บแป้งโดว์ในถุงซิปล็อคพลาสติกก็ยังไม่พอ แนะนำให้ใช้แรปพลาสติกใสห่อแป้งโดว์ แล้ว ใส่ในถุงซิปล็อคอีกที
ถ้าคุณหรือลูกแพ้กลูเต็น ให้ใช้แป้งข้าวเจ้าแทน แต่ก็แน่นอนว่าเนื้อสัมผัสของแป้งโดว์จะเปลี่ยนไป^{[15]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
ผสมผงโกโก้แล้วแป้งโดว์จะหอมช็อคโกแลตน่าดู แต่แป้งโดว์จะกลายเป็นสีน้ำตาลได้ จนเหมือนขนมปังช็อคโกแลตไปสักหน่อย โดยเฉพาะสำหรับเด็กเล็กๆ!^{[16]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
ถ้าหยดน้ำมันหอมระเหยไปด้วย 2 - 3 หยด แป้งโดว์ก็จะหอมน่าดู กลิ่นที่แนะนำคือเปปเปอร์มิ้นท์ หรือลาเวนเดอร์
ถ้าอยากให้แป้งโดว์หอมเป็นพิเศษ ลองเติมพวกหัวเชื้อหรือสารสกัดจากธรรมชาติลงไปดู เช่น สตรอว์เบอร์รี่ เลมอน หรือวานิลลา^{[17]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}

โฆษณา

คำเตือน

แป้งโดว์ใช้ไปนานๆ ก็หมดอายุหรือแข็งตัวได้ ถ้าเล่นๆ ไปแล้วแป้งโดว์เริ่มส่งกลิ่นหรือหน้าตาแปลกไป ให้ทิ้งแล้วผสมใหม่
ห้ามผสมกลิตเตอร์ในแป้งโดว์ที่จะให้เด็กเล็กๆ เล่น เพราะอาจหยิบเข้าปาก เป็นอันตรายได้

โฆษณา