วิธีการ ทำภาพปะติด

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

ออกแบบภาพปะติด

ทำภาพปะติดแบบดิจิตอล

ทำภาพปะติดด้วยวัสดุธรรมชาติ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

ภาพปะติด (collage) เป็นงานศิลปะรูปแบบหนึ่ง เทคนิคคือนำวัสดุต่างๆ เช่น กระดาษ หนังสือพิมพ์ รูปถ่าย เศษผ้า และอื่นๆ มาปะติดลงบนพื้นหลังให้เป็นภาพตามต้องการ เดี๋ยวนี้ยิ่งสะดวก เพราะหลายคนนิยมทำภาพปะติดในคอมกัน copy รูปมาแปะใส่พื้นหลังในโปรแกรมได้เลย แบบเดียวกับเวลาตัดตัวอักษรและรูปต่างๆ ที่ต้องการมาเป็นชิ้นๆ แล้วเอามาทากาว ติดตกแต่งในกระดาษ ถ้าใครมาแนวรักษ์โลก อยากได้ภาพปะติดสวยๆ จากธรรมชาติ ก็ลองใช้ของที่มีรอบๆ ตัว อย่างทราย เปลือกหอย ใบไม้ ดอกไม้ต่างๆ แทน จริงๆ แล้วคุณทำภาพปะติดจากอะไรก็ได้ แล้วแต่จินตนาการเลย เผลอๆ อาจจะเจอวิธีการใหม่ๆ ในการสร้างสรรค์ผลงานก็ได้

ขั้นตอน

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 3:

ออกแบบภาพปะติด

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   หาธีมหรือดีไซน์หลักของภาพปะติดที่จะทำ. คุณจะทำภาพปะติดเป็นรูปอะไรก็ได้ทั้งนั้น แค่กระดาษอย่างเดียวก็มีให้เลือกสารพัด เรียกว่าไม่มีอะไรมาขวางกั้นจินตนาการโลดแล่นของคุณแน่นอน เช่น อยากรวมรูปไอดอลคนโปรด หรือตัดคำจากแมกกาซีนมาปะติดเป็นข้อความ ไปจนถึงเรียงรูปสมัยเด็กตามวันเวลา ให้ได้ประวัติครอบครัวขึ้นมา ก็ได้เหมือนกัน

   • การทำภาพปะติดแทบไม่มีข้อจำกัดเรื่องใดๆ เลย เช่น อยากได้รูปใหญ่ๆ ก็ประกอบจากกระดาษชิ้นเล็กๆ ที่ตัดไว้ มาเรียงต่อกัน
   • หรือหารูปที่ประทับใจเป็นดีไซน์หลัก แล้วออกแบบภาพปะติดให้เกี่ยวข้องแทน
2. 
   2
   รวมรวบรูปถ่าย รูปภาพ ไว้ใช้ทำภาพปะติด. คุณหารูปมาทำภาพปะติดได้จากแหล่งต่างๆ ในราคาย่อมเยา เช่น ตามหน้าแมกกาซีนและหนังสือพิมพ์เก่า กระทั่งหนังสือภาพเวลาเจออะไรที่เป็นแรงบันดาลใจ ตัดแล้วเก็บรวมไว้ในกล่องรองเท้าก็ได้ จนกว่าจะได้หยิบออกมาใช้

   • ตัดรูปตามแมกกาซีนและหนังสือพิมพ์ ถ้าเป็นหนังสือพิมพ์ ก็จะทำให้ภาพปะติดมีลวดลายผิวสัมผัสต่างออกไป แต่ข้อเสียคือหยิบจับแล้วมือดำน่าดู
   • ใช้รูปถ่ายเก่า ให้ได้อารมณ์ย้อนยุค แต่ระวังเวลาเลือกรูป แนะนำให้อัดรูปเพิ่ม หรือสแกนแล้วพริ้นท์รูปแทน จะได้รักษาต้นฉบับไว้
   • ถ้าไม่อยากให้ซ้ำใคร ให้หาวอลล์เปเปอร์เก่ามา ปกติจะมี swatch หรือตัวอย่างผ้าแจกฟรี ตามร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้าง หรือตามร้านขายวอลล์เปเปอร์
3. 
   3
   เลือกใช้กระดาษที่แข็งแรงหน่อยเป็นพื้นหลัง. เลือกกระดาษหนาๆ ทำพื้นหลังของภาพปะติด เพราะยิ่งกระดาษหนา ทากาวติดอะไรลงไปเยอะๆ แล้วจะไม่ยุ่ยเปื่อยขาด พยายามเลือกพื้นหลังสีขาวเข้าไว้ สีจะได้ไม่ตัดกันกับรูปภาพที่จะปะติด

   • วัสดุใช้ทำพื้นหลังที่แนะนำให้ใช้ก็เช่น กระดาษลัง กระดาษการ์ด กระดาษงานประดิษฐ์ และผ้าใบ จริงๆ แล้วกระดาษอะไรก็ได้ที่หนาๆ เรียบๆ จะได้ทนกาว กระทั่งกรอบรูปก็ยังใช้ได้
   • อย่าใช้กระดาษมันๆ อย่างกระดาษสำหรับสีน้ำ เพราะเป็นวัสดุที่ราคาแพงเกินไป แถมแฉะกาวง่ายมาก
4. 
   4
   ตัดรูปให้พอดีกับภาพปะติด. ลักษณะการตัดรูป จะมีผลต่อหน้าตาภาพปะติดของคุณ แนะนำให้ตัดรูปตามรูปทรงแบบไม่ต้องเว้นขอบ แต่ถ้ารูปไหนมีขอบในตัวเอง ก็เก็บไว้ให้มีลูกเล่นก็ได้ หรือจะตัดแบบอื่น ไม่ให้เหมือนใคร ก็ช่วยให้ชิ้นส่วนนั้นเด่นออกมาได้เหมือนกัน

   • เช่น เจาะรูในรูป ให้เห็นกระดาษหรือรูปอื่นข้างใต้ ก็แปลกดี
5. 
   5
   จัดวางชิ้นส่วนต่างๆ บนกระดาษพื้นหลังก่อน โดยไม่ต้องติดกาว. ให้วางรูปหลักตรงกลางกระดาษ แล้วจัดวางชิ้นส่วนอื่นๆ ประกอบเข้าไป ค่อยๆ ต่อเติมออกมาจากชิ้นหลัก ให้ได้ธีมตามต้องการ เราต้องวางแผนให้เห็นภาพปะติดที่เสร็จสมบูรณ์จริงๆ ก่อน เพราะถ้าติดกาวไปแล้ว จะเปลี่ยนตำแหน่งของชิ้นส่วนต่างๆ ไปมาไม่ได้นะจะบอกให้!

   • ออกแบบและจัดวางชิ้นส่วนต่างๆ ให้ได้ภาพปะติดในฝันซะก่อน ค่อยลงมือติดกาวอะไรลงไป นี่แหละช่วงเวลาให้ได้รวบรวมวัสดุใหม่ๆ เพิ่มเติม เผื่อเปลี่ยนใจ
6. 
   6
   ติดของประดับตกแต่งต่างๆ เช่น ริบบิ้น เพื่อให้ภาพปะติดมีสีสันยิ่งขึ้น. จริงๆ แล้วไม่บังคับว่าต้องมีของประดับตกแต่งด้วย แต่อย่างที่บอกว่าคุณเพิ่มเติมวัสดุต่างๆ เข้าไปในภาพปะติดได้ตามแต่จะจินตนาการ ทั้งขนนก ริบบิ้น และเศษผ้า นี่แค่น้ำจิ้ม! ลองจัดวางของตกแต่งรอบๆ รูปหลัก เลือกที่เข้าธีมที่วางไว้ หรือแค่ตกแต่งเพิ่มเติมเล็กน้อยก็ได้

   • หาของต่างๆ รอบบ้าน หรือแวะไปร้านเครื่องเขียนและอุปกรณ์งานประดิษฐ์ก็ได้ รับรองเดี๋ยวก็เจอและเลือกวัสดุที่น่าสนใจ เหมาะกับภาพปะติดของคุณได้เยอะแยะ!
   • อาจจะวาดรูปสัตว์ในกระดาษเป็นโครงร่าง แล้วเติมไส้ด้วยกระดาษหรือสแตมป์ก็ได้ อีกตัวเลือกคือตัดกระดาษเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วเอามาติดเป็นภาพแบบกระเบื้องโมเสคซะเลย
7. 
   7
   ติดวัสดุกับกระดาษพื้นหลังด้วยกาวขาว. เริ่มทากาวจากพื้นหลัง แล้วติดไปทีละชั้น ให้ทากาวขาว กาวลาเท็กซ์ แป้งเปียก หรือกาวแท่งก็แล้วแต่ ที่ด้านหลังของแต่ละชิ้นส่วน แล้วกดลงบนกระดาษพื้นหลัง กาวแบบนี้จะไม่ซึมขึ้นมาบนชิ้นงาน ถ้าใช้แค่เล็กน้อย แต่ถ้าจะติดของประดับตกแต่งชิ้นใหญ่ๆ แนะนำให้เปลี่ยนไปใช้กาวขาวอเนกประสงค์ (craft glue) โดยเฉพาะจะดีกว่า

   • แนะนำให้ใช้ craft glue โดยเฉพาะ ถ้าจะติดของประดับตกแต่งหนักๆ อย่างลูกปัดและกระดุม ปกติกาวที่ใช้ทำงานฝีมือโดยเฉพาะ หรือกาวปะยางใน (rubber cement) จะมีขายตามร้านอุปกรณ์งานฝีมือ
   • บางชิ้นส่วนก็ไม่จำเป็นต้องติดกาวให้เรียบไปกับพื้นหลัง อาจจะลองพับหรือขยำให้นูนขึ้นมา เพิ่มความน่าสนใจ ให้ภาพปะติดของคุณดูมีมิติยิ่งขึ้น
8. 
   8
   ปล่อยภาพปะติดไว้ข้ามคืน ให้กาวแห้งสนิท. แน่นอนว่าภาพปะติดประกอบไปด้วยกระดาษติดกาวซ้อนกันหลายชั้น เลยต้องทิ้งไว้นานหน่อยกว่าจะแห้ง ให้ผึ่งไว้ข้ามคืน วันรุ่งขึ้นค่อยกลับมาเช็คงาน ถ้ากระดาษแห้งและของประดับตกแต่งต่างๆ ติดแน่นดี แสดงว่าภาพปะติดของคุณเสร็จพร้อมโชว์แล้ว

   • ถ้าเป็นภาพปะติดขนาดเล็ก แค่ชั่วโมงเดียวก็น่าจะแห้งดีแล้ว แต่ถ้าเช็คแล้วกาวยังดูแฉะๆ ให้ผึ่งต่อจนแห้งสนิท
   • ถ้าเป็นภาพปะติดขนาดใหญ่ อาจจะต้องเปิดพัดลมเบอร์ต่ำๆ จ่อไว้ด้วย ลมจะช่วยพัดให้กาวแห้งเร็วขึ้นอีกเยอะ
   โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 3:

ทำภาพปะติดแบบดิจิตอล

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   กำหนดธีมหลักของภาพปะติด. ภาพปะติดนอกจากสนุกตอนทำ แล้วยังเก็บเป็นความทรงจำได้อีกด้วย อาจจะเลือกธีมเกี่ยวกับครอบครัว สัตว์เลี้ยง การท่องเที่ยว หรืออะไรที่ประทับใจ ส่วนใหญ่ภาพปะติดมักเป็นการรวบรวมภาพความทรงจำส่วนตัว แต่อันนี้แล้วแต่สไตล์ของคุณเลย จะทำอะไรเจ๋งๆ จากรูปภาพต่างๆ ที่สุ่มเจอในเน็ตก็ได้

   • เช่น ทำภาพปะติดรวมรูปน้องหมา ใครๆ ก็ชอบรูปน้องหมาน้องแมวน่ารัก ที่ต้องทำคือรวบรวมชิ้นส่วนที่ต้องการ แล้วจับมา paste ประกอบในรูปเดียว
2. 
   2
   เลือกโปรแกรมตัดต่อรูปที่ใช้ง่าย เช่น word processor. คุณรวบรวมและตัดต่อรูปได้ด้วยโปรแกรม photo editor ต่างๆ แต่จะดีกว่าถ้าใช้โปรแกรมพื้นฐานอย่าง Word ถ้าจะทำภาพปะติดในคอม หรือจะอัพโหลดรูปเข้าเว็บอย่าง Canva หรือ Shutterfly ก็ได้ นอกจากนี้ก็มีหลายแอพให้โหลดลงมือถือ แล้วใช้ทำภาพปะติดได้แบบรวดเร็วทันใจ

   • หรือทำภาพปะติดด้วยโปรแกรม photo editor อย่าง Photoshop ถ้ามีและรู้วิธีใช้
3. 
   3
   รวบรวมรูปถ่ายและรูปภาพที่จะใช้ในภาพปะติด. ค้นรูปเจ๋งๆ ที่จะใช้ในภาพปะติดจากในเน็ต หรือสแกนรูปถ่ายเก่าๆ swatch ตัวอย่างผ้า รูปในแมกกาซีน หรือวัสดุอื่นๆ ที่ปกติใช้ทำภาพปะติดในกระดาษ พอรวบรวมรูปต่างๆ ได้ส่วนหนึ่งแล้ว ก็ใช้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ชิ้นงานได้เลย

   • เข้าโซเชียลมีเดียที่ชอบ ดูโพสต์ต่างๆ ที่สามารถเซฟไว้ทำภาพปะติดได้ หรือค้นหารูปตามธีมที่ต้องการ เช่น คัพเค้ก วิดีโอเกม รถ และอื่นๆ ที่สนใจ
   • เวลาจะเซฟรูปจากในเน็ต ให้คลิกขวาที่รูป แล้วเลือก “save as”
4. 
   4
   เลือกมา 5 - 7 รูป ให้ได้ตามธีมที่วางไว้. แต่ถ้ายังไม่มีธีมในใจ ก็ให้นึกถึงภาพโดยรวม ว่าภาพปะติดของคุณจะสื่ออะไร หน้าตาแบบไหน ถ้ามีไอเดียชัดเจน มีรูปที่อยากใช้ หรือลายที่สนใจ ก็เอาเป็นหลัก แล้วตกแต่งเพิ่มเติมจากตรงนั้น ให้ได้ภาพปะติดสื่อความหมาย ลองหารูปที่สี รูปทรง หรือลายคล้ายๆ กัน ภาพปะติดจะได้ออกมามีเอกภาพ

   • จริงๆ แล้วจะใช้มากกว่า 5 - 7 ชิ้นส่วนก็ได้ แต่ระวังว่าถ้ามากไป ภาพปะติดจะดูแออัด ไม่มีจุดเด่น ส่วนถ้าน้อยกว่านั้น ก็โหรงเหรงไป
   • เช่น อาจจะเลือกรูปมาสักเซ็ต จากการไปเที่ยวครั้งที่ผ่านมา เลือกรูปที่เห็นแล้วนึกถึงการเดินทางครั้งนั้นชัดเจน ว่าคุณไปพบเจออะไร มีใครบ้าง
5. 
   5
   ดัดแปลงรูปภาพด้วย shaping และ coloring tools. หารูปที่เซฟไว้ในคอม คลิกขวาที่รูป หรือลากรูปมาใส่โปรแกรมตัดต่อเพื่อเปิดรูปขึ้นมา ส่วนใหญ่จะต้องมาปรับแต่งกันก่อน เพื่อให้เรียงต่อกันได้ดี เปิดรูปแล้วจะมีตัวเลือกใช้ปรับขนาดและเปลี่ยนสีรูป ก็ทำไปจนได้หน้าตาตามที่ต้องการ

   • อาจจะใช้ resizing และ crop tools เพื่อลดขนาดรูป หรือตัดบางส่วนของรูปออก ให้ได้สัดส่วนเท่าที่ต้องการ
   • เปลี่ยนสีรูป ก็ทำให้ภาพปะติดออกมาแปลกดี เช่น ทำให้รูปถ่ายดูเก่าและซีดจางขึ้น ตัดกันกับรูปหรือข้อความตกแต่งที่สีสันสดใส
6. 
   6
   เปลี่ยน resolution ของรูปทั้งหมดให้สัมพันธ์กัน. ภาพปะติดจะไม่ดูเป็นเอกภาพ ถ้าแต่ละชิ้นส่วนมี resolution หรือความคมชัดต่างกัน คุณปรับ resolution ได้โดยคลิกตัวเลือก file ใน taskbar ของโปรแกรม ถ้าใช้ Word ตัวเลือก resolution จะอยู่ใน “Advanced” และ “Image Size and Quality” เลือกแล้วก็เปลี่ยน resolution รูปตามที่เลือกได้เลย

   • ถ้า resolution ต่ำหน่อย รูปก็จะออกมาค่อนข้างเบลอ อันนี้ก็ให้คำนึงถึงขนาดของรูป และว่าจะจัดวางชิ้นส่วนนี้ตรงไหน
   • ถ้าจะโพสต์ภาพปะติดในเน็ตหลังทำเสร็จ ให้ตั้ง resolution ที่ 72 พิกเซลต่อนิ้ว (ppi) แต่ถ้าจะพริ้นท์ออกมา ให้ตั้ง resolution ที่ 300 ppi
7. 
   7
   ใส่ข้อความและฟีเจอร์อื่นๆ ด้วย ถ้าอยากให้ภาพปะติดของคุณแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร. ขั้นตอนนี้ไม่บังคับ แต่ถ้าพอมีที่เหลือให้ได้ตกแต่งเพิ่มเติม ก็ลองเล่นดูใน editor ให้คลิกปุ่ม “Insert” ใน Word ถ้าจะใส่ช่องพิมพ์ข้อความ ใส่กรอบให้รูป ใส่สีพื้นหลัง หรือปรับแต่งองค์ประกอบอื่นๆ แต่จะเพิ่มอะไรเข้าไปต้องให้เข้ากับธีมหลักของรูป จะได้ออกมาโดดเด่น

   • เช่น ใส่ชื่อผลงานในภาพปะติด จริงๆ ภาพเดียวก็แทนคำพูดเป็นหมื่นล้าน แต่จะสะดุดตากว่าถ้ามีชื่อผลงานด้วย โดยเฉพาะภาพปะติดรวมเรื่องจากทริปท่องเที่ยวของคุณ คนชมผลงานจะได้รู้ว่าเป็นสถานที่ไหน และไปมาเมื่อไหร่ เป็นต้น
8. 
   8
   เซฟภาพปะติด แล้วโพสต์ในเน็ต หรือพริ้นท์ออกมา. คลิกปุ่มเซฟบ่อยๆ เผื่อมีเหตุไม่คาดคิด ผลงานจะได้ไม่หายไปให้เสียใจและเสียเวลา! พอตัดต่อตัดแต่งรูปเสร็จ ก็เอาภาพปะติดนี้ไปโชว์ตามที่ต่างๆ ตามสะดวก เช่น เข้าเว็บ เข้าโซเชียลมีเดีย แล้วโพสต์ผลงานอวดเพื่อนๆ หรือพริ้นท์ใส่กระดาษโดยคลิก print ในโปรแกรมที่ใช้ ส่วนจะเอาไปติดตกแต่งบ้านหรือที่ไหนก็แล้วแต่เลย

   • กระดาษที่ใช้พริ้นท์ ก็มีผลต่อชิ้นงานที่ได้ ถ้าเลือกใช้กระดาษมันวาว ก็จะออกมาเป็นภาพปะติดเหมือนเคลือบมัน ถ้าใช้กระดาษด้าน ก็จะสีออกมาตุ่นกว่า ไม่สดใสแวววาวเท่า
   โฆษณา

วิธีการ 3

วิธีการ 3 ของ 3:

ทำภาพปะติดด้วยวัสดุธรรมชาติ

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   เลือกธีมที่เกี่ยวกับธรรมชาติ. เดี๋ยวเราจะใช้วัสดุธรรมชาติ อย่างใบไม้ดอกไม้ต่างๆ มาทำภาพปะติด เพราะงั้นถ้าเลือกธีมธรรมชาติหน่อย จะเข้ากับวัสดุกว่า อาจจะออกแบบเป็นวิวทะเล วิวภูเขา โดยตกแต่งด้วยวัสดุต่างๆ ที่รวบรวมได้ ตั้งแต่ทราบไปจนถึงใบไม้ วิธีนี้จะรวบรวมและใช้งานชิ้นส่วนต่างๆ ในภาพปะติดได้ง่าย โดยที่ไม่ปิดกั้นจินตนาการ

   • หรือจะไม่คิดธีมไว้ล่วงหน้าเลยก็ได้ แล้วหาชิ้นส่วนเจ๋งๆ มาจัดวางกันในหน้าเดียว เพียงแต่ถ้ามีธีมชัดเจน จะทำให้ภาพปะติดดูสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
2. 
   2
   ใช้กระดาษการ์ด หรือกระดาษแข็งอื่นๆ เป็นพื้นหลัง. กระดาษพื้นหลัง หรือกระดาษที่เป็นฐานของภาพปะติด ต้องแข็งแรงพอจะติดทรายเข้าไปได้แล้วไม่ขาดไม่ยุ่ย ให้เลือกกระดาษที่หนา ทนทานหน่อย มาจากร้านขายเครื่องเขียนและอุปกรณ์งานฝีมือ แนะนำกระดาษการ์ดและกระดาษงานประดิษฐ์ จะเหมาะกับลักษณะงานที่สุด

   • ถ้าเป็นกระดาษพริ้นท์ตามปกติไม่แนะนำ โดยเฉพาะถ้าต้องติดกาววัสดุหนักๆ ไว้ ถ้ารู้สึกว่ากระดาษบางเกินไป ก็จะย้วยและยุ่ยง่าย ไม่เหมาะใช้ทำภาพปะติด
3. 
   3
   ใช้ดินสอร่างแบบในกระดาษ. ให้ร่างฉากที่อยากสร้างสรรค์เป็นภาพปะติด หลักๆ ให้วาดกรอบหรือโครงที่จะเติมเต็มด้วยวัสดุที่เตรียมไว้ จัดวางให้เข้าที่ พอใจแล้วค่อยติดกาว

   • เช่น ถ้าอยากได้ภาพวิวทะเล ให้ร่างหาดทรายไว้ด้านล่างของกระดาษ แล้ววาดโครงร่างส่วนที่จะเป็นปลา หรือลงรายละเอียดพวกเปลือกหอย
   • ถ้าเป็นงานประดิษฐ์ของเด็กๆ แนะนำให้ร่างแบบง่ายหน่อย ถ้ายังไม่มีแบบในใจ ก็ปล่อยเด็กวาดไปตามต้องการ
4. 
   4
   หาเปลือกหอยและวัสดุอื่นๆ มาแปะติด. ใช้ทรายแล้วจะได้ภาพสวยดี แต่แค่นั้นไม่พอ ให้ทำภาพปะติดจากวัสดุต่างๆ หลากหลาย อย่างเปลือกหอยและใบไม้ดอกไม้ต่างๆ ก็น่าสนใจ เพราะทำให้ชิ้นงานสวยสะดุดตา ให้เลือกวัสดุให้ตรงธีมของภาพปะติด จะช่วยให้สมบูรณ์น่ามองกว่าเดิม

   • ตัวอย่างวัสดุที่น่าสนใจก็เช่น เปลือกหอย คราบแมลง ดอกไม้ ใบไม้ และเมล็ดพืชต่างๆ
   • วัสดุพวกนี้ ปกติก็มีขายตามร้านอุปกรณ์งานฝีมือเช่นกัน อย่างเปลือกหอย หินสี และทราย แต่จะเดินเล่นหาเก็บเองรอบบ้านและละแวกใกล้เคียงก็ได้ อาจจะเจอวัสดุที่สวยแปลกตา ทำให้ชิ้นงานไม่ซ้ำใคร
5. 
   5
   อบแห้งหรือใช้ทิชชู่เช็ดวัสดุให้แห้งก่อนใช้งาน. ถ้าวัสดุนั้นไม่แห้งสนิท เอาไปทำภาพปะติดอาจจะขึ้นราหรือเน่าได้ ชิ้นงานจะอยู่นานกว่า ถ้าล้างและเช็ดทำความสะอาดด้วยทิชชู่จนแห้งสนิทซะก่อน ถ้าเป็นพวกดอกไม้ ให้ตากหรืออบแห้งซะก่อน จะได้ไม่เหี่ยว วิธีก็เช่น วางใบไม้ดอกไม้บนทิชชู่ แล้วอบในไมโครเวฟ 1 - 5 นาที อีกวิธีคือเอาใส่ตะแกรง อบในเตาอบด้วยอุณหภูมิ 65°C (150°F) แล้วทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง

   • การทับไว้ก็ช่วยถนอมพวกใบไม้ดอกไม้ให้อยู่นานๆ ได้เช่นกัน หาอะไรหนักๆ เช่น หนังสือ มาคั่นด้วยกระดาษ แล้วทับใบไม้หรือดอกไม้ไว้สัก 7 วัน
   • พวกเปลือกหอยหรือหิน แทบไม่ต้องทำอะไรนอกจากอบแห้ง เพราะไม่เน่าเสีย แต่จะล้างทำความสะอาดเปลือกหอยซะก่อน โดยต้มในน้ำประมาณ 5 นาทีก็ได้ แล้วค่อยแช่ในน้ำสะอาดเย็นๆ อีก 1 อาทิตย์
6. 
   6
   ใช้แปรงทากาวอเนกประสงค์หรือกาว PVC ทับบริเวณที่ร่างแบบไว้. ใช้แปรงสะอาดๆ และกาวสำหรับประดิษฐ์ชิ้นงานที่มี ถ้าเป็นวัสดุหลุดร่วงง่ายอย่างทราย ให้ทากาวเป็นชั้นเสมอกัน หรือทากาวที่วัสดุชิ้นใหญ่โดยตรง เช่น เปลือกหอย และใบไม้ดอกไม้ต่างๆ

   • ถ้าอยากทำชิ้นงานขนาดใหญ่และสลับซับซ้อนหน่อย ให้แบ่งทำไปทีละส่วนเล็กๆ เพื่อป้องกันไม่ให้กาวแห้งก่อนจะทันติดวัสดุ
   • กาวแท่งและกาวทั่วไป ไม่เหนียวพอจะยึดวัสดุธรรมชาติต่างๆ ได้ โดยเฉพาะพวกชิ้นใหญ่
7. 
   7
   โปรยทรายลงในกระดาษ ถ้าใช้. เปิดถุงทรายงานประดิษฐ์ แล้วค่อยโปรยทรายลงในกระดาษ เพื่อสร้างสรรค์ภาพปะติดตามต้องการ จะใช้มือหรือใช้ถ้วยกระดาษเล็กๆ โรยทรายลงไปก็ได้ ทรายจะติดทุกที่ที่ทากาวไว้ เสร็จแล้วให้เอียงหรือคว่ำกระดาษ เพื่อกำจัดทรายส่วนเกิน

   • ขั้นตอนนี้จะเลอะเทอะนิดนึง เพราะงั้นให้ใช้จานกระดาษรองไว้เวลาพลิกชิ้นงาน ทรายจะได้ไม่กระจาย พยายามใส่ทรายในชิ้นงานทีละน้อย จะได้ไม่เหลือทรายส่วนเกินเยอะๆ
8. 
   8
   ทยอยติดวัสดุจนชิ้นงานเสร็จสิ้น. วิธีติดวัสดุชิ้นใหญ่อย่างเปลือกหอยในชิ้นงานให้ได้ง่ายที่สุด คือใช้ปืนกาวร้อน ให้ติดกาวเป็นจุดๆ ที่วัสดุ แล้วรีบประกบติดกระดาษก่อนจะทันแห้ง จะใช้กาวอเนกประสงค์หรือกาว PVC แบบเดียวกับที่ทาพื้นหลังของชิ้นงานก็ได้ พยายามกดวัสดุไว้กับกระดาษ 1 นาทีขึ้นไป เพื่อให้ติดแน่นทนนาน

   • กาวติดไม้ก็เหมาะจะใช้ติดพวกใบไม้ดอกไม้หรือกิ่งไม้ โดยทาทับวัสดุ เพื่อให้เหมือนการ “เคลือบเงา” แบบนี้วัสดุจะสดและเงางามไปได้อีกหลายปี
9. 
   9
   ทิ้งไว้ข้ามคืนจนกาวแห้ง ค่อยจับชิ้นงาน. พักชิ้นงานไว้ในบนหน้าเคาน์เตอร์โล่งๆ รอจนชิ้นงานแห้งสนิทดี ค่อยสัมผัสแตะต้องหรือเคลื่อนย้าย เสร็จแล้วจะเอาภาพปะติดนี้ไปตั้งโชว์ ใส่กรอบ หรือถ่ายรูปไปอวดใครๆ ก็ตามสะดวก!
   โฆษณา

เคล็ดลับ

• ถ้าวัสดุที่ใช้ทำภาพปะติด ทากาวแล้วก็ยังติดไม่อยู่ ให้ใช้แปรงทากาวเจือจางอีกที ส่วนผสมคือน้ำประมาณ 3 ส่วน กับกาว PVA 1 ส่วน ใช้ทาทับชิ้นงานที่ปะติดเสร็จแล้ว เพื่อซีลป้องกันอีกที
• อยากทำภาพปะติดแบบไหนก็ตามใจชอบ ไม่มีกฎเกณฑ์ข้อบังคับอะไรทั้งนั้น เรียกว่าทดลองใช้เทคนิคและวัสดุต่างๆ ตามสบาย
• เลือกกาวตามชนิดกระดาษที่ใช้เป็นพื้นหลัง แต่กาวตราช้าง กาวน้ำใส กาวร้อน ปกติไม่เหมาะจะใช้ทำภาพปะติดบนกระดาษ

โฆษณา

คำเตือน

• เวลาใช้กรรไกรหรือกาวต้องระวัง ถ้าเป็นเด็กเล็กๆ ต้องมีผู้ใหญ่ดูแล เวลาใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่อาจเป็นอันตราย

โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

ทำภาพปะติดแบบดิจิตอล

• คอมพิวเตอร์
• โปรแกรมตัดต่อรูป (photo editor)
• รูปภาพ
• สแกนเนอร์สำหรับสแกนรูป (ถ้ามี)

ออกแบบภาพปะติด

• กาวขาวอเนกประสงค์ หรือแป้งเปียก
• กรรไกร หรือคัตเตอร์
• กระดาษการ์ด หรือกระดาษแข็ง สำหรับทำพื้นหลัง
• รูปหรือตัวอักษรที่ตัดออกมา

ทำภาพปะติดด้วยวัสดุธรรมชาติ

• กระดาษการ์ด หรือกระดาษแข็งอื่นๆ
• กาวขาวอเนกประสงค์ (craft glue) หรือกาวติดไม้ (wood glue)
• แปรงทากาว
• ทิชชู่
• น้ำ
• เปลือกหอย ดอกไม้ กิ่งไม้ และวัสดุธรรมชาติอื่นๆ
• ทรายงานประดิษฐ์ (ถ้ามี)
• จานกระดาษ (ถ้ามี)