ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความบทความนี้ ร่วมเขียน โดย Jennifer Levasseur. เจนนิเฟอร์ เลอวาสเซอร์เป็นเชฟส่วนตัวและเจ้าของ The Happy Cuisiniere ในเบรกเคนริจด์ รัฐโคโลราโด เธอมีประสบการณ์ด้านการประกอบอาหารมากกว่า 12 ปี เชฟเจนนิเฟอร์เชี่ยวชาญอาหารรอกกีเมาเทนและอาหารธรรมดาร่วมสมัย ยิ่งไปกว่านั้นเธอสามารถทำอาหารและดัดแปลงเมนูให้เหมาะสมกับข้อจำกัดด้านอาหาร เช่น ปลอดกลูเทน มังสวิรัติ วีแกน มังสวิรัติปลา และอาหารที่ไม่มีส่วนผสมของผลิตภัณฑ์จากนม เป็นต้น นอกจากจบปริญญาตรีด้านการตลาดและการจัดการจากมหาวิทยาลัยฮิวสตันแล้ว เชฟเจนนิเฟอร์ยังจบระดับอนุปริญญา สาขาศิลปะการประกอบอาหาร ศิลปะการทำเบเกอรีและขนมอบที่วิทยาลัยชุมชนฮิวสตัน
บทความนี้ถูกเข้าชม 12,971 ครั้ง
ข้าวหมกบิรยานี (Biryani) เป็นข้าวผสมจากอินเดีย ทำจากเครื่องเทศต่างๆ ข้าว ผัก หรือเนื้อสัตว์ ข้าวที่มีรสชาติแสนอร่อยจานนี้ทำง่าย และเหมาะสำหรับมื้ออาหารมังสวิรัติหรือไม่ใช่มังสวิรัติก็ได้
- เวลาเตรียม: 60-150 นาที
- เวลาในการปรุงสุก: 30 นาที
- เวลาทั้งหมด: 90-180 นาที
ส่วนประกอบ
ข้าวหมกบิรยานีมังสวิรัติ
- ข้าวบาสมาติ (Basmati Rice) 4 ถ้วย
- ขิงและกระเทียมบดละเอียด 3 ช้อนโต๊ะ
- พริกเขียว 5 เม็ด (หรือน้อยกว่านั้นขึ้นอยู่กับความชอบ)
- หัวหอมสับละเอียด 1 ลูก
- มะเขือเทศสับละเอียด 2 ลูก
- อบเชย กานพลู และกระวาน อย่างละ 2 ช้อนชา
- เม็ดมะม่วงหิมพานต์
- น้ำมันหรือกี (Ghee) 4 ช้อนโต๊ะ
- แครอท ถั่วลันเตา และถั่วหั่นละเอียด 2 ถ้วย
- ผงการัมมาซาล่า (Garam Masala) 2 ช้อนชา
- พริกป่น 3 ช้อนชา (หรือน้อยกว่า ขึ้นอยู่กับความชอบ)
- ใบสะระแหน่และใบผักชี (1 กำมือ)
- น้ำมะนาว ½ ลูก
ขั้นตอน
ซาวข้าวบาสมาติก. ก่อนจะเริ่มทำคุณต้องซาวข้าวก่อน เทน้ำเย็นหนึ่งชามขนาดใหญ่ลงในข้าว ใช้มือคนข้าวในทิศทางเดียว น้ำจะขุ่นมาก ดังนั้นให้เทน้ำขุ่นๆ ออก เติมน้ำใส่ชามอีกครั้ง ซาวข้าวต่อไปจนกว่าน้ำจะใส- การซาวข้าวจะกำจัดแป้งที่ผิวและเศษสิ่งสกปรกออกไป
แช่ข้าว. หลังจากซาวข้าวแล้วให้แช่ข้าวไว้ ใส่ข้าวในชามน้ำเย็นแล้วแช่ทิ้งไว้ 30 นาทีถึง 2 ชั่วโมง[1] การแช่ข้าวช่วยให้เมล็ดข้าวขยายตัวและขึ้นหม้อ- คุณสามารถแช่ข้าวในน้ำที่คุณวางแผนจะต้มก็ได้ ถ้าคุณทำอย่างนี้ ปริมาณน้ำที่คุณต้องใช้คือ 1.25 เท่าของปริมาณข้าว สำหรับข้าว 2 ถ้วยให้ใช้น้ำ 2 1/2 ถ้วย
หั่นผัก. ถ้าคุณจะใส่ผักต่างๆ เช่น แครอท ถั่ว มะเขือเทศ กะหล่ำดอกหรือถั่วลันเตา ให้หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ให้แน่ใจว่าคุณล้างผักและพักไว้พร้อมที่จะใส่ในข้าวโฆษณา
ตั้งน้ำมันในกระทะบนไฟร้อนปานกลาง. ใส่กานพลู กระวาน และอบเชยลงในกระทะ ผัดสักสองสามวินาทีแล้วใส่หัวหอม ผัดจนหัวหอมใส[2]- หลังจากหัวหอมใสแล้วให้ใส่มะเขือเทศและเม็ดมะม่วงหิมพานต์ลงไป
- ใส่ใบสะระแหน่ ใบผักชี และพริกเขียวลงในกระทะ. ผัดประมาณหนึ่งนาที จากนั้นใส่ขิงและกระเทียมบดละเอียด คนให้เข้ากันในกระทะ แล้วผัดด้วยความร้อนสูงอีกสองสามนาที
- ใส่ผงการัมมาซาล่า พริกป่น แครอท ถั่วลันเตาและถั่ว. ผัดอีกสักสองสามนาที คนบ่อยๆ
- ใส่น้ำลงไป 8 ถ้วย. หลังจากเติมน้ำ ให้เติมเกลือเพื่อเพิ่มรสชาติ คนทุกอย่างเข้ากัน จากนั้นปล่อยให้เดือด
- ใส่ข้าวลงไป. เทข้าวลงในน้ำเดือด เติมน้ำมะนาว ปิดฝาหม้อให้แน่น ปล่อยให้ข้าวสุก
- ข้าวจะได้ที่เมื่อมันไม่นุ่มและไม่แข็งเกินไป ไม่ใช่เละ[3]
- เมื่อคุณตรวจดูข้าว อย่าคน เพราะจะทำให้เมล็ดข้าวหัก
- เติมน้ำลงในหม้อเพิ่มถ้าคุณคิดว่าระดับน้ำต่ำเกินไป ทำให้ข้าวคืนสภาพและปล่อยให้หุงต่อไป
เสิร์ฟ. เมื่อข้าวสุกแล้ว ให้เสิร์ฟข้าวหมกร้อนๆ ได้เลย ลองเสิร์ฟข้าวหมกกับแกงหรืออาหารอินเดียจานหลักแสนอร่อยอื่นๆโฆษณา
เคล็ดลับ
- สำหรับรสชาติที่แตกต่างเล็กน้อย คุณอาจจะลองเสิร์ฟข้าวหมกบิรยานีกับข้าวหุงด้วยยี่หร่าซึ่งเป็นข้าวบาสมาติกแบบดั้งเดิมของอินเดียที่ปรุงด้วยเมล็ดยี่หร่า
ข้อมูลอ้างอิง
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.
