บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Ollie George Cigliano. ออลี จอร์จ ซิกลิอาโนเป็นเชฟส่วนตัว ครูสอนการทำอาหาร และเจ้าของ Ollie George Cooks ซึ่งตั้งอยู่ที่ลองบีช รัฐแคลิฟอร์เนีย เธอเชี่ยวชาญการใช้ส่วนผสมที่สดใหม่ให้เกิดประโยชน์และความสนุก รวมทั้งการนำเทคนิคการทำอาหารแบบดั้งเดิมมาผสมผสานกับเทคนิคการทำอาหารแบบใหม่ โดยมีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี ออลี จอร์จได้รับปริญญาศิลปศาสตร์บัณฑิต สาขาวรรณคดีเปรียบเทียบ จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตเบิร์กลีย์และได้รับประกาศนียบัตรด้านโภชนาการและการดำรงชีวิตเพื่อสุขภาพที่ดีจากมหาวิทยาลัยอีคอร์เนล
มีการอ้างอิง 8 ข้อที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ
บทความนี้ถูกเข้าชม 11,252 ครั้ง
ผิวภายนอกที่กรุบกรอบกับเนื้อขนมปังนุ่มด้านใน แทรกซึมไปทั่วด้วยรสชาติของน้ำมันจากเนื้อ เนย หรือส่วนผสมอื่นๆ ที่นำมาเคล้าและปรุงเข้ากับขนมปัง นั่นน่ะ ขนมปังทอดในอุดมคติเลยล่ะ และถ้าทำออกมาได้ถูกต้องทุกกระบวนการ ก็จะใช้เวลาไม่กี่นาทีในการเตรียม และเวลาปรุงสุกนี่ยิ่งน้อยกว่านาทีหนึ่งอีกเชียวล่ะ โดยจะตอกไข่ทอดตรงกลางขนมปัง ให้ออกมาเป็นมื้อเช้าอันน่าอร่อย หรือจุ่มในส่วนผสมธรรมดาๆ เพื่อทำเป็น "ขนมปังทอดฝรั่งเศส" ที่มักจะเรียกกันว่า ขนมปังฝรั่งเศส ก็ได้นะ
หรือคุณอาจหาวิธีทำขนมปังนาวาโฮแทน
ส่วนประกอบ
ขนมปังทอด หรือไข่ในขนมปัง:
- ขนมปังขาว 1 แผ่น (ความนุ่มตามที่ต้องการ)
- น้ำมันสำหรับทำอาหาร เนย หรือหยดน้ำมันจากเบคอน ~1 ช้อนโต๊ะ (15 มล.)
- ไข่ 1 ใบ (สำหรับเมนูไข่ในขนมปัง)
- เกลือและพริกไทย
ขนมปังฝรั่งเศส:
- ขนมปังแผ่นหนา 8 ชิ้น (เป็นขนมปังชนิดฟองน้ำ และค่อนข้างเก่าเล็กน้อยจะเหมาะมาก)
- ไข่ 3 ใบขนาดใหญ่
- นมฮาล์ฟแอนด์ฮาล์ฟ นมเต็มส่วน ครีม หรือบัตเตอร์มิลค์ ⅔ ถ้วย (160 มล.)
- เกลือเล็กน้อย
- เนย 2–3 ช้อนโต๊ะ (30–45 มล.)
(เพิ่มเติม สำหรับขนมปังฝรั่งเศสแบบหวาน)
- น้ำตาล 1–3 ช้อนโต๊ะ (15–45 มล.)
- กลิ่นวนิลา 1 ช้อนชา (5 มล.)
- ซินนามอน เปลือกส้ม หรือรสชาติอื่นๆ 2 ช้อนชา (10 มล.) (ไม่จำเป็น)
(เพิ่มเติม สำหรับขนมปังฝรั่งเศสรสกลมกล่อม)
- ซอสพริก 5 ช้อนชา (20 มล.)
- ใบกะเพราหรือสมุนไพรมีกลิ่นสับ 3 ช้อนโต๊ะ (45 มล.)
- พริกไทยดำ เพื่อรสชาติ
- กระเทียม 1 กลีบหรือมากกว่านั้น บดหรือสับ (ไม่จำเป็น)
- ชีสพาร์เมซาน ¾ ถ้วย (180 มล.) (ไม่จำเป็น)
ขั้นตอน
- ปรุงอาหารทอดที่จะเสิร์ฟพร้อมกับขนมปัง (ไม่จำเป็น). ขนมปังทอดมักจะรับประทานคู่กับอาหารทอดชนิดอื่นสักหนึ่งหรือหลายอย่าง ตามแบบฉบับของอาหารเช้าสไตล์อังกฤษนั่นเอง โดยมักจะเป็นไข่ เบคอน ไส้กรอก มะเขือเทศฝาน และถั่วอบ ให้ทอดพวกของเหล่านั้นในกระทะเดียวกันก่อนจะเริ่มทอดขนมปัง
- ถ้าจะปรุงทั้งหมดตามที่กล่าวเอาไว้ข้างบน ให้เริ่มปรุงจากไส้กรอกก่อน ตามด้วยเห็ดในอีกสองสามนาทีต่อมา จากนั้นก็ต่อด้วยวัตถุดิบอื่นๆ ในอีกสองสามนาทีถัดมาอีก แล้วปิดด้วยไข่ดาว
- ใส่ไขมันหรือน้ำมันลงไปอีก (ไม่จำเป็น). ขึ้นอยู่กับว่าใช้เนื้อและเนยเท่าไรในการทอด บางทีไขมันในกระทะอาจมีเพียงพอแล้วก็เป็นได้ แต่เอาจริงๆ การที่จะมากังวลเรื่องแคลอรี่ก็ไม่ควรมีตั้งแต่ตั้งใจจะกินขนมปังทอดแล้วล่ะ เติมเนยลงไปสักนิด ตามด้วยน้ำมันพืชรสดีๆ อีกสักหน่อย หรือถ้าอยากให้รสชาติออกมามีความดั้งเดิม ก็ให้ใช้น้ำมันจากเบคอนหรือน้ำมันหมูแทน
- อุ่นน้ำมัน. เปิดเตาแก๊สด้วยไฟกลาง-สูง จนกว่าน้ำมันจะมีความมันวาว และเริ่มร้อน กระทะร้อนๆ จะทำให้ขนมปังมีความกรอบ แทนที่จะออกมาชุ่มน้ำมันนั่นเอง
- ใส่ชิ้นขนมปังลงไปในกระทะ. ขนมปังขาวที่เก่าหน่อยๆ ถือเป็นอะไรที่สมบูรณ์แบบสุดๆ เพราะขนมปังแห้งๆ จะซึมซับรสชาติของน้ำมันอร่อยๆ เข้ามาได้อย่างรวดเร็ว และเก็บขนมปังสดๆ ที่เป็นแบบธัญพืชเอาไว้สำหรับคนชอบขนมปังปิ้งแทนซะ
- ถ้ามีกระทะขนาดเล็ก ก็ให้หั่นขนมปังเป็นสามเหลี่ยมแทน
- เติมรสเครื่องเทศสักหน่อย (ไม่จำเป็น). เกลือและพริกไทยอีกเล็กน้อย ย่อมเพิ่มรสชาติให้กับขนมปัง แต่มันก็ไม่ได้จำเป็นขนาดนั้นหรอกนะ พริกป่นคาแยนก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนที่อยากได้รสชาติเผ็ดๆ เติมเต็มให้มื้อเช้าของเขา
- ทอดสักสองสามวินาที หรือจนกว่าจะเป็นสีน้ำตาลทอง. ถ้ากระทะและน้ำมันร้อนพอจริงๆ ถึงใช้เวลาทอดแต่ละด้านไม่กี่วินาทีก็ทำให้ขนมปังกรอบ เป็นสีน้ำตาลทอง และได้รสชาติอร่อยแล้วล่ะ แต่ถ้ากระทะยังเย็น และน้ำมันก็ไม่ร้อน คุณอาจต้องใช้เวลาทอดสัก 15–30 วินาที แต่ก็ต้องรีบเอาออกมาก่อนที่มันจะชุ่มน้ำมันเกินไปด้วยล่ะโฆษณา
- เจาะรูบนแผ่นขนมปังด้วยที่ตัดคุกกี้หรือมีด. สำหรับวิธีนี้ คุณจะใช้ขนมปังชนิดใดก็ได้ ตราบใดที่สามารถตัดมันออกโดยเนื้อไม่กระจายแตกออกมาก็พอ โดยให้หั่นรูตรงกลางของชิ้นขนมปังด้วยที่ตัดคุกกี้หรือมีดให้เป็นรูปร่างที่ต้องการ ส่วนที่ตัดออกมาแล้วจะนำไปทอดเหมือนกัน หรือแอบเล็มกินตอนทอดอีกส่วนอยู่ก็ได้
- ถ้าอยากให้มื้อเช้าออกมาดูโรแมนติก ก็ให้ใช้ที่ตัดคุกกี้รูปหัวใจแทน
- ถ้าจะใช้มีด ก็ให้วางขนมปังไว้บนเขียง และใช้ปลายมีดตัดขึ้นลงเหมือนเลื่อย ใช้วิธีเจาะมันเป็นรูเล็กๆ แทนที่จะฉีกมันให้ขาดตรงๆ
- อุ่นเนยหรือน้ำมันด้วยไฟกลาง-ต่ำ. ใส่เนยหรือน้ำมันลงไปในกระทะในปริมาณที่เพียงพอ อุ่นให้ร้อนสักนาที หรือถ้าใช้เตาไฟฟ้าก็สักสองสามนาที โดยให้ร้อนพอที่จะเกิดเสียงซู่ๆ เมื่อวางขนมปังลงไป
- อย่าใช้ไฟสูง ไม่อย่างนั้นขนมปังจะไหม้ก่อนไข่จะสุกเอาได้
- วางขนมปังไว้ในกระทะ. ให้แน่ใจก่อนว่าเนยหรือน้ำมันกระจายไปทั่วกระทะเท่ากันก่อน จึงจะใส่ขนมปังแผ่นลงไป จากนั้นก็ไปยังขั้นตอนต่อไปทันที
- ขั้นตอนนี้ก็ไม่จำเป็นหรอก แต่ถ้าจะเอาส่วนขนมปังที่ตัดออกไปลงมาทอดด้วยกันก็ได้ ถ้ามันยังเป็นชิ้นอยู่นะ
- ตอกไข่ใส่รูขนมปัง. ตอกไข่แล้วใส่ไข่ลงไปในรูตรงกลางขนมปังตรงๆ จากบนกระทะ
- เติมเกลือและพริกไทยลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติ. ถ้าจะเสิร์ฟให้แขก คุณก็สามารถวางเอาไว้ข้างๆ โต๊ะแทนก็ได้
- หรือว่าจะปรุงพวกของที่คุณชอบกินกับไข่เจียวลงไปด้วยก็ได้ อย่างเชดด้าชีสฝอย แล้วเอามาวางไว้บนชิ้นขนมปังที่ตัดออก
- เมื่อไข่เริ่มใกล้สุก ก็ให้กลับขนมปังซะ. คุณสามารถปรุงไข่ได้ตามที่ใจต้องการ แต่แบบที่ไข่แดงไม่สุกจะง่ายที่สุด เพราะขนมปังจะได้ไม่ไหม้มากนั่นเอง หลังจากผ่านไปนาทีสองนาที หรือจนกว่าไข่ขาวจะมีสีเกือบขุ่น แต่ก็ยังมีสีใสอยู่บ้าง ก็ให้กลับด้านขนมปังด้วยไม้พายหรือที่คีบได้เลย
- ทอดให้เสร็จและเสิร์ฟได้เลย. ทอดไข่ที่อยู่ในขนมปังอีกด้านอีกสักนาทีสองนาที จนกว่าไข่ดาวจะเป็นสีขาวและแข็งตัว ส่วนขนมปังก็เริ่มเป็นสีน้ำตาลทอง ทีนี้ไข่ก็จะสุกแล้ว คุณก็สามารถใช้ไม้พายเขี่ยขนมปังวนรอบๆ กระทะเพื่อซึมซับเนยหรือน้ำมันเข้าไปอีกโฆษณา
- หั่นขนมปัง. ขนมปังที่หั่นมาล่วงหน้าแล้ว มักจะบางเกินไป และไร้รสชาติเกินกว่าจะทำขนมปังฝรั่งเศส บางครั้งมันก็จะเรียกว่าขนมปังชุบไข่ หรือขนมปังชุบทอด ให้หั่นขนมปังชาลลา ขนมปังไข่ ขนมปังเนย หรือขนมปังเนื้อแน่น บางกรอบชนิดอื่นๆ ให้เป็นชิ้นขนาด ¾–1 นิ้ว (2–2.5 ซม.) [1]
- แนะนำให้ทิ้งขนมปังสดๆ เอาไว้ค้างคืนเพื่อให้มันแห้งขึ้นเล็กน้อย และดูดซับได้ดีขึ้น จริงๆ แต่จริงๆ ขนมปังสดใหม่ก็ยังใช้ได้อยู่แหละ
- เนื้อขนมปังข้างในแบบ "แน่น" ก็คือแบบที่เป็นเนื้อฟองน้ำ และไม่มีรูใหญ่ๆ อยู่ด้านใน
- ผสมไข่ นม และเกลือเข้าด้วยกัน. ก่อนจะเริ่มทอด คุณต้องมีส่วนผสมที่ดูคล้ายซุปครีมเพื่อใช้ชุบขนมปังก่อน ในการทำส่วนผสมชุบขนมปังสำหรับขนมปังแบบฝรั่งเศสแปดชิ้น ควรใช้ส่วนผสมดังต่อไปนี้:
- ผสมรสชาติเข้าไป. เราสามารถทำขนมปังฝรั่งเศสให้ออกมาหวานหรือมีรสกลมกล่อมได้ โดยให้ปรุงรสส่วนผสมตามนี้:
- สำหรับขนมปังรสหวาน ผสมน้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ (15 มล.) และกลิ่นวนิลา 1 ช้อนชา (5 มล.) ลงไป ถ้าคุณไม่ได้จะเสิร์ฟขนมปังกับเมเปิลไซรัปหรือทอปปิ้งรสหวานอื่นๆ ก็สามารถเพิ่มน้ำตาลลงไปได้อีก 1 ถึง 2 ช้อนโต๊ะ (15–30 มล.) เลยล่ะ นอกนั้นยังจะเพิ่มซินนามอนหรือเปลือกส้มขูดสดๆ 2 ช้อนชา (10 มล.) ได้อีกเช่นกัน[5]
- สำหรับขนมปังรสกลมกล่อม ผสมซอสพริก 5 ช้อนชา (20 มล.) ใบกะเพราะสับ 3 ช้อนโต๊ะ (45 มล.) และพริกไทยดำจำนวนหนึ่งลงไป[6] โดยสามารถเพิ่มชีสพาร์เมซาน กระเทียม หรือสมุนไพรอื่นๆ ลงไปด้วย หรือใช้แทนส่วนผสมอื่นๆ ก็ได้[7]
- จุ่มขนมปังลงไปในส่วนผสม. เทส่วนผสมลงในจานปากกว้าง และวางแผ่นขนมปังจุ่มลงไปในนั้น เชฟหลายๆ คนชอบที่จะผสมส่วนผสมอย่างรวดเร็ว และใช้เวลาไม่นานในการเอาขนมปังจุ่มลงไป ขณะที่อุ่นเนยบนกระทะ อย่างไรก็ตาม แนะนำให้แช่เอาไว้สัก 15–20 นาที เพื่อเพิ่มการดูดซึมของส่วนผสมเข้าไปในขนมปัง และแนะนำให้ใช้ขนมปังชิ้นหนาทึบ[8]
- กลับด้านขนมปังหนึ่งครั้ง เมื่อแช่ไปได้ครึ่งทางแล้ว
- อุ่นเนยบนกระทะ. ใช้เนยทั้งหมดเพียง 2–3 ช้อนโต๊ะ (30–45 มล.) เท่านั้นแหละ ยกเว้นว่าคุณจะมีกระทะที่พอจะใส่ขนมปังทั้งหมดแปดแผ่นลงไปได้ คุณก็อาจต้องใช้เนยสักสามสี่ก้อนไปเลย ละลายเนยบนกระทะ และอุ่นจนกว่ามันจะขึ้นฟองและบางลง
- คุณสามารถใช้น้ำมันพืชรสธรรมชาติ อย่างน้ำมันคาโนลาหรือน้ำมันถั่วลิสงแทนก็ได้ แต่รสชาติของขนมปังก็จะไม่เข้มข้นเท่าที่ใช้เนยนะ
- ถ้าผสมน้ำมันลงกับเนยจะกันไม่ให้มันไหม้ได้ โดยจะมีประโยชน์เมื่อใช้เตาแก๊สไฟฟ้าหรือกระทะที่ให้ความร้อนได้เท่าทั่วกัน
- ทอดขนมปัง. ใส่ขนมปังลงไปให้พอกับที่กระทะจะรับได้ ทอดจนกว่าจะเป็นสีน้ำตาลทองด้านหนึ่ง จากนั้นก็กลับด้านและทอดต่อ แต่ละด้านจะใช้เวลาประมาณสองสามนาทีเท่านั้นแหละ
- ถ้าคุณยังมีขนมปังชุบส่วนผสมเหลืออยู่ ก็ให้เช็ดเนยที่เหลือบนกระทะออกอย่างรวดเร็วด้วยทิชชู่ จากนั้นก็ละลายเนยบนกระทะใหม่ก่อนจะใส่ขนมปังลงไป
- ถ้าส่วนผสมกระจายตัวออกบนกระทะ นั่นแปลว่ากระทะคุณไม่ร้อนพอ หรือมีส่วนผสมที่เป็นของเหลวเยอะเกินไป[9]
- เสิร์ฟขนมปังฝรั่งเศส. จะเสิร์ฟขนมปังฝรั่งเศสเปล่าๆ หรือใส่ทอปปิ้งก็ได้ ลองเสิร์ฟคู่กับเมเปิลไซรัป ผลไม้สด หรือน้ำตาลไอซิ่งเพื่อเพิ่มความหวาน สำหรับแบบรสกลมกล่อมก็สามารถกินคู่กับซอสโหระพา ผักผัด หรือชีสพาร์เมซานได้โฆษณา
เคล็ดลับ
- ในการทำครูตองซ์ ก็ให้ทำตามสูตรสำหรับมื้อเช้าแบบอังกฤษได้เลย แต่ให้ใช้น้ำมันมะกอกและ/หรือเนยแทนที่จะเก็บมันไว้จนมีกลิ่นหืนในตู้ หั่นขนมปังและนำขนมปังที่หั่นเป็นชิ้นเต๋าไปคลุกในกระเทียมและ/หรือเครื่องปรุงรสที่คุณชอบก่อนจะนำไปทอดได้เลย [10] (ถ้าอยากได้ครูตองซ์ที่น้ำมันน้อยๆ ก็ให้ใช้วิธีอบแทนนะ)
สิ่งของที่ใช้
- หม้อเคี่ยวซอส
- ไม้พายหรือที่คีบ
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.thekitchn.com/how-to-make-french-toast-at-home-cooking-lessons-from-the-kitchn-195896
- ↑ http://www.thekitchn.com/how-to-make-french-toast-at-home-cooking-lessons-from-the-kitchn-195896
- ↑ http://www.epicurious.com/recipes/food/views/Buttermilk-French-Toast-358115
- ↑ http://www.bonappetit.com/test-kitchen/common-mistakes/article/the-7-most-common-french-toast-cooking-mistakes
- ↑ http://www.simplyrecipes.com/recipes/french_toast/
- ↑ http://iamafoodblog.com/spicy-savoury-french-toast-recipe/
- ↑ http://www.thekitchn.com/recipe-panfried-savory-parmesan-french-toast-recipes-from-the-kitchn-200279
- ↑ http://www.bonappetit.com/test-kitchen/common-mistakes/article/the-7-most-common-french-toast-cooking-mistakes
- ↑ http://www.bonappetit.com/test-kitchen/common-mistakes/article/the-7-most-common-french-toast-cooking-mistakes
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.