บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Inge Hansen, PsyD. ดร.อิงเก แฮนเซ่น, PsyD, เป็นผู้อำนวยการศูนย์ Well-Being ในมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด และ Weiland Health Initiative ดร.แฮนเซ่นมีความสนใจในความยุติธรรมในด้านเพศและสังคม เธอได้รับปริญญาเอกจากคณะจิตวิทยาในแคลิฟอร์เนียโดยเน้นการฝึกด้านเพศและการระบุเพศเป็นพิเศษ เธอเป็นผู้ร่วมแต่งหนังสือ The Ethical Sellout: Maintaining Your Integrity in the Age of Compromise
มีการอ้างอิง 10 ข้อที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ
บทความนี้ถูกเข้าชม 18,555 ครั้ง
การเรียนรู้วิธีรับมือเมื่อถูกแกล้งหรือโดนดูถูกจะช่วยให้คุณรับมือกับสถานการณ์ทางสังคมที่เลวร้ายนี้ได้ดีขึ้น การประเมินสถานการณ์ การตอบโต้อย่างเหมาะสม และการขอความช่วยเหลือเมื่อจำเป็นจะช่วยให้คุณเอาชนะการถูกแกล้งหรือโดนดูถูกได้
ขั้นตอน
- 1รู้ว่ามันไม่เกี่ยวกับคุณ. คนที่แกล้งและดูถูกคนอื่นเป็นพวกไม่มั่นคงในตัวเอง นิสัยชอบระรานของพวกเขามักมาจากความกลัว ความหลงตัวเอง และความต้องการที่จะควบคุมสถานการณ์ การเลือกใครสักคนมาแกล้งทำให้พวกเขารู้สึกมีอำนาจ การรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมาจากตัวพวกเขาล้วนๆ ไม่เกี่ยวกับคุณจะทำให้คุณมีความมั่นใจในสถานการณ์มากขึ้น[1]
- 2เข้าใจแรงจูงใจของคนที่มาระรานคุณ. การพยายามเข้าใจว่าทำไมคนๆ นี้ถึงดูถูกหรือแกล้งคุณเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้คุณรู้วิธีแก้ไขสถานการณ์ บางครั้งพวกเขาก็แกล้งคุณเพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น หรือบางทีพวกเขาก็อาจจะทำไปเพราะไม่เข้าใจคุณหรือสถานการณ์เท่าที่ควร
- เช่น เพื่อนร่วมงานที่ชอบดูถูกการแต่งกายของคุณอาจรู้สึกว่าคุณได้รับความไว้วางใจจากหัวหน้ามากกว่าที่ควร[2]
- อีกตัวอย่างหนึ่งก็คือ คนที่ชอบระรานคุณอาจจะแกล้งคุณเพราะเขาไม่เข้าใจว่าความบกพร่องบางอย่างของคุณทำให้คุณไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้อย่างเต็มที่
- จำไว้ว่าการแกล้งบางอย่างก็อาจเป็นแค่การแกล้งเล่นๆ และไม่ได้มีเจตนาที่จะทำร้ายความรู้สึกของคุณ เช่น ญาติหรือเพื่อนสนิทอาจจะแกล้งคุณเกี่ยวกับอะไรสักอย่าง เช่น พฤติกรรมประหลาดๆ ของคุณที่พวกเขารู้สึกว่ามันตลก
- 3ถ้าเป็นไปได้ให้วางแผนเพื่อเลี่ยงคนๆ นี้หรือสถานการณ์นี้. การหลบคนที่ชอบระรานคุณช่วยลดการดูถูกและ/หรือการแกล้งที่คุณต้องเจอ แม้ว่ามันอาจจะทำไม่ได้ทุกครั้ง แต่ให้พยายามหาทางใช้เวลาในที่ๆ มีคนที่ชอบระรานคุณอยู่ด้วยให้น้อยที่สุดหรือเลี่ยงไม่ติดต่อกันเลย
- ถ้าคุณถูกแกล้งระหว่างเดินกลับจากโรงเรียนไปบ้าน ให้ปรึกษาพ่อแม่เพื่อหาเส้นทางกลับบ้านที่ปลอดภัยที่จะช่วยไม่ให้คุณถูกแกล้งหรือโดนดูถูก
- ถ้าคุณถูกแกล้งหรือโดนดูถูกในโลกออนไลน์ ให้ลบอันธพาลคนนี้ออกจากเครือข่ายโซเชียลมีเดียของคุณ หรือจำกัดเวลาในการใช้แอพพลิเคชั่นนั้นๆ
- 4ประเมินว่าการแกล้งนี้ผิดกฎหมายหรือไม่. บางครั้งการแกล้งหรือการดูถูกก็ถือเป็นการละเมิดกฎหมายโดยตรง เช่น ถ้าคุณมีเพื่อนร่วมงานที่คุกคามทางเพศคุณที่ทำงานด้วยการแตะเนื้อต้องตัวอย่างไม่เหมาะสม ก็ถือเป็นการละเมิดกฎหมายและต้องรายงานทันที
- ถ้าคุณยังเรียนหนังสืออยู่ คุณก็มีสิทธิ์ที่จะรู้สึกปลอดภัยและมีสภาพแวดล้อมทางการเรียนที่ไม่ทำให้สมาธิของคุณไขว้เขว ถ้ามีใครมาแกล้งคุณจนทำให้คุณรู้สึกไม่ปลอดภัยหรือทำให้คุณไขว้เขวจากการเรียน (เช่น ทำให้คุณไม่อยากไปโรงเรียน) คุณก็ควรพูดคุยกับพ่อแม่หรือครูเรื่องนี้
โฆษณา
- 1เตรียมรับมือกับสถานการณ์. ถ้าคุณต้องใช้เวลาร่วมกับคนที่ดูถูกหรือแกล้งคุณเป็นประจำ วางแผนว่าคุณจะจัดการกับสถานการณ์นี้อย่างไร การคิดอย่างละเอียดว่าคุณจะตอบโต้อย่างไรและซ้อมบทบาทสมมุติจะช่วยให้คุณรับมือกับสถานการณ์ได้[3]
- ซ้อมบทบาทสมมุติกับเพื่อนที่คุณไว้ใจหรือคนในครอบครัว ลองให้เพื่อนสนิทพูดว่า “แอน ทรงผมเธอนี่มันทุเรศชะมัด” คุณอาจจะตอบโต้ว่า “ขอบคุณสำหรับคำวิจารณ์นะ แต่เผอิญว่าฉันชอบ ไม่สำคัญหรอกว่าเธอชอบหรือเปล่า”
- ถ้าหัวหน้าดูถูกคุณในเชิงที่ทำให้คุณรู้สึกต่ำต้อย ให้วางแผนรับมือ ลองพูดว่า “คุณแบงค์ครับ การแกล้งของคุณนี่มันแสดงถึงความไม่เป็นมืออาชีพ สร้างความเจ็บปวด และเป็นอุปสรรคต่อประสิทธิภาพในการทำงานของผม ถ้าคุณยังเป็นอย่างนี้อยู่ ผมจะรายงานแผนกบุคคลนะครับ”
- 2นิ่งเข้าไว้. คุณต้องนิ่งเข้าไว้เวลาที่คุณถูกแกล้งหรือโดนดูถูก แม้ว่าสัญชาตญาณจะบอกให้คุณโกรธหรือร้องไห้ก็ตาม คนที่แกล้งและดูถูกคุณเขามักจะรอปฏิกิริยาแบบนี้อยู่ คุณต้องเย็นไว้และมีสติ[4]
- เวลาที่มีใครมาดูถูกคุณ ลองหายใจลึกๆ หลายๆ ครั้งก่อนตอบโต้
- 3ยืนหยัดเพื่อตัวเอง. มั่นใจและพูดกับคนที่มาระรานให้ชัดเจนว่า การดูถูกของเขาหรือเธอมีผลต่อคุณอย่างไร ใช้น้ำเสียงหนักแน่นแต่นิ่งและอธิบายว่าทำไมคุณถึงรู้สึกไม่ดีกับการแกล้งของเขา[5]
- ลองพูดกับเพื่อนร่วมชั้นที่ชอบแกล้งคุณเรื่องรองเท้าว่า “ฉันโกรธนะเวลาที่เธอดูถูกฉันต่อหน้าเพื่อนในห้อง เลิกสักทีเถอะ”
- ถ้าเพื่อนร่วมงานใช้คำพูดเชิงยั่วยุในทางเพศกับคุณในที่ทำงาน ลองพูดว่า “การแกล้งและการดูถูกของคุณมันหมิ่นเหม่กับการคุกคามทางเพศนะ ถ้าเกิดขึ้นอีกฉันจะรายงานคุณให้ผู้บังคับบัญชาทราบทันที”
- 4ทำหูทวนลม. บางครั้งการตอบโต้ที่ดีที่สุดก็คือการทำหูทวนลม คุณอาจจะทำเป็นไม่ได้ยินไปเลยหรือเปลี่ยนเรื่องที่คุยกันอยู่ไปเลยก็ได้ การเพิกเฉยต่อการแกล้งหรือการดูถูกของคนที่ชอบระรานคุณแทนที่จะตอบโต้จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการเติมเชื้อไฟในอารมณ์โกรธ[6]
- ถ้าคุณโดนดูถูกหรือแกล้งในโลกออนไลน์ อย่าไปตอบโต้
- ถ้าคุณโดนคนในครอบครัวดูถูก พยายามเมินเฉยต่อคำดูถูกและเดินออกมาจากห้อง
- 5ตอบโต้ด้วยอารมณ์ขัน. การตอบโต้การแกล้งหรือการดูถูกด้วยอารมณ์ขันเป็นการตอบโต้ที่มีประสิทธิภาพ อารมณ์ขันช่วยคลายความตึงเครียดของสถานการณ์ ทำให้คนที่ชอบระรานคุณวิจารณ์คุณน้อยลง และแม้กระทั่งทำให้คำดูถูกเบาบางลงไป ลองเล่นมุกเวลาที่มีคนดูถูกหรือแกล้งคุณ[7]
- ถ้าเพื่อนร่วมงานดูถูกโปสเตอร์ที่คุณนำเข้าไปในงานประชุม ให้ลองพูดว่า “คุณพูดถูก โปสเตอร์นี้น่าเกลียดจริงๆ ฉันไม่น่าใช้ลูกวัย 5 ขวบทำงานให้ฉันเลย”
- อีกวิธีหนึ่งก็คืออาจจะทำเป็นช็อกและเล่นมุกตลกหยอกเย้ากับคนๆ นั้น เช่น คุณอาจจะพูดประมาณว่า “โอ๊ยตายแล้วแม่เจ้าประคุณทูนหัวของบ่าว! คุณท่านพูดถูกเลยเจ้าค่ะ! ขอบพระคุณคุณท่านที่ช่วยชี้ทางสว่างให้บ่าวนะคะ!”
- 6รายงานการแกล้งหรือการดูถูกที่เกี่ยวข้องกับเพศ รสนิยมทางเพศ ศาสนา หรือความพิการ. คุณต้องรายงานการคุกคามเหล่านี้ทันที เพราะการแกล้งแบบนี้อาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย เข้าพบเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทันทีถ้าคุณถูกแกล้งหรือดูถูกในลักษณะนี้
- 7พูดคุยกับคนที่ชอบมาระรานคุณ. เช่น ถ้าคุณถูกพ่อ/แม่หรือคนในครอบครัวดูถูกอยู่เสมอ ก็อาจถึงเวลาที่ต้องนั่งคุยกันเรื่องการทำร้ายจิตใจกันแล้ว พูดไปตรงๆ ว่าการแกล้งนี้ทำให้คุณรู้สึกอย่างไร และการคุกคามในลักษณะนี้มีผลต่อชีวิตของคุณอย่างไร
- ถ้าแม่คอยดูถูกรูปลักษณ์ภายนอกของคุณตลอดเวลา ลองพูดว่า “แม่คะ หนูเจ็บนะคะเวลาที่แม่วิจารณ์เสื้อผ้า ผม หรือการแต่งหน้าของหนู หนูเสียใจนะคะ ต่อไปนี้แม่อย่าพูดอะไรแบบนี้อีกเลยนะคะ”
- แม้ว่าการแกล้งนั้นจะไม่ได้มาจากเจตนาที่ไม่ดี แต่คุณก็มีสิทธิ์ที่จะพูดกับคนๆ นั้นเหมือนกันถ้ามันทำให้คุณรำคาญ เช่น "ฉันชอบไปไหนมาไหนกับเธอและบางครั้งมันก็สนุกดีนะเวลาที่เราแกล้งกัน แต่ก็มีบางเรื่องที่เธอแกล้งแล้วทำให้ฉันเสียใจและตอนนี้ฉันก็ว่ามันล้ำเส้นไปหน่อย พวกเรื่องเสื้อผ้า สามี ลูกๆ...เป็นต้น”
โฆษณา
- 1เพิ่มความภาคภูมิใจในตัวเอง. การมีความภาคภูมิใจในตัวเองต่ำทำให้รับมือกับการถูกแกล้งได้ยากขึ้นไม่ว่ามันจะมาจากเจตนาที่ไม่ดีหรือไม่ก็ตาม การเพิ่มความภาคภูมิใจในตัวเองเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา แต่คุณก็สามารถทำได้ผ่านกิจกรรมง่ายๆ เช่น :[8]
- ชมตัวเอง ลองมองเข้าไปในกระจกทุกเช้าและพูดถึงสิ่งดีๆ เกี่ยวกับรูปลักษณ์ของคุณ เช่น “วันนี้ตาของเธอสว่างและสวยเป็นพิเศษนะ”
- เขียนรายการจุดแข็ง ความสำเร็จ และสิ่งที่คุณชื่นชมเกี่ยวกับตัวเอง พยายามเขียนให้ได้หัวข้อละ 5 อย่าง เก็บรายการนี้ไว้และอ่านทุกวัน
- 2ดูแลตัวเอง. การดูแลตัวเองเป็นสิ่งสำคัญและเป็นเทคนิคการรับมือกับการโดนดูถูกหรือการถูกแกล้งที่ดี ลองแช่น้ำในอ่าง ออกไปเดินเล่นเงียบๆ หรือทำอะไรดีๆ ให้ตัวเองอย่างไปทำเล็บเท้า เทคนิคการดูแลตัวเองเหล่านี้จะช่วยคุณสร้างความภาคภูมิใจในตัวเองและทำให้คุณรู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้น
- 3เพิ่มความเข้มแข็ง. การเป็นคนเข้มแข็งคือการที่คุณสามารถฟื้นอารมณ์จากการแกล้ง คำดูถูก และอุปสรรคอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย พยายามทำให้ตัวเองเข้มแข็งเพื่อให้ตัวเองสามารถกลับมาเป็นปกติได้หลังจากอดทนกับการแกล้งและคำดูถูก คุณสามารถทำให้ตัวเองเข้มแข็งขึ้นได้ด้วยการ :[9]
- มองความผิดพลาดว่าเป็นโอกาสที่จะได้เรียนรู้
- เตือนตัวเองว่า คุณมีอำนาจที่จะเลือกวิธีตอบโต้
- ตั้งเป้าหมายตามความเป็นจริง
- สร้างความมั่นใจในตนเอง
- 4เรียนรู้ที่จะกล้าแสดงจุดยืนให้มากขึ้น. ความสามารถในการแสดงความคิดเห็นของตัวเองอย่างมั่นใจสามารถช่วยให้คุณรับมือกับการแกล้งได้ ในการที่จะเป็นคนกล้าแสดงจุดยืนได้นั้น คุณต้องสบายใจที่จะบอกคนอื่นว่า “ไม่” และแสดงความต้องการของตัวเองอย่างตรงไปตรงมาและชัดเจน [10]
- พูดเรื่องที่ทำให้คุณรำคาญอย่างเจาะจง เช่น “คุณแกล้งฉันเรื่องผมอยู่เรื่อย เรียกฉันว่าพุดเดิ้ลบ้างล่ะ ยัยหัวสิงโตบ้างล่ะ”
- แสดงความรู้สึกของคุณที่มีต่อคำแกล้ง เช่น คุณอาจจะพูดประมาณว่า “ฉันโกรธนะเวลาที่เธอมาพูดแบบนี้ เพราะฉันว่าผมฉันสวยดีออก”
- พูดในสิ่งที่คุณอยากให้เกิดขึ้น เช่น “ฉันอยากให้เธอเลิกแกล้งเรื่องผมฉันสักที ถ้าเธอแกล้งอีกฉันจะเดินหนี”
โฆษณา
- 1บอกพ่อแม่. ถ้าคุณเป็นเด็กหรือเป็นวัยรุ่นแล้วถูกแกล้งหรือดูถูก คุณต้องบอกให้พ่อแม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เล่าให้พ่อแม่ฟังว่าสถานการณ์เป็นอย่างไรและขอให้ท่านช่วยแก้ปัญหา[11]
- ลองพูดประมาณว่า "พ่อคะ/แม่คะ มีคนแกล้งหนูที่โรงเรียน หนูพยายามบอกให้เขาเลิกแล้วนะคะ แต่เขาไม่ยอมเลิก"
- 2เข้าพบครูหรือคนที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ที่ไว้ใจได้. ถ้ามีใครที่โรงเรียนดูถูกคุณหรือแกล้งคุณ ให้พูดคุยกับครู ครูแนะแนว หรือแม้กระทั่งพยาบาลที่โรงเรียนคร่าวๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น ผู้ที่ทำหน้าที่ด้านการศึกษาเหล่านี้จะช่วยคุณคิดเทคนิคใหม่ๆ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
- ลองพูดประมาณว่า "หนูโดนคนที่โรงเรียนแกล้ง/ดูถูก แล้วหนูก็ไม่รู้ว่าหนูควรจะทำยังไง"
- 3ถ้าเป็นที่ทำงานให้ใช้ช่องทางที่เหมาะสม. ถ้าคุณโดนดูถูกหรือแกล้งที่ทำงาน คุณต้องทำเอกสารเรื่องการทำร้ายจิตใจและใช้ช่องทางที่เหมาะสม เล่าให้หัวหน้าฟังว่าเกิดอะไรขึ้น หรือไปที่ฝ่ายบุคคลแล้วรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นเลยก็ได้
- ลองพูดประมาณว่า "เพื่อนร่วมงานแกล้ง/ดูถูกดิฉันเป็นประจำและมันก็มีผลกระทบกับดิฉัน ดิฉันจึงอยากขอความช่วยเหลือเพื่อแก้ไขสถานการณ์นี้ค่ะ"
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://www.psychologytoday.com/blog/enlightened-living/200911/ego-insecurity-and-the-destructive-narcissist
- ↑ http://lifehacker.com/how-to-handle-being-bullied-as-an-adult-1726099137
- ↑ http://www.webmd.com/parenting/tc/bullying-what-children-should-do-if-they-are-bullied
- ↑ http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2277292/
- ↑ http://thestir.cafemom.com/big_kid/105581/teaching_kids_to_deal_with
- ↑ http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2277292/
- ↑ https://www.psychologytoday.com/blog/hide-and-seek/201302/how-deal-insults-and-put-downs
- ↑ https://www.psychologytoday.com/blog/hide-and-seek/201205/building-confidence-and-self-esteem
- ↑ https://www.mindtools.com/pages/article/resilience.htm
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.