วิธีการ ดูแลรักษาจุดซ่อนเร้นให้สะอาด

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

การดูแลความสะอาดของจุดซ่อนเร้นนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้หญิงทุกคนต้องทำและเข้าใจว่าความสะอาดของจุดซ่อนเร้นนั้นสำคัญต่อสุขภาพมากขนาดไหน ธรรมชาติของจุดซ่อนเร้นนั้นเป็นกรดอ่อนๆ และมีแบคทีเรียที่ช่วยป้องกันการติดเชื้อและคอยรักษาระดับความเป็นกรดให้สมดุลอยู่เสมอ การตกขาว (Discharge) นั้นยังเป็นวิธีหลั่งสารที่จุดซ้อนเร้นผลิตออกมาเพื่อรักษาความสะอาดในตัวเอง แม้ว่าจุดซ่อนเร้นจะมีอวัยวะที่ทำหน้าที่ในการทำความสะอาดตัวเอง แต่คุณสามารถทำตามวิธีต่อไปนี้เพื่อรักษาความสะอาดของจุดซ่อนเร้นให้ดียิ่งขึ้น [1]

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ทำความสะอาดบริเวณจุดซ่อนเร้นของคุณ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ทำความสะอาดมดลูกด้วยสบู่ที่เหมาะสมและน้ำเปล่าทุกวัน....
    ทำความสะอาดมดลูกด้วยสบู่ที่เหมาะสมและน้ำเปล่าทุกวัน. การทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นด้วยวิธีที่ถูกต้องนั้นเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความสมดุลของระดับกรด-ด่าง และยังช่วยป้องกันการติดเชื้อได้อีกด้วย โดยปกติแล้วความเป็นกรด-ด่างจะอยู่ที่ 3.5 - 4.5 ในมาตรฐานระดับความเป็นกรด-ด่าง 0 -14 โดยการรักษาความเป็นกรดด่างนั้น คุณต้องทำดังนี้ [2]
    • ใช้สบู่ทั่วไปที่ไม่มีกลิ่นแทนที่จะใช้ครีมอาบน้ำ ที่สำคัญ อย่านำสบู่ถูเข้าไปในจุดซ่อนเร้นเป็นอันขาด
    • ผลิตภัณฑ์บางชนิด (เช่น ครีมอาบน้ำ) มีระดับความเป็นกรดด่างอยู่ที่ 8 ซึ่งห่างจากระดับปกติที่จุดซ่อนเร้นควรจะเป็น จึงอาจทำให้เกิดอาการคัน ระคายเคือง และมีกลิ่นได้
    • สบู่ทั่วไปนั้นยังมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ (ที่ทำเพื่อให้เกิดกลิ่นหอม) น้อยมากเมื่อเทียบกับครีมอาบน้ำ
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นบริเวณภายนอก.
    ส่วนนอกของจุดซ่อนเร้น เช่น แคมเล็ก แคมใหญ่ (ส่วนที่ปกคลุมแคมเล็กเอาไว้) ควรจะทำความสะอาดด้วยสบู่และน้ำเปล่าทุกๆ วัน[3]
    • ทำความสะอาดอย่างน้อยวันละหนึ่งครั้งเพื่อขจัดคราบเหงื่อ คราบปัสสาวะ และสารคัดหลั่งที่สะสมระหว่างวัน
    • ใช้ผ้าสะอาดและมือเปล่าในขณะทำความสะอาด
  3. How.com.vn ไท: Step 3 หลีกเลี่ยงการใช้ใยบวบและการทำความสะอาดบ่อยเกินไป....
    หลีกเลี่ยงการใช้ใยบวบและการทำความสะอาดบ่อยเกินไป. ผ้าที่แข็ง เป็นขุย และใยบวบนั้นจะทำให้เกิดการถลอกและทำให้ติดเชื้อได้ หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งเหล่านี้ แล้วใช้ผ้านุ่มๆ หรือมือเปล่าแทน [4]
    • นอกจากนี้ อย่าทำความสะอาดมากกว่า 1 ครั้งต่อวัน การทำความสะอาดมากเกินไปจะรบกวนการสร้างสมดุลความเป็นกรด-ด่าง และทำให้เกิดอาการแห้งด้วย [5]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 หลีกเลี่ยงการฉีดล้าง.
    การฉีดน้ำเข้าไปในจุดซ่อนเร้นนั้นจะไปทำลายแบคทีเรียที่เกิดตามธรรมชาติและการคัดหลั่ง คุณควรหลีกเลี่ยงการฉีดล้างด้วยเหตุผลดังนี้ [6]
    • การฉีดล้างจะไปรบกวนระดับความเป็นกรด-ด่าง และยังลดความเป็นกรดในจุดซ่อนเร้น ซึ่งจะทำให้ไวต่อการติดเชื้อมากยิ่งขึ้น
    • การฉีดล้างจะช่วยกลบกลิ่นเพียงชั่วคราวแทนที่จะรักษากลิ่นให้หายไป ถ้าจุดซ่อนเร้นของคุณมีกลิ่นที่รุนแรง ให้ปรึกษาแพทย์แทนที่จะฉีดน้ำล้าง
  5. How.com.vn ไท: Step 5 หลีกเลี่ยงสารดับกลิ่น น้ำหอม และผลิตภัณฑ์สำหรับผู้หญิง....
    หลีกเลี่ยงสารดับกลิ่น น้ำหอม และผลิตภัณฑ์สำหรับผู้หญิง. ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีส่วนผสมของน้ำหอมซึ่งจะไปรบกวนสมดุลของระดับความเป็นกรด-ด่างของจุดซ่อนเร้น และยังทำให้เกิดความระคายเคืองอีกด้วย
    • ถ้าคุณกังวลกับกลิ่นของจุดซ้อนเร้น แนะนำให้ไปปรึกษาแพทย์จะดีที่สุด
    • กลิ่นบริเวณจุดซ่อนเร้นนั้นจะเปลี่ยนไปตามเวลาของการเกิดประจำเดือน ดังนั้น อย่าคิดว่าการเกิดกลิ่นเหม็นจะเป็นสัญญานของการติดเชื้อหรือเจ็บป่วยเสมอไป [7]
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

เสริมสร้างความสะอาดของจุดซ่อนเร้นด้วยวิถีการใช้ชีวิต

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ทานอาหารเพื่อสุขภาพ.
    กุญแจสำคัญในการรักษาสุขภาพของจุดซ่อนเร้นก็คือสารอาหารและการทานอาหารที่สมดุลเช่นเดียวกับการรักษาความสะอาด ให้เพิ่มอาหารดังต่อไปนี้เพื่อเสริมสร้างความสะอาดของจุดซ่อนเร้นของคุณ [8]
    • น้ำแครนเบอร์รี่สามารถช่วยป้องกันเชื้อราได้ [9]
    • โยเกิร์ตจะช่วยรักษาสมดุลความเป็นกรด-ด่าง [10]
    • ผลิตภัณฑ์ถั่วเหลืองช่วยรักษาอาการแห้งและทำให้จุดซ่อนเร้นชุ่มชื้นอยู่เสมอ [11]
    • ถั่วและแป้งมีวิตามินอีที่ช่วยป้องกันอาการแห้งและยังทำให้ผิวหนังมีสุขภาพดี [12]
    • น้ำจะช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ยังเป็นสิ่งที่สำคัญต่อสุขภาพของเยื่อบุต่างๆ ในร่างกาย เช่น บริเวณจุดซ่อนเร้น โดยเยื่อบุเหล่านี้จะต้องการความชุ่มชื้นและต้องได้รับน้ำอย่างเพียงพอ
    • ดื่มน้ำ 8 แก้วต่อวันจะช่วยเสริมสร้างสารหล่อลื่นและช่วยลดกลิ่นบริเวณจุดซ่อนเร้นได้ [13]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ฝึกการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย.
    การฝึกมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยจะช่วยลดการเกิดแบคทีเรียก่อโรคและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างสุขภาพของจุดซ่อนเร้นได้อีกด้วย[14]
    • ใช้ถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์เสมอ โดยเฉพาะถ้าคุณไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบรักเดียวใจเดียว
    • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเปลี่ยนถุงยางอนามัยในขณะที่เปลี่ยนลักษณะการมีเพศสัมพันธ์ เช่นเปลี่ยนจากเพศสัมพันธ์ทางปากเป็นเพศสัมพันธ์แบบสอดใส่ การทำแบบนี้จะช่วยป้องกันแบคทีเรียที่ก่อโรคไม่ให้เข้าไปในจุดซ่อนเร้นของคุณได้
    • ใช้สารหล่อลื่นขณะมีเพศสัมพันธ์ สารหล่อลื่นจะช่วยป้องกันผิวหนังบริเวณจุดซ่อนเร้นจากการระคายเคือง
    • สารหล่อลื่นที่หลั่งออกมาจากธรรมชาตินั้นบางครั้งก็ไม่เพียงพอ การใช้สารหล่อลื่นเทียมจะช่วยไม่ให้เกิดการฉีกขาดและระคายเคือง
    • หลีกเลี่ยงการใช้เจลปิโตรเลียมหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากน้ำมัน เพราะสารเหล่านี้จะไปทำลายยางของถุงยางอนามัย ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพลดลงและยังทำให้เกิดการติดเชื้อในจุดซ่อนเร้นได้ [15]
    • คุณอาจจะอยากอาบน้ำหลังจากมีเพศสัมพันธ์ เพราะคุณจะสามารถล้างสารคัดหลั่งจากร่างกายและสารตกค้างจากถุงยางอนามัย ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดความระคายเคืองหรือเกิดการติดเชื้อ
  3. How.com.vn ไท: Step 3 เข้ารับการตรวจกับแพทย์เป็นประจำ.
    การเข้ารับการตรวจจากนรีแพทย์อยู่เสมอเป็นสิ่งที่สำคัญในการรักษาสุขภาพของจุดซ่อนเร้นให้ดีอยู่เสมอ
    • ในระหว่างการทดสอบจากนรีแพทย์นั้น แพทย์อาจจะใช้การตรวจแปปสเมียร์ (Pap Smear) ซึ่งจะช่วยวินิจฉัยโรค (เช่น โรคมะเร็ง) หรือโรคที่ส่งผลต่อสุขภาพของจุดซ่อนเร้นและระบบสืบพันธ์ [16]
    • เมื่อคุณอายุ 21 ปี นรีแพทย์จะทำการคัดกรองมะเร็งปากมดลูก (Cervical screening) ซึ่งจะใช้สังเกตความเปลี่ยนแปลงในมดลูกและใช้ในการวินิจฉัยโรคมะเร็ง [17]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ใส่เสื้อผ้าที่แห้งและสบาย.
    การรักษาจุดซ่อนเร้นให้แห้งและสะอาดเป็นสิ่งสำคัญในการลดโอกาสการติดเชื้อและควบคุมการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย เนื้อผ้าบางชนิดจะไปเพิ่มความร้อนและความชุ่มชื้นให้กับจุดซ่อนเร้น ดังนั้น ให้หลีกเลี่ยงสิ่งดังต่อไปนี้ [18]
    • ใส่ชุดชั้นในที่ทำมาจากผ้าฝ้ายแทนกางเกงในหนังแบบ thongs
    • หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าที่รัดรูป
    • เปลี่ยนชุดว่ายน้ำที่เปียกและชุดออกกำลังกายที่ชุ่มเหงื่อทันทีหลังจากใช้งานเสร็จแล้ว
  5. How.com.vn ไท: Step 5 เปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับประจำเดือนอยู่เสมอ....
    เปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับประจำเดือนอยู่เสมอ. เมื่อคุณมีประจำเดือน จุดซ่อนเร้นของคุณจะชื้น ดังนั้น การเปลี่ยนผลิตภัณฑ์เป็นประจำจึงเป็นสิ่งสำคัญ ความชื้นและความร้อนที่มากเกินไปจะทำให้ติดเชื้อได้ง่ายขึ้น [19]
    • เปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 2-8 ชั่วโมงในช่วงระหว่างมีประจำเดือน
    • เมื่อคุณไม่มีประจำเดือน ให้หลีกเลี่ยงการใส่ผ้าอนามัยและแผ่นอนามัยเพื่อซับตกขาวจากจุดซ่อนเร้น เพราะจะทำให้เกิดความอับชื้น ซึ่งจะเพิ่มโอกาสการติดเชื้อที่มาจากแบคทีเรียและเชื้อรา ถ้าคุณจำเป็นต้องใช้แผ่นอนามัย ให้คอยเปลี่ยนอยู่เสมอ
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

รักษาการติดเชื้อบริเวณจุดซ่อนเร้น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 วินิจฉัยและรักษาการติดเชื้อรา.
    การติดเชื้อรานั้นเป็นการติดเชื้อบริเวณจุดซ่อนเร้นโดยทั่วไป ซึ่งเกิดจากการเติบโตของเชื้อรา Candida albicans ที่มากเกินไป [20]
    • การเติบโตของเชื้อรา Candida albicans ที่มากเกินไปนั้นมักจะมาจากการใช้ยาปฏิชีวนะ การตั้งครรภ์ โรคเบาหวานที่ไม่ได้รับการควบคุม ระบบภูมิคุ้มกันเสียหาย หรือการเปลี่ยนแปลงของปากมดลูก
    • อาการติดเชื้อรานั้นมีดังนี้ อาการคันและแสบ เกิดอาการเจ็บขณะปัสสาวะ มีอาการตกขาวสีเทาหรือมีสีขาวแต่มีหนืด เจ็บปวดระหว่างมีเพศสัมพันธ์ และแคมเล็กมีสีแดงและบวม [21]
    • การติดเชื้อราสามารถรักษาได้ด้วยการใช้ยาต้านเชื้อรา อาจจะเป็นแบบเม็ดหรือยาเหน็บ ตัวอย่างเช่น ยา Butoconazole (Gynazole-1) Miconazole (Monistat 3) Clotrimazole (Gyne-Lotrimin) และ Terconazole (Terazol 3) [22]
    • ในกรณีที่ติดเชื้อรุนแรง แพทย์อาจจะสั่งยาต้านเชื้อราชนิดรับประทาน เรียกว่า ฟลูโคนาโซล (fluconazole) หรือชื่อทางการค้า Diflucan
    • ลดโอกาสที่จะเกิดการติดเชื้อราด้วยการหลีกเลี่ยงการฉีดน้ำเพื่อทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าที่รัดรูป การใส่กางเกงขาลีบ และเปลี่ยนเสิ้อผ้าที่เปียกให้เร็วที่สุด [23]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 วินิจฉัยและรักษาภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย (Bacterial vaginosis)....
    วินิจฉัยและรักษาภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย (Bacterial vaginosis). ในกรณีนี้เกิดจากการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในช่องคลอดที่มากเกินไป และมักจะเกิดโดยทั่วไปในผู้หญิงอายุระหว่าง 15-44 ปี [24]
    • ภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียนั้นคาดว่าเป็นผลมาจากความไม่สมดุลของปริมาณแบคทีเรียบริเวณจุดซ่อนเร้น การเปลี่ยนคู่นอนใหม่หรือมีคู่นอนหลายคน และการฉีดน้ำทำความสะอาดนั้นจะไปรบกวนสมดุลนี้ ซึ่งจะไปเปลี่ยนแบคทีเรีย “ที่ดี” ไปเป็นแบคทีเรีย “ก่อโรค” [25]
    • ภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียอาจจะไม่มีอาการให้เห็น คุณอาจจะพบว่ามีอาการตกขาวหรือมีสีเทา เจ็บและแสบ หรือมีกลิ่นคาว และอาจจะเกิดอาการคันทั้งภายในและภายนอกช่องคลอด
    • นอกจากนี้ ภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียอาจจะทำให้คุณเกิดความไวต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วย
    • บางครั้งอาการแบบนี้ก็หายได้เองโดยไม่ต้องเข้ารับการรักษา แต่แพทย์อาจจะยังสั่งยาปฏิชีวนะให้คุณต่อไป อย่างไรก็ตาม หนทางที่ดีที่สุดในการป้องกันภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียคือการรักษาความสะอาดบริเวณจุดซ่อนเร้นซึ่งจะช่วยสร้างสมดุลของแบคทีเรียที่ดีต่อร่างกาย [26]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (Sexually transmitted...
    ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (Sexually transmitted diseases, STDs). โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์นั้นเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และปรสิตที่ติดต่อจากคนสู่คนผ่านเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้รับการป้องกัน โดยมีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มากกว่า 20 ชนิด เช่น หนองในเทียม (Chlamydia) โรคหนองในแท้ (Gonorrhea) โรคเริมที่เกิดบริเวณอวัยวะเพศ (Genital herpes) และ โรคช่องคลอดอักเสบจากเชื้อโปรโตซัว (Trichomoniasis) [27]
    • โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หลายชนิดนั้นไม่แสดงอาการ แต่ถ้าคุณเคยมีอาการ เช่น มีกลิ่นเหม็น สารคัดหลั่งมีสีขาว เหลือง ใสและสีเขียว มีอาการคัน และมีอาการเจ็บปวดระหว่างปัสสาวะ [28]
    • แบคทีเรียและปรสิตที่ทำให้เกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์นั้นสามารถรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ ในขณะที่บางชนิดก็ยังไม่สามารถรักษาให้หายได้ เช่น ไวรัสที่ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน (HIV) และโรคเริมที่เกิดบริเวณอวัยวะเพศ แต่ยังสามารถจัดการได้ด้วยการรักษาทางการแพทย์ [29]
    • ถ้าคุณสงสัยว่าจะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ให้ติดต่อกับแพทย์ทันทีและ/หรือนัดเวลาแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจ

เคล็ดลับ

  • ถ้าคุณมีประจำเดือนและมักจะใส่ผ้าอนามัย พยายามอย่านอนหลับขณะที่ใส่ผ้าอนามัย แต่ให้ใช้แผ่นรองแทน

คำเตือน

  • ถ้าคุณมีอาการของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ทั้งที่เกิดเชื้อราและแบคทีเรีย ให้เข้ารับการรักษาทางการแพทย์ทันที เพราะโรคติคต่อทางเพศสัมพันธ์บางชนิดนั้นมีอาการแทรกซ้อนที่รุนแรง

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

  1. ://simpleorganiclife.org/vagina-health/
  2. http://www.everydayhealth.com/womens-health-pictures/hygiene-rules-for-a-healthy-vagina.aspx#03
  3. ://simpleorganiclife.org/vagina-health/
  4. http://www.everydayhealth.com/sexual-health/dr-laura-berman-foods-for-vaginal-health.aspx
  5. http://www.everydayhealth.com/womens-health-pictures/hygiene-rules-for-a-healthy-vagina.aspx# 04
  6. http://www.everydayhealth.com/womens-health-pictures/hygiene-rules-for-a-healthy-vagina.aspx#07
  7. http://www.everydayhealth.com/womens-health-pictures/hygiene-rules-for-a-healthy-vagina.aspx#05
  8. http://www.nhs.uk/Livewell/vagina-health/Pages/keep-vagina-clean.aspx
  9. http://www.everydayhealth.com/womens-health-pictures/hygiene-rules-for-a-healthy-vagina.aspx# 08
  10. http://www.everydayhealth.com/womens-health-pictures/hygiene-rules-for-a-healthy-vagina.aspx# 09
  11. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/yeast-infection/basics/causes/con-20035129
  12. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/yeast-infection/basics/symptoms/con-20035129
  13. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/yeast-infection/basics/treatment/con-20035129
  14. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/yeast-infection/basics/prevention/con-20035129
  15. http://www.cdc.gov/std/bv/stdfact-bacterial-vaginosis.htm
  16. http://www.cdc.gov/std/bv/stdfact-bacterial-vaginosis.htm
  17. http://www.cdc.gov/std/bv/stdfact-bacterial-vaginosis.htm
  18. http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/sexuallytransmitteddiseases.html
  19. http://www.everydayhealth.com/trichomoniasis/
  20. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/sexually-transmitted-diseases-stds/basics/definition/CON-20034128?p=1

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Lacy Windham, MD
ร่วมเขียน โดย:
สูตินรีแพทย์
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Lacy Windham, MD. ดร.วินดั้มเป็นสูตินรีแพทย์ที่มีใบรับรองในเทนเนสซี่ เธอผ่านการฝึกงานจากคณะแพทยศาสตร์อีสเทิร์นเวอร์จิเนียในปี 2010 ที่ซึ่งเธอได้รับรางวัลแพทย์ดีเด่นด้วย บทความนี้ถูกเข้าชม 12,037 ครั้ง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 12,037 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม