วิธีการ ดำเนินชีวิตแบบเปลือยกายในครอบครัว

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

สอนลูกๆ เรื่องการเปลือยกาย

กำหนดขอบเขตและกฎเกณฑ์

พูดคุยถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

การดำเนินชีวิตแบบเปลือยกายในครอบครัวอาจจะเป็นหัวข้อที่พูดกันค่อนข้างลำบากเนื่องจากค่านิยมทางสังคม แต่การที่ครอบครัวสามารถเปลือยกายต่อหน้ากันได้นั้นถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะที่จริงแล้วการทำให้การเปลือยกายเป็นเรื่องธรรมชาติและปกตินั้นจะช่วยให้ลูกๆ ของคุณมีทัศนคติในเรื่องของภาพลักษณ์ร่างกายที่ดีและมีภูมิคุ้มกันในเรื่องของการเดตอย่างปลอดภัยเมื่อพวกเขาโตขึ้น อย่างไรก็ตามคุณก็ต้องดำเนินชีวิตแบบนักเปลือยกายกันในครอบครัวอย่างปลอดภัยด้วย ซึ่งคุณสามารถทำได้โดยการสอนลูกๆ เกี่ยวกับการเปลือยกาย กำหนดกฎเกณฑ์และขอบเขต และพูดคุยถึงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้

ขั้นตอน

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 3:

สอนลูกๆ เรื่องการเปลือยกาย

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   สอนลูกๆ ว่าการเปลือยกายเป็นเรื่องธรรมชาติและไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ. ในสังคมไทยที่เราเติบโตมาอาจจะทำให้คุณมองว่า การเปลือยกายจะต้องเป็นเรื่องเพศ แต่มันก็เป็นสภาวะที่เป็นธรรมชาติที่สุดเช่นเดียวกัน เวลาที่คุณเปลือยกายต่อหน้าลูกๆ ให้ทำเหมือนว่ามันเป็นเรื่องปกติธรรมชาติ สนับสนุนให้ลูกๆ ยอมรับว่าการเปลือยกายก็เป็นเรื่องธรรมดาของการเป็นมนุษย์ มากกว่าจะมองว่ามันเป็นกิจกรรมทางเพศ

   • การเปลือยกายไม่จำเป็นต้องไปกระตุ้นความสนใจในเรื่องเพศเสมอไป ในครอบครัวให้คุณแยกเรื่องเพศกับการเปลือยกายออกจากกันเพื่อให้คุณสามารถใช้ชีวิตแบบเปลือยกายได้อย่างเหมาะสม

   คำเตือน: การเริ่มต้นวิถีชีวิตแบบเปลือยกายในครอบครัวตั้งแต่ลูกยังเล็กนั้นจะดีที่สุด แต่ถ้าลูกๆ ของคุณโตแล้ว คุณก็ควรจะเปลือยกายเวลาที่ลูกๆ ไม่อยู่มากกว่า ยกเว้นว่าพวกเขาจะไม่อึดอัดใจ
2. 
   2
   ดำเนินชีวิตแบบเปลือยกายร่วมกับเพศตรงข้ามอย่างปลอดภัยตั้งแต่เล็กๆ. หนึ่งในความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของการดำเนินชีวิตแบบเปลือยกายในครอบครัวก็คือ การรับมือกับความต่างในเรื่องเพศ ลูกๆ น่าจะมีคำถามมากมาย และบางคนก็อาจจะไม่สบายใจกับการตัดสินใจของคุณ ให้ลูกเห็นการเปลือยกายของเพศตรงข้ามตั้งแต่เล็กๆ สอนเรื่องความแตกต่างระหว่างร่างกายและพฤติกรรมที่ปลอดภัยและเหมาะสม

   • ตอบคำถามทั้งหมดที่ลูกๆ ถามเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างร่างกายของสมาชิกในบ้านแต่ละคน เช่น อวัยวะเพศและขนบนร่างกาย คุณอาจจะพูดว่า "แม่มีขนมากกว่าลูกเพราะว่าแม่เป็นผู้ใหญ่ วันนึงลูกก็จะมีขนตรงนี้เหมือนกันจ้ะ" หรือ "ลูกมีจู๋และน้องสาวของลูกก็มีจิ๋ม เพราะฉะนั้นตรงส่วนนี้ของลูกก็เลยไม่เหมือนกันจ้ะ"
   • อธิบายว่าการสัมผัสแบบไหนที่โอเคและแบบไหนที่ไม่โอเค คุณอาจจะพูดว่า "ลูกจะให้ใครมาสัมผัสลูกในแบบที่ทำให้ลูกอึดอัดไม่ได้ แล้วก็ห้ามให้ใครมาสัมผัสลูกตรงส่วนนั้นด้วยจ้ะ"
   • การที่ลูกๆ เห็นพ่อแม่แก้ผ้านั้นไม่ได้เป็นเรื่องเสียหายอะไรถ้าไม่มีอะไรที่ส่อไปในทางเพศ หรือถ้าลูกๆ เองก็ไม่ได้อึดอัดใจอะไร
3. 
   3
   เป็นแบบอย่างของการมีทัศนคติที่ดีต่อภาพลักษณ์ร่างกายขณะเปลือยกาย. หนึ่งในประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของการดำเนินชีวิตแบบเปลือยกายในครอบครัวก็คือ การปลูกฝังทัศนคติที่ดีต่อภาพลักษณ์ร่างกายให้แก่ลูกๆ เวลาที่คุณเปลือยกายต่อหน้าลูกๆ ก็แสดงออกให้พวกเขาเห็นว่า คุณพอใจและภูมิใจกับร่างกายของตัวเอง นอกจากนี้ก็อย่าวิพากษ์วิจารณ์รูปร่างตัวเองต่อหน้าลูกๆ ด้วย

   • แทนที่จะพูดว่า “แม่อยากให้หน้าท้องหายไปจังเลย” ให้เปลี่ยนไปพูดว่า “แม่ดีใจจังที่ร่างกายของแม่นำพาลูกมาสู่โลกใบนี้ได้”
4. 
   4
   อย่าแสดงออกในเรื่องเพศเวลาอยู่กันเป็นครอบครัว. แม้ว่าเรื่องเพศจะเป็นเรื่องปกติและสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ แต่คุณก็ควรแสดงออกในเรื่องเพศเฉพาะเวลาที่คุณอยู่ในพื้นที่ส่วนตัวเท่านั้น ไม่อย่างนั้นลูกๆ จะสับสนว่าอะไรทำได้อะไรทำไม่ได้ ถ้าคุณมีอารมณ์ทางเพศ ให้เอาผ้ามาคลุมหรือขอตัวไปอีกห้อง และอย่าสัมผัสกันทางเพศกับคนรักต่อหน้าลูกๆ

   • เช่น อย่าบีบหน้าอกหรือสัมผัสอวัยวะเพศของคนรักเวลาที่ลูกๆ มองอยู่ มันจะทำให้ลูกๆ คิดว่า พวกเขาก็ควรทำแบบนี้เหมือนกันเพราะว่าคุณแสดงพฤติกรรมให้เห็นเป็นตัวอย่าง
5. 
   5
   อธิบายให้ลูกๆ ฟังว่า แต่ละขนบทางวัฒนธรรมมีความเห็นต่อการเปลือยกายไม่เหมือนกัน. แต่ละวัฒนธรรมจะมีค่านิยมของการเปลือยการที่แตกต่างกัน เช่น คนยุโรปจะเปิดใจกับการเปลือยกายในครอบครัวหรือในที่สาธารณะมากกว่า ในขณะที่วัฒนธรรมอื่นๆ จะเหนียมอายกับเรื่องนี้ ซึ่งการมีค่านิยมทางวัฒนธรรมที่แตกต่างกันหรือการตั้งคำถามเกี่ยวกับค่านิยมในพื้นที่ที่คุณอาศัยอยู่นั้นไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไร แต่คุณก็ต้องพูดคุยกับลูกๆ เพื่อให้พวกเขารู้ว่า การดำเนินชีวิตของพวกเขากับสิ่งที่เพื่อนๆ ของพวกเขาคิดนั้นแตกต่างกันอย่างไร

   • คุณอาจจะพูดว่า “ในครอบครัวของเรา เราอยากจะใกล้ชิดกับธรรมชาติและเราก็ชื่นชมร่างกายของเรา ก็คือเราสามารถแก้ผ้าต่อหน้ากันและกันในครอบครัวได้ แต่เพื่อนของลูกบางคนอาจจะคิดว่ามันไม่โอเค เพราะว่าเขามีค่านิยมในครอบครัวที่ไม่เหมือนกันกับเราจ้ะ”

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 3:

กำหนดขอบเขตและกฎเกณฑ์

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   รักษาความสะอาดและสุขอนามัยเวลาเปลือยกาย. เวลาที่คุณเปลือยกาย คุณจะต้องใส่ใจสุขอนามัยของคนในครอบครัวมากเป็นพิเศษ เพราะคนในครอบครัวอาจจะบังเอิญแพร่กระจายอุจจาระ ของเหลวจากอวัยวะเพศ หรือประจำเดือนลงบนเฟอร์นิเจอร์หรือพื้นได้ คุณต้องคอยดูแลให้คนในครอบครัวอาบน้ำบ่อยๆ บอกให้ทุกคนรักษาความสะอาดของร่างกายหลังจากใช้ห้องน้ำ นอกจากนี้คุณก็อาจจะนั่งทับผ้าขนหนูอีกทีเวลาที่นั่งบนเฟอร์นิเจอร์ด้วย

   • การใช้ทิชชูเปียกหลังเข้าห้องน้ำอาจช่วยให้บริเวณอวัยวะเพศและก้นสะอาดขึ้น
2. 
   2
   ให้แต่ละคนในครอบครัวตัดสินใจว่าอะไรที่สบายใจสำหรับพวกเขา. คุณอาจจะอยากดำเนินชีวิตแบบเปลือยกายทั้งครอบครัวเพราะคุณคิดว่ามันมีประโยชน์ แต่ก็เป็นไปได้ว่าคนในครอบครัวอาจจะไม่ได้รู้สึกเหมือนกันกับคุณ ให้คนรัก ลูกๆ และสมาชิกในบ้านคนอื่นๆ ได้ตัดสินใจว่าอะไรที่สบายใจสำหรับเขา จากนั้นคุณค่อยให้ความร่วมมือกันในครอบครัวเพื่อเคารพความต้องการของแต่ละคน

   • เช่น คนรักของคุณอาจจะโอเคกับการใส่ชุดชั้นในแต่ไม่สบายใจกับการเปลือยกายล่อนจ้อน เช่นเดียวกันกับที่ลูกๆ อาจจะรู้สึกสบายใจที่จะเปลือยกายต่อหน้าคนในครอบครัวที่เป็นเพศเดียวกันเท่านั้น
3. 
   3
   เคารพขอบเขตที่สมาชิกในครอบครัวตั้งไว้ในเรื่องของการเปลือยกาย. หลังจากที่คุณรู้แล้วว่าแต่ละคนสบายใจกับอะไร ก็ให้พูดคุยกับถึงขอบเขตที่คุณจะกำหนดขึ้นมาร่วมกัน เมื่อลูกๆ โตขึ้นก็ให้ย้อนกลับไปดูขอบเขตเหล่านั้นอีกครั้งว่ามันยังสอดคล้องกับความรู้สึกในปัจจุบันของพวกเขาอยู่หรือเปล่า

   • เช่น ถ้าลูกบอกว่าเขาไม่อยากให้คุณเปลือยกายต่อหน้าเขา เวลาที่คุณอยู่กับเขาก็ให้ใส่เสื้อผ้า เช่นเดียวกันคือลูกอาจจะไม่อยากอาบน้ำกับสมาชิกในบ้านคนอื่นๆ ซึ่งก็ไม่เป็นไร
4. 
   4
   ตั้งกฎเกณฑ์ว่าช่วงเวลาไหนที่เหมาะสมที่จะเปลือยกายได้. แม้ว่าการเปลือยกายจะไม่ใช่เรื่องผิด แต่มันก็ไม่ได้เหมาะสมกับทุกสถานการณ์ แม้ว่าผู้ใหญ่ในครอบครัวจะสามารถแยกแยะได้ง่ายๆ ว่าเมื่อไหร่ที่จำเป็นต้องใส่เสื้อผ้า แต่เด็กๆ อาจจะแยกแยะไม่ออกว่าพวกเขาจะเปลือยกายได้ที่ไหนและเมื่อไหร่บ้าง พูดคุยกับลูกๆ ถึงความสำคัญของการใส่เสื้อผ้าในที่สาธารณะและช่วยพวกเขาตั้งกฎเกณฑ์ขึ้นมา กฎที่คุณอาจจะนำไปพิจารณาก็เช่น :

   • ลูกสามารถเปลือยกายได้ที่บ้านและในสถานที่ที่เป็นส่วนตัว
   • ถ้ามีแขกมาต้องใส่เสื้อผ้า
   • ต้องใส่เสื้อผ้าไปโรงเรียนหรือไปทำงาน
   • ต้องใส่เสื้อผ้าในที่สาธารณะทุกแห่ง

วิธีการ 3

วิธีการ 3 ของ 3:

พูดคุยถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   พูดคุยถึงความแตกต่างของร่างกายในเชิงบวกและเป็นวิชาการ. ลูกๆ จะสังเกตถึงความแตกต่างของร่างกายแต่ละคน ซึ่งได้แก่อวัยวะเพศที่แตกต่างกัน ปริมาณขนตามร่างกายที่แตกต่างกัน และไขมันในร่างกาย ตอบคำถามลูกๆ เกี่ยวกับร่างกายของสมาชิกแต่ละคน รักษาทัศนคติที่เป็นบวกและพยายามช่วยให้พวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับร่างกายของมนุษย์มากขึ้น

   • เช่น พวกเขาอาจจะถามว่า “ทำไมแม่ถึงไม่มีจู๋ล่ะครับ” คุณก็อาจจะตอบกลับไปว่า “เพราะว่าบางคนเกิดมามีจู๋ แต่บางคนก็เกิดมามีจิ๋มจ้ะ”
   • นอกจากนี้พวกเขาก็อาจจะถามว่า “ทำไมพุงแม่นิ่มจัง” คุณก็อาจจะบอกว่า “บางคนก็พุงนิ่ม บางคนก็พุงแข็ง แต่ก็สวยทั้งสองแบบจ้ะ”
2. 
   2
   ช่วยให้ลูกๆ ได้เรียนรู้ที่จะตอบคำถามเกี่ยวกับการเปลือยกาย. แม้ว่าการเปลือยกายจะเป็นวีถีชีวิตที่เหมาะกับครอบครัวของคุณ แต่บางคนก็อาจจะสับสนได้ หมายความว่าลูกๆ จะเริ่มได้รับคำถามเรื่องนี้เมื่อพวกเขาโตขึ้น พูดคุยกับลูกๆ ว่าพวกเขาจะตอบคำถามเหล่านี้ได้อย่างไร วิธีนี้จะช่วยให้ลูกอธิบายค่านิยมของคุณในแบบที่คนอื่นเองก็เข้าใจได้

   • เช่น เพื่อนอาจจะถามว่า “ไม่ผิดเหรอที่จะแก้ผ้าต่อหน้าพ่อแม่” ลูกของคุณก็อาจจะตอบว่า “ในครอบครัวของเรา เรามองว่าการเปลือยกายเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกสำหรับเรา เราไม่ได้รู้สึกด้วยซ้ำว่าตัวเองแก้ผ้าอยู่”
3. 
   3
   พูดคุยกับลูกอย่างมีสติหากลูกแสดงพฤติกรรมทางเพศออกมา. เป็นเรื่องปกติมากๆ ที่ลูกๆ จะสำรวจร่างกายของตัวเอง เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปกังวลถ้าลูกๆ เริ่มจะสัมผัสตัวเอง อย่างไรก็ตามคุณต้องคุยกับลูกว่าอะไรที่สมควรและไม่สมควร ค่อยๆ บอกลูกอย่างให้เกียรติว่า ลูกไม่ควรสัมผัสตัวเองในทางเพศต่อหน้าคนอื่น นอกจากนี้ก็ให้อธิบายด้วยว่า ลูกไม่ควรสัมผัสผู้อื่นในทางเพศเช่นเดียวกัน

   • คุณอาจจะพูดว่า “ก่อนหน้านี้พ่อเห็นลูกถกจู๋ตัวเอง การสัมผัสร่างกายของตัวเองไม่ใช่เรื่องผิด แต่ลูกต้องทำเฉพาะเวลาที่ลูกอยู่คนเดียวเท่านั้นนะ”
   • อย่าแสดงความไม่พอใจหรือตัดสิน เพราะมันอาจจะทำให้ลูกคิดว่า เรื่องเพศเป็นสิ่งที่ผิด

   เคล็ดลับ: ถ้าลูกยังแสดงพฤติกรรมทางเพศอย่างต่อเนื่อง ควรพาลูกไปพบแพทย์จะดีที่สุด เพราะแม้ว่าการสำรวจร่างกายของตัวเองจะเป็นเรื่องปกติสำหรับเด็กๆ แต่บางครั้งเด็กๆ ก็แสดงพฤติกรรมทางเพศเพราะว่าเขาได้สัมผัสกับสถานการณ์ทางเพศที่ไม่เหมาะสมมาก่อน
4. 
   4
   สอนลูกว่าการสัมผัสแบบไหนที่เหมาะสมและไม่เหมาะสม. การเปลือยกายสอนให้เด็กพอใจกับร่างกายของตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากๆ! แต่พวกเขาก็ต้องเรียนรู้ว่าเขาไม่ควรให้ผู้ใหญ่หรือเด็กคนอื่นๆ มาสัมผัสของลับของเขา สอนชื่อเรียกอวัยวะต่างๆ ให้ลูกๆ จากนั้นก็อธิบายว่าคนอื่นจะมาสัมผัสพวกเขาไม่ได้ และพวกเขาต้องบอกคุณทันทีหากมีเรื่องนี้เกิดขึ้น

   • คุณอาจจะพูดว่า “ร่างกายของลูกเป็นของลูก เพราะฉะนั้นคนอื่นจะมาสัมผัสลูกตรงนั้นไม่ได้ ถ้ามีใครสัมผัสลูกตรงนั้น ให้บอกพ่อทันที พ่อจะได้แน่ใจได้ว่าลูกปลอดภัย”

   เคล็ดลับ: คุณอาจจะอธิบายว่า บางครั้งคุณหรือหมออาจจะสัมผัสของลับของเขาเพื่อจุดประสงค์ในการรักษา แต่ต้องอธิบายด้วยว่าการสัมผัสในลักษณะนี้จะต้องไม่เป็นความลับ บอกลูกว่า “บางครั้งลูกก็อาจจะให้พ่อ/แม่หรือหมอสัมผัสลูกตรงนั้นได้ ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น อย่ากลัวที่จะบอกแม่หรือผู้ใหญ่คนอื่นๆ ที่ไว้ใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะการสัมผัสในทางที่ดีจะต้องไม่เป็นความลับจ้ะ”
5. 
   5
   อย่าให้ลูกเห็นสื่อลามก. แม้ว่าการดำเนินชีวิตแบบเปลือยกายในครอบครัวจะเป็นสิ่งที่ทำได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าลูกควรเห็นคนอื่นเปลือยกาย อย่าเอาภาพลามกให้ลูกดูเด็ดขาดไม่ว่าจะในสถานการณ์ใดก็ตาม เพราะมันอาจจะทำให้ลูกสับสนได้ว่า อะไรที่เป็นธรรมชาติและอะไรที่ไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งอาจจะทำให้ลูกทดลองพฤติกรรมทางเพศที่ไม่สมควรก่อนถึงเวลา ถ้าคุณมีสื่อเหล่านี้ ให้เก็บไว้ในที่ซ่อนที่ปลอดภัย

   • เช่น การเห็นภาพถ่ายที่เป็นการโพสท่าลามกอาจทำให้ลูกแยกระหว่างการเปลือยกายในครอบครัวกับการเปลือยกายในทางเพศไม่ออก

เคล็ดลับ

• การเปลือยกายในครอบครัวไม่ได้เป็นอันตรายกับเด็ก ตราบใดที่แต่ละคนเคารพในขอบเขตของกันและกัน อันที่จริงแล้วการเปลือยกายเป็นการปลูกฝังทัศนคติที่ดีต่อภาพลักษณ์ร่างกายและการตัดสินใจในเรื่องของการออกเดตได้เป็นอย่างดีเมื่อพวกเขาโตขึ้น
• เมื่อถึงวัยเจริญพันธุ์ลูกก็อาจจะเริ่มรู้สึกเหนียมอายมากขึ้น ในระหว่างนี้เขาก็อาจจะปกปิดร่างกายของตัวเอง ซึ่งคุณก็ควรทำตามเขา

คำเตือน

• ระมัดระวังเวลาพูดคุยเรื่องการเปลือยกายในครอบครัวกับคนอื่น เพราะพวกเขาอาจจะไม่เข้าใจค่านิยมของคุณ พวกเขาอาจจะเข้าใจความสบายใจที่ได้จากเปลือยกายว่าเป็นเรื่องธรรมชาติและไม่ใช่เรื่องเพศผิดไป
• พอลูกๆ เข้าโรงเรียน ลูกก็อาจจะดำเนินชีวิตแบบเปลือยกายในครอบครัวได้ยากขึ้นเพราะว่ามันไม่ได้เป็นที่ยอมรับในวงกว้าง พูดคุยและเคารพความต้องการของลูกในเรื่องของการเปลือยกาย