บทความนี้ร่วมเขียนโดย Jaden Zhao หนึ่งในผู้ร่วมเขียนบทความของเรา ผู้ร่วมเขียนบทความของเราจะทำงานร่วมกับบรรณาธิการอย่างใกล้ชิด เพื่อความมั่นใจว่าบทความนั้นถูกต้องและมีเนื้อหาครอบคลุมมากที่สุด
บทความนี้ถูกเข้าชม 34,624 ครั้ง
การชงกาแฟดำที่ยอดเยี่ยมสักถ้วยหนึ่งนั้นเป็นศิลปะ อย่างไรก็ตามคุณอาจจะได้รับรสชาติโดยการดื่มแบบไม่ใส่น้ำตาล นม หรือครีม เพราะว่าผู้ชงจะให้ความสำคัญกับรสชาติเข้มข้นของเมล็ดกาแฟคั่วสด โดยทั่วไปจะชงกาแฟดำในหม้อ แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟสมัยใหม่อาจจะยืนยืนให้ใช้วิธีดริปเพื่อคงรสชาติที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ขั้นตอน
- ซื้อเมล็ดกาแฟคั่วสดแบบเต็มเมล็ด. ถ้าคุณไม่สามารถซื้อได้จากโรงคั่วโดยตรงภายในประมาณ 1 สัปดาห์หลังคั่วเสร็จ ก็ให้เลือกซื้อแบบถุงปิดผนึกสุญญากาศจากโรงคั่วกาแฟที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ
- ซื้อเครื่องบดกาแฟของคุณเอง หรือบดที่ร้าน. ถ้าเป็นไปได้ให้เลือกเครื่องบดแบบเฟืองแทนเครื่องบดแบบใบมีดธรรมดา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดให้บดกาแฟใหม่ก่อนชงทันทีในแต่ละวัน
- ทดลองขนาดของกาแฟบดที่แตกต่างกันไป ถึงแม้ว่ากาแฟบดที่ละเอียดกว่าจะเป็นที่นิยมโดยทั่วไป แต่ก็อาจจะได้รสชาติขมกว่าแบบบดหยาบ
- หลายคนแนะนำให้คุณมุ่งไปที่เมล็ดบดขนาดเท่าน้ำตาลบดหยาบ
- ใช้น้ำที่ดี. ถ้าคุณชอบน้ำที่มีรสชาติแบบน้ำประปาก็มีแนวโน้มว่าจะชงกาแฟได้ดี ไม่ควรใช้น้ำอ่อนหรือน้ำกลั่น แต่น้ำที่กรองด้วยคาร์บอนสามารถลดรสชาติของเคมีของน้ำประปาได้
- แร่ธาตุในน้ำมีความสำคัญต่อกระบวนการชง
- ซื้อกาต้มน้ำ กรวย และกระดาษกรองที่ไม่ฟอกสีสำหรับการชงแบบดริป. ผู้ที่ชื่นชอบกาแฟส่วนใหญ่เชื่อว่าวิธีการชงแบบดริปถ้วยเดียวจะได้กาแฟดำที่ดีที่สุดและเข้มข้นที่สุด
- วางกรวยไว้บนถ้วยที่ใหญ่พอที่จะใส่กาแฟทั้งหมดของคุณได้. ใส่กาแฟบดประมาณ 3 ช้อนโต๊ะลงในกระดาษกรองก่อนคุณพร้อมที่จะชงทันที
- ผู้ชงกาแฟที่จริงจังจะเน้นที่น้ำหนักของเมล็ดกาแฟมากกว่าปริมาณ ถ้าคุณชอบวิธีนี้ ให้ใช้ 60-70 กรัม ต่อน้ำ 1 ลิตร (4 ถ้วย) ปรับตามขนาดถ้วยกาแฟของคุณ[1]
- ต้มน้ำใส่กา. รอให้เย็นลงเป็นเวลา 30 วินาทีถึง 1 นาที หรือหยุดต้มก่อนที่จะเดือด อุณหภูมิที่เหมาะสำหรับชงกาแฟคือ 93 องศาเซลเซียส
- โดยทั่วไปแล้ว ยิ่งเมล็ดคั่วสีเข้มมากเท่าไร น้ำก็ควรจะร้อนน้อยลงเท่านั้น สำหรับเมล็ดคั่วสีอ่อน ให้ใช้อุณหภูมิสูงถึง 97 องศาเซลเซียส สำหรับเมล็ดคั่วที่สีเข้มกว่าให้ใช้อุณหภูมิประมาณ 90.5 องศาเซลเซียส
- ตั้งเวลา 4 นาที. เทน้ำบนกาแฟครั้งแรกโดยใช้น้ำประมาณ 60 มิลลิลิตร รอประมาณ 30 วินาทีแล้วเทอีกครั้ง ทำซ้ำจนกว่าจะครบเวลา 4 นาทีและน้ำหมด[2]โฆษณา
- ซื้อเมล็ดกาแฟคั่วสดแบบเต็มเมล็ดในปริมาณน้อยๆ . เมล็ดกาแฟที่สัมผัสกับอากาศหรือแสงแดดจะเหม็นหืน
- ซื้อกระดาษกรองกาแฟแบบไม่ฟอกสีที่พอดีกับเครื่องชงกาแฟของคุณ. ถ้าคุณสงสัยว่าไม่ได้ทำความสะอาดเครื่องชงกาแฟของคุณมาสักพักแล้ว ให้ใช้เวลาทำความสะอาดเสียหน่อยเพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด เปิดใช้งานในโหมดทำความสะอาด (หรือโหมดชงแบบธรรมดา) โดยใช้ส่วนผสมของน้ำส้มสายชูกลั่นครึ่งหนึ่งและน้ำครึ่งหนึ่ง[5]
- ตามด้วยการเปิดชงด้วยน้ำอีก 2 ครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าน้ำส้มสายชูที่ตกค้างอยู่ได้ถูกกำจัดออกจนหมดเกลี้ยง
- สำหรับบริเวณที่มีน้ำกระด้าง ให้ใส่น้ำส้มสายชูลงไปในน้ำในปริมาณมากขึ้น ทำความสะอาดซ้ำทุกเดือน
- บดเมล็ดกาแฟด้วยเครื่องบดแบบเฟืองหรือแบบใบมีดก่อนชงเป็นรายวัน. เครื่องบดแบบเฟืองจะบดได้ละเอียดที่สุด แต่พวกมันมีราคาแพงกว่าเครื่องบดแบบใบมีดขนาดเล็ก ถ้าคุณใช้เครื่องบดแบบใบมีด ให้เขย่าหลายๆ ครั้งในระหว่างการบดเพื่อให้เมล็ดบดได้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้น
- ลองใช้กาแฟบดขนาดต่างๆ ยิ่งเมล็ดกาแฟบดละเอียดมากขึ้นเท่าไร คุณจะยิ่งได้รสชาติมากขึ้นเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามพวกมันอาจจะทำให้กาแฟที่ชงออกมาเกิดรสขมมากขึ้น
- ใช้กาแฟประมาณ 2 ¾ ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 235 มิลลิลิตร. เมื่อเวลาผ่านไปคุณจะเห็นว่าจะต้องใช้เมล็ดกาแฟกี่ช้อนเพื่อให้ได้เมล็ดคั่วบดในปริมาณเท่านี้ ปรับปริมาณตามความต้องการของคุณ[6]
- เลือกปิดปุ่มอุ่นอัตโนมัติในกาของคุณ. เครื่องชงกาแฟส่วนใหญ่ได้รับการตั้งโปรแกรมให้ชงที่อุณหภูมิ 93 องศาเซลเซียส แต่ปุ่มอุ่นสามารถทำให้กาแฟเดือดและทำให้รสชาติขมกว่าเดิม เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดให้ดื่มกาแฟดำที่ชงใหม่ๆ ทันที
- เสร็จแล้ว.โฆษณา
เคล็ดลับ
- ซื้อเมล็ดกาแฟสำหรับใช้ 5-7 วันในแต่ละครั้ง เก็บที่อุณหภูมิห้องในภาชนะที่ปิดสนิทไม่ให้อากาศเข้าและไม่ให้ถูกแสงแดดโดยตรง อย่าเก็บไว้ในตู้เย็นหรือช่องแช่แข็ง
สิ่งของที่ใช้
- เมล็ดกาแฟคั่วสดแบบเต็มเมล็ด
- ภาชนะเก็บรักษาที่ปิดสนิทไม่ให้อากาศเข้า
- เครื่องบดแบบเฟือง (Burr) หรือแบบใบมีด (Blade)
- กระดาษกรองที่ไม่ฟอกสี
- เครื่องดริป/ เครื่องชงกาแฟ
- ตาชั่ง (ตัวเลือก)
- ช้อนตวง
- น้ำประปาหรือน้ำกรองจากเครื่องกรองคาร์บอน
- น้ำส้มสายชู (สำหรับทำความสะอาด)
- เครื่องจับเวลา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.seriouseats.com/2014/06/make-better-pourover-coffee-how-pourover-works-temperature-timing.html
- ↑ http://www.thenategreenexperience.com/how-to-make-the-perfect-cup-of-coffee/
- ↑ https://blackbearcoffee.com/resources/87
- ↑ http://www.seriouseats.com/2014/06/make-better-pourover-coffee-how-pourover-works-temperature-timing.html
- ↑ http://www.somedayilllearn.com/how-to-make-black-coffee/
- ↑ http://www.eatingwell.com/healthy_cooking/healthy_cooking_101_basics_and_techniques/9_rules_for_how_to_make_a_perfect_cup_of_coffee?page=8
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.