วิธีการ กำจัดผื่นคันที่เกิดจากการใช้ครีมกำจัดขน

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

รักษาโดยเร่งด่วน

บรรเทาอาการเจ็บปวด

ป้องกันไม่ให้อาการแย่ลง

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

การใช้ครีมกำจัดขนเป็นหนึ่งในวิธีการกำจัดขนที่เป็นที่นิยมมากที่สุด เนื่องจากเป็นวิธีที่ง่าย สามารถกำจัดขนตรงบริเวณที่มีดโกนเข้าไม่ถึงได้อย่างง่ายดาย และให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่าวิธีการโกน ครีมกำจัดขนประกอบด้วยสารเคมีที่ทำให้เส้นขนอ่อนตัวลงและหลุดออกจากรากขนอย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตาม สารเคมีเหล่านี้สามารถก่อให้เกิดการระคายเคืองบนผิวหนังและทำให้เกิดผื่นคัน (ผิวหนังอักเสบ) ได้ บทความนี้จะพูดถึงสิ่งที่ควรทำเมื่อผิวของคุณแสดงอาการแพ้ต่อครีมกำจัดขนและวิธีป้องกันการลุกลามของผื่นคันในอนาคต

ขั้นตอน

ส่วน 1

ส่วน 1 ของ 3:

รักษาโดยเร่งด่วน

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   เช็ดครีมออกทันทีเมื่อคุณสังเกตเห็นอาการแพ้. อาการซ่าๆ เล็กน้อยเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นเมื่อใช้ครีมกำจัดขน แต่หากคุณเริ่มรู้สึกแสบร้อนตามผิวหนัง ให้รีบเช็ดครีมออกจนหมดโดยทันที ครีมกำจัดขนบางยี่ห้อจะมาพร้อมกับไม้พายสำหรับปาดครีม ให้ใช้ไม้พายหรือผ้าขนนุ่มปาดครีมที่ทาไว้ออกจนหมด

   • หลีกเลี่ยงการขัดถูแรงจนเกินไปหรือใช้อุปกรณ์ที่สากและหยาบ (เช่นใยขัดตัวหรือถุงมือขัดตัว) เพื่อไม่ให้เกิดการเสียดสีอย่างรุนแรงบนผิวหนังและก่อให้เกิดการระคายเคืองมากขึ้น
2. 
   2
   เปิดน้ำเย็นให้ไหลผ่านตรงบริเวณที่เกิดผื่นคันประมาณ 10 นาที. ยืนใต้ฝักบัวเพื่อให้น้ำไหลผ่านตรงบริเวณที่เกิดผื่นคันอย่างต่อเนื่อง ควรแน่ใจว่าล้างครีมออกจนหมดเกลี้ยงและไม่เหลือคราบตกค้าง

   • หลีกเลี่ยงการใช้สบู่ สบู่เหลว หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทำความสะอาดตรงบริเวณที่เกิดผื่นคันในขณะที่ล้างครีมออก
   • เช็ดเบาๆ ให้แห้งหลังล้างครีมออกจนสะอาด
3. 
   3
   ไปพบแพทย์หากคุณมีอาการเวียนศีรษะ รู้สึกแสบร้อนหรือชาอย่างรุนแรง หรือมีแผลเปิดหรือของเหลวไหลซึมตรงบริเวณรอบๆ รูขุมขน. ผิวหนังของคุณอาจเกิดอาการไหม้จากสารเคมีที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาจากแพทย์

   • หากมีอาการคันเกิดขึ้นตามใบหน้า รอบดวงตา หรือตรงอวัยวะสืบพันธุ์ ควรปรึกษาแพทย์โดยทันที
   โฆษณา

ส่วน 2

ส่วน 2 ของ 3:

บรรเทาอาการเจ็บปวด

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ทามอยเจอร์ไรซิ่งครีมตรงผื่นคัน. มอยเจอร์ไรซิ่งโลชั่นมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก และเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง ผิวของคุณก็จะสูญเสียน้ำมันธรรมชาติและทำให้การระคายเคืองบนผิวหนังมีอาการแย่ลง มองหาครีมหรือขี้ผึ้งที่ไม่ได้ระบุว่าเป็นโซลูชั่นหรือโลชั่นและมีส่วนประกอบของน้ำมันธรรมชาติ

   • ว่านหางจระเข้มีคุณสมบัติในการบรรเทาอาการเจ็บปวดและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังตรงบริเวณที่เกิดผื่นคันเช่นเดียวกับมอยเจอร์ไรซิ่งครีม โดยคุณสามารถเลือกใช้ได้ทั้งเจลว่านหางจระเข้แบบสำเร็จรูปหรือจะตัดใบสดจากต้นมาใช้ก็ได้เช่นกัน
   • ควรแน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้ปราศจากกลิ่น เนื่องจากส่วนผสมเพิ่มเติมอาจทำให้ผื่นคันเกิดการระคายเคืองยิ่งขึ้น
2. 
   2
   ทายาไฮโดรคอร์ติโซนเพื่อลดอาการบวม รอยแดง และอาการคัน. ไฮโดรคอร์ติโซนเป็นยากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ชนิดอ่อนที่มีคุณสมบัติช่วยบรรเทาอาการคันและระคายเคืองเมื่อผื่นคันเริ่มฟื้นฟู อย่างไรก็ตาม ควรใช้ยาไฮโดรคอร์ติโซนเพียงระยะสั้นๆ เท่านั้น เว้นแต่แพทย์จะกำหนดให้ใช้ยาเป็นระยะเวลานานยิ่งขึ้น

   • หยุดใช้ยาทันทีหากอาการระคายเคืองหรือรอยแดงแย่ลงหรือมีสิวเกิดขึ้นตรงบริเวณที่คุณทายาไฮโดรคอร์ติโซน
   • นำผ้าฝ้ายชุบน้ำวางไว้ตรงบริเวณที่ทายาไฮโดรคอร์ติโซนเพื่อช่วยให้ยาซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
3. 
   3
   ทานยาต้านฮิสตามีนเพื่อควบคุมอาการคัน. คุณสามารถหาซื้อยาต้านฮิสตามีนทั้งกลุ่มที่ทำให้ง่วงซึมและไม่ทำให้ง่วงซึมได้ตามร้านขายยาทั่วไป สารฮีสตามีนเป็นสารที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเพื่อป้องกันการติดเชื้อ แต่ในขณะเดียวกันสารชนิดนี้ก็ทำให้เกิดอาการคันตามผิวหนังเช่นกัน (เช่นเดียวกับที่จมูกของคุณมีน้ำมูกไหลเมื่อเกิดปฏิกิริยาการแพ้) ซึ่งการใช้ยาต้านฮีสตามีนจะช่วยระงับอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากสารฮีสตามีนและทำให้อาการคันหายไป

   • หากคุณมีอาการคันจนนอนไม่หลับ ลองทานยาต้านฮีสตามีนกลุ่มที่ทำให้ง่วงซึม (แม้ว่าจะไม่มีการระบุไว้เช่นนั้น แต่อย่างน้อยข้างกล่องของยากลุ่มที่ทำให้ง่วงซึมจะไม่มีการระบุว่า “ไม่ทำให้ง่วงซึม”)
   • เนื่องจากยาต้านฮีสตามีนมีผลข้างเคียงทำให้เกิดอาการเหนื่อยล้า (ในบางครั้งแม้กระทั่งยาต้านฮีสตามีนกลุ่มที่ไม่ทำให้ง่วงซึมก็มีผลข้างเคียงนี้เช่นกัน) คุณจึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาก่อนการขับรถหรือทำกิจกรรมต่างๆ ที่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ
4. 
   4
   ไปพบแพทย์หากผื่นคันยังคงไม่หายดีหลังผ่านไประยะหนึ่งหรือไม่ตอบสนองต่อการรักษา. หากคุณเริ่มสังเกตเห็นอาการข้างเคียงอื่นๆ เช่น ลมพิษหรือไข้สูง หรืออาการของโรคที่เป็นอยู่แย่ลงเรื่อยๆ ควรปรึกษาแพทย์โดยทันที
   โฆษณา

ส่วน 3

ส่วน 3 ของ 3:

ป้องกันไม่ให้อาการแย่ลง

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือการเกาตรงบริเวณที่เกิดผื่นคัน. การสัมผัสหรือการเกาจะทำให้ผิวหนังได้รับบาดเจ็บและเกิดการระคายเคืองยิ่งขึ้นและอาจนำไปสู่การติดเชื้อได้ นอกจากนี้ตามซอกเล็บของคุณอาจมีครีมกำจัดขนบางส่วนติดอยู่โดยที่คุณไม่รู้

   • สวมเสื้อผ้าหลวมๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ถูหรือเสียดสีกับผื่นคันที่อาจก่อให้เกิดแผลจากการเสียดสีได้.
   • หากใช้ผ้าเช็ดครีมกำจัดขนออก อย่าถูแรงจนเกินไปและหลีกเลี่ยงการเช็ดตรงบริเวณเดิมซ้ำๆ
2. 
   2
   ฟอกสบู่อย่างระมัดระวังเมื่ออาบน้ำ. การฟอกสบู่ในขณะอาบน้ำอาจทำให้ผื่นคันมีอาการแย่ลงได้ขึ้นอยู่กับประเภทของสบู่ที่ใช้และความรุนแรงของอาการผื่นคัน ควรเลือกใช้สบู่สูตรอ่อนโยน ปราศจากน้ำหอม และไม่ทำให้เกิดการเสียดสี เช่น Cetaphil และใช้สบู่ให้น้อยที่สุด รวมถึงหลีกเลี่ยงการใช้สบู่ระงับกลิ่นกาย

   • คุณยังสามารถนำข้าวโอ๊ตผสมน้ำอาบที่มีส่วนช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายได้เช่นกัน เพียงเติมข้าวโอ๊ตบดลงไปผสมในน้ำอุ่นในอ่างหรือทำถุงใส่ข้าวโอ๊ตสำหรับแช่ในอ่างน้ำ
3. 
   3
   หลีกเลี่ยงการโกนหรือใช้ครีมซ้ำภายใน 72 ชั่วโมงหลังการใช้ครีมกำจัดขน. ควรทิ้งระยะห่าง 24 ชั่วโมงก่อนเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย น้ำหอม เครื่องสำอาง หรือโลชั่นผิวแทนตรงบริเวณที่ใช้ครีมกำจัดขน เนื่องจากผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะทำให้ผื่นคันลุกลามมากขึ้นและอาจก่อให้เกิดแผลไหม้จากสารเคมีได้

   • รวมถึงทิ้งระยะห่าง 24 ชั่วโมงก่อนเริ่มว่ายน้ำหรืออาบแดด
4. 
   4
   ใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดแทนกระดาษชำระ. เลือกใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดแบบปราศจากกลิ่นที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้แทนการใช้กระดาษชำระหากมีผื่นคันเกิดขึ้นตรงบริเวณบิกินี่
   โฆษณา