บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้
มีการอ้างอิง 15 ข้อที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ
บทความนี้ถูกเข้าชม 7,771 ครั้ง
ถ้าคุณชอบความทนทานของสีเล็บเจล แต่อยากมีสีให้เลือกเยอะๆ เหมือนยาทาเล็บทั่วไป ก็บอกเลยว่าทาด้วยกันได้ ทั้งสีเจลและยาทาเล็บธรรมดาเลย ขอแค่ใจเย็น ค่อยๆ ทา อย่ารีบ! ถ้าจะทายาทาเล็บสองแบบควบคู่กันไป แนะนำให้ทายาทาเล็บธรรมดาก่อน แล้วเคลือบ topcoat สีเจล หลังยาทาเล็บแห้ง ถ้าอยากให้สีเล็บอยู่นานๆ ก็ใช้เทคนิค “แซนวิชเจลลี่” ซะเลย โดยทายาทาเล็บธรรมดาตรงกลาง ระหว่างสีเจล 2 ชั้น
ขั้นตอน
- ทายาทาเล็บธรรมดาไปตามปกติ. ทายาทาเล็บสีที่ชอบไปตามปกติ ยาทาเล็บจะติดเล็บดีขึ้น ถ้าขัดและล้างเล็บก่อน หรือจะเตรียมหน้าเล็บโดยทาน้ำยารองพื้น (base coat) ธรรมดา (ไม่ใช่สีเจล) ก็ได้[1]
- ถ้าอยากได้สีทึบหรือสีสดชัด ต้องทาซ้ำหลายชั้น แต่ระวังอย่าให้ดูหนาไป ไม่งั้นทาสีเจลเคลือบเล็บ (topcoat) แล้วจะไม่ค่อยทน
- ทายาทาเล็บไปให้สุดปลายเล็บ แต่ไม่ต้องเคลือบปลายเล็บด้านหน้า
- รอจนยาทาเล็บแห้งสนิท. เป็นขั้นตอนสำคัญ ถ้าอยากทาทั้งยาทาเล็บธรรมดาและสีเจลให้ออกมาดี! ก่อนจะลง topcoat เจล ต้องพักเล็บหลายชั่วโมง จนยาทาเล็บแห้งสนิท ย้ำว่าต้องแห้งสนิทจริงๆ ค่อยลงมือตามขั้นตอนต่อไป[2]
- ปกติยาทาเล็บจะแห้งสนิทใน 4 - 6 ชั่วโมง แต่จริงๆ แล้วถ้าทิ้งไว้จนครบ 24 ชั่วโมงได้ยิ่งดี
- ถ้าทายาทาเล็บหลายชั้นหน่อย ก็ยิ่งแห้งช้ากว่าเดิม
- ถ้าไม่ทิ้งยาทาเล็บไว้จนแห้งสนิท ตัว topcoat ที่เคลือบไปจะลอกได้ ทำให้ยาทาเล็บย่นหรือแตกลอกอยู่ใต้สีเจล topcoat หลังอบ[3]
- อบ topcoat ด้วยเครื่อง LED หรือ UV. เอามือใส่ในเครื่องอบเล็บ LED หรือ UV เพื่อให้สีเจลแห้ง ส่วนจะอบเล็บในเครื่องนานเท่าไหร่ ก็ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่แนะนำของเครื่องรุ่นนั้นๆ[6]
- ปกติที่ขวดน้ำยา topcoat จะมีระยะเวลาที่ใช้ในการอบเล็บบอกไว้ แต่ส่วนใหญ่จะใช้เวลาอบเล็บประมาณ 30 วินาที ถ้าเป็นเครื่อง LED หรือ 2 นาที สำหรับเครื่อง UV[8]
- เดี๋ยวนี้ไม่ต้องไปถึงร้านทำเล็บ ก็หาซื้อเครื่องอบเล็บเจลได้ทั้งในเน็ต ตามห้าง และร้านขายอุปกรณ์เสริมความงาม
คำเตือน: การใช้เครื่องอบเล็บ UV หรือ LED จะทำให้ผิวได้รับรังสี UV ในปริมาณมากได้ ถ้าทำบ่อยเกินไป ผิวก็เสียได้ ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ทำเล็บเจลบ่อยๆ ต้องทาครีมกันแดดแบบ broad-spectrum มีค่า SPF สูงๆ หรือสวมถุงมือทำเล็บแบบกัน UV[7]
- ใช้แผ่นแอลกอฮอล์เช็ดชั้นเคลือบเหนียวๆ ที่เล็บ. พออบสีเจล topcoat ที่เล็บแล้ว จะมีชั้นเคลือบเหนียวๆ บนเล็บ ก็เช็ดออกทีละเล็บได้ด้วยแผ่นเช็ดทำความสะอาดแบบไร้ฝุ่น ที่นำมาชุบแอลกอฮอล์ isopropyl 91% หรือจะใช้แผ่นแอลกอฮอล์สำหรับเช็ดทำความสะอาดโดยเฉพาะก็ได้[9]
- ระวังอย่าใช้สำลีก้อน เพราะฝุ่นจะติดเล็บได้
- ถ้าเป็นไปได้ อยากให้ใช้แผ่นเช็ดทำความสะอาดเล็บละแผ่นไปเลย เพราะถ้าใช้แผ่นเดียวกันเช็ดหลายๆ เล็บ topcoat ที่เคลือบไว้จะขุ่น ไม่ใส
- ถ้ารู้สึกว่าขอบเล็บแห้ง ให้รอ 1 - 2 นาทีจนแอลกอฮอล์แห้ง แล้วทาน้ำมันบำรุงขอบเล็บเล็กน้อยก็ได้[10]
โฆษณา
- ขัดเล็บไม่ให้มันเงา. ก่อนจะลงเจล base coat ต้องขัดหน้าเล็บให้ขรุขระเล็กน้อยก่อน สีเจลจะได้ติดง่ายขึ้น โดยใช้ที่ขัดเล็บหรือตะไบ ขัดหน้าเล็บเบาๆ ถ้าใช้ตะไบต้องละเอียดเบอร์ 220 หรือมากกว่านั้น[11] ถ้าใช้ที่ขัดเล็บ ให้ปาดเล็บละ 6 - 8 ครั้ง เป็นรูปตัว X โดยลากเบาๆ[12]
- ระวังอย่าขัดเล็บเยอะเกินไป เพราะหน้าเล็บจะเป็นรอยได้
- ถ้าใช้ตะไบแทนบล็อกขัดเล็บ ต้องเลือกที่ละเอียดมากๆ อย่าเลือกที่ขัดหยาบ แล้วลากไปบนเล็บเบามือมากๆ แค่ 2 - 3 ครั้ง ไม่งั้นหน้าเล็บจะเป็นรอย
- ใช้แผ่นแอลกอฮอล์เช็ดผงเล็บ. เช็ดเล็บที่ขัดแล้วให้สะอาด ด้วยแผ่นเช็ดไร้ฝุ่น ชุบแอลกอฮอล์ isopropyl 91% ชุ่มๆ ทั้งช่วยให้เล็บสะอาด แห้งเล็กน้อย ทาสีเจลรองพื้นแล้วจะได้ติดทน[13]
- ถ้าจะใช้แผ่นแอลกอฮอล์โดยเฉพาะก็ได้ เหมือนเวลาใช้ทำแผล
- ห้ามใช้สำลีก้อน เพราะเส้นใยจะติดตามเล็บได้
- อบสีเจลรองพื้นในเครื่อง LED หรือ UV. อบเล็บในเครื่อง LED หรือ UV ตามระยะเวลาที่แนะนำ ปกติคือ 30 วินาที ถ้าใช้เครื่อง LED และ 1 นาที ถ้าใช้เครื่อง UV[16]
- ถ้ากลัวผิวที่มือเสียเพราะรังสี UV ให้ทาครีมกันแดดหรือสวมถุงมือทำเล็บแบบกัน UV
- เช็ดหน้าเล็บทุกเล็บด้วยแอลกอฮอล์ ไม่ให้เหลือฟิล์มเหนียว. พออบสีเจลรองพื้นแล้ว จะเหลือ “ชั้นป้องกัน” เหนียวๆ ที่เล็บ กำจัดได้โดยเช็ดเล็บด้วยแผ่นทำความสะอาดแบบไร้ฝุ่น ชุบแอลกอฮอล์ isopropyl 91%[17]
- หรือใช้แผ่นแอลกอฮอล์สำหรับเช็ดแผลเลยก็ได้
- ทายาทาเล็บธรรมดา 1 - 2 ชั้นบางๆ. เลือกยาทาเล็บสีที่ชอบ ก่อนทาให้ปาดแปรงที่ปากขวด สีจะได้ไม่หยด จากนั้นทาแต่ละเล็บเป็นชั้นบางๆ ให้สีเนียนเท่ากันทั้งเล็บ รอแห้ง 5 นาที ค่อยทาทับชั้นที่ 2 ตามต้องการ[18]
- ถ้าทายาทาเล็บหนาเกินไป สีเจล topcoat จะไม่ค่อยติด
- ให้ทาเล็บไปถึงขอบ แต่อย่าทาเคลือบปลายเล็บ แบบนี้จะได้ไม่ลอกง่าย[19]
- ลงสีเจล topcoat. พอแน่ใจว่ายาทาเล็บแห้งสนิทแล้ว ก็ถึงเวลาลงสีเจล topcoat ให้ทาเป็นชั้นเรียบเสมอกัน อย่าเลอะไปที่ขอบเล็บ และคราวนี้ให้เคลือบปลายเล็บด้านหน้าที่ยาวเกินนิ้วออกมาด้วย[22]
- การเคลือบปลายเล็บที่เกินนิ้วออกมา จะช่วยซีลยาทาเล็บไม่ให้ลอกง่ายนั่นเอง
- อบเล็บที่ทา topcoat แล้วในเครื่องตามเวลาที่แนะนำ. อบเล็บในเครื่อง LED หรือ UV จน topcoat แห้ง ต้องเช็คฉลากที่ขวดน้ำยา ว่าควรอบเล็บนานแค่ไหน[23]
- ปกติจะใช้เวลา 30 วินาที ถ้าใช้เครื่อง LED และ 2 นาที ถ้าใช้เครื่อง UV
- ใช้แผ่นแอลกอฮอล์เช็ดส่วนที่ยังไม่เนี้ยบ. อบเล็บเสร็จแล้วให้ใช้แผ่นเช็ดทำความสะอาดไร้ฝุ่น ชุบแอลกอฮอล์ isopropyl 91% มาเช็ดหน้าเล็บที่เหนียวๆ เท่านี้เล็บที่ทาทับกันแบบแซนวิชเจลลี่ของคุณก็สวยแถมไม่พังง่ายๆ![24]
- ถ้าใช้แอลกอฮอล์แล้วรู้สึกแห้ง จะลงน้ำมันบำรุงขอบเล็บเพื่อความชุ่มชื้นก็ได้ โดยรออย่างน้อย 1 นาทีหลังเช็ดคราบเหนียว จะได้ไม่ทำ topcoat ขุ่น[25]
โฆษณา
สิ่งของที่ใช้
- ที่ขัดเล็บ
- แผ่นเช็ดเครื่องสำอางแบบไร้ฝุ่น
- แอลกอฮอล์ล้างแผล (isopropyl alcohol) 91%
- ยาทาเล็บเจลรองพื้น (เบสโค้ท)
- ยาทาเล็บธรรมดา
- ยาทาเล็บเจลเคลือบใส (ท็อปโค้ท)
- เครื่องอบเล็บ UV หรือ LED
เคล็ดลับ
- ก่อนจะทาเล็บ ให้ตัดและตะไบเล็บก่อน จนได้ความยาวและรูปทรงตามต้องการ ถ้าไปแต่งทรงเล็บหลังทา เล็บที่ทาจะเสียได้
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://youtu.be/vkAtPRPYCaE?t=27
- ↑ https://youtu.be/vkAtPRPYCaE?t=31
- ↑ https://youtu.be/vkAtPRPYCaE?t=160
- ↑ https://youtu.be/vkAtPRPYCaE?t=69
- ↑ http://www.whatthegelnails.com/how-to-do-gel-nails-at-home/
- ↑ https://youtu.be/vkAtPRPYCaE?t=150
- ↑ https://www.teenvogue.com/story/gel-manicures
- ↑ http://www.whatthegelnails.com/how-to-do-gel-nails-at-home/
- ↑ http://www.whatthegelnails.com/how-to-do-gel-nails-at-home/
- ↑ http://www.whatthegelnails.com/how-to-do-gel-nails-at-home/
- ↑ http://www.whatthegelnails.com/how-to-do-gel-nails-at-home/
- ↑ https://www.youtube.com/watch?v=SPHtYfqcAAg&feature=youtu.be&t=24
- ↑ http://www.whatthegelnails.com/how-to-do-gel-nails-at-home/
- ↑ https://youtu.be/tBGyfSUOcFI?t=8
- ↑ http://www.whatthegelnails.com/how-to-do-gel-nails-at-home/
- ↑ http://www.whatthegelnails.com/how-to-do-gel-nails-at-home/
- ↑ https://youtu.be/tBGyfSUOcFI?t=20
- ↑ https://youtu.be/tBGyfSUOcFI?t=31
- ↑ https://www.chickettes.com/the-gelly-sandwhich-technique-mixing-gel-polish-regular-nail-lacquer/
- ↑ https://youtu.be/vkAtPRPYCaE?t=31
- ↑ https://youtu.be/tBGyfSUOcFI?t=73
- ↑ https://youtu.be/tBGyfSUOcFI?t=80
- ↑ http://www.whatthegelnails.com/how-to-do-gel-nails-at-home/
- ↑ https://youtu.be/tBGyfSUOcFI?t=102
- ↑ http://www.whatthegelnails.com/how-to-do-gel-nails-at-home/
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.