วิธีการ แต่งหน้าโดยใช้เทคนิค Contour

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

เลือกใช้เครื่องสำอางให้ถูกต้อง

การ Contour ใบหน้า

แต่งหน้าต่อตามปกติ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

การแต่งหน้าด้วยการ Contour ด้วยนั้นจะช่วยส่งเสริมโครงหน้าเราให้ดูเด่นมากยิ่งขึ้น มันจะทำให้โหนกแก้มดูชัดขึ้น จมูกและคางก็จะดูเล็กลงด้วย เทคนิคนี้เป็นที่นิยมมากสำหรับช่างแต่งหน้าของเหล่าดาราและเซเลปต่างๆ แต่เราก็สามารถทำเองได้ง่ายๆ เช่นกัน โดยใช้ผลิตภัณฑ์และเครื่องมือให้ถูกต้อง เมื่อคุณได้ทำการ Contour แล้ว อย่าลืมปัดหน้าให้ดูเรียบเนียนด้วยล่ะ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด

ขั้นตอน

ส่วน 1

ส่วน 1 ของ 3:

เลือกใช้เครื่องสำอางให้ถูกต้อง

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   เริ่มต้นด้วยการเลือกรองพื้นให้เข้ากับสีผิว. การใช้รองพื้นสีที่เข้ากับสีผิวคุณมากที่สุดนั้นจะช่วยทำให้สีผิวที่ใบหน้าดูสม่ำเสมอ นอกจากนั้น รองพื้นดังกล่าวยังทำหน้าที่เป็นเหมือนพื้นของใบหน้าเพื่อให้ลงสี Contour ทั้งอ่อนกว่าและเข้มกว่าได้ดีอีกด้วย การใช้เทคนิค Contour เลยโดยที่ไม่ลงรองพื้นก่อนจะทำให้สีผิวไม่สม่ำเสมอและยากต่อการลงสีอื่น เวลาแต่งหน้าออกมาแล้ว หน้าอาจจะมีรอยสีที่ต่างกันเป็นหย่อมๆ แทนที่จะเรียบเนียนและได้รูปจากการ Contour

   • เลือกใช้รองพื้นที่มาในรูปแบบเดียวกันกับเครื่องสำอางอื่นๆ ที่คุณจะใช้ต่อไป เช่น เครื่องสำอางแบบครีม หรือเครื่องสำอางแบบแป้ง คุณไม่ควรใช้ร่วมกันทั้งสองอย่าง เพราะอาจทำให้เกิดคราบบนใบหน้าได้
   • ถ้าคุณมีปัญหาในการเลือกสีรองพื้นให้เข้ากับสีผิวมากที่สุด ก็ให้ทดลองรองพื้นนั้นที่คอดูก่อน ผิวที่คอโดยปกติจะอ่อนกว่าสีผิวบนใบหน้า ดังนั้น มันจึงทำให้คุณสามารถเลือกสีรองพื้น โดยไม่ให้เข้มจนเกินไปได้ เมื่อคุณแต่งหน้าเสร็จแล้ว
2. 
   2
   เลือกใช้รองพื้นที่สีอ่อนกว่าสีผิวจริงเล็กน้อย. การ Contour นั้นหมายถึงการไฮไลท์บางส่วนบนใบหน้าเพื่อเพิ่มความสว่างหรือปกปิดด้วย ดังนั้น การใช้รองพื้นสีอ่อนกว่าจะทำหน้าที่เป็นตัวไฮไลท์ คุณควรเลือกสีที่อ่อนกว่าประมาณ 2 ระดับ

   • ไม่ควรเลือกสีที่อ่อนกว่าเกิน 2 ระดับ เพราะอาจจะดูไม่เป็นธรรมชาติได้
   • คุณสามารถใช้คอนซีลเลอร์สีอ่อนหรืออายแชโดวส์แทนรองพื้นได้ แต่ต้องจำไว้ว่าเครื่องสำอางทุกอย่างควรเป็นชนิดเดียวกัน คือแบบครีมหรือแบบแป้ง อย่านำมาใช้ร่วมกัน
3. 
   3
   เลือกรองพื้นที่สีเข้มกว่าสีผิว. รองพื้นที่เข้มกว่าจะใช้เพื่อเบนความสนใจและพรางจุดที่คุณไม่ต้องการให้เห็นเด่นชัด เมื่อคุณเริ่ม Contour รองพื้นดังกล่าวจะช่วยสร้างเงาบนใบหน้าให้โหนกแก้มดูเด่นขึ้นและคางดูแคบลง

   • ไม่ควรเลือกสีที่เข้มกว่าเกิน 2 ระดับ เพราะอาจจะดูไม่เป็นธรรมชาติได้
   • บรอนซ์เซอร์ อายแชโดวส์สีเข้ม หรือคอนซีลเลอร์สีเข้ม ก็สามารถนำมาใช้แทนกันได้เช่นกัน แต่ต้องจำไว้ว่าเครื่องสำอางทุกอย่างควรเป็นชนิดเดียวกัน คือแบบครีมหรือแบบแป้ง อย่านำมาใช้ร่วมกัน
4. 
   4
   ใช้แปรงปัดหน้าที่ดี. เพราะหลังจากการ Contour ใบหน้าคุณจะมีสีหลายสี การใช้แปรงที่เหมาะสมจึงจำเป็นมาก ถ้าแปรงไม่ดี ไม่สามารถปัดหน้าให้ดูเนียนได้แล้วล่ะก็ ใบหน้าคุณก็จะดูไม่เป็นธรรมชาติเลย แปรงที่ดีควรมีขนาดใหญ่พอควรและมีขนหนา ซึ่งอาจเป็นแปรงรองพื้นหรือแปรงปัดหน้าอื่นๆ คุณสามารถเลือกใช้แปรงที่ทำมาจากขนธรรมชาติได้เพื่อผลลัพธ์ที่ดูนุ่มนวลมากที่สุด

   • ถ้าคุณไม่มีแปรง อุปกรณ์อีกอย่างหนึ่งที่นำมาใช้แทนได้คือนิ้วมือ เพราะความร้อนบนมือนั้นจะช่วยทำให้เครื่องสำอางดูเรียบเนียนมากขึ้น โดยเฉพาะกับเครื่องสำอางชนิดครีม
   โฆษณา

ส่วน 2

ส่วน 2 ของ 3:

การ Contour ใบหน้า

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   เก็บผมให้พ้นใบหน้า. เพราะการ Contour จะกินพื้นที่ไปถึงส่วนบนของหน้าผากคุณด้วย ซึ่งจะไล่ผ่านขมับลงมาถึงพื้นที่ข้างๆ ใบหน้า คุณจึงควรเก็บผมขึ้นไปเพื่อให้สามารถมองเห็นการแต่งหน้าทั้งหมดและเพื่อไม่ให้มารบกวนเวลาแต่งหน้าด้วย
2. 
   2
   เตรียมความพร้อมของใบหน้า. เมื่อคุณทำการ Contour คุณควรเริ่มจากใบหน้าที่สะอาด หมดจด คุณควรเช็ดเครื่องสำอางที่ตกค้างอยู่ออกก่อน ล้างหน้า และเช็ดให้แห้งด้วยผ้า อาจจะขัดผิดร่วมด้วยถ้ามีความจำเป็น เพื่อกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว หลังจากนั้นจึงทาครีมบำรุง ทิ้งให้ซึมเข้าผิวสักพัก ก่อนเริ่มแต่งหน้าต่อไป

   • การเตรียมความพร้อมของใบหน้านั้นมีส่วนช่วยทำให้การแต่งหน้าออกมาดูเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น มันไม่คุ้มเลยที่จะลงทุน Contour แล้วใบหน้าที่แต่งออกมาดูเปรอะเปื้อนหรือสกปรก
3. 
   3
   ลงรองพื้นสีที่เข้ากับสีผิว. ใช้นิ้วมือหรือแปรงลงรองพื้นลงรองพื้นบางๆ ให้ทั่วใบหน้า โดยให้ครอบคลุมไปถึงส่วนบนของหน้าผากและใต้คาง จากนั้นจึงใช้แปรงปัดหน้าหรือนิ้วมือเกลี่ยรองพื้นที่บริเวณคางลงไปถึงคอ เพื่อไม่ให้เกิดความแตกต่างระหว่างใบหน้ากับคอ

   • คุณสามารถลงคอนซีลเลอร์ได้เลยในขั้นตอนนี้ โดยเน้นไปที่รอยคล้ำใต้ตาและรอยสิว
4. 
   4
   ลงรองพื้นสีอ่อนกว่าสีผิวจริง. ให้คุณนำรองพื้นที่มีสีอ่อนกว่าสีผิวจริง ใช้นิ้วมือหรือแปรงลงรองพื้นลงรองพื้นดังกล่าวเป็นแนวยาวประมาณครึ่งนิ้วถึงหนึ่งนิ้วตรงบริเวณที่แสงแดดกระทบบนใบหน้า เพื่อตรวจสอบบริเวณนั้นๆ ให้คุณยืนในห้องสว่างที่มีไฟส่องอยู่เหนือหัว แล้วดูว่าบริเวณไหนบ้างที่ไฟส่องกระทบลงมา บริเวณที่เห็นนั้นจะเป็นบริเวณที่ควรลงรองพื้นสีอ่อน กล่าวคือ

   • กลางหน้าผาก
   • ตามแนวบนของสันคิ้ว
   • แนวสันจมูก
   • เนินแก้ม ซึ่งจะเด่นขึ้นมาเวลายิ้ม
   • ร่องบริเวณริมฝีปากและจมูก ซึ่งจะอยู่ระหว่างปลายจมูกกับขอบริมฝีปากด้านบน
   • ส่วนกลางของคาง
5. 
   5
   ลงรองพื้นสีเข้มกว่าสีผิวจริง. ให้คุณนำรองพื้นที่มีสีเข้มกว่าสีผิวจริง ใช้นิ้วมือหรือแปรงลงรองพื้นลงรองพื้นดังกล่าวตรงบริเวณเงาบนใบหน้าที่เกิดจากการที่แสงแดดกระทบ เพื่อตรวจสอบบริเวณนั้นๆ ให้คุณยืนในห้องสว่างที่มีไฟส่องอยู่เหนือหัว แล้วดูว่าบริเวณไหนบ้างที่ไฟส่องแล้วเกิดเป็นเงา บริเวณที่เห็นนั้นจะเป็นบริเวณที่ควรลงรองพื้นสีเข้ม กล่าวคือ

   • บริเวณใต้ไรผมตรงส่วนบนของหน้าผาก
   • ด้านขวาและด้านซ้ายของหน้าผาก ใกล้ๆ ไรผมของทั้งสองข้าง
   • ด้านขวาและด้านซ้ายของจมูก
   • บริเวณช่องเว้าตรงแก้ม โดยสามารถสังเกตได้จากการดูดแก้มทั้งสองข้างเข้ามา
   • แนวกรามทั้งสองข้าง เริ่มต้นจากหูลงไปถึงปลายคาง
6. 
   6
   ปัดหน้าให้เรียบเนียน. โดยใช้นิ้วมือหรือแปรงลงรองพื้นปัดหน้าที่ลงรองพื้นสีต่างๆ แล้วให้เรียบเนียนเพื่อผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ แต่ก็ไม่ควรปัดจนสีต่างๆ มาผสมกันมากเกินไป เพราะคุณต้องการให้มันอยู่ในที่ที่ควรอยู่ คุณแค่ต้องปัดให้ไม่เห็นรอยความแตกต่างระหว่างสีเข้มและสีอ่อนมากเกินไปเท่านั้น
   โฆษณา

ส่วน 3

ส่วน 3 ของ 3:

แต่งหน้าต่อตามปกติ

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   การลงไฮไลท์. ถ้าคุณต้องการให้บริเวณที่สว่างบนใบหน้าดูเด่นชัดขึ้นมา ให้ลงไฮไลท์เพื่อเติมเต็มส่วนนั้น ไฮไลท์ชนิดครีมจะมีความแวววาวมากกว่า จึงสามารถจับแสงได้มากกว่ารองพื้นธรรมดา ให้คุณลงไฮไลท์ดังกล่าวตรงบริเวณที่คุณลงรองพื้นสีอ่อนได้เลย
2. 
   2
   การปัดแก้ม. ถ้าคุณรู้สึกว่าหน้าซีดถ้าไม่ได้ลงสีชมพูที่แก้ม ก็ให้ปัดแก้มบริเวณเนินแก้ม แต่ต้องปัดจนมั่นใจด้วยนะ ว่าสีจากเครื่องสำอางต่างๆ บนใบหน้าเข้ากันดีแล้ว
3. 
   3
   การใช้แป้งควบคุมความมัน. แป้งควบคุมความมันที่จะใช้ในขั้นตอนสุดท้ายนั้นสำคัญมาก ยิ่งถ้าเครื่องสำอางที่ใช้มาเป็นชนิดครีมด้วยแล้ว เพราะมันจะช่วยทำให้เครื่องสำอางติดทนและเพิ่มความเรียบเนียนบนใบหน้า ให้คุณใช้แปรงทาแป้งที่สะอาดเพื่อลงแป้งดังกล่าวบางๆ ให้ทั่วใบหน้า
4. 
   4
   เพิ่มความแวววาวสำหรับเวลากลางคืน. ถ้าคุณมีแผนจะออกไปเที่ยวตอนกลางคืนแล้วละก็ การเพิ่มความแวววาวให้ดูฟรุ๊งฟริ๊งขึ้นสักนิดคงจะดี โดยคุณสามารถใช้แป้งโปร่งสีที่ให้ความแวววาวลงให้ทั่วใบหน้าบางๆ และเน้นไปตรงบริเวณที่ไฮไลท์ นอกจากนั้น คุณยังควรลงแป้งดังกล่าวตรงบริเวณคอและเนินอกด้วย
5. 
   5
   ให้การแต่งตากับปากเป็นขั้นตอนสุดท้าย. คุณต้องทำให้มั่นใจก่อนว่าเครื่องสำอางบนใบหน้านั้นเข้ากันดีแล้ว จากนั้นจึงเริ่มการแต่งตาและปาก การ Contour จะทำให้หน้าที่แต่งออกมาดูเด่นมากอยู่แล้ว ดังนั้น คุณจึงควรเลือกแต่งตาหนักๆ หรือทาลิปสติกสีเข้ม อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่ควรทำร่วมกัน
6. 
   6
   เสร็จแล้ว!
   โฆษณา

เคล็ดลับ

• ควรระวังไม่ให้เกิดรอยสีที่ต่างกันบริเวณกรามทั้งสองข้าง เพราะมันอาจทำให้ดูเหมือนใส่หน้ากากอยู่ได้
• ไม่ควรแต่งหน้าให้ดูเว่อร์และไม่สมจริงจนเกินไป เพราะจุดประสงค์ของการแต่งหน้าคือการเติมเต็มในความสวยแบบธรรมชาติ ไม่ใช่การปลอมหน้าเป็นคนละคน!
• การแต่งหน้าไม่มีกฎ คุณสามารถทดลองสิ่งใหม่ๆ และสนุกกับมันได้ เพื่อให้ได้ลุคที่เหมาะกับคุณมากที่สุด

โฆษณา