วิธีการ เลิกโกหกพ่อแม่

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

ใครๆ ก็คงเคยผ่านประสบการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนี้มาแล้ว คือโดนพ่อแม่ถาม (เอาตรงๆ ว่าพ่อแม่ซัก) ว่าไปทำอะไรมา เกิดอะไรขึ้น แล้วเรากลับคิดตื้นๆ โกหกพ่อแม่เพื่อเอาตัวรอดไปก่อน บอกเลยว่าสุดท้ายแล้วคำโกหกที่เราไม่ได้คิดอะไรนั้น อาจทำเอาเราตกที่นั่งลำบากหนักกว่าเดิมซะอีก ยังดีที่การเปิดอ่านบทความวิกิฮาวนี้ แปลว่าคุณคิดได้แล้ว อยากจะเลิกโกหกพ่อแม่สักที ถือเป็นก้าวแรกที่น่าชื่นชม! ก็ขอให้พยายามต่อไป สักวันต้องเลิกโกหกพ่อแม่ได้แน่นอน เราจะเป็นกำลังใจให้ โดยเราได้รวบรวมเคล็ดลับและเทคนิคสำหรับพัฒนาตัวเองให้กล้าเปิดอกกับพ่อแม่ได้ มาไว้ที่นี่แล้ว

1

คิดก่อนพูดเสมอ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: ฉุกคิดก่อนพูด จะทำให้เราไม่เป็นคนปากไว โกหกคล่อง....
    ฉุกคิดก่อนพูด จะทำให้เราไม่เป็นคนปากไว โกหกคล่อง. เป็นเรื่องธรรมชาติที่เวลาตกที่นั่งลำบาก เรามักอยากออกไปจากสถานการณ์นั้นให้เร็วที่สุด จนเผลอโกหกไป บางทีก็เพราะอยากได้อะไรบางอย่างจนไม่สนวิธีการ จุดสำคัญที่จะช่วยได้ คืออย่าตามใจตัวเอง ลองหยุดแล้วคิดถึงผลที่อาจตามมาเมื่อเราโกหก เราจะรู้สึกยังไงถ้าพ่อแม่หลอกเรามาตลอดบ้าง ถึงจะยากหรือน่ากลัวแค่ไหน ก็ขอให้เปิดอก พูดความจริงกับพ่อแม่ หลังจากนี้อาจจะโล่งใจหายห่วงก็ได้[1]
    • เวลาโดนพ่อแม่ต้อนจนมุมเรื่องไหนก็ตาม คำโกหกอาจเป็นอย่างแรกที่หลุดออกจากปาก แต่ขอให้ฉุกคิดสักวินาที ว่าจริงๆ แล้วอยากบอกอะไรในสถานการณ์แบบนั้น
    • รู้หรือไม่: มีงานวิจัยหนึ่งชี้ว่า การพูดความจริงนั้น จริงๆ แล้วทำให้เรามีความสุขกว่า ดีต่อสุขภาพด้วย! คนที่ไม่ค่อยโกหกจะอารมณ์ไม่ค่อยบูด แถมร่างกายก็รู้สึกดีกว่า เพราะฉะนั้นในแง่นี้ การโกหกก็ไม่ดีต่อตัวเราเองนั่นแหละ[2]
    โฆษณา
2

คิดถึงผลที่ตามมา ก่อนจะโกหก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: คิดแล้วอาจจะน่ากลัวจนไม่อยากโกหกเลย.
    ถ้าเราเคยถูกจับโกหกมาก่อน ยิ่งโดนทำโทษด้วยแล้ว ต่อไปเวลาตกอยู่ในสถานการณ์สุ่มเสี่ยงจะโกหกเพราะคิดว่าช่วยให้รอดไปได้ หรือทำให้ได้สิ่งที่ต้องการ ลองฉุกคิดถึงตอนถูกจับได้ ถูกทำโทษดู น่าจะสยองพอให้ไม่อยากโกหกซ้ำอีก[3]
    • เช่น สอบตกเลข แล้วพ่อแม่ถามว่าสอบเป็นไงบ้าง ก็นึกถึงคราวที่แล้ว ที่หลอกพ่อแม่ว่าสอบผ่าน แล้วโดนยึดมือถือดูแล้วกัน
    • ถ้าหลอกพ่อแม่ว่าไปเรียนพิเศษ แต่จริงๆ ไปเที่ยวกับเพื่อน โดนจับได้ขึ้นมาอาจบ้านแตกได้ ไม่คุ้มนะ!
    • แถมบางทีโกหกแล้วทำให้พลาดโอกาสไป เช่น ถ้ามีคนแกล้งหรือบูลลี่ แล้วเราไม่บอกพ่อแม่ไปตามจริง พ่อแม่จะไม่รู้เลยว่าเรากำลังมีปัญหา เรากำลังพยายามอยู่ ถ้าบอกไป พ่อแม่อาจจะหาทางช่วย ให้สถานการณ์ดีขึ้นก็ได้
3

หาให้เจอ อะไรกดดันจนทำให้ต้องโกหก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: ถ้าหาสาเหตุไม่ได้ ยิ่งต้องเลิกโกหก.
    แทบทุกการโกหก มีสาเหตุหรือแรงจูงใจเสมอ ให้คิดหนักๆ เลยว่าอะไรจูงใจให้เราโกหก แล้วใช้สาเหตุนั้นทำให้เราเลิกโกหกได้[4]
    • อย่างถ้าอยากไปบ้านเพื่อน อาจจะคันปากอยากโกหกพ่อแม่ว่า อ๋อ พ่อแม่เพื่อนก็อยู่ ทั้งที่จริงๆ ไม่ใช่ แต่ถ้าโกหกไปจริงๆ แล้วพ่อแม่จับได้ ระวังจะไม่ได้ไปบ้านเพื่อนอีกนานเลย
    • เรื่องผลการเรียนนี่ก็จูงใจพอตัว ถึงจะเพิ่งสอบตกวิชาเลข แต่ก็อยากเล่นเกมใหม่ใจจะขาด แต่ถ้าโกหกไปแล้วพ่อแม่จับได้ เครื่องเกมอาจจะหายวับไปพักใหญ่ก็ได้นะ
    • เรามักโกหกในเรื่องใหญ่ร้ายแรง เช่น ถูกคนแกล้งหรือทำร้ายที่โรงเรียน ที่ต้องโกหกเพราะรู้สึกอายหรือรู้สึกกลัวนั่นเอง แต่ถ้าลองเปิดอกคุยกับพ่อแม่ดู สถานการณ์อาจจะดีขึ้นก็ได้
    โฆษณา
4

เปิดอกกับพ่อแม่ ว่าทำไมเราถึงโกหก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: พ่อแม่อาจจะช่วยให้เราไม่ต้องโกหก.
    ลองหาจังหวะเหมาะๆ คุยกับพ่อ แม่ หรือทั้งคู่ดู แล้วเล่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับเรา บอกว่าจริงๆ อยากเล่าแต่ความจริง แต่มีเหตุให้ต้องโกหก ยอมรับว่าเรากำลังมีปัญหา พ่อแม่ต้องดีใจที่เราเปิดอก และน่าจะมีคำแนะนำดีๆ ช่วยกันแก้ปัญหา ให้ต่อไปคุยกันตรงๆ ได้สะดวกใจมากยิ่งขึ้น[5]
    • เช่น ถ้าคิดว่าพ่อแม่บังคับใจกันเกินไปหน่อยเรื่องเรียน ก็ลองบอกไปตามตรงว่าแบบนั้นทำให้เรากังวล ไม่กล้าบอกความจริงเวลาสอบตกหรือเรียนไม่เข้าใจ
    • บางบ้าน พ่อแม่อาจจะลงโทษกันรุนแรงเกินไป ทำให้ยิ่งอยากโกหก ว่าเราไปไหน ทำอะไรอยู่ แบบนี้ยิ่งต้องรีบเปิดใจกัน
    • ถ้าที่โกหกอยู่เรื่อยเพราะคิดว่าพ่อแม่ไม่ยอมรับฟังเรื่องฝั่งเรา ก็บอกไปตามนั้นเลย ถ้าเราพูดด้วยความจริงใจ พ่อแม่อาจจะเปิดใจฟังเรามากขึ้นก็ได้
    • อย่างน้อยเปิดอกกันแล้ว พ่อแม่น่าจะผ่อนปรนขึ้นไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะไม่เข้มงวดกับเรามากเท่าเดิม เพราะรู้ว่าเราจะเล่าความจริงให้ฟังเสมอ
5

หัดพูดความจริงกับเพื่อน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: เริ่มจากเรื่องเล็กน้อย แล้วเปิดอกเพิ่มขึ้นในแต่ละวัน....
    เริ่มจากเรื่องเล็กน้อย แล้วเปิดอกเพิ่มขึ้นในแต่ละวัน. มามุ่งมั่นตั้งใจว่าจะไม่โกหกพ่อแม่อีกต่อไป โดยเริ่มฝึกจากการพูดกับเพื่อนตรงๆ นี่ละ! ต้องบังคับตัวเองไม่ให้โกหก กระทั่งโกหกสีขาว (white lies) หรือโกหกในเรื่องที่ไม่เป็นพิษเป็นภัยก็เถอะ ค่อยๆ บอกความจริงเพื่อนเพิ่มขึ้นทีละอย่างสองอย่างทุกวัน สักพัก จะถนัดพูดแต่ความจริง ต่อไปมีหรือจะโกหกพ่อแม่ได้ลงคอ[6]
    • แต่ก็ไม่ใช่ว่ากลายเป็นคนพูดแทงใจดำเพื่อนจนไม่มีใครคบนะ แค่อย่าโกหกเพื่อนก็พอ
    • เช่น ถ้าเพื่อนถามว่าดูบอลเปล่าเมื่อคืน ก็อย่าไปบอกว่าดู ถ้าจริงๆ ไม่ได้ดู เรื่องนี้เป็นแค่เรื่องเล็กน้อยก็จริง แต่ถ้าเผลอทำเรื่อยๆ จะติดเป็นนิสัยได้
    โฆษณา
6

สารภาพไปตรงๆ เมื่อโกหก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: สารภาพผิด แล้วขอโทษพ่อแม่.
    ถึงจะแค่เรื่องเล็กน้อย แต่ก็อยากให้บอกพ่อแม่ไปตามตรง ว่าที่พูดไปน่ะโกหก จริงๆ เกิดอะไรขึ้นแน่ อย่างน้อยพ่อแม่ก็ภูมิใจในความจริงใจและกล้าหาญของเรา ช่วยให้ต่อไปเราอยากบอกเล่าแต่ความจริง[7]
    • พูดแบบตรงไปตรงมา กระชับได้ใจความ เช่น “แม่ หนูขอโทษ จริงๆ แล้วเรื่องนั้นหนูโกหก” หรือ “พ่อ จริงๆ หนูไม่ได้บอกความจริง หนูรู้สึกแย่มากเลย หนูขอโทษนะคะ”
    • พอพ่อแม่รู้แน่แล้วว่าเราจริงใจกับพ่อแม่ ไม่มีปิดบัง พ่อแม่จะสบายใจ เชื่อใจเรามากยิ่งขึ้น
7

หาทางคลายเครียด

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: ที่โกหก บางทีก็เพราะอารมณ์พาไป.
    ถ้าที่โรงเรียน ที่ทำงาน ปัญหามันเยอะ หรือมีปัญหากับเพื่อนหรือแฟน ก็สะสมจนเครียดจัด เลยมองว่าการโกหกเป็นทางลัด อย่างน้อยก็ช่วยลดความกดดัน ไม่อยากมีปัญหาเพิ่ม แต่จริงๆ แล้วทำให้เรื่องยุ่งหนักกว่าเดิม ลองหาอะไรทำ ลองออกกำลังกาย น่าจะช่วยคลายเครียด สุขภาพกายใจดีขึ้น[8]
    • เช่น ลองเล่นโยคะ นั่งสมาธิ หายใจเข้าออกลึกๆ หรือเข้าฟิตเนส ออกไปวิ่ง อะไรก็ได้ที่ช่วยให้เราได้ออกกำลังกาย คลายเครียด รู้สึกดีขึ้น
    • ถ้าภาระหน้าที่ทั้งหลายมันหนักหน่วงจนคิดอะไรไม่ออก ลองหาวิธีบริหารจัดการสิ่งที่รับผิดชอบให้ดีขึ้น (เช่น จัดตารางเวลา) หรือตัดอะไรที่ไม่จำเป็นออกไป เช่น ถ้าเรียนหนักอยู่แล้ว แต่ก็ยังอยู่ชมรมว่ายน้ำและบาสเกตบอล ก็ลองตัดกีฬาออกสักอย่าง อาจจะบาสก็ได้ ถ้าไม่ถนัดหรือไม่ได้ชอบขนาดนั้น
    โฆษณา
8

ลองจดบันทึกทุกครั้งที่โกหก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: ไว้เป็นหลักฐานให้ย้อนมองตัวเองว่าโกหก.
    ถ้าโกหกบ่อยจนติดเป็นนิสัยและเป็นปัญหา ลองหาสมุดหรือสมุดบันทึกสักเล่มมา แล้วจดทุกเรื่องที่เราโกหกในวันนั้นลงไป พิจารณาไปพลางๆ ระหว่างจด จะช่วยให้รู้ตัวว่าโกหกเรื่องอะไร อันไหนตั้งใจ อันไหนเผลอ ต่อไปจะได้มีสติมากขึ้น เลิกโกหกได้สักที[9]
    • ลองหาสาเหตุที่ต้องโกหก อะไรจูงใจให้ทำ? นี่เราโกหกจนติดเป็นนิสัยได้ยังไง? พยายามคิดพิจารณาหาให้เจอ ถึงสาเหตุทำเราโกหก จะได้เข้าใจตัวเองดีขึ้น ป้องกันไม่ให้ทำอีกในอนาคต

เคล็ดลับ

  • ลองเอาใจเขามาใส่ใจเรา คิดในมุมของพ่อแม่บ้าง จะรู้สึกยังไงถ้ามีคนมาโกหกเราบ้าง พ่อแม่ไม่ได้คิดแต่จะทำโทษหรอก เขาอยากให้เราเป็นคนซื่อสัตย์ต่างหาก!
  • การไม่ซื่อสัตย์ ไม่ได้มีแต่การพูดโกหกออกมาเท่านั้น แค่จงใจละบางเรื่องที่สำคัญหรือจำเป็น ไม่ยอมบอกความจริงพ่อแม่ ก็ถือว่าเราโกหกในแง่หนึ่งแล้ว
โฆษณา

คำเตือน

  • ถ้าโดนใครทำร้าย ต้องรีบบอกพ่อแม่ อย่าโกหกเพื่อปกป้องคนที่ทำ หรือกลบเกลื่อนเรื่องที่เกิดขึ้น บอกเลยว่าพ่อแม่รักเรา อยากดูแลช่วยเหลือเราเสมอ
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Allen Wagner, MFT, MA
ร่วมเขียน โดย:
นักบำบัดชีวิตคู่และครอบครัว
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Allen Wagner, MFT, MA. อัลเลน แวกเนอร์เป็นนักบำบัดชีวิตคู่และครอบครัวที่มีใบอนุญาตในลอสแองเจลิส เขารับปริญญาโทสาขาจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยเพพเพอร์ไดน์ในปี 2004 โดยเชี่ยวชาญในการร่วมมือกับคู่สมรสในการค้นหาวิธีที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ของพวกเขาให้ดีขึ้น เขาเป็นผู้เขียนหนังสือMarried Roommatesร่วมกับทาเลีย แวกเนอร์ที่เป็นภรรยา บทความนี้ถูกเข้าชม 2,329 ครั้ง
หมวดหมู่: เยาวชน
มีการเข้าถึงหน้านี้ 2,329 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา