วิธีการ ส่งข้อความหาคนที่ชอบ

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

ขั้นตอน

บทความที่เกี่ยวข้อง

การขอเบอร์โทรศัพท์ของคนที่ชอบก็ว่าเป็นเรื่องที่ยากแล้ว แต่การคิดข้อความที่จะส่งหาเขานั้นก็ยากพอๆ กัน เมื่อคุณต้องการส่งข้อความหาคนที่ชอบ ให้เริ่มด้วยการทักทายด้วยคำถามที่เป็นมิตร เช่น “เป็นอย่างไรบ้าง” จากนั้น พยายามใช้เวลาอยู่กับเขาโดยพูดคุยให้อยู่ในอารมณ์สนุกสนาน และอย่าท้อแท้ในการรักษาบทสนทนาถ้าคนที่คุณชอบพยายามจบบทสนทนาหรือตอบกลับมาสั้นๆ

ขั้นตอน

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ทักทายอีกฝ่ายอย่างให้เกียรติ. ทุกคนชอบคำว่า “เป็นไงบ้าง” แต่พอเอาเข้าจริงนั้น มันต้องไปมากกว่านั้น เพราะเมื่อคนแบบคุณใช้ประโยคแบบนี้ คุณมักจะได้คำตอบแบบไหนล่ะ “ก็เฉยๆ นะ คุณล่ะ” หรือ “เฉยๆ แล้วคุณ” ดังนั้น คิดให้นอกกรอบและพยายามพูดในทำนองว่า “คุณทำอะไรอยู่” “ทำไรอยู่” และพูดด้วยอารมณ์ที่สนุกสนาน เพราะจะช่วยดึงความสนใจจากอีกฝ่ายได้ดี พวกเขาอาจจะตอบกลับมาว่า “ออกไปเที่ยวข้างนอก” ซึ่งก็เป็นคำตอบที่ดี เพราะอย่างน้อยคุณก็รู้ว่าพวกเขาอยู่ข้างนอก ไม่เหมือนกับคำตอบที่ว่า “เฉยๆ” ซึ่งเหมือนคนกำลังจะตาย
2. 
   2
   อย่าท้อ. ถ้าคุณส่งข้อความไปแล้วอีกฝ่ายไม่ตอบ ให้อดทนรอ อย่าส่งข้อความไปหาเขาซ้ำหรือถามว่าได้รับข้อความของคุณหรือไม่ ใจเย็นเข้าไว้ ไม่อย่างนั้นคุณจะดูต้องการเขามากเกินไป
3. 
   3
   เข้าใจว่าคนส่วนใหญ่จะไม่พิมพ์อะไรมากเกินกว่าที่จำเป็น โดยเฉพาะถ้าเขาไม่รู้ว่าคุณชอบเขา หรือเขาไม่ได้มีความรู้สึกกับคุณ. แค่จัดการกับบทสนทนาในปัจจุบันก็พอ เพราะบางครั้งอีกฝ่ายอาจจะสนใจคุณแต่แค่อายเท่านั้น หรืออาจจะไม่มีทักษะการพิมพ์บนโทรศัพท์ที่ดีมากนัก
4. 
   4
   จบบทสนทนาด้วยดี. คุณอาจจะจบด้วยประโยคสั้นๆ เพียงประโยคเดียว บางครั้งคุณอาจจะได้ข้อความว่า “555” ถ้าบทสนทนาเริ่มเป็นประโยคทำนองนี้ ก็ขอให้จบแต่เพียงเท่านั้น ถ้าคุณตอบกลับไปด้วยคำว่า “แล้ว งานที่เราต้องเขียนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนั้นยากมากเลยเนาะ” คุณจะดูเหมือนพยายามยื้ออยู่ ดังนั้น จบแค่เพียงเท่านั้น แต่ถ้าคุณทั้งสองสนิทกัน เช่น เป็นเพื่อนกัน คุณอาจจะต้องกล่าวลาก่อน เช่น “ฉันจะไปฟังเพลงแล้วนะ ไว้คุยกันใหม่” แต่ถ้ายังไม่สนิทก็ให้จบบทสนทนาทันที เพราะการที่คุณอยากจะจบบทสนทนาอย่างสิ้นหวังแต่ทำไมได้เนื่องจากอีกฝ่ายไม่ยอมจบนั้นเป็นสิ่งที่น่ารำคาญ
5. 
   5
   พยายามกล่าวลาก่อน. การทำแบบนี้จะทำให้อีกฝ่ายอยากคุยด้วยอีก พยายามนึกถึงช่วงเวลาที่บทสนทนาดูช้าลง แล้วคุณอาจจะเป็นคนจบบทสนทนาคนแรก ฝ่ายตรงข้ามจะชอบคุณในไม่ช้าถ้าคุณทำแบบนี้ เพราะบทสนทนาที่ไม่ดีและเชื่องช้ามักจะจบด้วยการหยุดที่น่าเบื่อและไม่มีจุดที่น่าสนใจ
6. 
   6
   อย่ารบกวนฝ่ายตรงข้ามมากเกินไป. ถ้าวันนั้นไม่ใช่วันที่ดีที่คุณทั้งสองจะจีบกันและใช้เวลาพูดคุยร่วมกัน อย่าเริ่มบทสนทนาเกินกว่า 2 ครั้งต่อวัน

   • นอกจากนี้ อย่าพยายามคุยต่อหลังจากที่จบบทสนทนาแล้วเด็ดขาด เพราะในวัฒนธรรมส่วนใหญ่ การทำแบบนี้จะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่พอใจ
7. 
   7
   การถามว่าคุณทำให้เขารำคาญไหมเป็นระยะก็เป็นสิ่งที่ดี เช่น ถ้าคุณสงสัยว่าอีกฝ่ายกำลังทำงานอยู่หรือเขียนเรียงความตอนที่คุณส่งข้อความหาเขา. แค่ถามตอนที่อีกฝ่ายพูดสิ่งที่อาจจะบอกได้ว่ากำลังยุ่งอยู่หรือต้องใช้สมาธิ

   • ยกตัวอย่างเช่น ถ้าอีกฝ่ายกำลังเขียนเรียงความภาษาอังกฤษอยู่ คุณอาจจะถามว่า “ถ้าฉันทำให้คุณเสียสมาธิก็บอกได้เลยนะ ฉันไม่อยากรบกวนคุณ” คำถามแบบนี้จะทำให้อีกฝ่ายตอบกลับมาอย่างสุภาพ ถ้าอีกฝ่ายบอกว่าจะตอบกลับในภายหลัง ก็อย่าคาดหวังและเฝ้ารอ ถ้าอีกฝ่ายไม่ตอบหลังจากผ่านไป 1-2 ชั่วโมง เขาก็คงไม่ตอบมาแล้ว ดังนั้น อย่าไปรบกวนเขา แค่รอให้เขาส่งข้อความหาคุณเมื่อเขาต้องการก็พอ
8. 
   8
   อย่าใช้ศัพท์อินเทอร์เน็ตมากเกินไป. การใช้ศัพท์ในโลกอินเทอร์เน็ตนั้นเป็นสิ่งที่ไม่น่าสนใจ แม้ว่าจะสามารถใช้ได้ในการสนทนาทั่วไปได้ แต่อย่าใช้แต่ศัพท์ประเภทนี้ตลอดการสนทนา

   • จำไว้ว่าให้ปรับตัวเข้ากับการพูดคุยของอีกฝ่าย ยกตัวอย่างเช่น ถ้าอีกฝ่ายใช้คำว่า “มะรุ” บ่อยๆ แต่ต้องการให้พูดเป็นคำๆ มากกว่า ก็ให้ทำตามนั้น พวกเขาอาจจะพูดแบบนี้เพราะพวกเขาไม่ชอบการใช้ศัพท์แบบพิมพ์ข้อความ และการปรับตัวเข้ากับรูปแบบภาษาอีกฝ่ายใช้จะทำให้พวกเขาไม่รู้สึกอึดอัดเวลาที่พูดคุยกับคุณ เช่นเดียวกับคนที่ชอบใช้คำสั้นๆ ตลอดบทสนทนา ให้ลองใช้รูปแบบภาษาเดียวกับเขาถ้าคุณยังไม่เคยลองทำ
9. 
   9
   เรียนรู้ว่าทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับ “อีกฝ่าย” เสมอ. ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับอีกฝ่าย จำไว้ว่าคนเรา “ชอบ” พูดเรื่องของตัวเอง และข้อนี้เองที่เป็นประโยชน์ต่อคุณ เพราะคุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับอีกฝ่ายมากยิ่งขึ้น ถามพวกเขาประมาณว่า “คุณชอบทำอะไรหรอ” หรือ “คุณเล่นกีฬาอะไรบ้าง” อย่างไรก็ตาม คุณต้องรอจนกว่าคุณรู้จักเขาสักเล็กน้อยก่อนที่คุณจะถามคำถามเหล่านี้กับอีกฝ่าย

   • บางครั้งในระหว่างการสนทนากับฝ่ายตรงข้ามในครั้งที่ 3 ให้เริ่มคำถามเกี่ยวกับลักษณะนิสัยหรือความชอบของอีกฝ่าย หลังจากถามไปได้สัก 2-3 คำถาม ก็ให้เขารู้ว่าคุณนั้นเริ่มเบื่อหรืออะไรก็ตามและต้องการจะรู้จักเขาด้วยวิธีอื่น แล้วนั่นคือเหตุผลที่ทำไมคุณถึงถามคำถามมากมาย
   • ในการสนทนา สิ่งที่สำคัญอีกอย่างคือพยายามเข้าหาเขา ดังนั้น พยายามดึงเข้าบทสนทนาหลังจากที่ถามคำถาม เช่น “ชอบเล่นกีฬาอะไร” – “ฉันเล่นฟันดาบ” – “โอ้ เจ๋งดีนะ ฉันอยากจะเล่นเหมือนกัน แต่ไม่เคยซักที” – “มันสนุกมากนะ อยากลองเล่นดูไหม” ฯลฯ พยายามทำให้ดูเหมือนว่าคุณสนใจแม้จะไม่ได้สนใจก็ตาม
10. 
    10
    สำหรับผู้หญิง: บางครั้งควรให้ผู้ชายเริ่มบทสนทนาก่อนเสมอ. ไม่ คุณเป็นคนที่สนใจเขานะ แต่คุณก็ไม่ควรจะส่งข้อความหาเขาทุกครั้ง ทุกวัน พยายามส่งข้อความหาเขาในวันอื่นๆ หรือ 2-3 วันครั้ง ให้เวลาเขาในการเริ่มต้นด้วยเช่นกัน เขาอาจจะชอบคุยกับคุณก็ได้ใครจะไปรู้

    • นอกจากนี้ อย่าทำตัวเหมือนอยากได้เขามากเกินไป อย่าจีบเขาทันทีที่ส่งข้อความหา พยายามแสร้งว่าเขาเป็นผู้หญิงคนอื่นๆ ที่คุณเพิ่งเคยเจอและอยากจะเป็นเพื่อนกับเขา และหลังจากนั้นให้จีบเขาเล็กน้อย และปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ คอยจีบเขาให้มากขึ้น
11. 
    11
    สำหรับผู้ชาย: ไม่มีใครชอบคนที่ไม่จริงจัง ดังนั้น ทำความรู้จักกับเธอก่อนที่คุณจะตัดสินใจว่าคุณนั้นชอบเธอจริงๆ. ภายนอกเธออาจจะดูดีแต่ภายในอาจจะน่ากลัวสุดๆ ดังนั้น แค่พยายามพูดคุยกับเธอโดยตรงเช่นเดียวกับส่งข้อความหาเธอเพื่อดูว่าแท้จริงแล้วเธอเป็นอย่างไร แล้วค่อยจีบเธอตอนที่คุณตัดสินใจแล้วว่าคุณชอบเธอ
12. 
    12
    ทำตัวให้น่าสนใจ. “เฮ้” “หวัดดี” “เป็นไงบ้าง” “ก็เฉยๆ นะ” “เหมือนกันเลย” “ช่าย” “เราชนะการแข่งฮอกกี้เมื่อวานนี้ด้วย” “ดีใจด้วย” “ขอบคุณ” อย่าทำแบบนี้ พยายามเติมเต็มบทสนทนาให้มีสีสัน ทำตัวให้เหมือนกับว่าคุณตื่นเต้นที่จะคุยกับอีกฝ่ายจริงๆ คุณต้องมีความสุขที่ได้คุยกับอีกฝ่าย

    • การพูดว่า “หวัดดี ทำไรอยู่” จะช่วยประหยัดข้อความได้ ในกรณีที่คุณมีข้อจำกัดในการพิมพ์ พยายามหาหัวข้อสำรองในการสนทนาด้วย เช่น “แล้ว สุขสันต์วันคริสต์มาสนะ คุณได้อะไรดีๆ แล้วหรือยัง” หรือ “ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าจะขึ้นปีใหม่แล้ว”
    • หรือ “รู้ไหมว่าคำว่า “รรรรรร” หมายถึงอะไร ฉันเพิ่งรู้และอยากรู้ว่าคุณรู้ไหม” พยายามเป็นคนที่คุยสนุก และทั้งหมดนี้ ทำตัวให้น่าเชื่อถือ เพื่อให้อีกฝ่ายไม่กลัวที่จะพูดว่า “คุณช่วยอะไรฉันได้ไหม .... ” เมื่ออีกฝ่ายต้องการความช่วยเหลือ ความไว้ใจเป็นสิ่งสำคัญของความสัมพันธ์
13. 
    13
    เป็นคนสนุกสนาน ขี้เล่น และกวนประสาทนิดๆ. พิมพ์ข้อความหาเขาประมาณว่า “นี่ หยุดคิดถึงฉันได้แล้ว :p” หรือ “ฉันเพิ่งทำให้คุณมองโทรศัพท์เพื่ออะไรก็ไม่รู้ ... เหมือนกับว่าฉันควบคุมคุณได้ =]”
14. 
    14
    อย่าส่งข้อความดังต่อไปนี้: “เฮ้” “สบายดีไหม” “เป็นไงบ้าง” “วันหยุดที่ผ่านมาเป็นไง” “เกิดอะไรขึ้นบ้าง” “หวังว่าคุณจะมีวันที่ดีนะ” ฯลฯ มีความคิดสร้างสรรค์ให้มากกว่านี้ ประโยคเหล่านี้เป็นประโยคที่ทุกคนได้รับตลอดเวลา ซึ่งทำให้เกิดความเบื่อได้ง่ายมาก ดังนั้น ส่งข้อความที่น่าสนใจเพื่อทำให้ตัวเองดูแตกต่าง
    โฆษณา

เคล็ดลับ

• ถ้าคุณไม่เห็นด้วยกับวิธีด้านบน ก็ไม่ต้องใช้ ให้เชื่อในสัญชาตญาณของตัวเองด้วยเช่นกัน ซึ่งอาจจะได้ผลดีกว่าก็เป็นได้
• มีความสุขเข้าไว้ ดูให้ดีว่าข้อความของคุณเป็นไปในแง่ดี
• ทำให้ตัวเองน่าสนใจถ้าคนอื่นๆ ถามคำถามกับคุณ เช่น “คุณกำลังทำอะไรอยู่” ให้พูดถึงสิ่งที่น่าสนใจที่คุณได้ทำลงไป และดูให้ดีว่าข้อความของคุณนั้นสร้างสรรค์
• อย่าส่งข้อความบ่อยเกินไปเพราะจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่ดี
• พูดถึงสิ่งที่พวกเขาบอกคุณไปแล้ว แล้วสานต่อสิ่่งนั้นไปเรื่อยๆ
• ส่งข้อความที่สั้น และอ่อนหวาน
• อย่าส่งข้อความหาอีกฝ่ายบ่อยๆ ถ้าพวกเขาไม่ตอบคุณในทันที ส่งข้อความเพียงครั้งเดียวและรอจนกว่าอีกฝ่ายจะตอบ อย่าไปทำให้เขารำคาญ
• ถ้าอีกฝ่ายชอบคนที่อารมณ์ดี ลองส่งรูปตลกๆ หรือเล่นมุกตลกดู
• อย่าพูดถึงสิ่งเดิมๆ ตลอดเวลา เพราะอีกฝ่ายจะคิดว่าคุณนั้นน่าเบื่อ
• พยายามส่งข้อความที่ทำให้เขารู้สึกไม่อึดอัดกับคุณหรือส่งข้อความหาคุณได้อย่างสบายใจ ถ้าคุณทำให้อีกฝ่ายรู้สึกอึดอัด อีกฝ่ายก็จะไม่อยากคุยกับคุณ
• อย่าส่งข้อความมากกว่า 3 ข้อความในครั้งเดียว
• อย่าคิดว่าอีกฝ่ายไม่ชอบคุณถ้าเขาไม่ตอบในทันที เพราะอีกฝ่ายอาจจะยุ่งหรือมีอะไรเกิดขึ้น อย่าคิดไปเอง
• อย่าใช้ภาษาหยาบคายมากเกินไป เพราะอีกฝ่ายอาจจะคิดว่าคุณกำลังโกรธพวกเขาอยู่
• มีอารมณ์ขันอยู่เสมอ

โฆษณา

คำเตือน

• อย่า พูดถึงคนอื่นๆ ที่คุณเคยชอบ หรือคนที่คุณสนใจ เพราะอาจจะทำให้เขาไม่ชอบและผิดหวังเล็กน้อยถ้าคนเหล่านั้นได้รับความสนใจมากกว่าตัวเอง
• อย่า บอกเขาว่าพวกเขานั้นร้อนแรง ถ้ามีสถานการณ์ที่ทำให้คุณอยากจะบอกเขาทำนองนี้ ให้บอกกับผู้หญิงว่า “ดูดี” “สวย” หรือ “น่ารัก” ถ้าเป็นผู้ชายให้บอกว่า “น่ารัก” หรือ “มีเสน่ห์” พยายามใช้คำที่ไม่ได้บอกว่าคุณนั้นต้องการตัวเขามากเกินไป
• ระวังข้อความที่จะส่งให้ดี ถ้าคุณส่งข้อความเชิงเกี้ยวพาราสีกับอีกฝ่าย พวกเขาอาจจะไม่ชอบก็เป็นได้ พยายามใช้ข้อความที่ทะเล้นหรือตลกขบขัน หลังจาก ที่รู้จักกันและกันดีกว่านี้ และข้อความต้องไม่ทะลึ่งหรือหยาบคาย

โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

• โทรศัพท์ที่สามารถส่งข้อความหากันได้ (ถ้าส่งข้อความได้อย่างไม่จำกัดจะดีมาก)