วิธีการ ล้างสีแดงจากการย้อมผม

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

ล้างสีแดงออกจากผม

เปลี่ยนจากสีแดงเป็นบลอนด์ทอง

ปรับสีผมแดงให้ได้เฉดที่ต้องการ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

ถ้าคุณเบื่อผมสีแดงแล้วอยากล้างสีผม ก็ต้องใช้ผลิตภัณฑ์ล้างสีผมสำเร็จรูป แต่จะผสมน้ำยาใช้เองที่บ้านก็ได้เหมือนกัน ถ้าอยากเปลี่ยนผมแดงเป็นบลอนด์ทอง ให้เริ่มจากล้างสีแดง ใช้ครีมฟอกสีผม high-lift ฟอกสีผมด้วยน้ำยาฟอก รอ 2 - 3 วัน แล้วฟอกสีผมอีกรอบ สุดท้ายย้อมผมสีบลอนด์ทอง เตือนกันก่อนว่าขั้นตอนพวกนี้จะทำร้ายผมน่าดู ถ้าอยากให้ผมออกมาสวยสุขภาพดีที่สุด แนะนำให้ไปร้านทำผมจะดีกว่า ถ้าจะปรับสีผมแดงให้อ่อนลง ก็ไปร้านทำผม หรือใช้แชมพูปรับสีผมเองที่บ้านก็ได้ แต่ไม่ว่าจะเลือกวิธีไหน ก็ล้างสีแดงจากการย้อมผมได้ในไม่กี่ขั้นตอน

ขั้นตอน

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 3:

ล้างสีแดงออกจากผม

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ล้างสีผมให้เร็วที่สุด. ยิ่งลงมือเร็ว ก็ยิ่งล้างสีย้อมออกจากผมได้เยอะขึ้นเท่านั้น ถ้าเป็นไปได้ให้ล้างสีผมภายใน 48 ชั่วโมง ถ้าทิ้งไว้นานเป็นอาทิตย์หรือเป็นเดือนหลังย้อมสีแดง ระวังจะล้างสีได้ไม่เยอะเท่าที่ควร

   • ถ้าเป็นสีย้อมชั่วคราว หรือกึ่งถาวร จะล้างออกง่ายกว่ายาย้อมผมแบบถาวร
2. 
   2
   ยังไงให้ช่างทำผมล้างสีให้ก็เห็นผลที่สุด. ช่างทำผมมืออาชีพเขาจะมีเทคนิคและเคล็ดลับต่างๆ ในการล้างสีผม ถ้าอยากล้างสีผมแบบทำร้ายผมน้อยที่สุด และผลออกมาดีที่สุด แนะนำให้ติดต่อจองคิวกับช่างทำผมที่ร้านเลย

   • ช่างทำผมมืออาชีพจะล้างสีผมให้คุณด้วยน้ำยาที่ได้จากผงฟอกสีผม ช่วยสลายพันธะของสีย้อมที่เป็นสารเคมี แบบนี้ก็ไม่ต้องกลัวผมร่วงหลังล้างสีผมเลย
   • ส่วนใหญ่ล้างสีผมแล้วผมจะออกมากระดำกระด่าง ซึ่งก็ไม่ต้องเป็นกังวล เพราะช่างทำผมมืออาชีพผ่านการฝึกอบรมมาให้รับมือกับกรณีแบบนี้อยู่แล้ว เดี๋ยวพอทำไฮไลต์ โลว์ไลต์ หรือใช้เจลจับลอนผม สีผมคุณก็จะออกมาตามต้องการ
3. 
   3
   ลองใช้ผลิตภัณฑ์ล้างสีผมเองถ้าไม่กลัวผมเสีย. การใช้ผลิตภัณฑ์ล้างสีผม ก็เหมือนตอนคุณใช้ยาย้อมผมนั่นแหละ ปกติคือต้องผสมน้ำยา 2 อย่างเข้าด้วยกันในขวดสำหรับบีบน้ำยา จากนั้นลงน้ำยาที่ผสมแล้วให้ทั่วผม สวมหมวกอาบน้ำ แล้วทิ้งไว้ตามเวลาที่กำหนด (ส่วนใหญ่จะประมาณ 20 นาที) เสร็จแล้วล้างออก และสระผมด้วยแชมพูให้สะอาด

   • มีผลิตภัณฑ์สูตรล้างสีผมโดยเฉพาะขายทั่วไป แต่บางยี่ห้อก็ใช้สารเคมีแรงๆ ทำให้ผมแห้งเสียได้ ถ้าทนไหวเพราะอยากล้างสีผมแดงไวๆ ก็หาซื้อน้ำยาล้างสีผมได้ตามร้านขายเครื่องสำอางและยาทั่วไป
   • บางผลิตภัณฑ์ต้องใช้ซ้ำเกินหนึ่งครั้ง ยังไงลองอ่านรายละเอียดและขั้นตอนที่ฉลากดูก่อน
   • ต้องรู้ก่อนว่าคุณล้างสีผมเก่าด้วยสีใหม่เลยไม่ได้ เช่น ย้อมสีบลอนด์ทองทับแดงให้กลายเป็นผมทองไม่ได้ เพราะสีแดงได้ซึมเข้าเกล็ดผมของคุณโดยถาวรแล้ว
4. 
   4
   ล้างสีผมแบบไม่ใช้สารเคมีด้วยผงวิตามินซี. ซื้อวิตามินซีแบบเม็ดจากร้านขายยาหรือในซูเปอร์ก็ได้ แล้วเอามาบดเป็นผงสัก 12 เม็ด จากนั้นผสมผงวิตามินซี 1 ส่วน กับแชมพู 2 ส่วน จากนั้นขยี้แชมพูบนผมเปียกๆ จนขึ้นฟอง ใส่หมวกอาบน้ำคลุมผมไว้ แล้วรอสัก 1 ชั่วโมง สุดท้ายล้างออกเมื่อครบตามเวลา

   • ใช้แชมพูขจัดรังแค เพราะเป็นแชมพูที่ทำความสะอาดเส้นผมแบบล้ำลึก น่าจะช่วยล้างสีแดงจากเส้นผมได้บ้าง
   • ผงวิตามินซีใช้แล้วไม่ทำร้ายผมเท่าวิธีการอื่นๆ แต่อาจจะต้องทำซ้ำหลายครั้ง กว่าจะล้างสีย้อมแดงได้
5. 
   5
   สระผมเยอะๆ ด้วยน้ำยาล้างจาน ถ้าทำได้แค่วิธีนี้. น้ำยาล้างจานช่วยล้างสีผมได้ แต่อาจจะต้องทำหลายครั้งหน่อย ให้ใช้น้ำยาล้างจานเหมือนเวลาสระผมด้วยแชมพู ให้สระผมด้วยน้ำยาล้างจานวันละครั้งจนสีหลุดหมด น้ำยาล้างจานมีซัลเฟตสูง เลยช่วยล้างสีแดงจากผมได้

   เคล็ดลับ: น้ำยาล้างจานใช้แล้วผมจะแห้งมาก ต้องลงครีมนวดเข้มข้นทุกครั้งหลังสระ

   โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 3:

เปลี่ยนจากสีแดงเป็นบลอนด์ทอง

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ทำสีกับช่างมืออาชีพเพื่อลดโอกาสเกิดผมเสีย. การเปลี่ยนผมแดงเป็นผมบลอนด์ทองนั้น ต้องอาศัยขั้นตอนที่ยุ่งยากและกินเวลานาน ถ้าปรึกษาช่างผมมืออาชีพ จะแปลงโฉมคุณออกมาดูดีและลดโอกาสเกิดผมเสียได้ดีกว่าทำเองเยอะเลย
2. 
   2
   ถ้าย้อมแดงไปแล้ว ต้องล้างสีก่อน. ถ้าไม่ได้ผมแดงตามธรรมชาติ ก็ต้องล้างสีแดงออกให้ได้มากที่สุดก่อนกัดสีผมเป็นบลอนด์ทอง จะใช้ผลิตภัณฑ์ล้างสีผม หรือถ้าไม่อยากใช้สารเคมี จะใช้น้ำยาล้างจานหรือวิตามินซีแทนก็ได้

   • ทุกครั้งหลังล้างสีผม ให้บำรุงผมด้วยครีมนวดเข้มข้น เพื่อคืนความชุ่มชื้นให้เส้นผม

   เคล็ดลับ: จะเห็นผลสุด ถ้าล้างสีผมซ้ำนาน 1 อาทิตย์ เพื่อให้สีผมออกเยอะที่สุด
3. 
   3
   ลงสี high-lift. สวมถุงมือกับเสื้อผ้าเก่า หรือใช้ผ้าคลุมกันเปื้อนแบบตามร้านก็ได้ จากนั้นผสมสี 1 ส่วน กับน้ำยาโกรก 2 ส่วน (หรือตามสัดส่วนที่แนะนำไว้ในคู่มือ) ในชามพลาสติก โดยใช้แปรงย้อมผมคนผสม ต่อมาหวีผมแล้วแบ่งเป็น 4 - 8 ช่อ ใช้กิ๊บพลาสติกเก็บช่อผมไว้ก่อน ปล่อยลงมาแค่ช่อเดียว ให้ลงสีทีละช่อ จากหัวด้านหนึ่งไปอีกด้าน ขยี้ให้สีซึมเข้าผมด้วย ทุกช่อจะได้สีเท่ากัน

   • ใส่หมวกอาบน้ำคลุมผมไว้ แล้วรอให้สีออกฤทธิ์ตามเวลาที่คู่มือแนะนำ สงสัยตรงไหนให้อ่านรายละเอียดที่ฉลากหรือคำแนะนำการใช้งาน
   • ถ้าลงน้ำยาฟอกสีผม อาจทำให้สีแดงฝังแน่นกว่าเดิมจนล้างไม่ออก แนะนำให้ใช้ high-lift สีบลอนด์ กับน้ำยาโกรกเบอร์ 30 แทน
4. 
   4
   ฟอกสีผมในวันถัดไป. สวมถุงมือและผ้าคลุมกันเปื้อน จากนั้นผสมผงฟอกสีผม 1 ส่วน น้ำยาโกรกเบอร์ 30 ทั้งหมด 1 ส่วน และแชมพูใส 1 ส่วน ในชามพลาสติก ผสมแล้วลงบนเส้นผมแบบเดียวกับตอนลงสี high-lift ต้องลงน้ำยาให้ทั่วทุกเส้น นั่งหน้ากระจกจะได้เห็นขั้นตอนชัดเจน พอฟอกสีผมไปได้ 30 นาทีก็ล้างออกได้ หรือรอจนสีแดงเริ่มจางก็ได้

   • ย้ำกันอีกทีว่าน้ำยาฟอกสีผมนั้นจะทำให้ผมเสียน่าดู โดยจะเปลี่ยนสีผมแบบชัดเจน เช่น จากแดงเป็นบลอนด์ แลกกับการที่ผมจะแห้งเสียขาดง่าย
   • ยิ่งน้ำยาโกรกเบอร์สูงๆ ก็ยิ่งทำร้ายเส้นผมมากกว่าน้ำยาโกรกเบอร์ต่ำ
5. 
   5
   ฟอกสีผมซ้ำในวันถัดไปหรืออาทิตย์ถัดไป. ถ้าไม่อยากให้เหลือสีแดง ให้ผมกลายเป็นสีบลอนด์โดยสมบูรณ์ ก็ต้องฟอกสีผมซ้ำ โดยผสมน้ำยาโกรกเบอร์ 40 ทั้งหมด 1 ส่วน กับผงฟอกสีผม 1 ส่วน ในชามพลาสติก จากนั้นใช้แปรงย้อมผมทาน้ำยาให้ทั่วผม รอ 20 นาที แล้วล้างผม สระแชมพู ลงครีมนวดเข้มข้นได้เลย

   • แนะนำให้รอสัก 3 - 7 วันก่อนเริ่มฟอกสีผมใหม่ เพื่อให้เวลาผมได้ฟื้นตัว ทุกวันให้บำรุงผมด้วยครีมนวดเข้มข้น ผมจะได้คืนสภาพ
6. 
   6
   ย้อมผมบลอนด์ให้สีผมไม่ด่าง. ถ้าสุดท้ายหลังฟอกสีผมแล้วผมกระดำกระด่าง โคนกับปลายสีไม่เหมือนกัน ให้ย้อมทั้งหัวอีกทีจะช่วยได้ โดยต้องย้อมผมให้เข้มขึ้น 1 - 2 เฉด ถึงจะได้ทองหม่นๆ ก็ยังดีกว่าแพลตินั่มบลอนด์แบบกระดำกระด่าง

   • ผสมสีตามคำแนะนำการใช้งาน จากนั้นลงที่ผมด้วยวิธีการเดียวกับตอนลงสี high-lift และน้ำยาฟอกสีผม
   • ถ้าสีผมเสมอกันทั่วหัวแล้ว แต่ยังออกไปทางแดงหรือส้ม ให้ใช้วิธีปรับสีผมแทนการย้อมทับ
   • อาจจะต้องเล็มปลายผมที่เสียหายเป็นพิเศษด้วย
   โฆษณา

วิธีการ 3

วิธีการ 3 ของ 3:

ปรับสีผมแดงให้ได้เฉดที่ต้องการ

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ใช้ toner ปรับสีผมเล็กน้อย. ถ้าสีผมออกมาแจ๋นไป หรือผิดเฉด เช่น แดงไป ส้มไป อย่างได้สีสบายตากว่านี้ การใช้ toner ปรับสีผม ก็เป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับคุณ] แต่ถ้าอยากเปลี่ยนสีชัดเจนแบบหน้ามือเป็นหลังมือ อาจจะต้องเลือกวิธีย้อมทับหรือฟอกสีผมแทน

   • toner เป็นน้ำยากึ่งถาวร เพราะฉะนั้นต้องทำซ้ำทุก 2 - 6 อาทิตย์
2. 
   2
   ปรับสีผมที่ร้าน. อย่างที่แนะนำมาตลอดบทความ คือผมจะออกมาสวยและสุขภาพดีกว่า ถ้าเลือกปรับสีผมกับช่างผมมืออาชีพตามร้าน ให้นัดช่างเพื่อรับบริการปรับสีผม อย่าลืมอธิบายลุคที่ต้องการให้ชัดเจน ช่างจะได้เลือก toner ได้เหมาะสมกับผมของคุณ

   • ช่างจะราดน้ำให้ผมเปียก ลง toner ทิ้งไว้ตามเวลาที่กำหนด จากนั้นล้างออก ขั้นตอนตรงไปตรงมาแบบนี้เลย!
   • นอกจากช่วยปรับสีผมแล้ว toner ยังช่วยเพิ่มความเงางามให้เส้นผมด้วย
3. 
   3
   ซื้อแชมพูปรับสีผมมาใช้เองที่บ้าน. toning shampoo เป็นแชมพูสำหรับปรับสีผมบางสีโดยเฉพาะ หาซื้อได้ตามร้านขายเครื่องสำอางและยา ขั้นตอนก็คือทำให้ผมเปียกก่อน จากนั้นลงแชมพูให้ทั่วถึง ขยี้ให้เข้าเส้นผม ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วล้างแชมพูออก จากนั้นทำซ้ำตามขั้นตอน

   • จะใช้แชมพูปรับสีผมทุกครั้งที่สระผมเลยก็ได้ ถ้าต้องการ แต่ขอว่าอย่าบ่อยเกิน 1 - 2 ครั้งต่ออาทิตย์ ถ้าปกติสระผมบ่อยกว่านั้น ให้ใช้แชมพูอื่นวันเว้นวัน

   เคล็ดลับ: ถ้าผมสีแดงจัดไป แนะนำให้เลือก toning shampoo สีเขียว แต่ถ้าผมส้มไป ให้เลือก toning shampoo สีม่วงแทน

   โฆษณา

เคล็ดลับ

• ถ้าอยากให้สีผมเข้มขึ้น ไม่ใช่อ่อนลง ก็แค่ล้างสีแดงออกแล้วย้อมสีใหม่ที่เข้มขึ้น

โฆษณา

คำเตือน

• การย้อมผมและ/หรือฟอกสีผมซ้ำๆ จะทำให้ผมเสียรุนแรง แนะนำให้ปรึกษาช่างทำผมที่มีประสบการณ์ จะช่วยดูแลเส้นผมคุณให้ออกมาสวยสุขภาพดีกว่า

โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

ล้างสีแดงออกจากผม

• ผลิตภัณฑ์ล้างสีผม
• ถุงมือ
• ขวดพลาสติกใส่นำ้ยา
• เสื้อคลุมกันเปื้อน หรือผ้าเช็ดตัวเก่า
• หมวกอาบน้ำ
• วิตามินซี
• แชมพู
• น้ำยาล้างจาน
• ครีมนวดเข้มข้น

เปลี่ยนจากสีแดงเป็นบลอนด์ทอง

• ผลิตภัณฑ์ล้างสีผม น้ำยาล้างจาน หรือวิตามินซี
• กิ๊บพลาสติก
• หวี
• ครีมฟอกสีผมบลอนด์ (High-lift blonde)
• น้ำยาโกรกเบอร์ 30
• ถุงมือ
• ชามพลาสติก
• แปรงย้อมผม
• ผงฟอกสีผม
• แชมพูใส
• เสื้อคลุมกันเปื้อน หรือผ้าเช็ดตัวเก่า

ใช้น้ำยาปรับสีผม

• toner หรือน้ำยาปรับสีผมเกรดร้านทำผม
• แชมพูปรับสีผม