วิธีการ ล้างสีทาเล็บเชลแลค

สีทาเล็บเชลแลคถือเป็นการตกแต่งเล็บที่จะติดอยู่บนเล็บเป็นระยะเวลานาน แต่ถ้าคุณอยากจะล้างมันออกก่อนที่มันจะหลอมติดกับเล็บคุณ ก็สามารถทำได้ที่บ้าน มีสองวิธีง่ายๆ ในการล้างสีเชลแลคออก แต่ทั้งสองวิธีนั้นต้องใช้น้ำยาล้างเล็บที่มีส่วนผสมของอะซิโตนอยู่ด้วย อ่านบทความนี้ต่อเพื่อดูวิธีการล้างสีเล็บเชลแลคออกด้วยตัวเองกันเถอะ

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 2:

วิธีแช่เล็บ

ดาวน์โหลดบทความ

1
ทาน้ำมันบำรุงเล็บ. ถูน้ำมันบำรุงเล็บลงบนผิวรอบๆ เล็บ และไม่ต้องปาดน้ำมันที่ล้นออกไป
- น้ำมันบำรุงเล็บ เป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อทำให้ผิวหนังชั้นนอกบริเวณเล็บนุ่มขึ้น และเพิ่มความชุ่มชื้นให้มากขึ้น โดยสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายเครื่องสำอางใหญ่ๆ การทาน้ำมันบำรุงเล็บลงไปก่อนที่จะล้างสีทาเล็บเชลแลคออก จะทำให้ผิวชั้นนอกสุดของคุณไม่ได้รับความเสียหายใดๆ การป้องกันไม่ให้อะซิโตนแห้งนั้น ควรต้องทำขั้นตอนนี้ก่อน
2
เทอะซิโตนลงในชามก้นตื้น. อะซิโตนบริสุทธิ์จะให้ผลลัพธ์ที่แรงที่สุด แต่อะซิโตนในน้ำยาล้างเล็บก็ใช้ได้ เมื่อในนั้นมีส่วนผสมของอะซิโตนประมาณร้อยละ 60 หรือมากกว่านั้น
- น้ำยาล้างเล็บที่ไม่มีส่วนผสมของอะซิโตน หรือที่มีอะซิโตนผสมอยู่น้อยมาก จะใช้ไม่ค่อยได้ผลในการล้างสีเชลแลคออก^{[1]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- สามารถใช้อะซิโตนบริสุทธิ์ ซึ่งขายตามร้านขายยาหรือร้านขายเครื่องสำอางก็ได้ แต่อะซิโตนบริสุทธิ์จะทำให้เล็บและผิวของคุณแห้งมากๆ เพราะฉะนั้น อย่าใช้มันบ่อยไปจะดีที่สุด
- จานชามที่ไว้ใส่อะซิโตนนั้นควรมีปากที่กว้างพอที่คุณจะจุ่มนิ้วลงไปให้อะซิโตนมิดนิ้วได้ คุณเพียงต้องเทอะซิโตนลงในชามให้สูงขึ้นมาสัก ½ นิ้ว (1.25 ซม.)
3
จุ่มเล็บของคุณลงไปในอะซิโตน. งุ้มมือของคุณบางส่วน ให้เล็บทั้งห้าเผยออกมา แล้วค้างมือไว้ท่านั้น ก่อนจะจุ่มลงอะซิโตน แล้วทิ้งเอาไว้ประมาณ 10 นาที
- การที่คุณให้ผิวได้สัมผัสกับอะซิโตนน้อยที่สุดถือเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะอะซิโตนสามารถทำให้ผิวคุณแห้งอย่างหนักได้ การงุ้มมือไว้ในท่านี้ จะทำให้คุณได้จุ่มเล็บและผิวหนังชั้นนอกลงไปในอะซิโตน แทนที่จะจุ่มลงไปทั้งนิ้วหรือทั้งมือ
- ปล่อยให้เล็บจมอยู่ในอะซิโตนเป็นเวลา 10 นาทีเต็มๆ แม้ว่าคุณจะเห็นว่าสีทาเล็บเชลแลคเริ่มแตกออกเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วก่อนจะถึงเวลาก็ตาม
4
ขูดสีทาเล็บเชลแลคออก. หลังจากผ่านไป 10 นาที ยกเล็บขึ้นมาจากอะซิโตน แล้วขูดชิ้นส่วนเชลแลคออกด้วยไม้ส้มหรือไม้ตกแต่งเล็บ
- ในการขัดสีเชลแลคออกนั้น ให้วางด้านแบนของไม้ส้มไว้ตรงโคนเล็บ แล้วค่อยๆ กดตามแนวยาวของเล็บไปเรื่อยๆ ข้างใต้สีเชลแลค ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถูสีเคลือบเชลแลคออกในแต่ละเล็บเรียบร้อย
- หรือจะเริ่มขัดตั้งแต่ตอนที่เล็บยังจุ่มในอะซิโตนหลังจากผ่านไป 8 นาทีก็ได้ มันจะช่วยให้อะซิโตนได้ทำงานต่ออีกสำหรับรอยที่ติดแน่น ขณะที่คุณกำลังขัดออก จุดนั้นก็พร้อมที่จะหลุดออกมาแล้วล่ะ^{[2]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
5
ล้างมือ. ใช้น้ำอุ่นและสบู่ล้างอะซิโตนและสีเขลแลคที่เหลือออกจากมืออย่างอ่อนโยน
- หลังจากกำจัดสีเคลือบเชลแลคออกไปได้แล้ว คุณอาจเห็นว่ายังมีสีขุ่นๆ ติดอยู่บริเวณเล็บและรอบๆ นิ้ว มันเป็นคราบอะซิโตนที่ยังหลงเหลืออยู่ สามารถล้างออกได้ด้วยสบู่และน้ำเปล่า
6
ทาโลชั่นและน้ำมันบำรุงเล็บอีก. ทาโลชั่นทามือที่มือทั้งสองข้างเยอะๆ เมื่อเสร็จขั้นตอนเรียบร้อย และทาน้ำมันบำรุงเล็บรอบๆ เล็บด้วย
- ไม่ว่าคุณจะระวังแค่ไหน อะซิโตนก็จะทำให้ผิวของคุณแห้งไม่มากก็น้อยอยู่ดี โลชั่นและน้ำมันบำรุงเล็บจะช่วยฟื้นฟูความชุ่มชื้นที่เสียไป โดยให้ทาทันทีหลังจากที่ล้างมือเสร็จแล้ว เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 2:

วิธีห่อเล็บ

ดาวน์โหลดบทความ

1
ตัดแผ่นสำลีและแผ่นอลูมิเนียมฟอยล์.^{[3]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} ตัดแผ่นสำลีปลอดเชื้อเป็นสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่ใหญ่พอที่จะปิดไปถึงเนื้อใต้เล็บได้ในแต่ละนิ้ว และตัดแผ่นอลูมิเนียมฟอยล์ให้เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด 3 นิ้ว (7.6 ซม.)
- คุณควรมีแผ่นสำลีสี่เหลี่ยมสิบชิ้นและแผ่นอลูมิเนียมฟอยล์อีกสิบชิ้น ต้องใช้อย่างละหนึ่งชิ้นต่อนิ้วหนึ่งนิ้ว
- แผ่นอลูมิเนียมฟอยล์สี่เหลี่ยมจะต้องใหญ่พอที่จะคลุมปลายนิ้วแต่ละนิ้วได้ทั้งหมด
- หรือจะใช้ก้อนสำลีแทนแผ่นสำลีก็ได้ ถ้าใช้ก้อนสำลีก็ไม่ต้องตัดให้ได้ขนาดพอดี ส่วนอลูมิเนียมฟอยล์ก็อาจต้องใหญ่กว่านี้เล็กน้อย เพื่อให้รับกับความหนาที่มากกว่าของก้อนสำลีได้
2
ทาน้ำมันบำรุงเล็บ. ถูน้ำมันบำรุงเล็บลงบนผิวรอบๆ เล็บของคุณ
- น้ำมันบำรุงเล็บ เป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อทำให้ผิวหนังชั้นนอกบริเวณเล็บนุ่มขึ้น และเพิ่มความชุ่มชื้นให้เล็บ การทามันลงไปก่อนที่จะกำจัดสีทาเล็บออกไปจะช่วยป้องกันไม่ให้หนังชั้นนอกของคุณแห้งไปได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นมากจริงๆ
3
จุ่มสำลีลงไปในอะซิโตน. จุ่มสำลีแผ่นหรือก้อนสำลีลงไปในน้ำยาล้างเล็บที่มีส่วนผสมของอะซิโตน จนกว่าสำลีจะชุ่มอะซิโตน
- มีข้อขัดแย้งกันระหว่างการใช้อะซิโตนบริสุทธิ์กับอะซิโตนที่เจือจางในน้ำยาล้างเล็บ อะซิโตนบริสุทธิ์นั้นจะได้ประสิทธิภาพมากที่สุด แต้ก็อาจทำให้เล็บและผิวของคุณแห้งขาดน้ำอย่างรุนแรงได้ อย่างน้อยคุณก็ไม่ควรใช้อะซิโตนบริสุทธิ์บ่อยเกินไป
- น้ำยาล้างเล็บที่ไม่มีส่วนผสมของอะซิโตนนั้นไม่แรงพอที่จะล้างสีเชลแลคออกได้
วางแผ่นสำลีลงไปบนเล็บโดยตรง แล้วปิดให้เรียบร้อย
5
ห่อฟอยล์รอบๆ เล็บ.^{[4]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} ห่อฟอยล์สี่เหลี่ยมเอาไว้รอบๆ ปลายนิ้วแต่ละนิ้วให้แน่น เพื่อให้สำลีที่ชุ่มไปด้วยอะซิโตนได้เกาะอยู่กับที่
- ห่อปลายนิ้วแต่ละนิ้วให้แน่นพอที่สำลีจะไม่เคลื่อนที่ แต่ไม่แน่นเกินจนฟอยล์ขาดหรือจนเลือดไม่เดิน
- อลูมิเนียมฟอยล์จะทำให้เกิดความร้อนขึ้น ซึ่งจะทำให้เพิ่มประสิทธิภาพของน้ำยาล้างเล็บให้มากขึ้น
- กดเล็บแต่ละเล็บเบาๆ เพื่อให้มั่นใจว่าอะซิโตนได้สัมผัสกับเล็บแล้ว
6
รอประมาณ 2 ถึง 10 นาที. สีเชลแลคจะเริ่มหลุดออกมาเมื่อเวลาผ่านไป 2 นาที แต่จะได้ผลดีขึ้นถ้าคุณทิ้งเอาไว้ 10 นาทีเต็มๆ แทน
- ยิ่งอะซิโตนซึมเข้าไปมากเท่าไร ก็จะยิ่งถอดสำลีออกได้ไวเท่านั้น
- ถ้าคุณทิ้งไว้มากกว่า 10 นาที สำลีอาจแห้งไปก็ได้ แล้วถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น สำลีก็จะติดกับเล็บคุณ ทำให้เอาออกยากกว่าเดิม
7
ขัดหรือเช็ดสีเชลแลคออก. ค่อยๆ ลอกสีเชลแลคที่แตกออกด้วยไม้ส้มหรือไม้แต่งเล็บ
- ใช้ด้านแบนของไม้วางตรงโคนเล็บ แล้วขัดตามยาวลงมาจนกว่าสีเชลแลคจะหลุดออก
- คุณอาจแค่เช็ดสีเชลแลคที่เหลือออกด้วยสำลีจุ่มน้ำยาล้างเล็บอะซิโตนก็ได้
8
ขัดเล็บ ถ้าจำเป็น. ถ้ามันยังเหลือคราบเหนียวๆ หรือคราบขุ่นๆ บนเล็บ ให้ใช้ผ้าสะอาดหรือที่ขัดเล็บนุ่มๆ เช็ดมันออก
- เลี่ยงการใช้อุปกรณ์ขัดเล็บไฟฟ้า หรือที่มีเนื้อหยาบ เพราะมันอาจทำให้เล็บของคุณอ่อนแอลงได้
ล้างคราบที่เหลือด้วยน้ำอุ่นและสบู่
10
ทาโลชั่นและน้ำมันบำรุงเล็บเพิ่ม. หลังจากที่ล้างมือแล้ว เติมความชุ่มชื้นกลับไปด้วยโลชั่นทามือ และทาน้ำมันบำรุงเล็บบริเวณหนังใกล้ๆ เล็บและบนเล็บเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นเข้าไปอีก
- ไม่ว่าคุณจะระมัดระวังมากแค่ไหน ผิวก็แห้งอยู่ดี โลชั่นและน้ำมันบำรุงเล็บจะช่วยฟื้นฟูความชุ่มชื้นที่เสียไปให้กลับคืนมาได้
โฆษณา

เคล็ดลับ

ถ้าคุณไปตกแต่งเล็บด้วยยาเคลือบเชลแลคบ่อยๆ คุณควรล้างมันออกโดยผู้เชี่ยวชาญ การแช่เล็บในอะซิโตนบ่อยเกินไปจะส่งผลเสียต่อเล็บและผิวของคุณในระยะยาว
ใช้ชามแก้วหรือเซรามิคในการใส่อะซิโตน เพราะมันสามารถละลายพลาสติกได้
ค่อยๆ ขัดสีด้วยไม้ส้มออกอย่างอ่อนโยน จะได้ไม่เป็นการทำร้ายผิวหนังใต้เล็บ

โฆษณา