วิธีการ มีบทสนทนาทางโทรศัพท์กับแฟนสาว

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

การหาเรื่องให้พูด

การรับฟังอย่างเห็นใจ

การเป็นคนให้กำลังใจ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

การมีบทสนทนากับแฟนสาวอาจเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณไม่ชินกับการคุยโทรศัพท์เป็นเวลานาน มันอาจจะยากในการรู้วิธีโต้ตอบโดยไม่เห็นสีหน้าและภาษากายหรือในการคิดถึงหัวข้อของบทสนทนาเมื่อคุณไม่มีอะไรให้พูดมากนัก การพูดกับแฟนสาวไม่จำเป็นต้องเป็นประสบการณ์ที่น่ากังวล อันที่จริงแล้ว หากคุณมีข้อมูลเล็กน้อยและทัศนคติที่ดี คุณอาจจะพบว่าคุณรอคุยกับแฟนสาวไม่ไหวแล้ว

ขั้นตอน

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 3:

การหาเรื่องให้พูด

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ถามหลายคำถาม. สิ่งนี้อาจจะเป็นส่วนสำคัญที่สุดในการทำตัวเป็นคนคุยสนุกกับทุกคนตั้งแต่แฟนไปจนถึงปู่ย่าตายายหรือเด็กข้างบ้าน ผู้คนมักจะชอบพูดถึงตัวเองเป็นหลักและหากคุณเปิดบทสนทนาให้กว้าง ผู้คนก็จะคุยกับคุณมากขึ้น พยายามถามคำถามปลายเปิดมากขึ้นและหลีกเลี่ยงคำถามปลายปิด ประเด็นคือการถามสิ่งที่จะนำไปสู่บทสนทนาไม่ใช่สัมภาษณ์เธอด้วยคำถาม

   • ถามเกี่ยวกับวันของเธอ สิ่งนี้คือจุดเริ่มต้นที่ชัดเจน เมื่อพวกคนถูกถามว่า “วันนี้เป็นอย่างไร?” คนส่วนใหญ่มักจะตอบว่า “สบายดี” โดยไม่ได้คิดถึงมันด้วยซ้ำ คำถามนี้จะไม่มาไม่ไป แทนที่จะถามเช่นนั้นคุณควรถามบางอย่างที่ตรงประเด็น เช่น “วันนี้คุณทำอะไรน่าสนใจหรือไม่?” หรือ “วันนี้ไปถึงที่ทำงานก่อนพายุเข้าหรือไม่?” มันอาจจะไม่นำไปสู่บางอย่างที่น่าทึ่งแต่มันจะทำให้คุณทั้งคู่เข้าสู่บทสนทนาได้ง่ายขึ้น
   • ถามเกี่ยวกับความสนใจที่คุณมีร่วมกันหรือคนที่คุณทั้งคู่รู้จัก สิ่งนี้คือวิธีที่ดีในการแนะนำหัวข้อที่คุณสามารถพูดถึงได้ทั้งคู่โดยที่ยังตีกรอบให้เป็นคำถาม ลองถามว่าเธอคิดอย่างไรเกี่ยวกับรายการทีวีตอนล่าสุดที่คุณทั้งคู่ชอบหรือถามว่าเธอได้อ่านบทสัมภาษณ์ของนักเขียนที่คุณทั้งคู่ชอบแล้วหรือยัง
   • ถามหากำลังใจหรือคำแนะนำ มันสำคัญที่คุณต้องหยิบยื่นความเห็นอกเห็นใจและที่พักพิงเมื่อเธอต้องการแต่หากเธอรู้สึกว่าคุณไม่เคยต้องการกำลังใจจากเธอ เธอก็อาจจะเริ่มรู้สึกว่าเธอเป็นภาระ ไม่มีใครต้องการคบกับหุ่นยนต์ไร้อารมณ์ที่ไม่เคยต้องการความช่วยเหลือ อย่าสร้างปัญหาขึ้นมาหากไม่มีปัญหาแต่หากคุณกำลังประสบปัญหากับบางอย่างก็อย่ากลัวที่จะทำตัวอ่อนแอและขอคำแนะนำจากเธอ
   • ถามว่าเธอเคยต้องการโตขึ้นมาเป็นอะไรเมื่อตอนเธออายุ 7 ขวบ สิ่งนี้เป็นคำถามที่แปลก มันจะแสดงให้เธอเห็นว่าคุณใส่ใจในการเรียนรู้เธอมากขึ้นและให้มุมมองใหม่กับคุณ
2. 
   2
   แบ่งปันเรื่องราวประจำวัน. หากบางอย่างที่ตลกหรือน่าสนใจเกิดขึ้นกับคุณในวันนี้ก็ควรบอกเธอเกี่ยวกับมัน มันอาจจะง่ายที่คุณจะเผลอใจไปกับสถานการณ์ที่น่าหงุดหงิดเมื่อคุณทำสิ่งนี้ เพราะฉะนั้น พยายามทำให้มั่นใจว่าคุณจะไม่บ่นเธอ
3. 
   3
   วางแผนการพูดคุย. รวมหัวกันคิดถึงสิ่งที่น่าสนุกที่คุณสองคนสามารถทำร่วมกันในสัปดาห์นี้ หากคุณมีแผนอยู่แล้วก็ควรพูดถึงว่าคุณตื่นเต้นแค่ไหนที่จะได้ไปดูคอนเสิร์ตหรือพูดถึงรีวิวของละครเวทีที่คุณกำลังจะไปดู สิ่งนี้จะทำให้เธอตื่นเต้นด้วยเช่นกันและทำให้เธอรู้สึกว่าเธอเป็นส่วนที่สำคัญของชีวิตคุณ
4. 
   4
   แบ่งปันเป้าหมายและแรงบันดาลใจ. คุณไม่จำเป็นต้องควบคุมบทสนทนาแต่ฝ่ายเดียวแต่ไม่มีใครอยากคบกับคนที่ไม่มีความฝัน บอกเธอเกี่ยวกับความหวังและความฝันของคุณ
5. 
   5
   นินทา. สิ่งนี้น่าจะเป็นส่วนที่เล็กน้อยของบทสนทนาและคุณควรหลีกเลี่ยงเรื่องร้ายแรงหรือเป็นส่วนตัว แต่สิ่งนี้อาจจะเป็นปัญหาได้ง่ายหากคุณเผลอตัว มีคนไม่กี่คนที่สามารถยับยั้งชั่งใจจากการนินทาคนอื่นได้
6. 
   6
   ติดตามผล. การเชิญชวนให้เธอบอกคุณเกี่ยวกับบางอย่างที่เธอพูดจะทำให้เธอรู้ว่าคุณสนใจ มันจะยังต่อยอดสิ่งที่คุณจะได้จากหัวข้อนี้ซึ่งช่วยปกป้องคุณจากการที่ต้องหาหัวข้อใหม่มาพูด
   โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 3:

การรับฟังอย่างเห็นใจ

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   พยายามเข้าใจเธอ. การรับฟังอย่างเห็นใจเป็นที่รู้จักในนามของการรับฟังอย่างตั้งใจหรือรับฟังอย่างคิดตาม มันหมายถึงวิธีการรับฟังและตอบโต้ที่มุ่งนี้การเข้าใจบุคคลที่กำลังพูดคุยกับคุณ สิ่งนี้อาจจะเป็นทักษะการมีบทสนทนาที่สำคัญที่สุดที่คุณสามารถมีได้ ไม่เพียงแต่มันจะทำให้บทสนทนาไหลลื่นแต่มันยังจะทำให้เธอรู้สึกว่าคุณเข้าใจและรับฟังเธอจริงจังซึ่งจะเพิ่มความเชื่อใจที่เธอมีให้กับคุณและนำคุณทั้งคู่ให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น
2. 
   2
   จดจ่อกับเธอ. ในความสัมพันธ์ที่ดีมันควรมีพื้นที่ในบทสนทนาสำหรับคน 2 คนอย่างเท่าเทียมกัน หมายความว่าบางครั้งฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะต้องการความสนใจหรือกำลังใจมากกว่าอีกฝ่าย ผู้ที่รับฟังอย่างเห็นใจจะทำให้อีกฝ่ายเป็นคนดำเนินบทสนทนาที่เขาหรือเธอต้องการโดยที่ไม่สอดแทรกทิฐิของตัวเองเข้าไป
3. 
   3
   การให้ความสนใจอย่างจริงใจ. คุณไม่สามารถเสแสร้งสิ่งนี้เพราะฉะนั้นคุณก็ไม่ควรลอง มันอาจจะง่ายในการไม่สามารถนึกถึงสิ่งที่จะพูดจนคุณลืมที่จะรับฟัง สิ่งนี้คือจุดจบของความเห็นใจ ปล่อยให้เธอพูดสิ่งที่เธอต้องการพูดและรับฟังโดยไม่ขัดจังหวะ
4. 
   4
   สร้างการโต้ตอบแบบปลายเปิดและไม่ตัดสินชื่อแสดงว่าคุณกำลังรับฟังอยู่. บ่อยครั้งที่สิ่งนี้อาจจะเป็นการบอกเธอว่า “มันฟังดูยากลำบากมาก ฉันรู้ว่าน้องหมาตัวนี้สำคัญกับเธอมากแค่ไหน” สิ่งนี้จะทำให้เธอรู้ว่าคุณรับฟังและรู้สึกร่วมไปกับเธอในขณะที่ให้พื้นที่กับเธอในการแบ่งปันเรื่องราวต่อไป
5. 
   5
   สะท้อนความรู้สึกกลับไปที่เธอ. หากเธอเล่าเรื่องที่เธอไปทะเลาะกับเพื่อน คุณก็ควรหลีกเลี่ยงการพูดว่า “ฟังดูเหมือนเพื่อนของเธอนิสัยไม่ดีเลย พวกเขาไม่เห็นว่าเธอเป็นคนดีแค่ไหน” สิ่งนี้อาจจะดูเหมือนเป็นการตอบโต้แบบให้กำลังใจแต่ความจริงคือเธอรักเพื่อนของเธอและการตัดสินพวกเขาอย่างรุนแรงจะย้อนกลับมาทำร้ายคุณ พยายามตอบโต้ด้วยบางสิ่ง เช่น “มันฟังดูเหมือนเธอไม่ได้รับความเคารพจากวิธีที่พวกเขาพูดกับเธอ” สิ่งนี้จะตอบโต้กับความรู้สึกที่เธอมีโดยไม่กล่าวโทษหรือหยิบยื่นคำแนะนำที่เธอไม่ได้ร้องขอ
6. 
   6
   เชื้อเชิญให้เธอพูดต่อ. ใช้ประโยค เช่น “เล่าอีกซิ” “ฉันอยากฟังเรื่องนี้อีก” “มันรู้สึกอย่างไร?” หรือ “เธอทำอย่างไร?” เพื่อกระตุ้นให้เธอแบ่งปันต่อไป
   โฆษณา

วิธีการ 3

วิธีการ 3 ของ 3:

การเป็นคนให้กำลังใจ

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ถามถึงข่าวคราวเกี่ยวกับเรื่องที่เธอเคยเล่าให้ฟัง. สิ่งนี้จะแสดงให้เธอเห็นว่าคุณใส่ใจกับสิ่งที่เธอแบ่งปันกับคุณและสิ่งที่สำคัญกับเธอ ลองถามว่า “เจ้านายของเธอทำตัวดีขึ้นหรือไม่ในวันนี้?” หรือ “แม่สบายดีหรือยัง?” หรือ “เธออ่านหนังสือที่เธอชอบจบหรือยัง?”
2. 
   2
   หลีกเลี่ยงการหยิบยื่นวิธีแก้ไขนอกเสียจากว่าเธอร้องขอ. ผู้ชายส่วนใหญ่มองการบอกคนอื่นเกี่ยวกับปัญหาของพวกเขาว่าเป็นวิธีในการแก้ปัญหาเหล่านั้น ในทางกลับกัน ผู้หญิงส่วนใหญ่ต้องการคำปลอบใจมากกว่าคำแนะนำที่สามารถปฏิบัติได้จริง เมื่อแฟนสาวของคุณเล่าให้ฟังถึงเรื่องที่เธอกำลังประสบปัญหา สัญชาตญาณแรกของคุณอาจจะเป็นการหยิบยื่นวิธีแก้ไขแต่คุณควรหลีกเลี่ยงการทำสิ่งนี้ มันมีโอกาสที่ดีว่าเธอเพียงต้องการเล่าเรื่องนี้ให้คุณฟัง หากเธอต้องการคำแนะนำเธอก็อาจจะขอ แต่จนกว่าจะถึงจุดนั้นสิ่งที่เธอต้องการก็แค่เพียงใครที่เข้าใจ
3. 
   3
   แสดงให้เธอเห็นว่าคุณเข้าใจสิ่งที่เธอรู้สึก. สิ่งนี้อาจจะไม่เหมาะสมกับทุกสถานการณ์แต่บางครั้งการแบ่งปันเรื่องราวของประสบการณ์ใกล้เคียงที่คุณเคยพบเจอสามารถตอกย้ำประสบการณ์ของเธอและทำให้เธอรู้สึกโดดเดี่ยวน้อยลง อย่าเล่ายาวเกินไป คุณคงไม่อยากเป็นฝ่ายเดียวที่พูดในบทสนทนา
4. 
   4
   หลีกเลี่ยงการโต้แย้งความรู้สึกของเธอ. ห้ามพูดประโยค “เธอก็ทำเกินไป” “อย่ากังวลมากเกินไป” “พรุ่งนี้เธอจะรู้สึกดีขึ้น” “มันไม่ได้แย่ขนาดนั้น” หรือ “มันไม่มีเหตุผลที่ต้องเสียใจ” ไม่ว่าคุณจะรู้สึกว่าการตอบรับทางอารมณ์ของเธอนั้นเหมาะสมหรือไม่ มันก็จะไม่เปลี่ยนแปลงสิ่งที่เธอรู้สึก อยากกำจัดหรือดีกว่าอารมณ์ของเธอ อย่าคาดหวังความมีเหตุผลตลอดไป อารมณ์ไม่ใช่สิ่งที่มีเหตุผลและผู้คนที่กำลังเสียใจมักจะไม่มีเหตุผล คุณควรคาดหวังที่จะถูกปฏิบัติด้วยความเคารพแต่อย่าบอกเธอว่าเธอเป็นคนไม่มีเหตุผลหรือแนะนำวิธีที่มีเหตุผล คุณสามารถทำสิ่งนี้ในภายหลัง งานของคุณในตอนนี้คือการรับฟัง
   โฆษณา

เคล็ดลับ

• คาดหวังให้เธอใส่ใจความรู้สึกของคุณเช่นกัน จำไว้ว่ามันไม่ใช่ความรับผิดชอบของคุณแต่ฝ่ายเดียวในการสร้างบทสนทนาให้ดำเนินต่อไปหรือหยิบยื่นกำลังใจให้กับเธอ เธอควรใช้ความพยายามแบบเดียวกันในสิ่งเหล่านี้ หากเธอไม่พยายามทำสิ่งเหล่านี้ คุณก็ควรหาวิธีในการพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอย่างไม่กล่าวหา ใช้ประโยคที่แทนตัวและจดจ่อกับความรู้สึกของคุณ ลองพูดว่า “บางครั้งฉันรู้สึกว่ามันมีแรงกดดันมากมายในการทำให้บทสนทนาดำเนินต่อไป เธอรู้สึกบ้างไหม?” หรือ “ฉันรู้สึกว่าฉันเป็นฝ่ายพยายามให้กำลังใจเธออยู่ฝ่ายเดียว เธอจะว่าอะไรไหมหากฉันมีเรื่องที่กังวลใจที่อยากเล่าให้เธอฟังเช่นกัน?” หากเธอไม่ยินยอมที่จะมีบทสนทนาเกี่ยวกับความกังวลของคุณ มันก็อาจถึงเวลาในการพิจารณาว่าความสัมพันธ์นี้ดีหรือไม่
• ลองใช้วิธีการสื่อสารแบบอื่น บางคนรู้สึกกังวลในการพูดโทรศัพท์ หากคุณรู้สึกแบบนี้หรือคุณคิดว่าเธอรู้สึกแบบนี้ก็ให้ลองแนะนำที่จะเปลี่ยนการคุยโทรศัพท์เป็นการโทรแบบวีดีโอ ส่งข้อความ แชทออนไลน์หรืออะไรก็ตามที่คุณรู้สึกสบายใจมากขึ้น ทำให้มันชัดเจนว่าคุณไม่ได้พยายามหลีกเลี่ยงที่จะคุยกับเธอแต่คุณคิดว่าคุณจะสื่อสารกับเธอได้ดีขึ้นในรูปแบบอื่น
• หลีกเลี่ยงบทสนทนาที่ไม่มีจุดจบ หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดกำลังเศร้าหรือมีปัญหา คนก็อาจจะต้องคุยเป็นเวลานาน แต่โดยปกติแล้วคุณควรจบบทสนทนาในขณะที่มันยังไหลลื่น อย่ารอจนคุณทั้งคู่ไม่มีเรื่องให้พูดและเข้าสู่ความเงียบที่น่าอึดอัดจึงหาข้ออ้างในการวางสาย จำไว้ว่าคุณยังต้องมีเรื่องให้พูดเมื่อคุณเจอกันต่อหน้า
• จบบทสนทนาอย่างนุ่มนวลที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ คุณคงไม่อยากทำลายความพยายาม
• ประโยคที่ว่า "ผู้หญิงที่น่าสงสาร" อาจจะรู้สึกแปลกและทำให้คุณฟังดูเหมือนเป็นพ่อแม่ของเธอ เด็กดื้อประโยคที่พ่อแม่ของเธอใช้เพราะมันจะสร้างบรรยากาศที่แปลกประหลาด

โฆษณา