วิธีการ ฝึกลูกสุนัขที่บ้าน

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

จัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม

จัดตารางกิจวัตรประจำวัน

สอดแทรกช่วงเวลาที่ให้อิสระแก่มัน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

ลูกสุนัขตัวใหม่ไม่รู้หรอกว่าต้องขับถ่ายตรงไหนจึงจะเหมาะสม จนกว่าเจ้าของสุนัขจะฝึกให้มันรู้จักจำ ดังนั้น การฝึกสุนัขด้วยตัวเองที่บ้าน จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างหนึ่งในการเลี้ยงลูกสุนัข หากคุณมีความรู้พื้นฐานในการฝึกมันสักนิด อีกไม่นานมันก็จะสามารถเรียนรู้ได้เอง

ขั้นตอน

ส่วน 1

ส่วน 1 ของ 3:

จัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   เข้าใจมุมมองของลูกสุนัขที่มีต่อสภาพแวดล้อม. ลูกสุนัขไม่ได้มีความรู้ติดตัวมาแต่เกิดหรอกว่า มนุษย์เราเห็นว่าสิ่งใดผิดและสิ่งใดถูก แต่มันก็สามารถเรียนรู้ได้หลายอย่าง ลูกสุนัขมันยังไม่เข้าใจว่าการฉี่บนพรมของคุณนั้นเป็นเรื่องผิด สำหรับพวกมันแล้ว พรมในห้องก็ดูเหมาะจะถ่ายของเหลวพอๆ กับบนสนามหญ้าหน้าบ้านนั่นแหละ คุณแค่ต้องสอนให้มันเลือกสักนิด
2. 
   2
   ประเดิมประสบการณ์เชิงบวกของมัน. การฝึกลูกสุนัขให้รู้จักขับถ่ายให้เป็นที่ในช่วงเริ่มแรกนั้น มีผลยิ่งกว่าครั้งไหนๆ เพราะหากคุณพามันออกไปบ่อยๆ มันจะคิดว่าคุณต้องการให้เดินออกไปเรื่อยเปื่อยไร้จุดหมาย แต่หากคุณพามันไปปลดทุกข์และชื่นชมมัน ให้มันรู้สึกแฮปปี้ตั้งแต่ครั้งแรกๆ ล่ะก็ ต่อไปมันก็จะเริ่มเข้าใจว่า คุณต้องการอะไรจากมัน ถึงแม้ว่าอาจจะต้องใช้เวลาทำซ้ำบ่อยหน่อยก็ตาม

   • หากคุณเห็นมันกำลังขับถ่ายในบ้าน ให้รีบเข้าไปขัดขวางไว้ ด้วยการใช้คำสั่งว่า “ข้างนอก!” แต่ไม่ต้องถึงกับตะโกนหรือตะคอก แค่ให้ชัดเจนพอที่จะขัดขวางมันจากการขับถ่ายได้ก็พอ
   • อุ้มลูกสุนัขไปดูจุดขับถ่ายที่คุณทำเอาไว้ให้มัน หากมันถ่ายลงถูกจุด ก็ชื่นชมหรือให้รางวัลมันตามความเหมาะสม และคุณควรให้มันถ่ายในบริเวณดังกล่าวทุกครั้งนับจากนี้ไป ทั้งนี้ การใช้สายจูงสุนัข เป็นวิธีการที่ยอดเยี่ยมในการควบคุมมันให้อยู่ในบริเวณที่คุณต้องการ
3. 
   3
   อย่าลงโทษลูกสุนัขเวลาทำผิดโดยไม่ตั้งใจ. ลูกสุนัขของคุณไม่รู้หรอกว่าคุณทำโทษมันเพราะอะไร การกร่นด่าหรือทุบตีจะยิ่งฝังความกลัวไว้ในหัวมัน ซึ่งจะส่งผลให้มันพยายามแอบไปถ่ายในที่ลับๆ ตามมุมบ้านในครั้งต่อๆ ไป หากคุณไม่รู้จักวิธีการฝึกมันในเชิงบวก มันก็จะก่อปัญหาวุ่นวายมากขึ้นกว่าเดิม
4. 
   4
   เข้าใจธรรมชาติของกระเพาะปัสสาวะลูกสุนัข. อายุของลูกสุนัขมีความเชื่อมโยงกับความสามารถในการถูกฝึกของมัน และช่วงเวลาในการพักเว้นระหว่างขับถ่าย ดังนั้น อย่ามองความผิดพลาดของมันว่าเป็นเพราะมันดื้อ พยายามเปรียบเทียบกับเด็กทารกที่กำลังอยู่ในช่วงเรียนรู้หรือฝึกกลั้นฉี่ดูสิ ปกติแล้วลูกสุนัขจะมีธรรมชาติดังนี้:

   • ช่วงอายุระหว่าง 8-16 สัปดาห์ เป็นช่วงพัฒนาทักษะทางสังคมของลูกสุนัข ในช่วงนี้ ลูกสุนัขของคุณจะสามารถกลั้นฉี่ได้ประมาณ 2 ชม. ซึ่งถือเป็นช่วงที่ดีที่สุดในการฝึกให้มันขับถ่ายเป็นที่
   • ช่วงประมาณ 16 สัปดาห์ให้หลัง ลูกสุนัขของคุณจะกลั้นฉี่เพิ่มได้มากขึ้นถึงประมาณ 4 ชม. ก่อนหน้านี้มันกลั้นได้เพียง 2 ชม.ก่อนที่จะต้องหาที่ปลดปล่อย
   • ช่วงอายุระหว่าง 4-6 เดือน ลูกสุนัขของคุณอาจจะดูเหมือนถูกฝึกได้แค่ครึ่งเดียวเท่านั้น เพราะมันจะไวต่อสิ่งรบกวนต่างๆ มากขึ้น และต้องการสำรวจโลกรอบตัวมากกว่าเดิม ซึ่งเวลาที่คุณพามันไปบริเวณจุดขับถ่าย มันก็อาจจะมัวแต่ไปเล่นกับแมลงตามพื้นดินแถวนั้น ทั้งนี้ ช่วงอายุสี่เดือนนี้ ลูกสุนัขของคุณสามารถรอได้ถึงประมาณ 5 ชม. ก่อนที่จะต้องปลดทุกข์ และในอายุ 6 เดือน มันจะรอได้ประมาณ 6-7 ชม.
   • ช่วงอายุระหว่าง 6-12 เดือน ภาวะเจริญพันธ์ทำให้พวกลูกสุนัขตัวผู้จำเป็นต้องยกขาขึ้นข้างนึงเวลาฉี่ ส่วนตัวเมียก็มักจะพร้อมให้ผสมพันธ์ุ กระเพาะปัสสาวะของพวกมันสามารถจุของเหลวได้ 6-8 ชม. ก่อนที่จะต้องระบายออก
   • ช่วงอายุระหว่าง 12-24 เดือน ลูกสุนัขของคุณอาจจะยังไม่โตเต็มวัยนัก ขึ้นอยู่กับแต่ละพันธุ์ แต่หวังว่าคุณจะฝึกการขับถ่ายให้พวกมันมานานก่อนหน้านี้แล้วนะ แต่หากยังไม่ได้ทำ ก็ยังพอมีหวังอยู่ ถึงแม้ว่าจะพอฝึกได้ แต่การที่มันโตมาขนาดนี้และมีนิสัยการขับถ่ายไม่ถูกวิธีมาตลอด ทำให้คุณต้องใช้ความขยันอดทนและพลังงานมากหน่อยในการดัดนิสัยมัน
5. 
   5
   ตระหนักในสายพันธุ์ของสุนัข. สุนัขพันธุ์ใหญ่มักจะฝึกได้ง่ายกว่าพวกตัวเล็กๆ และพวกสุนัขพันธุ์เล็กก็มักต้องออกไปขับถ่ายบ่อยกว่าสุนัขพันธุ์ใหญ่ (เพราะมีระบบย่อยอาหารสั้นกว่า) นอกจากนี้ สุนัขพันธุ์เล็กยังอาจแอบไปถ่ายไว้ตามจุดต่างๆ ที่ซ่อนไว้ไม่ให้คุณเห็น กว่าจะรู้อีกทีมันก็พัฒนานิสัยเสียไปมากแล้ว ซึ่งคุณอาจใช้วิธีจำกัดบริเวณมันเพื่อแก้ปัญหา
6. 
   6
   ทำกรงบ้านสุนัขให้มัน. สุนัขเหมือนคนเราอยู่อย่างนึง ตรงที่พวกมันไม่ชอบขับถ่ายใกล้บริเวณที่เราทานอาหารหรือใช้นอนพักผ่อน การฝึกให้มันรู้จักบริเวณบ้านของตัวเอง จะช่วยในการฝึกนิสัยการขับถ่ายอย่างเหมาะสมให้แก่มันด้วย นอกจากนี้ กรงบ้านสุนัขยังถือเป็นสิ่งที่ทำให้มันรู้สึกมั่นคงมากขึ้น หากคุณออกไปข้างนอก ก็ควรเปิดกรงบ้านของมันเอาไว้ให้เดินเข้าออกได้ตามใจชอบ โดยอาจนำของเล่น น้ำและของขบเคี้ยวบางอย่าง และอุปกรณ์ช่วยในการนอนสำหรับลูกสุนัข วางไว้ให้มันในนั้นด้วย ทำให้บ้านมันดูน่าอยู่ ไม่ใช่ที่ๆ เหมือนเป็นกรงขัง

   • สุนัขบางตัวอาจจะเปิดใจรับบ้านใหม่ของมันได้ทันที ในขณะที่บางตัวอาจต้องใช้เวลาสักหน่อย
   • เมื่อถึงจุดๆ หนึ่ง สุนัขของคุณย่อมต้องถูกจับไว้ในกรงหิ้วบ้าง เช่น เวลาไปหาหมอ พามันไปเที่ยวบางแห่ง หรือเวลาไปตัดแต่งขนตามร้าน ดังนั้น การฝึกให้มันคุ้นเคยกับการอยู่ในกรงบ้านเอาไว้ก่อน จึงถือเป็นเรื่องที่ดีและควรทำ
   • ลูกสุนัขอายุต่ำกว่า 6 เดือน ไม่ควรถูกปล่อยทิ้งไว้ในกรงบ้านมากกว่า 3-4 ชม. ไม่ว่ามันจะสามารถกลั้นฉี่ได้นานแค่ไหนก็ตาม เพราะพวกมันยังต้องการมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งรอบตัวด้วย หากคุณต้องออกไปข้างนอกระหว่างวัน ก็ควรจ้างหรือวานใครสักคนให้ช่วยพามันออกไปเดินเล่นตามความเหมาะสม
   • เวลาที่คุณกลับมาบ้านหลังจากกักมันไว้ในกรงบ้านแล้ว คุณอาจจะพามันออกไปข้างนอกทันทีเลยก็ได้ มันจะได้ไม่มีโอกาสในการขับถ่ายไม่เป็นที่
7. 
   7
   ใช้กรงบ้านที่มีขนาดเหมาะสม. คุณควรหากรงบ้านสุนัขที่มีขนาดเพียงพอให้มันลุกนั่ง นอน หรือหมุนตัวไปมาได้อย่างสะดวก แต่อย่าให้ใหญ่พอที่มันจะถ่ายในมุมหนึ่ง และไปนอนในอีกมุมหนึ่งได้ เทคนิคนี้เป็นการทำให้มันนอนและขับถ่ายในที่เดียวกันไม่ได้ คุณจะได้ฝึกการขับถ่ายให้มันง่ายขึ้น หากสุนัขของคุณเป็นพันธุ์ใหญ่ สมัยนี้ก็มีขายกรงบ้านแบบที่สามารถขยายได้ตามขนาดตัวมันเมื่อโตขึ้น โดยไม่ต้องไปเสียเงินซื้อใหม่อีก หากคุณไม่อยากซื้อเลย คุณก็อาจจะกั้นส่วนหนึ่งในห้องน้ำ และทำเป็นประตูเล็กๆ ให้มันเข้าออกได้
8. 
   8
   ก่อนนำสุนัขมาเลี้ยง ต้องจัดหาที่ขับถ่ายไว้ให้ตายตัวเสียก่อน. จะเป็นบริเวณสักแห่งในสวนหลังบ้านก็ได้ ที่มีกำแพงกั้นลมสักนิด หรือทำเลเหมาะๆ สักจุดหนึ่งในสวน แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกบริเวณใด ก็ขอให้กำหนดจุดดังกล่าวไว้อย่างตายตัว ก่อนที่จะนำมันกลับมาเลี้ยงที่บ้านของคุณ เพราะคุณคงไม่อยากจะฝึกการขับถ่ายให้มันแบบสะเปะสะปะไปทั่วบริเวณ ในขณะที่รอให้คุณตัดสินใจได้ก่อนหรอกนะ
   โฆษณา

ส่วน 2

ส่วน 2 ของ 3:

จัดตารางกิจวัตรประจำวัน

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   กำหนดเวลาให้อาหาร. การกำหนดเวลาให้อาหารลูกสุนัข จะช่วยให้ภารกิจของคุณลุล่วงได้ง่ายขึ้น การปล่อยให้ลูกสุนัขกินได้ตามใจตลอดเวลา จะทำให้การฝึกฝนมันยากขึ้น นอกจากนี้ การกำหนดเวลาให้มันออกไปเดินเล่นนอกบ้าน ก็เป็นการช่วยได้อย่างหนึ่งเหมือนกัน พยายามพาลูกสุนัขออกไปเดินเล่นย่อยอาหารหลังจากกินอาหารประมาณ 15-20 นาทีให้เป็นประจำ
2. 
   2
   กำหนดเวลาขับถ่าย. สิ่งสำคัญที่สุดในการฝึกลูกสุนัขอยู่ที่บ้านคือความสม่ำเสมอ หากคุณมีความสม่ำเสมอ และทำเรื่องเดิมๆ รวมถึงควบคุมผลลัพธ์ให้เหมือนเดิมทุกครั้ง ลูกสุนัขของคุณจะสามารถจดจำได้อย่างรวดเร็ว ในทางกลับกัน การเปลี่ยนพฤติกรรมและความต้องการของคุณบ่อยๆ มีแต่จะทำให้มันสับสน พยายามกำหนดตารางเวลาให้สม่ำเสมอและคาดการณ์ได้สำหรับลูกสุนัขของคุณดีกว่า โดยพามันออกไปข้างนอก:

   • เมื่อมันตื่นนอนตอนเช้า หรืออาจจะก่อนหน้าสักนิด ในกรณีที่คุณตื่นก่อนมัน
   • หลังมื้ออาหารทุกมื้อ ลูกสุนัขมักต้องการปลดทุกข์หลังจากกินเข้าไปประมาณ 20 นาที
   • หลังการงีบหลับของมันทุกครั้ง
   • หลังช่วงเวลาที่มันเล่นในบ้านทุกครั้ง
   • ก่อนที่มันจะเข้านอนตอนกลางคืนด้วย เพราะลูกสุนัขอายุระหว่าง 8-14 สัปดาห์ มักต้องการปลดทุกข์ระหว่างค่ำคืน คุณอาจเอามันใส่กรงบ้านไว้ในห้องนอน เพื่อที่จะได้ยินเวลามันทำเสียงครางขอออกไปถ่ายข้างนอก เตรียมรองเท้าแตะและเสื้อผ้า รวมถึงสายจูงสุนัขไว้ให้พร้อม
3. 
   3
   เริ่มฝึกนิสัยลูกสุนัขของคุณตั้งแต่วันแรก. หลังจากที่คุณนำมันมาที่บ้านหรือในสภาพแวดล้อมใหม่แล้ว ให้มันดื่มน้ำสักนิด ก่อนที่จะพามันไปดูจุดขับถ่ายที่เตรียมไว้
4. 
   4
   คอยดูสัญญาณเตือน. ลูกสุนัขของคุณอาจจะเข้าใจว่าต้องไปถ่ายตรงไหน แต่อาจยังไม่เข้าใจว่าจะทำยังไงให้คุณรู้เวลาที่มันต้องการปลดทุกข์ พยายามสังเกตตามที่เค้าว่ากันมา ถึงลักษณะของลูกสุนัขที่กำลังต้องการปลดทุกข์ เช่น: เห่าหรือเอาเล็บขูดประตู ทางที่ออกไปสู่จุดขับถ่าย รวมถึงนั่งในท่าขับถ่าย ดูกระวนกระวาย และหมุนตัวดมพื้นไปมา หากคุณสังเกตเห็นอาการดังกล่าว และตระหนักว่ามันยังไม่ได้ไปถ่ายเลย ก็เป็นไปได้ว่าถึงเวลาปลดทุกข์ของมันแล้วล่ะ
5. 
   5
   หาคำสั่งที่เชื่อมโยงกับการปลดทุกข์ของมัน. นอกจากการพามันไปยังจุดขับถ่ายด้วยตนเองแล้ว คุณยังสามารถพัฒนาต่อไป ด้วยการออกแบบคำสั่งเฉพาะ เวลาที่ต้องการให้มันออกไปถ่ายด้วยตัวเอง เช่น “ไปอึ” หรือ “เร็วๆ” อะไรก็ได้ที่คุณเลือก
6. 
   6
   ใช้คำสั่งเดิมไปตลอด. พยายามใช้คำสั่งในการบอกให้มันไปถ่าย ให้เหมือนเดิมทุกครั้งในระหว่างที่ฝึกมัน อันจะช่วยกระตุ้นให้มันจดจำคำสั่งเฉพาะของคุณได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะทำให้คุณสะดวกมากขึ้นเวลาพามันไปหาญาติและเพื่อนๆ หรือเดินทางไปไหนต่อไหน
7. 
   7
   กล่าวชมเชยทุกครั้งหลังจากมันถ่ายเสร็จ. การจะทำให้สุนัขจดจำการทำสิ่งที่ถูกต้องได้ คุณควรชมเชยมันทุกครั้งหลังจากที่ทำเสร็จ ก่อนที่จะกลับเข้าไปในบ้าน

   • รอให้มันถ่ายเสร็จก่อนแล้วค่อยชมเชย อย่าไปขัดจังหวะการปลดทุกข์ของมัน ถ้าคุณทำเช่นนั้น ลูกสุนัขอาจอ่อนไหวถึงขนาดหยุดเอากลางคันไปเลยก็ได้ หรือมันอาจจะคิดว่าแค่นั่งยองๆ ก็ได้รับการชมเชยแล้ว พยายามทำให้ถูกจังหวะดีกว่า
   • จำไว้ว่า การให้อิสระแก่มัน ก็ถือเป็นรางวัลของพวกมันแล้ว คุณอาจเล่นกับมันนอกบ้านสักพัก หลังจากที่มันถ่ายเสร็จ อย่าทำให้มันรู้สึกว่าถ่ายเสร็จทีไร หงอยทุกที คุณควรจะทำให้มันรู้สึกว่าถ่ายเสร็จเร็วๆ จะได้รีบไปเล่นอะไรสนุกๆ ต่อ
8. 
   8
   ช่วยสอนการกระทำที่ถูกต้องให้มัน โดยไม่กร่นด่าหรือลงโทษ. ทุกครั้งที่คุณพามันออกไปปลดทุกข์ หากมันทำเสร็จภายใน 3-5 นาที ให้ชมเชยมันและพามันไปบริเวณรอบกรงบ้าน เพื่อให้มันรู้สึกมีอิสระมากขึ้น หากมันถ่ายไม่เสร็จภายใน 3-5 นาที คุณควรปล่อยมันไว้ในกรงบ้านและปิดกรงไว้ประมาณ 15-20 นาที ก่อนที่จะพามันออกมาอีกครั้ง ซึ่งหากมันถ่ายสำเร็จ คุณก็ให้มันเล่นในบริเวณกว้างๆ แต่หากถ่ายไม่สำเร็จอีก ก็จับมันไว้ในกรงเหมือนเดิม

   • ลูกสุนัขของคุณอาจจะส่งเสียงครางแทนที่จะยอมกลับเข้าไปในกรง ดังนั้น หากคุณสังเกตได้ คุณก็จะรู้วิธีในการควบคุมมัน หรือรู้ว่าเมื่อไรควรให้รางวัลและอิสรภาพแก่มัน เวลาที่มันทำตามที่ฝึกได้สำเร็จ
9. 
   9
   ให้ทุกคนมีส่วนร่วม. หากคุณอยู่ลำพังกับลูกสุนัขของคุณ การฝึกจะง่ายกว่ามาก แต่หากลูกสุนัขของคุณอยู่ในบ้านที่มีสมาชิกมากกว่าหนึ่งคน คุณต้องบอกให้ทุกคนทำตามขั้นตอนเดียวกันในการฝึกลูกสุนัข ยิ่งแต่ละคนปฎิบัติตามแผนที่วางไว้มากเท่าไร ก็ยิ่งฝึกลูกสุนัขของคุณได้สำเร็จเร็วขึ้นเท่านั้น
10. 
    10
    เอาถาดน้ำของลูกสุนัขของคุณไปเก็บแต่หัวค่ำ. หรือเอาไปเก็บประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งก่อนจะถึงเวลานอนของมัน จะเป็นการช่วยให้มันรู้สึกอยากถ่ายอีกครั้งหลังจากตื่นตอนเช้าเลย ซึ่งลูกสุนัขบางตัวอาจจะนอนหลับได้เจ็ดชั่วโมงรวด โดยไม่ต้องตื่นไปปลดทุกข์เลย ดังนั้น หากคุณเอาถาดน้ำของมันไปเก็บก่อนมันจะเข้านอน ก็จะช่วยให้มันรู้สึกอยากปลดทุกข์น้อยลงระหว่างคืน

    • หากลูกสุนัขของคุณปลุกคุณกลางดึก เพื่อขอให้พาไปปลดทุกข์ คุณต้องทำให้กระชับและฉับไวเข้าไว้ หากคุณเปิดไฟทั่วบ้านหรือเล่นกับมันแม้แต่นิดเดียว มันจะเหมาเอาเองว่าสามารถปลุกคุณมาทำอย่างอื่นได้ด้วย นอกเหนือไปจากการปลดทุกข์ คุณควรพาไปมันออกไปและกลับเข้ามานอนเท่านั้น
11. 
    11
    ทำความสะอาดอย่างรวดเร็วและหมดจด. หากลูกสุนัขของคุณถ่ายเรี่ยราดลงบนพื้นกระเบื้องหรือไม้เนื้อแข็งในบ้านคุณ คุณควรจะเช็ดทำความสะอาดและฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อทับอีกครั้ง ถ้าเป็นพรม ก็ให้ทำความสะอาดด้วยน้ำยาเช็ดพรม เรื่องเหล่านี้มีส่วนสำคัญมาก เพราะลูกสุนัขมักจมูกไว หากมันได้กลิ่นอึหรือฉี่ของตัวเองอยู่ไหนบริเวณใด มันก็มักจะไปปลดทุกข์ตรงที่เดิมซ้ำอีก นี่คือเหตุผลว่า ทำไมคุณจึงควรผูกมันไว้ในบ้านในช่วงหลายเดือนแรก ก่อนที่จะปล่อยให้มันเดินไปมาได้อย่างอิสระทั่วทั้งบ้าน

    • หลายคนเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ซื้อจากซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งมักจะมีแอมโมเนียผสมอยู่ และสารดังกล่าวก็มีกลิ่นคล้ายๆ กับฉี่สุนัข ซึ่งหากมันฉี่ในบ้านและคุณใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวทำความสะอาด มันก็จะได้กลิ่นและกลับไปที่เดิม รวมถึงคิดว่ามีสุนัขตัวอื่นมาฉี่ทับของมัน ซึ่งมันก็จะฉี่เพื่อเกทับลงไปอีกครั้ง
    • ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสำหรับสัตว์เลี้ยงที่โฆษณาทั่วไป มักมีเอนไซม์พิเศษที่ช่วยกำจัดกลิ่นปัสสาวะของสุนัข ซึ่งป้องกันไม่ให้พวกมันวนกลับมาที่เดิมอีก โดยหาซื้อได้ตามร้านค้า ร้านออนไลน์ ร้านสัตว์เลี้ยง คลินิกสัตว์แพทย์ และห้างสะดวกซื้อบางแห่ง ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไม่ใช่แค่ช่วยกลบกลิ่น แต่ยังกำจัดออกไปโดยสมบูรณ์
    • หลายคนบอกว่าน้ำส้มสายชูและตามด้วยเบคกิ้งโซดา ก็เป็นวิธีทำความสะอาดที่ดี
    โฆษณา

ส่วน 3

ส่วน 3 ของ 3:

สอดแทรกช่วงเวลาที่ให้อิสระแก่มัน

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   กักบริเวณลูกสุนัขของคุณในช่วงแรกๆ. เพิ่มอัตราความสำเร็จของคุณในการฝึกลูกสุนัขของคุณ และลดอัตราความผิดพลาดลง ด้วยการใช้ตัวช่วยอย่างกรงบ้านแบบเล็กหรือใหญ่ ประตูย่อส่วน รวมถึงสายจูง เพื่อควบคุมให้มันอยู่ในบริเวณที่คุณต้องการ

   • บริเวณรอบกรงบ้านของลูกสุนัขของคุณไม่จำเป็นต้องกว้างเกิน 4-6 ฟุต ในตอนที่มันยังเล็กอยู่ คุณควรขยับขยายขึ้นเรื่อยๆ ตอนที่มันเติบโตขึ้น หรือทำตามคำที่ฝึกได้ดีขึ้น พูดง่ายๆ คือ ยิ่งมันรู้จักควบคุมตัวเอง ก็จะยิ่งได้รับอิสรภาพมากขึ้น
2. 
   2
   คอยควบคุมให้มันเดินลากสายจูงได้อย่างอิสระในบ้านบ้าง. หากมันรู้จักสะกิดหรือบอกคุณว่าให้พาออกไปปลดทุกข์ได้เมื่อไร จึงค่อยเพิ่มระยะเวลาดังกล่าวให้แก่มันมากขึ้น ซึ่งน่าจะใช้เวลาไม่เกินสองสัปดาห์ ก่อนที่มันจะเริ่มเข้าใจ
3. 
   3
   อย่าแปลกใจหากมันทำพฤติกรรมเดิม. ลูกสุนัขของคุณอาจจะกลับมาถ่ายเรี่ยราดในบ้านอีก หลังจากที่คุณคิดว่ามันสำเร็จวิชาไปแล้ว ซึ่งมักเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น มันก้าวเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ หรือกิจวัตรประจำวันมีการเปลี่ยนแปลง มีความอยากรู้อยากเห็นหรือทำในสิ่งที่แตกต่างมากขึ้น ฯลฯ ซึ่งคุณแก้ได้ด้วยการฝึกมันตามขั้นตอนเดิมต่อไปอีกสักพัก มันก็จะเริ่มเชื่อฟังตามเดิมเอง
4. 
   4
   ทำประตูลอดเพื่อลูกสุนัขของคุณ. การทำประตูสุนัขให้มันเป็นเรื่องที่สมควร หากบ้านของคุณมีรั้ว (แบบที่ลูกสุนัขของคุณกระโดดข้ามหรือเดินลอดไม่ได้) และประตูบ้านที่เหมาะสม แต่อย่าลืมระวังภัยจากสัตว์ร้ายด้วย ในกรณีที่บ้านคุณอยู่ใกล้บริเวณป่า

   • อย่าปล่อยให้สุนัขของคุณอยู่นอกสายตานานเกินไป เวลาอยู่นอกบ้าน
5. 
   5
   กางกระดาษหนังสือพิมพ์ให้ลูกสุนัขของคุณใช้. หากคุณไม่มีสวนหลังบ้าน ประตูสุนัข หรือใครสักคนมาช่วยพามันไปตอนที่คุณไม่อยู่ คุณก็สามารถใช้วิธีการฝึกพวกมันให้ถ่ายบนกระดาษ ในบริเวณที่คุณกำหนดไว้ในบ้าน ซึ่งถือเป็นทางเลือกสำรองเอาไว้ ในกรณีที่คุณคิดว่ามันอาจจะกลั้นไม่ไหว เวลาที่คุณยังไม่กลับบ้าน โดยการปูหนังสือพิมพ์หรือวางกล่องเล็กๆ ขนาดที่พวกมันขึ้นไปนั่งได้เอาไว้ จากนั้น อาจจะเอาผ้าขี้ริ้วที่คุณเคยใช้ทำความสะอาดอึหรือฉี่ของพวกมัน มาใส่ไว้ในกล่องด้วยก็ได้ เพื่อให้พวกมันตามกลิ่นของตัวเองมาปลดทุกข์ตรงบริเวณดังกล่าว

   • หลายคนวางกระดาษหนังสือพิมพ์ทิ้งไว้เลย เพราะพวกเขายอมรับได้หากลูกสุนัขจะฉี่ลงบนบริเวณดังกล่าวในบ้าน ซึ่งในเวลาต่อมามักจะยอมเอาหนังสือพิมพ์ออก และยอมที่จะทำความสะอาดของเสียจากสุนัขทุกครั้งด้วยซ้ำ แต่ละคนมีจุดยืนต่างกัน ดังนั้น หากทุกคนในบ้านยอมรับได้ มันก็ถือว่าโอเคสำหรับทุกฝ่ายแล้ว
   • การใช้หนังสือพิมพ์ในระหว่างที่ฝึกลูกสุนัขของคุณ อาจจะทำให้บรรลุเป้าหมายได้ช้าลง แต่หากคุณค่อยๆ ลดขนาดหรือจำนวนหนังสือพิมพ์ลงเรื่อยๆ รวมถึงทำความสะอาดในบริเวณที่พวกมันทำเรี่ยราดเอาไว้ได้อย่างหมดจด การฝึกของคุณก็ยังพอสัมฤทธิ์ผลได้เหมือนกัน ขอแค่ใช้เทคนิคการกักบริเวณเพื่อจำกัดพื้นที่ลูกสุนัขของคุณร่วมด้วย
6. 
   6
   หาคนมาช่วยเลี้ยงลูกสุนัขของคุณ. หากคุณต้องไปออกทริปหลายวัน ก็ควรหาคนมาเลี้ยงแทนคุณ หากคุณอยู่กับเพื่อนหรือคนในครอบครัว ก็ให้พวกเขาช่วย แต่หากไปกันหมดบ้าน ก็หาคนภายนอกมาช่วยเลี้ยงพวกมันแทน โดยการบอกข้อกำหนดและวิธีฝึกของคุณให้ชัดเจน เช่น จะให้พวกมันนอนตรงไหน ทานหรือไม่ให้ทานอะไรบ้าง ฯลฯ คุณอาจเอาไปฝากไว้ที่ศูนย์รับเลี้ยงฯ ก็ได้ ซึ่งจะมีคนที่ช่วยเลี้ยงลูกสุนัขของคุณให้เวลาที่คุณไม่อยู่

   • จำไว้ว่า หากลูกสุนัขของคุณไปถ่ายในศูนย์รับเลี้ยงซึ่งมีตารางกิจวัตรไม่เหมือนของคุณ ในช่วงที่คุณไม่อยู่ คุณก็อาจจะต้องกลับมาเริ่มฝึกใหม่ย้อนหลังหลายสเต็ปเลยทีเดียว ดังนั้น คุณสามารถพิจารณาทางเลือกแต่ละอย่างซึ่งมีข้อดีและข้อเสียต่างกันไป
   โฆษณา

เคล็ดลับ

• เวลาที่คุณพามันออกไป พยายามตรงไปที่บริเวณเดียว ซึ่งก็คือจุดขับถ่ายเท่านั้น มันจะช่วยให้กระบวนการฝึกเห็นผลเร็วขึ้นมาก
• สุนัขส่วนใหญ่จะจดจำประตูทางออกเดิมเวลาออกไปข้างนอก ระหว่างที่ลูกสุนัขอายุมากขึ้น มันอาจจะชอบไปยืนรอหน้าประตูดังกล่าวเพื่อขอให้คุณพาออกไป บางตัวก็อาจจะเห่า บางตัวอาจจะวิ่งไปๆ มาๆ ระหว่างตัวคุณกับประตู และบางตัวก็จะเอาเล็บไปขูดประตู (ซึ่งคุณควรดัดนิสัยมัน ก่อนที่ประตูจะพัง หากไม่อยากเปลี่ยนใหม่)
• พยายามเมินเฉยพฤติกรรมแย่ๆ ของมันไปก่อน และคอยพูดชมหรือลูบหัวมันเวลาที่มันทำดี มันจะเรียนรู้ว่า การทำตัวดีจะช่วยให้มันมีเวลาร่วมกับคุณมากขึ้น และมันก็จะพยายามทำต่อไป
• หากมันชอบส่งเสียงครางในช่วงแรกๆ พยายามใจแข็งเข้าไว้ อย่าไปสนใจมันมากนัก คุณอาจจะเลื่อนกรงมันไปไว้ข้างเตียง หรือเปิดเพลงสบายๆ ให้เสียงกลบมัน หรืออาจจะเอาของเล่นไปไว้ในกรงมันเพื่อล่อความสนใจก็ได้
• ตระหนักว่าคืนแรกๆ เป็นช่วงของการปรับตัว เหมือนกับเวลาที่มีเด็กทารกมาอยู่ในบ้านแรกๆ ดังนั้น อย่าหวังว่าจะได้นอนเต็มอิ่มในช่วงดังกล่าว
• การเทอาหารเต็มชามทิ้งไว้ให้มันทั้งวัน ไม่เหมาะสมในการฝึกพวกมัน (หรือรักษาหุ่นให้มัน) ปริมาณโภชนาการที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับสุนัขแต่ละสายพันธุ์ คุณอาจปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อหาปริมาณที่เหมาะสมแก่ลูกสุนัขของคุณ และจำกัดปริมาณดังกล่าวต่อไปในช่วงระยะเวลาที่กำหนด
• หลายคนแนะนำว่า ให้แขวนกระดิ่งเล็กๆ เอาไว้ที่ลูกบิดประตู ทุกๆ ชั่วโมงหรือมากกว่านั้น คุณควรพามันไปที่ประตูดังกล่าวและเอาเท้ามันเขี่ยกระดิ่ง พร้อมกับพูดว่า “อยากอึ” (หรือคำที่คุณคิดขึ้นมาเอง) ทุกครั้ง แล้วค่อยพามันออกไปในจุดขับถ่ายที่เตรียมไว้นอกบ้าน หลังจากทำเช่นนั้นไม่นานนัก ลูกสุนัขของคุณก็จะรู้จักสั่นกระดิ่งเรียกเอง
• อย่าโมโหใส่ลูกสุนัขของคุณ พยายามพามันไปเดินเล่นเป็นประจำและใจดีต่อมัน เดี๋ยวมันก็เชื่องและเชื่อฟังเอง!
• หากลูกสุนัขของคุณยังดูเหมือนฝึกไม่ได้สำเร็จสักที อดทนไว้ก่อน! พยายามฝึกตามขั้นตอนไปเรื่อยๆ อย่ากร่นด่าหรือทุบตีมันด้วยสิ่งใดก็ตาม (การทำเช่นนั้นเป็นการทารุณสัตว์และยังทำให้มันเลียนแบบพฤติกรรมก้าวร้าวด้วย)
• ฝึกมันในช่วงแรกๆ ด้วยการใช้อาหารล่อ เช่น หากมันนั่งตามที่คุณสั่ง ก็ให้มันกินสักชิ้น อาจเป็นเนื้อไก่ย่างก็ได้

โฆษณา

คำเตือน

• จำไว้ว่า ลูกสุนัขของคุณสามารถจดจำกิจวัตรประจำวันคุณได้ ดังนั้น วันไหนที่คุณหยุดอยู่บ้าน คุณก็ควรพามันออกไปข้างนอกตามเวลาเดิมเหมือนทุกวัน พวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ยึดติดกับกิจวัตรประจำวันมากเลย
• หากคุณเลือกที่จะฝึกให้สุนัขหรือในกรงบ้านของมัน คุณควรทำด้วยความเมตตากรุณาสักนิด โดยอาจจะหาข้อมูลในเรื่องนี้จากอินเทอร์เน็ตก่อน

โฆษณา