วิธีการ รักษาเมื่อสุนัขข้อเท้าแพลง

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

ข้อเท้าแพลงเป็นอาการบาดเจ็บต่อเอ็นยึดกระดูก เอ็นยึดข้อ และ/หรือกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับข้อต่อนั้น อาจเกิดขึ้นได้จากการออกแรงหนักเกินไปหรืออุบัติเหตุขนาดย่อม หากเห็นสัญญาณที่บ่งชี้อาหารบาดเจ็บต่อบริเวณนี้ได้อย่างรวดเร็ว ก็จะช่วยทำให้รักษาข้อเท้าแพลงได้ก่อนที่อาการจะหนักขึ้น

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 2:

มองอาการข้อเท้าแพลงให้ออก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ทำความเข้าใจสรีระของสุนัข.
    สุนัขยืนและเดินโดยลงน้ำหนักที่นิ้วเท้าทั้งเท้าหน้าและเท้าหลัง เมื่อสุนัขยืน คุณจะมองเห็นข้อเท้าของมันอยู่บนขาหลังระหว่างเข่าและนิ้วเท้า คล้ายกับข้อเท้าของคุณเองเวลาคุณเขย่งเท้า[1]
    • สุนัขไม่มีข้อเท้าที่ขาหน้า เช่นเดียวกับที่คุณไม่มีข้อเท้าที่แขน อาการแพลงประเภทอื่นอาจเกิดขึ้นที่ขาหน้าได้ และวิธีรักษาก็คล้ายคลึงกัน
  2. How.com.vn ไท: Step 2 รู้สาเหตุของการเกิดข้อเท้าแพลง.
    สุนัขส่วนใหญ่มักชอบออกกำลัง กิจกรรมที่มันทำอาจทำให้มีแรงกดทับข้อของมันเยอะมาก และบางครั้งอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บได้[2]
    • การวิ่ง การกระโดด และการเลี้ยวเร็วๆ อาจสร้างแรงกดทับที่ไม่จำเป็นต่อข้อได้
    • ถึงแม้สุนัขแต่ละตัวจะไม่ได้แรงเยอะเท่ากัน ข้อของมันก็อาจจะโดนแรงกดทับมากกว่าจะรับไหวได้ อาการแพลงอาจจะเกิดจากการสะดุด หกล้ม ตกร่อง หรืออะไรอย่างอื่นที่ดูเล็กน้อยพอกันอย่างเช่นการกระโดดขึ้นหรือลงจากเก้าอี้ สิ่งเหล่านี้ล้วนอาจทำให้สุนัขของคุณข้อเท้าแพลงได้
  3. How.com.vn ไท: Step 3 มองหาอาการเดินกะเผลก.
    อาการข้อเท้าแพลงที่มักดูออกเร็วที่สุดและง่ายที่สุดคือการที่ขาหลังเดินกะเผลก[3]
    • สุนัขที่ข้อเท้าแพลงมักจะพยายามไม่ลงน้ำหนักที่ขาที่เจ็บ
    • สุนัขอาจยกขาที่เจ็บไว้และไม่ใช้ขานั้นเลย ขึ้นอยู่กับความเจ็บ
    • คำนึงถึงสาเหตุอื่นที่มักทำให้ขาหลังเจ็บ อย่างเช่นการบาดเจ็บต่อบริเวณสะโพก เข่า หรือเท้า[4]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 หาอาการบาดเจ็บที่มองเห็นได้.
    คุณอาจมองเห็นอาการบวมหรือแดงรอบข้อเท้าหากสุนัขของคุณข้อเท้าแพลง[5]
    • คุณอาจจะสังเกตว่าสุนัขของคุณเลียบริเวณที่บาดเจ็บบ่อยๆ
  5. How.com.vn ไท: Step 5 สังเกตตัวบ่งชี้ทางพฤติกรรม.
    สุนัขที่บาดเจ็บอาจมีพฤติกรรมต่างไปจากปกติ พฤติกรรมที่อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้อาการบาดเจ็บได้แก่:[6]
    • ความอยากอาหารน้อยลง เห็นได้จากการที่สุนัขกินอาหารน้อยลง
    • สุนัขออกแรงน้อยลง เช่น นอนมากขึ้น หรือไม่กระตือรือร้นที่จะออกกำลัง
    • การส่งเสียง เช่น เห่า ขู่ หรือครางเมื่อข้อเท้าโดนสัมผัสหรือโดนขยับ
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 2:

รักษาข้อเท้าแพลง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 จับสุนัขพัก.
    การพักผ่อนเป็นก้าวแรกในการรักษาข้อเท้าแพลง[7] คุณจะต้องจำกัดกิจกรรมของสุนัขเพื่อให้มันได้พักอย่างเพียงพอ คุณควรให้สุนัขอยู่ในบ้านหรือในพื้นที่เล็กๆ ที่มันจะไม่สามารถวิ่งเล่นได้ ยิ่งสุนัขออกแรงน้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น
    • หากจำเป็น คุณก็สามารถพาสุนัขออกไปเดินโดยใส่สายจูงสั้นๆ ได้ แต่ให้พาไปเดินไม่นานและเดินช้าๆ นะ[8] พาสุนัขกลับไปอยู่ในบริเวณจำกัดให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
    • จำกัดกิจกรรมของสุนัขเป็นเวลา 48 ชั่วโมงเต็ม เพื่อให้อาการบาดเจ็บเริ่มหาย
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ประคบน้ำแข็ง.
    ประคบน้ำแข็งนาน 10-15 นาทีเพื่อลดอาการบวม แก้ปวด และช่วยให้หายเร็วขึ้น[9]
    • ใช้ผ้าขนหนูห่อถุงน้ำแข็งก่อนเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวสุนัขโดนความเย็นมากเกินไป
    • ประคบซ้ำถ้าจำเป็น แต่ให้รออย่างน้อย 2 ชั่วโมงระหว่างการประคบแต่ละครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวสุนัขระคายเคืองและลดการไหลเวียนโลหิต ซึ่งอาจทำให้ข้อเท้าหายช้าลงได้
    • คุณจะใช้ถุงผักแช่แข็ง อย่างเช่นถั่ว เพื่อใช้เป็นที่ประคบที่จะสามารถพันรอบข้อเท้าก็ได้ การทำแบบนี้จะช่วยให้กระจายความเย็นสู่เนื้อเยื่อส่วนที่ได้รับบาดเจ็บได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ[10]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ประคบร้อน.
    หากสุนัขของคุณมีอาการบาดเจ็บเก่า เรื้อรัง หรือเกิดซ้ำ ก็ไม่ควรประคบเย็น ทางที่ดีควรใช้ความร้อนแบบชื้นมากกว่า[11]
    • ความร้อนจะช่วยให้เลือดหมุนเวียนดีขึ้นและช่วยคลายกล้ามเนื้อ ทำให้รู้สึกสบายขึ้น
    • ใช้ผ้าขนหนูชื้นๆ ที่อุ่นในเครื่องปั่นผ้าหรือไมโครเวฟมาเพื่อประคบร้อน แต่ต้องมั่นใจก่อนนะว่าผ้าไม่ได้ร้อนจนจะลวกผิว
    • ประคบร้อนเป็นเวลา 10-15 นาที จากนั้นหยุดประคบอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงก่อนจะประคบใหม่[12]
    • อย่าประคบร้อนทันทีหลังจากที่สุนัขออกกำลังมา
  4. How.com.vn ไท: Step 4 คอยสังเกตว่าสุนัขอาการดีขึ้นหรือแย่ลง.
    ระหว่างช่วงพักผ่อน 48 ชั่วโมง คุณควรสังเกตให้ดีว่าอาการบาดเจ็บดูจะดีขึ้นหรือแย่ลง อาการข้อเท้าแพลงส่วนใหญ่มักจะหายเป็นปกติค่อนข้างเร็วหากได้รับการพักผ่อนและรักษา
    • หากข้อเท้าไม่ดีขึ้นหลังเวลาผ่านไป 48 ชั่วโมงหรืออาการแย่ลง ให้ปรึกษาสัตวแพทย์[13]
    • หากอาการไม่ดีขึ้น อาจเป็นไปได้ว่าสุนัขของคุณต้องการการพักผ่อนอีก รวมถึงต้องกินยาตามที่สัตวแพทย์สั่ง
    • บางครั้งอาจมีอาการบาดเจ็บในบริเวณอื่นที่ทำให้หายช้าลง หากสุนัขมีอาการบาดเจ็บที่สาหัสกว่าในจุดอื่น อย่างเช่นข้อหลุดหรือกระดูกร้าว สัตวแพทย์จะสามารถตรวจสุนัขและทำการเอ็กซ์เรย์ได้ถ้าจำเป็น
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • คุณควรเริ่มรักษาข้อเท้าแพลงให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อช่วยให้สุนัขมีโอกาสหายเร็วได้มากที่สุด รวมถึงจะช่วยป้องกันไม่ให้อาการบาดเจ็บแย่ลงเนื่องจากแผลถูกกระทบเพิ่มขึ้นด้วย
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าลองพันบริเวณที่บาดเจ็บโดยไม่ได้ได้รับคำแนะจากสัตวแพทย์ก่อน การพันแผลอย่างผิดวิธีอาจทำให้เกิดปัญหาอื่นได้ เช่นผิวหนังระคายเคือง หากคุณพันแน่นเกินไปก็อาจทำให้เลือดไม่หมุนเวียนได้ ซึ่งจะทำให้ข้อเท้าหายช้าลงและเกิดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อส่วนอื่นในบริเวณนั้น
  • อย่าให้ยาสุนัขโดยที่ไม่ได้รับคำแนะนำจากสัตวแพทย์ การให้ยาที่ซื้อมาหรือได้รับสั่งมาสำหรับคนแก่สุนัขนั้นอันตรายมาก แม้ยาแก้อักเสบบางตัวจะใช้ในการรักษาสุนัข แต่ปริมาณนั้นอาจแตกต่างกับปริมาณยาสำหรับคนมาก
  • หากคุณไม่เห็นว่าสุนัขอาการดีขึ้นภายใน 48 ชั่วโมง ให้รีบไปพบสัตวแพทย์อย่างเร่งด่วน หากอาการดูแย่ลง คุณควรโทรหาสัตวแพทย์ทันที ถึงแม้ว่าสุนัขอาจจะแค่ข้อเท้าแพลงหนักเป็นพิเศษ แต่อาการบาดเจ็บที่สาหัสก็ควรได้รับการรักษาอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้[14]
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Natalie Punt, DVM
ร่วมเขียน โดย:
สัตวแพทย์
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Natalie Punt, DVM. ดร. นาตาลี พันท์ เป็นสัตวแพทย์ และผู้ก่อตั้งและ CEO ของ mPet เธอเชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ฉุกเฉินและเวชศาสตร์ทั่วไปสำหรับสัตว์ขนาดเล็กและเศรษฐศาสตร์การปฏิบัติทางสัตวแพทย์ ดร. พันท์ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีวิทยาศาสตรบัณฑิตสาขาชีวเคมีและอณูชีววิทยา จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เดวิส ปริญญาโทวิทยาศาสตรมหาบัณฑิตสาขาชีวเคมี จากมหาวิทยาลัยบัฟฟาโล และสัตวแพทยศาสตรบัณฑิต จาก Western University of Health Sciences บทความนี้ถูกเข้าชม 141,731 ครั้ง
หมวดหมู่: สุนัข
มีการเข้าถึงหน้านี้ 141,731 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา