วิธีการ ปลูกต้นแก้วมังกร

แก้วมังกรคือผลไม้รสอร่อยที่คนส่วนใหญ่รู้จักเพราะรูปร่างที่คล้ายเปลวเพลิงของมัน ผลไม้ชนิดนี้เติบโตบนต้นแก้วมังกรซึ่งต้องอาศัยการดูแลเอาใจใส่ คุณสามารถปลูกและเลี้ยงดูต้นแก้วมังกรที่บ้านได้

ส่วน 1

ส่วน 1 ของ 3:

การเลือกเมล็ดพันธุ์ที่เหมาะสม

ดาวน์โหลดบทความ

1
เลือกระหว่างเมล็ดแก้วมังกรหรือผลที่กำลังโตบนต้น. คุณสามารถเลือกได้ตามช่วงเวลา ถ้าหากคุณปลูกต้นแก้วมังกรด้วยเมล็ด คุณอาจจะต้องรอประมาณ 2 ปีก่อนที่ต้นจะออกผล ^{[1]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} ถ้าหากคุณปลูกต้นแก้วมังกรด้วยผลที่กำลังโต คุณจะไม่ต้องรอนานจนกว่ามันจะออกผล (ขึ้นอยู่กับขนาดของผลที่คุณนำมาปลูก)
- การปลูกด้วยเมล็ดไม่ได้ยากกว่ากันแต่แค่ใช้เวลามากกว่า
- เกษตรกรที่ปลูกเป็นอาชีพขายต้นแก้วมังกรที่พร้อมสำหรับนำมาปลูกในสวนของคุณ คุณต้องระมัดระวังเมื่อนำต้นกล้าออกจากกระถางเพื่อไม่ให้ต้นกล้าเสียหาย
2
ตัดสินใจว่าคุณจะปลูกต้นแก้วมังกรนอกบ้านหรือในบ้าน ลงดินหรือในกระถาง. เชื่อหรือไม่ว่าต้นแก้วมังกรสามารถเติบโตได้ในกระถาง ถ้าหากคุณใช้กระถาง คุณต้องเลือกกระถางที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 15-24 นิ้วและมีความลึกมากกว่า 10 นิ้วขึ้นไปโดยเสียบไม้ค้ำ อย่างไรก็ตาม ต้นแก้วมังกรจะเจริญเติบโตมีขนาดใหญ่ขึ้นและต้องการกระถางที่ใหญ่ขึ้น เพราะฉะนั้นคุณต้องเตรียมพร้อมย้ายกระถางเมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น
- ถ้าหากคุณกำลังปลูกต้นแก้วมังกรนอกบ้าน (ไม่ว่าจะเป็นในดินหรือในกระถางก็ตาม) คุณต้องเลือกสถานที่ที่มีแสงส่องเล็กน้อย รากของต้นไม้สามารถอยู่ในร่มแต่ปลายต้นจำเป็นต้องอยู่ในที่ที่แสงแดดส่องถึงเพื่อผลิดอกออกผล^{[2]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้าหากคุณอาศัยอยู่ในภูมิประเทศที่อบอุ่นที่มีฤดูเก็บเกี่ยวยาวนาน คุณสามารถปลูกต้นแก้วมังกรนอกบ้านได้ ต้นแก้วมังกรสามารถทนต่อสภาพอากาศหนาวจัดได้เล็กน้อย เพราะฉะนั้นถ้าหากคุณอยู่ในภูมิประเทศที่หนาวจัด คุณต้องปลูกต้นแก้วมังกรในบ้าน
3
ใช้ดินทรายร่วนซุยซึ่งมีไว้ปลูกกระบองเพชร. จากข้อมูล ต้นแก้วมังกรคือกระบองเพชรชนิดหนึ่ง คุณต้องไม่ใช้ดินเหนียวที่เปียกชื้น ต้นแก้วมังกรไม่ต้องการการดูแลเอาใจใส่มากนัก คุณสามารถปลูกมันในสวนและไม่จำเป็นต้องรดน้ำบ่อยๆ ถ้าหากคุณอาศัยอยู่ในบริเวณที่มีฝนตก คุณควรปลูกต้นแก้วมังกรบนเนินหรือกองดินเพื่อที่น้ำสามารถระบายออกได้^{[3]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้าหากคุณปลูกต้นแก้วมังกรในกระถาง คุณต้องเลือกกระถางที่มีรูระบายใหญ่ ถ้าหากคุณไม่มีดินทรายสำหรับปลูกต้นกระบองเพชร คุณสามารถผสมทราย 1 ส่วนดินร่วน 1 ส่วนและปุ๋ยหมักเข้าด้วยกัน เทส่วนผสมลงในกระถางให้เหลือที่ประมาณ 7 เซนติเมตรจากปากกระถาง
โฆษณา

ส่วน 2

ส่วน 2 ของ 3:

การปลูกและการบำรุงรักษาต้นแก้วมังกร

ดาวน์โหลดบทความ

ถ้าหากคุณตัดผลแก้วมังกรมาเพื่อนำไปปลูก คุณต้องปล่อยให้ผลแห้งในที่ที่เย็นและร่มประมาณ 1 สัปดาห์ วิธีนี้จะช่วยสมานแผลและป้องกันการติดเชื้อหลังจากที่คุณนำผลไปปลูก
ใบของต้นแก้วมังกรต้องโดนแดดจัดเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด คุณต้องทำให้ต้นแก้วมังกรได้รับแดดเพื่อการเจริญเติบโต ^{[4]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
3
ปลูกต้นแตกหน่อในดิน. ถ้าหากคุณปลูกผลที่ตัดมาหรือต้นที่สั่งจากฟาร์มซึ่งมาในกล่อง คุณต้องค่อยๆ นำออกมาจากกล่องและปลูกต้นแตกหน่อลงในดิน ถ้าหากคุณใช้เมล็ด คุณต้องโรยเมล็ดลงในกระถางแล้วคลุมด้วยดิน
- สำหรับเมล็ดแก้วมังกร คุณจะต้องรอดูว่าเมล็ดไหนสามารถใช้ได้ ในเวลา 2-3 สัปดาห์คุณจะเห็นรากงอกและคุณอาจจะต้องแยกมันออกจากกัน แต่ถ้าไม่ก็แปลว่ามันอาจจะยังไม่พร้อมสำหรับการปลูก
- ลองผสมปุ๋ยแบบค่อยๆ ปล่อยปริมาณน้อยลงในดินก่อนที่จะปลูก วิธีนี้อาจจะช่วยให้ต้นไม้ของคุณเจริญเติบโตได้เร็วขึ้น ^{[5]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
แม้แต่ผลแก้วมังกรที่ตัดมาอาจจะใช้เวลานานถึง 4 เดือนจนกว่าจะมีรากที่สมบูรณ์แข็งแรง ^{[6]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} อย่างไรก็ตาม ระมัดระวังการใช้ปุ๋ยเช่นกัน การใส่ปุ๋ยมากเกินไปอาจทำให้ต้นไม้ตายได้ ใช้ปุ๋ยที่ออกฤทธิ์แบบค่อยๆ ปล่อยซึ่งมีไนโตรเจนต่ำสำหรับต้นกระบองเพชรทุกๆ 2 เดือนเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด คุณอาจจะต้องการใส่มากกว่านั้นแต่มันจะไม่ช่วยอะไร ^{[7]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
5
รดน้ำต้นแก้วมังกรแบบเดียวกับที่คุณรดต้นกระบองเพชร. กล่าวอีกแบบหนึ่งคือรดน้ำต้นไม้เมื่อต้นแห้งสนิทเท่านั้น ถ้าหากต้นไม้ของคุณโตพอที่จะสามารถพันไม้ที่ปักไว้ได้ คุณควรทำให้ไม้ปักชุ่มชื้น ที่หยอดน้ำอาจจะมีประโยชน์สำหรับสถานการณ์นี้
- การรดน้ำมากเกินไปเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ต้นไม้ตาย อย่ารดน้ำมากเกินไปเพราะมันไม่จำเป็น ถ้าหากคุณปลูกในกระถางก็ควรใช้กระถางที่สามารถระบายน้ำได้ดี ถ้าหากเป็นกระถางที่ไม่มีรูระบายน้้ำ คุณก็ยิ่งไม่จำเป็นต้องรดน้ำเพราะไม่เช่นนั้นน้ำจะขังอยู่ในกระถางและรากจะเน่าและตายได้
โฆษณา

ส่วน 3

ส่วน 3 ของ 3:

การเก็บเกี่ยวผล

ดาวน์โหลดบทความ

1
ดูต้นแก้วมังกรเติบโต. ถึงแม้ว่าต้นแก้วมังกรอาจจะใช้เวลา 2-3 ปีเพื่อโตเต็มที่แต่บางต้นสามารถโตกว่า 1 ฟุตในเวลา 1 สัปดาห์ เมื่อต้นแก้วมังกรเริ่มโต คุณอาจจะต้องใช้ไม้ปักเพื่อให้ต้นมีที่ค้ำ วิธีนี้สามารถช่วยให้มันเติบโตได้เต็มที่โดยไม่แตกหักหรือห้อยตัวลงมา
- ถ้าหากคุณปลูกต้นแก้วมังกรด้วยเมล็ดและมันเจริญเติบโตอย่างเห็นได้ชัด คุณต้องแยกมันออกมาใส่กระถาง พวกมันต้องการบริเวณของตัวเองเพื่อเติบโตและผลิดอกออกผล
- คุณจะสังเกตเห็นดอกเติบโตในเวลาหลายสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม มันจะออกดอกเพียงหนึ่งคืนเท่านั้น (ใช่ มันเป็นพืชกลางคืน) เพราะฉะนั้นคุณอาจจะพลาดดูการผลิดอกของมัน ต้นแก้วมังกรสามารถผสมเกสรในต้นเดียวกันได้แต่ถ้าไม่ คุณสามารถลองผสมด้วยมือโดยการปัดเกษรให้ตกลงข้างในดอก) ^{[8]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} ถ้าหากมันกำลังจะออกผล คุณจะสังเกตเห็นดอกตูมและฐานของดอกเริ่มที่จะเบ่งบาน ^{[9]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
2
ตัดแต่งต้นไม้. ต้นแก้วมังกรสามารถเจริญเติบโตมีขนาดใหญ่ได้ โดยบางต้นสามารถสูงถึง 6 เมตร ^{[10]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} เมื่อต้นมีขนาดใหญ่เกินไป คุณต้องเริ่มตัดแต่งต้นไม้โดยการตัดบางกิ่งออก น้ำหนักที่น้อยลงสามารถทำให้ต้นแข็งแรงขึ้น ได้รับสารอาหารมากขึ้นและทำให้มันผลิดอก
- คุณไม่จำเป็นต้องทิ้งกิ่งที่ตัดออก คุณสามารถนำไปปักลงในกระถางและปลูกต้นมังกรเพิ่มอีก (พวกมันจะงอกรากออกมาได้อย่างง่ายดาย) หรือมอบให้คนอื่นเป็นของขวัญ
ผลแก้วมังกรมักจะสุกในช่วงท้ายของฤดูร้อนหรือเข้าฤดูใบไม้ผลิแต่สามารถออกผลได้ทุกเวลาของปีถ้าหากได้รับน้ำและความอบอุ่นเพียงพอ คุณสามารถดูได้ว่าผลแก้วมังกรสุกเมื่อผิวของมันเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงหรือสีเหลืองโดยขึ้นอยู่กับแต่ละพันธุ์ ผิวของมันจะนุ่มเมื่อกดแต่ไม่เละ ^{[11]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
4
รับประทาน. คุณรอช่วงเวลานี้มาหลายปี เพราะฉะนั้นเก็บเกี่ยวความสุขให้เต็มที่ คุณสามารถหั่นผลไม้เป็น 4 ส่วนและปอกเปลือกออกหรือใช้ช้อนตักได้เลย มันมีรสชาติหวานและมีเนื้อคล้ายกับลูกกีวีแต่กรอบกว่า
- เมื่อต้นแก้วมังกรเติบโตเต็มที่มันจะออกผล 4-6 ครั้งต่อปีโดยค่อยๆ ใช้เวลาเร็วขึ้น เพราะฉะนั้นอย่าคิดว่าผลแก้วมังกรผลแรกจะเป็นผลสุดท้าย คุณได้อดใจรอและตอนนี้ก็ได้รับรางวัลจากการรอแล้ว ^{[12]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
โฆษณา

เคล็ดลับ

วิธีที่รวดเร็วในการปลูกต้นแก้วมังกรคือหั่นหรือตัดต้นแก้วมังกรที่มีอยู่ กิ่งของต้นแก้วมังกรจะไม่เหี่ยวแต่จะออกรากเพื่อหาดินใหม่

โฆษณา

คำเตือน

ต้นแก้วมังกรสามารถรับความร้อนได้ถึง 40 องศาเซลเซียสและทนกับสภาพอากาศหนาวจัดได้เพียงเวลาสั้นๆ แต่จะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ในอุณหภูมิที่หนาวจัดเป็นเวลานานได้
การรดน้ำต้นไม้หรือได้รับน้ำฝนมากเกินไปสามารถทำให้ดอกหลุดและต้นไม้เน่าได้

โฆษณา