วิธีการ ดูแลต้นเลมอน

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

ต้นเลมอนสามารถเจริญเติบโตได้ค่อนข้างดีแม้จะปลูกในเขตภูมิอากาศแบบอบอุ่น คุณสามารถจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของต้นเลมอนได้ด้วยการเคลื่อนย้ายกระถางต้นเลมอนเข้ามาไว้ในอาคารในบางช่วงเวลาและรดน้ำให้เพียงพอเพื่อไม่ให้ต้นเลมอนขาดน้ำจนแห้งเหี่ยวได้ หลังจากที่คุณดูแลต้นเลมอนมาอย่างต่อเนื่องจนมีอายุครบ 2-3 ปีแล้ว ต้นเลมอนของคุณก็จะออกผลให้คุณได้เก็บเกี่ยวมากถึง 10-30 ลูกเป็นประจำทุกๆ ปี

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

จัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ปลูกต้นเลมอนไว้ในพื้นที่กลางแจ้งหากคุณอาศัยในเขตภูมิอากาศแบบอบอุ่น....
    ปลูกต้นเลมอนไว้ในพื้นที่กลางแจ้งหากคุณอาศัยในเขตภูมิอากาศแบบอบอุ่น. หากพื้นที่ที่คุณอาศัยอยู่มีอุณหภูมิในช่วงเวลากลางคืนไม่ต่ำกว่า 5 °C คุณสามารถวางกระถางต้นเลมอนไว้ในพื้นที่กลางแจ้งได้อย่างไม่มีปัญหา แต่ถ้าหากว่าหรือเมื่อไรที่สภาพอากาศมีความแปรปรวน ให้คุณนำกระถางต้นเลมอนเข้ามาวางไว้ในอาคารเพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อต้นเลมอนได้[1]
    • หากคุณอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีแสงแดดส่องยาวนานกว่า 8 ชั่วโมงต่อวันตลอดทั้งปีและอุณหภูมิไม่เคยต่ำกว่า 5-7 °C คุณสามารถนำต้นเลมอนปลูกลงดินในพื้นที่กลางแจ้งได้เลย

    รู้หรือไม่? ต้นเลมอนสามารถเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ป่าละเมาะในเขตต่างๆ อย่างอินเดีย อิตาลี แคลิฟอร์เนีย และฟลอริด้า

  2. How.com.vn ไท: Step 2 ปลูกต้นเลมอนไว้ในอาคารในช่วงเดือนที่มีอากาศหนาวเย็น....
    ปลูกต้นเลมอนไว้ในอาคารในช่วงเดือนที่มีอากาศหนาวเย็น. เมื่ออุณหภูมิเริ่มต่ำลงจนเกิดน้ำค้างแข็งเกาะตัวตามพื้นดิน ให้คุณนำกระถางต้นเลมอนมาวางไว้ในอาคาร เช่น ห้องเรือนกระจก ลานบ้าน โรงเรือนกระจก หรือบริเวณอื่นๆ ที่มีแสงแดดส่องถึงมากพอ[2] จำไว้ว่าน้ำค้างแข็งอาจเป็นสาเหตุทำให้ต้นเลมอนตายได้ ดังนั้นอย่าลืมติดตามพยากรณ์อากาศให้ดีเพื่อให้คุณเคลื่อนย้ายต้นเลมอนเข้ามาวางไว้ในอาคารได้อย่างทันท่วงที[3]
    • ต้นเลมอนแคระเป็นพันธุ์ต้นเลมอนที่เหมาะสำหรับปลูกไว้ในอาคาร สามารถออกผลได้มากมายแต่จะไม่เติบโตจนมีขนาดใหญ่มากนักจนไม่สามารถเคลื่อนย้ายไปมาได้ โดยส่วนใหญ่แล้วต้นเลมอนแคระจะมีความสูงราว 1.5-2 เมตร แต่คุณสามารถตัดแต่งต้นเลมอนให้มีขนาดเล็กลงได้ตามความต้องการของคุณ
  3. How.com.vn ไท: Step 3 รักษาอุณหภูมิโดยรอบให้อยู่ในช่วง 10-21 °C.
    ในช่วงฤดูร้อน อุณหภูมิที่สูงกว่า 21 °C ในระหว่างวันไม่เป็นปัญหามากนักต่อต้นเลมอนของคุณเนื่องจากต้นเลมอนจะเจอกับอุณหภูมิที่ต่ำลงในเวลากลางคืน หากคุณวางต้นเลมอนไว้ในอาคาร ให้คุณคอยติดตามการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอยู่เสมอเพื่อให้แน่ใจว่าอุณหภูมิไม่ต่ำหรือสูงจนเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูหนาวที่อากาศแห้งเป็นพิเศษเพื่อระวังไม่ให้ต้นเลมอนของคุณได้รับความร้อนมากจนเกินไป[4]
    • สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตภูมิอากาศที่แห้งแล้งเป็นพิเศษ ให้คุณจัดเตรียมเครื่องทำความชื้นไว้ให้พร้อมเมื่อต้นเลมอนถูกนำมาวางไว้ในอาคารเพื่อรักษาความชื้นสัมพัทธ์ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมหรือราว 50% แต่หากคุณอาศัยอยู่ในเขตภูมิอากาศที่สามารถปลูกต้นเลมอนไว้ในพื้นที่กลางแจ้งได้ คุณก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องระดับความชื้น
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ให้ต้นเลมอนได้รับแสงแดดอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงในทุกๆ...
    ให้ต้นเลมอนได้รับแสงแดดอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงในทุกๆ วัน. เลือกวางต้นเลมอนไว้ในจุดที่มีแสงแดดส่องถึง[5]และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีต้นไม้ต้นอื่นๆ บังแสงแดดจนเข้ามาไม่ถึง พยายามเคลื่อนย้ายต้นเลมอนไปวางไว้ในจุดต่างๆ ของสวนหรือระเบียงให้เหมาะสมตามสภาพอากาศของแต่ละช่วงเวลาในระหว่างปีเพื่อให้ต้นเลมอนได้รับแสงแดดอย่างเต็มที่ [6]
    • หากคุณอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ท้องฟ้ามักมีเมฆมากและอึมครึม คุณอาจลงทุนซื้อหลอดไฟสำหรับปลูกต้นไม้สักหลอดหนึ่งซึ่งสามารถหาซื้อได้จากร้านค้าออนไลน์หรือร้านขายต้นไม้ใกล้บ้านคุณ
  5. How.com.vn ไท: Step 5 วางต้นเลมอนให้ห่างจากแผงระบายความร้อนหรือแหล่งกำเนิดความร้อน....
    วางต้นเลมอนให้ห่างจากแผงระบายความร้อนหรือแหล่งกำเนิดความร้อน. หากต้นเลมอนถูกนำมาวางไว้ในอาคาร อย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าต้นเลมอนอยู่ห่างจากแหล่งกำเนิดความร้อนเพื่อป้องกันไม่ให้ใบและดินแห้งจนเกินไป เพราะแม้ว่าต้นเลมอนจะชื่นชอบความร้อนและแสงแดด แต่การสัมผัสกับความร้อนที่แห้งมากเกินไปอาจเป็นอันตรายต่อต้นเลมอนของคุณได้[7]
    • หากเป็นไปได้ ให้คุณวางต้นเลมอนไว้ในห้องที่ติดตั้งพัดลมเพดานไว้หรือวางพัดลมตั้งพื้นไว้ในห้องให้เรียบร้อยเพื่อให้อากาศภายในห้องหมุนเวียนได้ดีขึ้นและส่งผลดีต่อสุขภาพของต้นเลมอน พยายามเปิดพัดลมทิ้งไว้ให้นานที่สุด
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

หมั่นให้ปุ๋ยและรดน้ำเป็นประจำ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 เลือกใช้กระถางที่ระบายน้ำได้ดีและมีขนาดใหญ่กว่าตุ้มดินของต้นเลมอนราว 25%....
    เลือกใช้กระถางที่ระบายน้ำได้ดีและมีขนาดใหญ่กว่าตุ้มดินของต้นเลมอนราว 25%. ส่วนตุ้มดินของต้นเลมอนจะประกอบไปด้วยรากและก้อนดินที่ติดอยู่กับราก โดยทั่วไปแล้วต้นเลมอนที่วางขายตามร้านขายต้นไม้มักจัดเตรียมลงในกระถางที่มีขนาดเหมาะสมอยู่แล้ว เพียงอย่าลืมสอบถามผู้ขายอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจมากยิ่งขึ้น แต่หากคุณจำเป็นต้องนำต้นเลมอนลงปลูกในกระถางใบใหม่ คุณควรมองหากระถางที่มีขนาด 20 ลิตรสำหรับต้นเลมอนที่มีอายุ 2-3 ปีหรือกระถางที่มีขนาด 40 ลิตรสำหรับต้นเลมอนที่มีอายุมากกว่านั้น[8]
    • กระถางที่มีขนาดใหญกว่า 60 ลิตรขึ้นไปอาจเคลื่อนย้ายไปมาได้ไม่สะดวกนัก
  2. How.com.vn ไท: Step 2 มองหาดินหมักที่ระบายน้ำได้ดีสำหรับกลบตุ้มดินของต้นไม้....
    มองหาดินหมักที่ระบายน้ำได้ดีสำหรับกลบตุ้มดินของต้นไม้. เลือกซื้อดินร่วนปนทรายที่สามารถระบายน้ำได้ดีและหลีกเลี่ยงการใช้ดินที่มีลักษณะเหนียวหรือมีความเป็นด่างสูง ใส่ดินลงไปในกระถางเพื่อกลบส่วนตุ้มดินของต้นเลมอน (ส่วนที่ประกอบด้วยรากและก้อนดินที่ติดอยู่กับราก) ให้สูงขึ้นมาจนถึงโคนต้น[9]
    • ต้นเลมอนมีความทนทานค่อนข้างสูงและสามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินหลากหลายชนิด อย่างไรก็ตาม ดินร่วนยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับใช้ในการปลูกต้นเลมอน หากคุณต้องการทดสอบค่า pH ของดิน พยายามเลือกใช้ดินที่มีค่า pH อยู่ระหว่าง 5.5-6.5 เพื่อให้ต้นเลมอนเจริญเติบโตได้ดียิ่งขึ้น
    • หากดินมีความเป็นกรดสูงเกินไป คุณสามารถเติมวัสดุที่มีคุณสมบัติเป็นด่างอย่างปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกลงไปในดินได้
    • หากดินมีความเป็นกรดไม่สูงพอ ให้คุณเติมผงหินปูนลงไปในดิน
  3. How.com.vn ไท: Step 3 โรยปุ๋ยไว้บนหน้าดินเพื่อไม่ให้รากได้รับความกระทบกระเทือน....
    โรยปุ๋ยไว้บนหน้าดินเพื่อไม่ให้รากได้รับความกระทบกระเทือน. ให้ปุ๋ยต้นเลมอนทุกๆ 1-2 เดือนในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนและทุกๆ 2-3 เดือนในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว โดยคุณควรเลือกใช้ปุ๋ยสำหรับพืชตระกูลส้มโดยเฉพาะและโรยปุ๋ยไว้เฉพาะบนหน้าดินเท่านั้นโดยไม่จำเป็นต้องคลุกเคล้ากับดินที่เหลือ[10]
    • ฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนเป็นช่วงเวลาที่ต้นไม้มีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ต้นไม้จะหยุดการเจริญเติบโตชั่วคราวในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว
  4. How.com.vn ไท: Step 4 หมั่นรดน้ำต้นเลมอนทุกๆ 10-14 วัน.
    รดน้ำต้นเลมอนพร้อมนับเวลาช้าๆ จนถึง 20 วินาทีและหยุดลงเมื่อคุณสังเกตเห็นน้ำไหลออกมาจากก้นกระถาง แต่หากยังคงไม่มีน้ำไหลออกมาหลังรดน้ำนานกว่า 20 วินาทีแล้ว ให้คุณรดน้ำต่อไปและนับเวลาต่ออีก 10 วินาที คอยสังเกตดินและใบของต้นเลมอนให้ดีหากคุณอาศัยอยู่ในเขตภูมิอากาศแบบแห้งแล้งและรดน้ำโดยทันทีหากดินมีสัมผัสที่แห้งสากมือหรือใบเริ่มแห้งเหี่ยว ซึ่งคุณอาจจำเป็นต้องรดน้ำมากถึงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งในช่วงที่อากาศร้อนเป็นพิเศษ[11]
    • ยังไม่จำเป็นต้องรดน้ำจนกว่าดินส่วนที่ลึกลงไป 2 นิ้ว (5 ซม.) จากหน้าดินจะเริ่มแห้ง[12]
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ปลูกต้นเลมอนไว้ในพื้นที่ที่ไม่มีน้ำท่วมขัง....
    ปลูกต้นเลมอนไว้ในพื้นที่ที่ไม่มีน้ำท่วมขัง. แม้ว่าต้นเลมอนจะต้องการน้ำในปริมาณที่มาก แต่ก็อาจไม่ได้ทนทานมากพอต่อน้ำท่วมขัง หากคุณปลูกต้นเลมอนไว้ในพื้นที่กลางแจ้ง ให้คุณวางกระถางไว้ในจุดที่สามารถระบายน้ำฝนได้ดีและไม่เกิดการท่วมขัง เช่น ตามแนวกำแพงของสวนหรือจุดที่สูงที่สุดของพื้นที่ลาดเอียง[13]
    • หากมีฝนตกหนักในพื้นที่ที่คุณอาศัยอยู่ คุณอาจจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายต้นเลมอนเข้ามาไว้ในอาคารหรือวางไว้ใต้กันสาดจนกว่าฝนจะหยุดตก
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

เก็บเกี่ยวผลผลิตและตัดแต่งกิ่ง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 เก็บเกี่ยวผลเลมอนเมื่อเริ่มเนื้อเริ่มแน่นแข็งและมีขนาดลูกประมาณ 2-3 นิ้ว...
    เก็บเกี่ยวผลเลมอนเมื่อเริ่มเนื้อเริ่มแน่นแข็งและมีขนาดลูกประมาณ 2-3 นิ้ว (5-8 ซม.). เลือกเก็บผลเลมอนที่มีสีเขียวจัดหากคุณต้องการให้เลมอนมีรสชาติที่เปรี้ยวมากขึ้น เพราะยิ่งเลมอนเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองมากเท่าไหร่ รสชาติของเลมอนก็จะยิ่งหวานมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งผลเลมอนที่เก็บเกี่ยวมาแล้วจะยังคงสุกต่อไปเรื่อยๆ แม้ว่าจะถูกเด็ดออกมาจากต้นแล้วก็ตาม[14]
    • ผลเลมอนอาจยังคงมีสีเขียวได้แม้ว่าจะมีขนาดลูกที่เหมาะสมต่อการเก็บเกี่ยวแล้ว ซึ่งในกรณีคุณสามารถเก็บเกี่ยวผลเลมอนได้โดยไม่มีปัญหา เพราะช่วงเวลาเก็บเกี่ยวผลผลิตที่เหมาะสมจะพิจารณาจากขนาดมากกว่าสี
    • ผลเลมอนที่ถูกปล่อยทิ้งไว้คาต้นนานเกินไปจะเริ่มมีเนื้อสัมผัสที่เหลวเละๆ
  2. How.com.vn ไท: Step 2 บิดผลเลมอนเบาๆ จนหลุดออกมาจากขั้ว.
    ใช้มือข้างหนึ่งจับผลเลมอนไว้แน่นๆ และหมุนไปในทิศทางหนึ่ง โดยผลเลมอนจะหลุดออกมาจากขั้วได้โดยง่าย นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้กรรไกรตัดแต่งกิ่งไม้สะอาดตัดที่ขั้วเพื่อให้ผลเลมอนหลุดออกมาก็ได้เช่นกัน[15]
    • หลีกเลี่ยงการออกแรงดึงให้ผลเลมอนหลุดออกมาจากขั้ว ไม่เช่นนั้นกิ่งก้านของต้นเลมอนอาจได้รับความกระทบกระเทือนหรือกระทั่งหลุดออกมาจากลำต้นได้

    รู้หรือไม่? คุณประโยชน์ของเลมอนไม่ได้มีเพียงการนำมาใช้เป็นส่วนประกอบของอาหารและเครื่องดื่มเท่านั้น คุณยังสามารถโยนเปลือกเลมอนลงไปในเครื่องกำจัดเศษอาหารก่อนเปิดเครื่องเพื่อดับกลิ่นซิงค์ล้างจาน นำเปลือกเลมอนมาขัดถูบนก๊อกน้ำในห้องครัวและห้องน้ำให้เงางาม หรือใช้น้ำเลมอนแต้มลงบนสิวอักเสบหรือสิวหัวดำเพื่อกำจัดสิวให้หมดไป

  3. How.com.vn ไท: Step 3 ตัดแต่งกิ่งในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคมเพื่อให้ต้นเลมอนแข็งแรงยิ่งขึ้น....
    ตัดแต่งกิ่งในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคมเพื่อให้ต้นเลมอนแข็งแรงยิ่งขึ้น. ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการตัดแต่งกิ่งคือหลังจากที่ผลเลมอนเกือบทั้งหมดถูกเก็บเกี่ยวไปจากต้นและก่อนที่ต้นเลมอนจะแตกหน่อออกมาใหม่ โดยคุณอาจลงมือตัดแต่งกิ่งในช่วงระหว่างตอนปลายของฤดูหนาวไปจนถึงตอนต้นของฤดูใบไม้ผลิ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในพื้นที่ที่คุณอาศัยอยู่[16]
    • การตัดแต่งกิ่งเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้ต้นเลมอนของคุณเติบโตอย่างรวดเร็วและแข็งแรง
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ใช้กรรไกรตัดแต่งกิ่งไม้ตัดกิ่งก้านที่แตกออกมาใหม่ให้เหลือความยาวเพียงครึ่งหนึ่ง....
    ใช้กรรไกรตัดแต่งกิ่งไม้ตัดกิ่งก้านที่แตกออกมาใหม่ให้เหลือความยาวเพียงครึ่งหนึ่ง. ตัดกิ่งต้นเลมอนให้เฉียง 45 องศาและอย่าตัดลึกเข้ามาจนถึงลำต้นโดยเด็ดขาด โดยพยายามเลือกตัดกิ่งที่ยาวและเก้งก้างที่สุดและเหลือกิ่งที่หนาและมั่นคงไว้ดังเดิม รวมถึงตัดกิ่งที่ห้อยย้อยและลู่ลงสู่พื้นดินด้วยเช่นกัน[17]
    • เด็ดใบที่แห้งเหี่ยวให้หลุดออกจากกิ่งพร้อมเก็บกวาดใบที่ร่วงลงมากองบนพื้นดินไปทิ้งทุกครั้งที่คุณสังเกตเห็น
  5. How.com.vn ไท: Step 5 คอยเฝ้าระวังแมลงศัตรูพืชเพื่อให้คุณแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที....
    คอยเฝ้าระวังแมลงศัตรูพืชเพื่อให้คุณแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที. การตัดแต่งกิ่งของต้นเลมอนเป็นขั้นตอนแรกในการป้องกันไม่ให้แมลงศัตรูพืชมาสร้างรังบนต้นเลมอนของคุณ หากคุณสังเกตเห็นไรแมงมุมหรือเพลี้ย ให้คุณใช้สายยางฉีดน้ำไล่พวกมันให้หลุดออกไป (ทำขั้นตอนนี้ข้างนอกอาคาร) อย่างไรก็ตาม หากไรแมงมุมหรือเพลี้ยยังคงไม่หมดไปหรือมีแมลงศัตรูพืชชนิดอื่นๆ คอยกัดกินต้นเลมอนของคุณ คุณสามารถกำจัดแมลงเหล่านี้ได้ด้วยการใช้ยาฆ่าแมลงหรือน้ำมันกำจัดแมลงสำหรับต้นไม้ โดยอย่าลืมสอบถามผู้ขายให้ละเอียดและปฏิบัติตามคำแนะนำในการใช้อย่างเคร่งครัดเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อต้นเลมอนของคุณโดยไม่ได้ตั้งใจ แมลงศัตรูพืชที่พบได้ทั่วไปได้แก่:[18]
    • ไรแดง: แมลงสีแดงตัวเล็กที่มักกัดกินใบและกิ่งของพืชตระกูลส้ม
    • ไรแมงมุม: แมลงสีขาวตัวเล็กที่พบได้ทั่วไปในสภาพอากาศที่เย็น
    • เพลี้ยแป้ง: แมลงตัวเล็กที่มีรูปร่างยาวรีแบนๆ และไม่มีปีก ร่างกายของเพลี้ยแป้งจะขับสารขี้ผึ้งซึ่งมีลักษณะเหมือนแป้งสีขาวออกมาเคลือบตัวไว้
    • แมลงหวี่ขาว: แมลงสีขาวตัวเล็กและมีปีก มักพบได้ตามใต้ใบของพืชตระกูลส้ม
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • เลือกปลูกต้นเลมอนที่เกิดเป็นต้นกล้าแล้วซึ่งสามารถหาซื้อได้ที่ร้านขายต้นไม้ทั่วไป เพราะการเพาะต้นเลมอนเองจากเมล็ดอาจใช้เวลานานถึง 2-3 ปีกว่าที่จะเริ่มออกผลให้เก็บเกี่ยวและกลายเป็นการลงทุนในระยะยาวไปแทน
  • หากคุณปลูกต้นเลมอนไว้ในอาคาร ต้นเลมอนของคุณจะต้องได้รับการผสมเกสรด้วยมือจึงจะสามารถติดผลได้ อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้วขั้นตอนนี้ไม่ใช่ขั้นตอนจำเป็นสำหรับต้นเลมอนที่ปลูกไว้ในพื้นที่กลางแจ้ง
  • ต้นเลมอนมีความเสี่ยงในการป่วยเป็นโรคต่างๆ ได้มากมาย ดังนั้นคุณจึงต้องทำความคุ้นเคยกับสัญญาณอาการป่วยของโรคต่างๆ ในต้นเลมอนและทำการรักษาโดยเร็วที่สุด
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • เครื่องทำความชื้น (ไม่บังคับ)
  • หลอดไฟสำหรับปลูกต้นไม้ (ไม่บังคับ)
  • กระถางที่ระบายน้ำได้ดี
  • ดินร่วนปนทราย
  • ปุ๋ยสำหรับพืชตระกูลส้มโดยเฉพาะ
  • กรรไกรตัดแต่งกิ่งไม้
  • ยาฆ่าแมลงหรือน้ำมันกำจัดแมลงสำหรับต้นไม้ (ไม่บังคับ)

ข้อมูลอ้างอิง

  1. https://gardencollage.com/wander/gardens-parks/care-indoor-lemon-tree/
  2. Mark Leahy. ผู้เชี่ยวชาญด้านพันธุ์ไม้. การสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ. 11 ธันวาคม 2020.
  3. https://gardencollage.com/wander/gardens-parks/care-indoor-lemon-tree/
  4. https://youtu.be/eGaYqH_XxPA?t=15
  5. Mark Leahy. ผู้เชี่ยวชาญด้านพันธุ์ไม้. การสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ. 11 ธันวาคม 2020.
  6. https://gardencollage.com/wander/gardens-parks/care-indoor-lemon-tree/
  7. https://www.nature-and-garden.com/gardening/lemon-tree.html
  8. https://gardencollage.com/wander/gardens-parks/care-indoor-lemon-tree/
  9. https://youtu.be/eGaYqH_XxPA?t=78

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Mark Leahy
ร่วมเขียน โดย:
ผู้เชี่ยวชาญด้านพืช
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Mark Leahy. มาร์ก เลฮีเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพืชในซานฟรานซิสโกเบย์แอเรีย เขาเป็นเจ้าของร่วมของ Bella Fiora สตูดิโอจัดดอกไม้ตามใจลูกค้า และ SF Plants ร้านขายต้นไม้และเรือนเพาะชำ มาร์กเชี่ยวชาญด้านศิลปะเกี่ยวกับดอกไม้และพืชในร่ม ไม่ว่าจะเป็นการจัดดอกไม้ กระถางต้นไม้นอกชาน การจัดวางต้นไม้ในออฟฟิศ และการจัดสวนแนวตั้ง มาร์กและหุ้นส่วนเคยปรากฏตัวใน Vogue, The Knot, Today's Bride, Wedding Wire, Modern Luxury, San Francisco Bride Magazine, San Francisco Fall Antique Show, Black Bride, Best of the Bay Area A-List และ Borrowed & Blue บทความนี้ถูกเข้าชม 9,171 ครั้ง
หมวดหมู่: การจัดสวน
มีการเข้าถึงหน้านี้ 9,171 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา