วิกิฮาวเป็น "wiki" ซึ่งหมายความว่าบทความหลายๆ บทความของเรานั้นเป็นการร่วมมือกันเขียนของผู้เขียนหลายคน ในการเขียนบทความชิ้นนี้ ผู้คน 10 คน ซึ่งบางคนไม่ขอเปิดเผยตัว ได้ร่วมกันเขียนและปรับปรุงเนื้อหาของบทความอย่างต่อเนื่อง
มีการอ้างอิง 16 ข้อที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ
บทความนี้ถูกเข้าชม 7,679 ครั้ง
ยาทาเล็บแบบด้านกำลังเป็นเทรนด์มาแรงสุดฮ็อตของวงการแฟชั่นขณะนี้ มันทั้งดูเก๋ไก๋และหรูเฟี้ยว น่าเสียดายที่มันราคาแพงอยู่เหมือนกันนะ และใช่ว่าทุกคนจะพร้อมจ่ายเงินซื้อยาทาเล็บสักขวดโดยที่อาจได้เอามันออกมาใช้อีก น้ำยาเคลือบให้ดูด้านก็มีวางขายอยู่ แต่ถ้าคุณอยากได้ยาทาเล็บแบบด้านแต่ดันไม่มีน้ำยาเคลือบแบบด้านอยู่ที่บ้านล่ะ โชคยังดีที่มันมีวิธีง่ายๆ ที่จะเปลี่ยนยาทาเล็บธรรมดาให้กลายเป็นยาทาเล็บแบบสีด้าน บทความนี้จะแสดงวิธีการทำยาทาเล็บแบบด้าน
ขั้นตอน
- รวบรวมอุปกรณ์. พอคุณทาเล็บแล้ว คุณต้องทำด่วนจี๋ ไม่งั้นยาทาเล็บจะแห้งแล้วทำได้ยาก นี่คือรายชื่ออุปกรณ์ที่จำต้องมีเตรียมให้พร้อม:
- น้ำยารองพื้นเล็บกับยาทาเล็บ
- ผงฟู
- ตะแกรงตาถี่
- จานหรือภาชนะเล็กๆ
- แปรงแต่งหน้าแบบขนแปรงนุ่ม
- เทผงฟูผ่านตะแกรงตาถี่ลงในชามใบเล็ก. คุณจำเป็นต้องขยี้ส่วนที่เป็นก้อนในตัวแป้ง มิฉะนั้นมันจะทำให้ผิวหน้าตอนทาเล็บไม่เรียบ ถ้ายังเห็นเม็ดแป้ง ให้ใช้ไม้จิ้มฟันขยี้มัน
- ทาเล็บที่มือข้างหนึ่ง. ให้แน่ใจว่าได้ทาน้ำยารองพื้นเล็บก่อน แล้วค่อยเลือกยาทาเล็บสีที่ชอบมาทา ส่วนอีกข้างอย่าเพิ่งทาในตอนนี้ ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ยาทาเล็บแห้งเร็วเกินไป
- ใช้แปรงทาผงฟูลงไปตรงเล็บที่ยังไม่แห้ง. จุ่มแปรงลงในผงฟู แล้วทาเบาๆ เหนือเล็บที่ทายาไว้โดยยังไม่แห้ง ผงแป้งจะติดกับยาทาเล็บ จุ่มแปรงลงในผงฟูแต่ละครั้งก่อนทาแต่ละนิ้ว ถ้าไม่ทำเช่นนั้น ขนที่เริ่มแข็งจะติดยาทาเล็บที่ไม่แห้งจนเละเทะไปเลย[1]
- ให้แน่ใจว่าเล็บได้รับการเคลือบผงฟูสม่ำเสมอกัน หากมีช่องว่างเกิดในผงแป้ง ก็จะมีช่องว่างในตอนทำสีด้าน
- ให้แน่ใจว่าคุณใช้แปรงแต่งหน้าแบบขนแปรงนุ่ม ถ้าขนแปรงแข็งไป จะทำให้เกิดรอยในสีทาเล็บ
- ทิ้งไว้สักสองสามวินาที. เวลาแค่นี้ก็พอจะให้ชั้นบางๆ ของผงฟูซึมเข้าสู่ยาทาเล็บ ทำให้เกิดปฏิกิริยาสีด้านขึ้นมา
- ใช้แปรงปัดหรือล้างผงแป้งออกจากเล็บ. ให้แน่ใจว่าได้กำจัดผงแป้งที่ยังเหลือ สีทาเล็บคุณตอนนี้น่าจะมีลักษณะด้านแล้ว ถ้าผงแป้งแห้งคายาทาเล็บ ให้จุ่มแปรงในน้ำแล้วลองปัดผงแป้งออกอีกที มันควรจะกำจัดผงแป้งไปได้
- ทำกระบวนการนี้ซ้ำกับมืออีกข้าง. ทาน้ำยารองพื้นเล็บและยาทาเล็บ โรยผงฟูใส่เล็บ ใช้แปรงสะอาดปัดออก
- ทิ้งเล็บไว้ให้แห้ง. สีทาเล็บอาจยังดูมันวาวในตอนไม่แห้ง จึงอาจเป็นความคิดที่ดีถ้าจะปล่อยให้มันแห้งสนิทเพื่อดูผลสุดท้าย และพยายามเลี่ยงการทาน้ำยาเคลือบเล็บ น้ำยาเคลือบเล็บส่วนใหญ่มักมันวาว ทำให้ใช้ไม่ได้ผล ถ้าคุณสามารถหาน้ำยาเคลือบเล็บแบบด้านได้ ก็ใช้มันได้เลยโฆษณา
- รวบรวมอุปกรณ์. ถ้าคุณวางแผนจะใช้ยาทาเล็บสีด้านบ่อยๆ ลองทำมันทั้งขวดเลยเป็นไง แบบนี้ก็ไม่ต้องคอยผสมส่วนประกอบกันทุกครั้งไป นี่คือรายชื่ออุปกรณ์ที่คุณต้องการ:
- ยาทาเล็บ
- แป้งข้าวโพด อายส์ชาโดว์สีด้าน ผงไมกาหรือผงแป้งผัดหน้า
- ตะแกรงตาถี่ (สำหรับแป้งข้าวโพด)
- ไม้จิ้มฟัน (สำหรับอายส์ชาโดว์)
- กระดาษขนาด 2 นิ้วต่อ 2 นิ้ว (5.08 เซนติเมตร)
- ยาทาเล็บ
- ตลับลูกปืนเม็ดกลม 2 – 3 ลูก (ไม่จำเป็น)
- ถ้วยหรือจานเล็กๆ
- เลือกยาทาเล็บกับแป้ง. ให้แน่ใจว่าขวดที่นำมาใช้มียาทาเล็บแค่ครึ่งเดียว อย่าใช้แบบที่ยังเต็มขวด มิฉะนั้นแป้งที่คุณใช้จะทำให้มันล้นออกมา
- ถ้าต้องการจะทำน้ำยาเคลือบเล็บแบบด้าน คุณต้องใช้น้ำยาเคลือบเล็บแบบใสกับแป้งข้าวโพด [2] คุณสามารถทาน้ำยาเคลือบเล็บนี้บนยาทาเล็บทั้งหมดเพื่อทำให้มันดูด้าน
- ถ้าต้องการทำยาทาเล็บแบบสีด้านทั่วไป คุณต้องใช้ยาทาเล็บสีไม่ผสมแล้วก็แป้งข้าวโพด
- ถ้าอยากทำสีขึ้นมาเอง คุณต้องใช้น้ำยาเคลือบเล็บแบบใส และยังต้องใช้อายส์ชาโดว์แบบด้าน ผงไมกาที่ไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง หรือผงแป้งผัดหน้าใส่ลงไป[3] การเติมแป้งข้าวโพดลงไปด้วยจะยิ่งช่วยทำให้สีตอนสุดท้ายดูด้านมากขึ้น
- เตรียมแป้ง. ไม่ว่าจะเลือกแป้งชนิดไหน มันจำต้องร่วนละเอียด แป้งที่จับเป็นก้อนจะทำให้เคลือบเล็บแล้วดูขรุขระ ถ้าต้องใช้แป้งข้าวโพด ก็ให้ร่อนผ่านตะแกรงตาถี่ก่อน ถ้าใช้อายส์ชาโดว์ก็ขูดออกมาจากแท่งแล้วใช้ปลายปากกาหรือแปรงบดจนละเอียด ผงไมกากับแป้งผัดหน้านั้นร่วนอยู่แล้วและไม่จับเป็นก้อน
- คุณต้องใช้แป้งข้าวโพดแค่ไม่กี่เหยาะ
- ถ้าจะใช้อายส์ชาโดว์ ให้ใช้ทั้งแท่งต่อยาทาเล็บ ½ ขวด [4]
- ทำกรวยโดยใช้กระดาษขนาด 2 นิ้วคูณ 2 นิ้ว (5.08 เซนติเมตร). ม้วนกระดาษเป็นรูปกรวย ให้แน่ใจว่าตรงปลายกรวยมีรูให้แป้งผ่านได้[5]
- เปิดขวดยาทาเล็บแล้ววางกรวยบนคอขวด. ปลายแหลมของกรวยไม่ควรโดนยาทาเล็บ ถ้าโดนก็ให้ขยายด้านบนของกรวยให้กว้างขึ้นเพื่อปลายกรวยจะเลื่อนสูงขึ้น ถ้าปลายกรวยเปียกแล้ว ให้ขลิบทิ้ง มิฉะนั้นแป้งจะติดอยู่ตรงนั้นแทนที่จะตกลงไปในยาทาเล็บ
- เติมแป้งลงไปสองสามเหยาะ. ใช้ช้อนชาหรือช้อนตักขนาดเล็ก จะใช้นิ้วก็ได้ แต่จะเปลืองแป้งเพราะมันติดนิ้ว อย่าใส่แป้งให้มากเกินไปในคราวเดียว เพราะจะทำให้ยาทาเล็บข้นหนืด ค่อยรอเติมทีหลังก็ได้
- ถ้าจะใช้อายส์ชาโดว์ ผงไมกา หรือผงแป้งผัดหน้า ให้ลองเติมแป้งข้าวโพดลงไปสักนิด มันจะช่วยให้ยาทาเล็บออกมาด้านยิ่งขึ้น โดยเฉพาะถ้าแป้งนั้นเป็นแบบมีกากเพชรแวววาว
- ลองเติมตลับลูกปืนสักสองสามลูก. มันจะช่วยให้ผสมกันง่ายขึ้น โดยเฉพาะถ้าคุณเริ่มโดยใช้น้ำยารองพื้นเล็บแบบใส แต่ถ้าใช้ยาทาเล็บสีไม่ผสมก็คงไม่จำเป็น เพราะส่วนใหญ่จะมีผสมอยู่แล้ว[6]
- เส้นผ่าศูนย์กลางของตลับลูกปืนที่จะมาผสมควรอยู่ที่ประมาณ 1/8 นิ้ว (3.175 มม.) เลือกตลับลูกปืนที่ทำจากสเตนเลสสตีลเพื่อให้ได้ผลดีที่สุด
- ปิดฝาขวดให้แน่นแล้วเขย่าสักสองสามนาที. หยุดเขย่าเมื่อสีผสมกันสม่ำเสมอเป็นเนื้อเดียวกัน ถ้าคุณใช้ตลับลูกปืน ให้หยุดเขย่าหลังจากไม่ได้ยินเสียงลูกปืนกระทบกันแล้ว
- ทดสอบยาทาเล็บและปรับแต่งตามจำเป็น. พอมันผสมกันได้ดี ให้เปิดขวดแล้วใช้แปรงนำมาทาที่เล็บหรือกระดาษ ทิ้งให้แห้งเพื่อจะได้เห็นว่ามันเป็นอย่างไร ถ้ายาข้นเกินไป ก็ลองหยดน้ำยาล้างเล็บสักหยดสองหยดไปละลาย ถ้าสีมันไม่ด้านพอ ก็เติมแป้งข้าวโพด ถ้าคุณใช้ยาทาเล็บแบบใสแล้วมันดูบางใสเกินไป เติมอายส์ชาโดว์ ผงไมกา หรือผงแป้งผัดหน้าเพิ่ม
- ทิ้งยาทาเล็บไว้ 24 ชั่วโมงก่อนนำมาใช้. มันจะช่วยให้ผงหรือแป้งที่ใช้ละลายลงไปในยาทาเล็บ ทำให้ดูเรียบเนียนไม่เป็นก้อนยิ่งขึ้น[7]
- ระวังเรื่องน้ำยาเคลือบเล็บที่จะใช้. น้ำยาเคลือบเล็บมักเป็นแบบแวววาว ฉะนั้นพอใช้ทาทับก็ทำให้ดูด้านน้อยลง ลองพยายามหาแบบด้านเพื่อใช้คู่กับยาทาเล็บโฆษณา
- รวบรวมอุปกรณ์. บางครั้งก็เป็นเรื่องยากที่จะหายาทาเล็บสีที่โดนใจเป๊ะ โชคดีที่คุณสามารถใช้อายส์ชาโดว์แบบด้านมาเปลี่ยนน้ำยาเคลือบเล็บแบบใสให้กลายเป็นยาทาเล็บแบบด้าน ถ้าคุณต้องการน้ำยาเคลือบเล็บแบบด้านก็ต้องใช้แป้งข้าวโพดแทน นี่คือสิ่งที่คุณต้องการ:
- ยาทาเล็บแบบใส
- อายส์ชาโดว์แบบสีด้าน
- แป้งข้าวโพด (ไม่จำเป็น)
- ไม้จิ้มฟัน
- ถ้วยหรือจานใบเล็ก
- ใช้ไม้จิ้มฟันขูดอายส์ชาโดว์สีด้านใส่ลงในภาชนะ. จะใช้กระดาษหรือถ้วยพลาสติก จานเล็กๆ หรือกระทั่งฝาคัพเค้กกับมัฟฟินก็ยังได้ สียาทาเล็บจะเป็นไปตามสีอายส์ชาโดว์ที่เลือกมา วางแผนเตรียมอายส์ชาโดว์ให้มีมากกว่ายาทาเล็บเล็กน้อย[10]
- ให้แน่ใจว่าอายส์ชาโดว์ถูกบดจนเป็นแป้งละเอียด. ถ้ายังมีก้อน ใช้ปลายแปรงหรือปลายดินสอจิ้ม บดอายส์ชาโดว์จนกระทั่งมันร่วนเป็นแป้ง ถ้ายังเป็นก้อนเวลาทาผิวเล็บจะเป็นเม็ด
- เติมน้ำยาเคลือบเล็บแบบใสลงไปสองสามหยดแล้วคนด้วยไม้จิ้มฟันจนละเอียด. คนไปจนคุณได้สีสม่ำเสมอเป็นเนื้อเดียว ถ้าสีบางเบาไป เติมอายส์ชาโดว์เข้าไปอีก ให้แน่ใจว่าไม่มีก้อนแป้งอยู่ในยาทาเล็บ ถ้ามีก็ใช้ไม้จิ้มฟันเขี่ย ถ้าไม่ทำจะทำให้เวลาทาแล้วจะไม่เรียบ
- ใช้ยาทาเล็บโดยเร็ว. ยาทาเล็บจะแห้งอย่างรวดเร็ว แค่ทาน้ำยารองพื้นเล็บแล้วทาเล็บเหมือนปกติ ถ้ามียาทาเล็บเหลือ ให้เทใส่ขวดยาทาเล็บเปล่าหรือขวดแก้วอื่นๆ
- ทิ้งเล็บที่ทาให้แห้ง. คุณจะไม่เห็นผลที่แท้จริงจนกว่ายาทาเล็บจะแห้ง หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาเคลือบเล็บ ส่วนใหญ่จะมันวาวแล้วทำให้สีด้านไร้ผล แต่ถ้าหาแบบด้านได้ก็ไม่เป็นไรโฆษณา
- รวบรวมอุปกรณ์. พอทายาทาเล็บ ต้องทำวิธีนี้อย่างไว มันใช้ได้เฉพาะที่ยาทาเล็บยังไม่แห้ง ถ้าปล่อยให้แห้งก็สายเกินไปแล้ว นี่คือสิ่งที่คุณต้องการ:
- ยาทาเล็บกับน้ำยารองพื้นเล็บ
- น้ำ
- หม้อหรือกระทะแบน
- เริ่มด้วยการต้มน้ำ. เติมน้ำเต็มหม้อหรือกระทะแบนไปวางบนเตา เปิดเตาต้มน้ำ คุณจะใช้แค่ไอน้ำในการทำยาทาเล็บให้เป็นสีด้าน
- ให้แน่ใจว่าเล็บสะอาดไม่มัน. ยาทาเล็บจะเกาะติดไม่ดีถ้าเล็บนั้นมีคราบมัน เช็ดเล็บด้วยน้ำยาล้างเล็บเพื่อขจัดคราบครีมกับโลชั่นออก
- เริ่มทาน้ำยารองพื้นเล็บ. น้ำยารองพื้นเล็บจะปกป้องเล็บและไม่ทำให้มันเปื้อน โดยเฉพาะถ้าคุณตั้งใจจะใช้ยาทาเล็บสีเข้มๆ น้ำยารองพื้นเล็บยังเป็นตัวช่วยยึดเกาะยาทาเล็บให้ติดแน่นขึ้นด้วย
- ทายาทาเล็บ. ทางที่ดีทารองพื้นบางๆ ทิ้งให้แห้ง แล้วทาบางๆ ทับอีกชั้น ถ้าคุณทาหนาๆ ชั้นเดียวไปเลย ก็เสี่ยงที่จะทำให้ยาทาเล็บเกิดฟองอากาศในภายหลัง
- แช่เล็บที่ยังไม่แห้งเหนือน้ำเดือดเป็นไอสักสามถึงห้าวินาที.[13] ให้แน่ใจว่าไอน้ำโดนยาทาเล็บที่ยังไม่แห้ง แต่ต้องระวังอย่าให้เล็บเปียกไปซะเอง
- ยาทาเล็บจะต้องยังไม่แห้งถึงจะได้ผล
- ให้แน่ใจว่าได้ขยับมือและทำนิ้วขยุกขยิกไปมาอยู่เรื่อยๆ มันจะช่วยให้ไอน้ำได้อบทุกส่วนของเล็บ
- เอามือออกจากหม้อ. หลังผ่านไปไม่กี่วินาที ยาทาเล็บควรกลายเป็นสีด้าน คุณก็สามารถเดินออกมาปล่อยให้ยาทาเล็บมันแห้งของมันเองไป[14]โฆษณา
- รวบรวมอุปกรณ์. ถ้าคุณหายาทาเล็บสีด้านในสีที่ต้องการไม่ได้ คุณสามารถใช้น้ำยาเคลือบเล็บแบบด้านมาทาทับยาทาเล็บปกติที่มีสีที่คุณ ชอบ นี่คือสิ่งที่คุณต้องการ:
- น้ำยารองพื้นเล็บ
- ยาทาเล็บ
- น้ำยาเคลือบเล็บแบบด้าน
- ใช้น้ำยาล้างเล็บเช็ดเล็บถ้าคุณไม่ได้ทาเล็บ. ยาทาเล็บจะไม่ติดตรงบริเวณที่มีคราบมัน ใช้สำลีก้อนจุ่มน้ำยาล้างเล็บแล้วเช็ดเล็บคุณ[15]
- ทาน้ำยารองพื้นเล็บ. มันจะช่วยปกป้องเล็บและไม่ทำให้เปื้อนเล็บ โดยเฉพาะถ้าคุณจะใช้ยาทาเล็บสีเข้มๆ
- ทายาทาเล็บเป็นชั้นบางๆ สองชั้น. ให้แน่ใจว่าได้ปล่อยแต่ละชั้นให้แห้งก่อนทาทับ คุณจะใช้ยาทาเล็บสีอะไรก็ได้ แต่สีไม่ผสมจะดูดีกว่าสีแบบเมทัลลิก เคลือบมุก เป็นประกายรุ้ง หรือเป็นกากเพชร [16]
- ให้แน่ใจว่าคุณพอใจกับสียาทาเล็บที่ทาออกมาแล้ว. น้ำยาเคลือบเล็บแบบด้านมักทำให้ดูดีได้ยาก มันจะทำให้เห็นริ้วหรือสีที่ทาไม่สม่ำเสมอ ให้แน่ใจว่าเล็บที่ทาได้ออกมาอย่างที่คุณชอบ น้ำยาเคลือบเล็บแบบด้านไม่ได้กลบจุดด้อยอย่างที่แบบมันวาวทำได้ [17]
- เลือกน้ำยาเคลือบเล็บแบบด้านชนิดที่มีคุณภาพสูง. ข้างขวดต้องเขียนว่า "ด้าน" ไม่งั้นไม่ได้ผล จำไว้ว่าน้ำยาเคลือบเล็บแบบด้านอาจทำให้สีเล็บที่ทาจางลงหรือเพี้ยนไป ถ้าน้ำยาเคลือบเล็บดูขุ่นในขวด มันน่าจะทำให้สีของเล็บที่ทาจางหรือเพี้ยน [18]
- ทาน้ำยาเคลือบเล็บแล้วทิ้งให้แห้ง. บางยี่ห้อต้องรอนานกว่าจะแห้ง ถึงแม้มองดูว่าแห้งแล้ว แต่ข้างใต้อาจยังไม่แห้งดี จึงควรระมัดระวังเล็บให้ดีในหนึ่งหรือสองชั่วโมงถัดมานั้น [19]
- พึงตระหนักว่าน้ำยาเคลือบเล็บแบบด้านนั้นมักจะเน้นหน้าตามากกว่าการป้องกัน ไม่ใช่ทุกยี่ห้อจะปกป้องเล็บที่ทาจากการถลอก [20]
โฆษณา
เคล็ดลับ
- ถ้าคุณใช้อายส์ชาโดว์ เลือกใช้อายส์ชาโดว์เก่าที่หมดอายุแล้ว จะได้ไม่ต้องทิ้งมันไป แต่ได้นำกลับมาใช้ใหม่
- เวลาทาเล็บ ลองทายาทาเล็บให้สุดปลายเล็บ จะช่วยลดการถลอก[21]
- เพื่อป้องกันไม่ให้ยาทาเล็บปนเปื้อน ให้ล้างแปรงด้วยน้ำยาล้างเล็บหลังจากทาเล็บเสร็จ ถ้าไม่ทำเช่นนี้ คุณอาจทำให้ยาทาเล็บที่เหลือทั้งขวดพลอยกลายเป็นสีด้านไปด้วย หรืออาจทำให้น้ำยาเคลือบเล็บแบบใสมีสีไปเจือผสม[22]
- หลังจากที่ยาทาเล็บแบบด้านแห้ง ลองใช้ยาทาเล็บปกติทาเป็นลวดลาย นี่จะช่วยให้มันดูตัดกันสวย สีเมทัลลิกอย่างสีทองใช้ได้เหมาะมาก[23]
คำเตือน
- ระวังเรื่องน้ำยาเคลือบเล็บแบบไหนที่จะใช้ ส่วนใหญ่มันเป็นแบบมันวาว และทำให้สีที่ทาหมดความด้าน[24]
สิ่งของที่ใช้
ใช้อายส์ชาโดว์
- ยาทาเล็บแบบใส
- อายส์ชาโดว์สีด้าน
- แป้งข้าวโพด (ไม่จำเป็น)
- ไม้จิ้มฟัน
- ถ้วยหรือจานเล็กๆ
ทำยาทาเล็บสีด้านทั้งขวด
- ยาทาเล็บ
- แป้งข้าวโพด อายส์ชาโดว์สีด้าน ผงไมกา หรือผงแป้งผัดหน้า
- ตะแกรงตาถี่ (สำหรับแป้งข้าวโพด)
- ไม้จิ้มฟัน (สำหรับอายส์ชาโดว์)
- กระดาษขนาด 2 นิ้วคูณ 2 นิ้ว (5.08 เซนติเมตร)
- ยาทาเล็บ
- ตลับลูกปืน 2 – 3 ลูก (ไม่จำเป็น)
- ถ้วยหรือจานเล็กๆ
ทาผงฟู
- น้ำยารองพื้นเล็บและยาทาเล็บ
- ผงฟู
- ตะแกรงตาถี่
- จานหรือภาชนะเล็กๆ
- แปรงแต่งหน้าขนนุ่ม
ใช้ไอน้ำบนยาทาเล็บปกติ
- ยาทาเล็บและน้ำยารองพื้นเล็บ
- น้ำ
- หม้อหรือกระทะแบน
ใช้น้ำยาเคลือบเล็บแบบด้านบนยาทาเล็บปกติ
- น้ำยาล้างเล็บ
- สำลีก้อน
- น้ำยารองพื้นเล็บ
- ยาทาเล็บ
- น้ำยาเคลือบเล็บแบบด้าน
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ Pretty Dresses in the Laundry,DIY Matte Nails
- ↑ Pretty Gossip, How to Make a Matte Topcoat
- ↑ Fustany, Three Ways to Make Your Nail Polish Matte
- ↑ Xo Vain, How To Make Your Own Matte Glitter Nail Polish
- ↑ Xo Vain, How To Make Your Own Matte Glitter Nail Polish
- ↑ Soap Queen, Matte Finish Nail Polish Tutorial
- ↑ The Daily Varnish, DIY Matte Top Coat
- ↑ Makeup Geek, How To: Create Your Own Nail Polish Using Eyeshadow or Pigment
- ↑ Pretty Gossip, How to Make a Matte Topcoat
- ↑ Cut Out and Keep, DIY Matte Nail Polish
- ↑ NZ Girl, Super Simple DIY: How to Make Your Own Matte Nail Polish
- ↑ Curbly, How to Make Your Own Matte Nail Color
- ↑ Evergreen Beauty, How to Make Your Nail Polish Matte
- ↑ Pretty Dresses in the Laundry,DIY Matte Nails
- ↑ Pop Sugar, Make Your Matte Polish Last in 5 Steps
- ↑ Evergreen Beauty, How to Make Your Nail Polish Matte
- ↑ College Fashion, The Matte Nail Polish Trend: Our Take & How to Rock It
- ↑ Evergreen Beauty, How to Make Your Nail Polish Matte
- ↑ College Fashion, The Matte Nail Polish Trend: Our Take & How to Rock It
- ↑ College Fashion, The Matte Nail Polish Trend: Our Take & How to Rock It
- ↑ Pop Sugar, Make Your Matte Polish Last in 5 Steps
- ↑ Fustany, Three Ways to Make Your Nail Polish Matte
- ↑ Michelle Phan, New Tutorial: DIY Matte Nails
- ↑ College Fashion, DIY Beauty: Matte Nail Polish
- Videos provided by SimplyAesthetic
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.