บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Mia Rubie. มิอา รูบี้เป็นช่างแต่งเล็บและเจ้าของ Sparkle San Francisco เธอมีประสบการณ์ด้านนี้กว่าแปดปีและมีชื่อทางการออกแบบเล็บได้ล้ำเลิศและยังมีสายตาการเลือกใช้สีที่ดีเยี่ยม ลูกค้าของเธอมีทั้ง Sephora, Target, และ Vogue งานถูกพูดถึงใน San Francisco Chronicle และ StyleCaster เธอจบปริญญาตรีโดยเน้นด้านการลงทุนรายย่อยจากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐซานฟรานซิสโก คุณสามารถติดตามผลงานของเธอได้จากบัญชี Instagram ที่ @superflynails
มีการอ้างอิง 8 ข้อที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ
บทความนี้ถูกเข้าชม 47,686 ครั้ง
เล็บปลอม เช่น เล็บอะคริลิค หรือเล็บเจล ช่วยเสกให้เล็บจริงธรรมดาให้ดูสวยปิ๊งได้ทันตา แต่เวลาจะเปลี่ยนสีเล็บหรือล้างเล็บ ถ้าต้องให้ร้านทำเล็บเป็นคนถอดเล็บปลอมให้ทุกครั้ง คงทั้งแพงและเสียเวลาน่าดู วันนี้บทความวิกิฮาวนี้เลยมีวิธีการถอดเล็บปลอมมาฝากกัน ทำได้เองที่บ้านด้วยเทคนิคเดียวกันกับที่ร้านทำเล็บใช้ ให้เล็บสะอาดพร้อมทำเล็บใหม่ในเวลาไม่นาน!
ขั้นตอน
- ตัดเล็บอะคริลิคเพื่อลดพื้นที่ที่ต้องจัดการ. ถ้าเป็นเล็บอะคริลิค ให้ตัดจนสั้น เพื่อลดพื้นที่ที่ต้องใช้อะซิโตน ยิ่งพื้นที่น้อย อะซิโตนก็ยิ่งทำให้เล็บปลอมหลุดง่าย ให้คุณตัดเล็บอะคริลิคสั้นจนถึงเล็บจริงเลย[1]
- แต่อย่าเพิ่งตัดเล็บตัวเอง จนกว่าจะถอดเล็บอะคริลิคเรียบร้อยแล้ว
- ใช้ที่ตะไบเล็บแบบหยาบ ตะไบให้เล็บอะคริลิคบางหรือให้ไม่เหลือ topcoat ที่เป็นเนื้อเจล. ให้ตะไบไปมาที่ด้านบนชั้นอะคริลิค จุดที่บรรจบกับเล็บจริง (แถวๆ จมูกเล็บ) หรือให้ทั่วทั้งส่วนที่เป็นเล็บเจล ให้ตะไบจนเห็นกาวใต้ชั้นอะคริลิคโผล่มา หรือไม่เหลือผิวหน้ามันวาวด้านบนของเล็บเจล[2]
- ห้ามขี้เกียจตะไบเล็บเด็ดขาด! ถ้าสละเวลามาตะไบเล็บดีๆ อะซิโตนจะทำงานได้ผลขึ้นอีกเยอะ ถอดเล็บปลอมได้เร็วขึ้น
- แต่ก็อย่าตะไบลึกเกินไป! เพราะอาจเผลอกินเล็บจริงเข้าไป จนเสี่ยงเล็บติดเชื้อ
- ตัดฟอยล์เป็นสี่เหลี่ยม 10 ชิ้น ใช้พันรอบปลายนิ้ว. ใช้กรรไกรตัดแผ่นฟอยล์ ให้ได้ชิ้นละประมาณ 10 x 5 ซม. (4 x 2 นิ้ว)[3]
- ลองใช้ดูก่อน 1 แผ่น แล้วค่อยตัดเพิ่ม แผ่นต้องใหญ่พอจะห่อได้ทั้งเล็บและสำลีก้อนหรือผ้าก๊อซ ที่สำคัญคือเหลือปลายฟอยล์ไว้พับปิดอีกที
- เอาสำลีก้อนหรือผ้าก๊อซชุบอะซิโตนมาโปะเล็บ. เทอะซิโตนพอประมาณใส่สำลีก้อนหรือผ้าก๊อซจนชุ่ม แต่อย่าโชกจนหยดติ๋ง แล้วห่อเล็บไว้โดยตรง[4]
- ถ้าเป็นเล็บอะคริลิค ให้โปะสำลีกลางบริเวณที่ตะไบเล็บปลอมออกจนเห็นกาว
- ถ้าเป็นเล็บเจล ต้องเอาสำลีชุบอะซิโตนจนชุ่ม แล้วโปะไว้ทั้งเล็บ
- จะใช้น้ำยาล้างเล็บแบบไม่มีอะซิโตนก็ได้ แต่กว่าจะถอดเล็บปลอมได้ จะใช้เวลานานกว่าอะซิโตนบริสุทธิ์
- ห่อเล็บด้วยฟอยล์อีกที ให้สำลีชุบอะซิโตนพันเล็บไว้แน่นๆ. แตะปลายนิ้วกลางแผ่นฟอยล์ แล้วห่อปลายนิ้วด้วยฟอยล์ด้านบน แล้วห่อฟอยล์ด้านข้างทับเล็บเหมือนเต็นท์ สุดท้ายพับปลายทบ 2 - 3 รอบ ให้ฟอยล์พันปลายนิ้วกับสำลีแน่นๆ[5]
- ถึงห่อฟอยล์ไม่เนี้ยบเหมือนร้านทำเล็บก็อย่าได้แคร์! ขอแค่ห่อฟอยล์ที่เล็บแน่นๆ ไม่ลื่นหลุด ให้สำลีชุบอะซิโตนชุ่มเล็บ เท่านี้ก็เรียบร้อย
- ทำซ้ำกับทุกนิ้ว. โปะสำลีก้อนหรือผ้าก๊อซชุบอะซิโตนที่เล็บ แล้วห่อด้วยฟอยล์แบบนี้จนครบทุกเล็บ ตอนเหลือ 2 - 3 นิ้วสุดท้ายอาจจะยากหน่อย เพราะนิ้วอื่นมีฟอยล์ห่อ ทำอะไรไม่สะดวก[6]
- ทางที่ดีให้เพื่อนหรือพี่/น้อง คนในบ้าน ช่วยห่อให้ทั้งหมด หรือเฉพาะ 2 - 3 นิ้วสุดท้าย จะง่ายกว่า
- อีกวิธีคือถอดเล็บปลอมแบบนี้ทีละมือ หรือทีละ 2 - 3 นิ้ว
- ทิ้งไว้ 20 นาที แล้วค่อยแกะออก. พอห่อนิ้วแล้ว จะทำอะไรไม่ได้สักพัก ก็พักผ่อนนอนหลับไปสัก 20 นาทีก็ได้ อาจจะดูหนัง ฟังเพลง หรือเอนหลังแล้วหลับไปเลย[7]
- ระหว่างห่อเล็บด้วยฟอยล์ แน่นอนว่าแตะหน้าจอมือถือไม่ได้ไปอีก 20 นาที เพราะงั้นก็เสียบชาร์จมือถือไว้ซะเลย!
- ใช้ที่ดันหนังขูดกาวหรือยาทาเล็บที่เหลือ. พอครบตามเวลาที่กำหนด ให้แกะฟอยล์ 1 นิ้ว ให้ถอดเล็บอะคริลิคโดยสอดปลายของที่ดันหนังเข้าไปเบาๆ ระหว่างเล็บปลอมกับเล็บจริง ถ้าเป็นเล็บเจล ให้ใช้ที่ดันหนังขูดยาทาเล็บ ถ้าเล็บอะคริลิคหรือเล็บเจลหลุดออกอย่างง่ายดาย ให้ค่อยๆ แกะฟอยล์ไปทีละนิ้ว แล้วใช้ที่ดันหนังขูดกาวและยาทาเล็บแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนครบทุกนิ้ว[8]
- ถ้าเล็บอะคริลิคหรือเล็บเจลไม่หลุดออกมาง่ายๆ ให้ห่อกลับเข้าไปเหมือนเดิม ทิ้งไว้อีก 5 นาที จากนั้นเช็คอีกรอบ
- แนะนำให้ถอดฟอยล์ แล้วรีบขูดกาวกับสีเจลทีละเล็บ อย่าถอดฟอยล์ทั้งหมดทิ้งไว้
- ขัดเศษกาวที่หลงเหลือ ด้วยโฟมขัดเล็บเล็กๆ. พอถอดเล็บอะคริลิคและเล็บเจลเรียบร้อยแล้ว ให้ใช้โฟมขัดเล็บมาขัดเอาเศษกาวหรือยาทาเล็บที่หลงเหลืออยู่ออกไป โดยออกแรงกดเล็กน้อยแล้วขัดไปมา[9]
- บางจุดอาจจะต้องขัดแรงหน่อย ถึงจะไม่เหลือเศษกาวและยาทาเล็บ
เคล็ดลับ: อะซิโตนทำให้เล็บและผิวโดยรอบแห้งง่าย แนะนำให้ทาครีมบำรุงมือและเล็บเยอะๆ ทันทีหลังถอดเล็บปลอมเสร็จ
โฆษณา
- ตัดเล็บอะคริลิคให้สั้นที่สุด. ถ้าเป็นเล็บอะคริลิค ให้ตัดจนสั้น เพื่อลดพื้นที่ที่ต้องใช้อะซิโตน ยิ่งพื้นที่น้อย อะซิโตนก็ยิ่งทำให้เล็บปลอมหลุดง่าย ให้คุณตัดเล็บอะคริลิคสั้นจนถึงเล็บจริงเลย[10]
- แต่อย่าเพิ่งตัดเล็บตัวเอง จนกว่าจะถอดเล็บอะคริลิคเรียบร้อยแล้ว
- ใช้ที่ตะไบเล็บแบบหยาบ ตะไบเล็บอะคริลิคหรือเล็บเจล. ใช้ตะไบธรรมดาหรือตะไบขัดเล็บ emery board ด้านหยาบก็ได้ แล้วขัดไปมาที่ด้านบนของแต่ละเล็บ ถ้าเป็นเล็บอะคริลิค ให้ตะไบจุดที่เล็บอะคริลิคบรรจบกับเล็บจริง (แถวๆ จมูกเล็บ) จนเห็นกาวใต้ชั้นอะคริลิคโผล่มา ส่วนเล็บเจล ให้ตะไบทั่วผิวหน้าของเล็บ จนดูด้าน ไม่เงาวาว[11]
- เล็บอะคริลิคจะเคลือบเป็นชั้นหนาอยู่บนเล็บจริง ทำให้อะซิโตนซึมลงไปยาก ต้องตัดเล็บและตะไบก่อน ส่วนเล็บเจลก็จะมีชั้น topcoat ใสป้องกันสีเล็บอีกที ให้ตะไลสีอะคริลิคหรือ topcoat เจลออกก่อนแช่เล็บในอะซิโตน จะถอดเล็บปลอมได้ง่ายและเร็วขึ้น
- เทอะซิโตนบริสุทธิ์ใส่ถ้วยเล็กๆ. ให้ใช้จานแก้วหรือถ้วยก้นตื้น ที่ใหญ่พอจะแช่เล็บลงไปพร้อมกันได้ทั้งหมด โดยภาชนะนี้ต้องจุได้ 2 ถ้วยตวง (480 มล.) ให้เติมอะซิโตนบริสุทธิ์ลงไปประมาณครึ่งภาชนะ[12]
- คุณหาซื้ออะซิโตนได้ตามร้านขายอุปกรณ์ทำเล็บ หรือร้านขายยาและเครื่องสำอาง
- จะใช้น้ำยาล้างเล็บแบบไม่มีอะซิโตนก็ได้ แต่กว่าจะถอดเล็บปลอมได้ จะใช้เวลานานกว่าอะซิโตนบริสุทธิ์
- เอาจานอะซิโตนใส่ชามน้ำร้อนใบใหญ่. ถ้าอุ่นอะซิโตนก่อน จะใช้ถอดเล็บปลอมได้ง่ายขึ้น ให้หาภาชนะที่ใหญ่กว่าถ้วย/จานอะซิโตนประมาณ 2 เท่า แล้วเทน้ำร้อนจัดใส่ไปประมาณ ¼ ของภาชนะ สุดท้ายใส่จานอะซิโตนลงไป[13]
- อย่าให้น้ำล้นเข้าจานอะซิโตนเด็ดขาด! ให้ค่อยๆ วางจานอะซิโตนลงในชามน้ำช้าๆ ถ้าน้ำทำท่าจะล้น ให้เทน้ำออก แล้วลองอีกที
เคล็ดลับ: อะซิโตนเป็นสารเคมีแรง ทำผิวแห้งง่าย แนะนำให้ผสมเบบี้ออยล์ลงไป 2 - 3 หยดในอะซิโตน จะช่วยแก้มือแห้งได้[14]
- แช่เล็บในอะซิโตน 10 นาที. แช่เล็บในอะซิโตนให้มิดถึงจมูกเล็บ รอประมาณ 10 นาที อะซิโตนจะช่วยให้กาวยึดเล็บอะคริลิคคลาย หรือทำให้สีเจลละลาย[15]
- ถ้าไม่อยากให้อะซิโตนโดนผิวเยอะเกินไป ให้พลิกนิ้ว ให้เฉพาะเล็บแช่ในอะซิโตน
- เอานิ้วออกจากอะซิโตนได้ แล้วดูว่าถอดเล็บปลอมได้หรือยัง. พอครบตามเวลา ก็เลิกเอานิ้วจุ่มอะซิโตนได้ แล้วขยับเล็บปลอมดู ลองใช้ปลายไม้ดันหนังสอดเข้าไปเขี่ยระหว่างเล็บจริงกับเล็บปลอมดู ว่าแงะง่ายหรือยัง ถ้าเป็นเล็บเจลให้ใช้ที่ดันหนังค่อยๆ ขูดสีเล็บที่เหลือออก จนครบทุกนิ้ว[16]
- ถ้าอะคริลิคแข็งจนไม่ขยับ หรือสีเจลแข็งขูดไม่ออก ให้จุ่มเล็บในอะซิโตนต่ออีก 2 - 3 นาที
- ขูดกาวหรือสีเจลที่เหลือด้วยที่ดันหนัง. พอแช่เล็บในอะซิโตนต่อจนครบ ก็ใช้ที่ดันหนังขูดอะคริลิคหรือสีเล็บที่ยังเหลือออกให้หมด อย่าให้เหลือติดเล็บ ไม่ว่าจะเป็นสีอะคริลิคหรือสีเจล[17]
- ถ้าเป็นเล็บอะคริลิค ต้องใช้ที่ดันหนังขูดกาวติดเล็บปลอมออกให้หมด
โฆษณา
- ระวังใช้วิธีนี้แล้วเล็บเสีย. วิธีถอดเล็บอะคริลิคแบบนี้ร้านทำเล็บไม่แนะนำ เพราะใช้ไหมขัดฟันถอดเล็บปลอมแล้วทำให้เสียหน้าเล็บจริงไปบางส่วนได้ นอกจากเจ็บแล้วยังเสี่ยงติดเชื้อ
- ใช้ไหมขัดฟันแบบมีด้ามจับ. ไม้ขัดฟันแบบนี้คนนิยมใช้ เพราะถอดเล็บปลอมได้สะดวก แต่จะดีไปกว่านั้น ถ้าเลือกยี่ห้อที่เน้นใช้กับซอกฟันแน่นๆ โดยเฉพาะ เช่น Glide[18]
- ถ้าไม่มีหรือขี้เกียจหาซื้อไม้ขัดฟัน จะใช้ไหมขัดฟันธรรมดาก็ได้ แบบนี้ต้องหาคนช่วยอีกแรง เพราะต้องจับไหมขัดฟัน 2 มือ
- ใช้ส่วนที่ไว้เขี่ยฟัน เขี่ยเล็บปลอมให้ขยับ. ปกติปลายด้ามจับของไม้ขัดฟันจะแหลมๆ ใช้เขี่ยฟันได้ ก็เอาสอดเข้าไปใต้เล็บอะคริลิคให้เผยอขึ้นมาได้ แต่ระวังอย่างัดแรงหรือมากไป แค่ดันให้เผยอ มีช่องว่างระหว่างเล็บปลอมกับเล็บจริง[19]
เคล็ดลับ: จะใช้ไม้ดันหนัง ดันเล็บอะคริลิคให้เผยอขึ้นแทนก็ได้[20]
- ทำซ้ำตามขั้นตอน เพื่อถอดเล็บอะคริลิคให้ครบทุกนิ้ว. ค่อยๆ ทำไปทีละเล็บ จนถอดเล็บปลอมครบทุกนิ้ว เสร็จแล้วให้ตัด ตะไบ และขัดเล็บให้สะอาด จากนั้นทำเล็บตามต้องการ![25]โฆษณา
คำเตือน
- อะซิโตนบริสุทธิ์ติดไฟง่ายมาก! ระวังอย่าถือใกล้ความร้อนหรือเปลวไฟ
- อะซิโตนบริสุทธิ์ทำให้เสื้อผ้าและพื้นผิวต่างๆ ด่างหรือสีตกได้ ให้ใช้ผ้าขนหนูปูรองโต๊ะหรืออะไรไว้ก่อน ส่วนตัวคุณเองก็ให้สวมเสื้อผ้าชุดเก่าที่เลอะได้ไม่เป็นไร
- ห้ามดึงหรือฉีกเล็บอะคริลิคหรือเล็บเจลโดยไม่แช่อะซิโตนให้กาวละลาย ขยับได้ง่ายซะก่อน! เพราะอาจมีส่วนของเล็บจริงติดมาด้วย บอกเลยว่าเจ็บมาก และอาจติดเชื้อ
สิ่งของที่ใช้
ใช้สำลีชุบอะซิโตนกับฟอยล์ห่ออาหาร
- ที่ตะไบเล็บแบบหยาบ
- อะซิโตนบริสุทธิ์
- ฟอยล์ห่ออาหารเงินๆ
- กรรไกร
- สำลีก้อน หรือผ้าก๊อซ
- ที่ดันหนัง
- โฟมขัดเล็บ
แช่เล็บในอะซิโตน
- ที่ตะไบเล็บแบบหยาบ
- ชามใบเล็กตื้นๆ ที่จุได้ 2 ถ้วยตวง (480 มล.)
- ชามใบใหญ่ที่จุดได้ 4 ถ้วยตวง (960 มล.)
- อะซิโตนบริสุทธิ์
- น้ำอุ่น
- เบบี้ออยล์ (ถ้ามี)
- ที่ดันหนัง
ถอดเล็บอะคริลิคด้วยไหมขัดฟัน
- ไหมขัดฟันหรือไม้ขัดฟัน และผู้ช่วย
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://www.inkyournail.com/how-to-successfully-remove-acrylic-nails/
- ↑ https://www.today.com/style/how-take-gel-nails-home-remove-gel-manicure-trick-t108143
- ↑ https://www.goodhousekeeping.com/beauty/nails/a47362/how-to-remove-acrylic-nails/
- ↑ https://www.goodhousekeeping.com/beauty/nails/a47362/how-to-remove-acrylic-nails/
- ↑ https://www.goodhousekeeping.com/beauty/nails/a47362/how-to-remove-acrylic-nails/
- ↑ https://www.goodhousekeeping.com/beauty/nails/a47362/how-to-remove-acrylic-nails/
- ↑ https://www.goodhousekeeping.com/beauty/nails/a47362/how-to-remove-acrylic-nails/
- ↑ https://www.goodhousekeeping.com/beauty/nails/a47362/how-to-remove-acrylic-nails/
- ↑ https://www.goodhousekeeping.com/beauty/nails/a47362/how-to-remove-acrylic-nails/
- ↑ https://www.inkyournail.com/how-to-successfully-remove-acrylic-nails/
- ↑ https://www.goodhousekeeping.com/beauty/nails/a47362/how-to-remove-acrylic-nails/
- ↑ https://www.byrdie.com/how-to-remove-fake-nails/slide2
- ↑ https://www.byrdie.com/how-to-remove-fake-nails/slide2
- ↑ https://www.byrdie.com/how-to-remove-fake-nails/slide2
- ↑ https://www.today.com/style/how-take-gel-nails-home-remove-gel-manicure-trick-t108143
- ↑ https://www.byrdie.com/how-to-remove-fake-nails/slide2
- ↑ https://www.today.com/style/how-take-gel-nails-home-remove-gel-manicure-trick-t108143
- ↑ https://www.youtube.com/watch?v=5zjGPJOMqOY&feature=youtu.be&t=20
- ↑ https://www.youtube.com/watch?v=5zjGPJOMqOY&feature=youtu.be&t=34
- ↑ https://www.inkyournail.com/how-to-successfully-remove-acrylic-nails/
- ↑ https://www.youtube.com/watch?v=5zjGPJOMqOY&feature=youtu.be&t=70
- ↑ https://www.inkyournail.com/how-to-successfully-remove-acrylic-nails/
- ↑ https://www.youtube.com/watch?v=5zjGPJOMqOY&feature=youtu.be&t=80
- ↑ https://www.inkyournail.com/how-to-successfully-remove-acrylic-nails/
- ↑ https://www.youtube.com/watch?v=5zjGPJOMqOY&feature=youtu.be&t=20
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.