วิธีการ ตรวจสอบว่าคุณเริ่มตั้งครรภ์แล้วหรือยัง

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

สังเกตความเปลี่ยนแปลงด้านอารมณ์และพลังงาน

สังเกตความเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย

เข้ารับการตรวจ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

ในช่วง 2 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ คุณอาจจะไม่ค่อยแน่ใจว่าตัวเองตั้งครรภ์หรือเปล่า เพราะสัญญาณของการตั้งครรภ์มักจะไม่เด่นชัด แต่ถ้าคุณสังเกตได้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติ คุณก็อาจจะกำลังตั้งครรภ์อยู่ก็ได้ การใช้ชุดตรวจการตั้งครรภ์อาจทำให้คุณหายสงสัยได้ แต่ถ้าจะให้แม่นยำมากที่สุดก็ต้องไปพบแพทย์

ขั้นตอน

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 3:

สังเกตความเปลี่ยนแปลงด้านอารมณ์และพลังงาน

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   สังเกตระดับพลังงานโดยรวม. อาการอ่อนเพลียเป็นสัญญาณการตั้งครรภ์อ่อนๆ ที่พบบ่อย คุณอาจจะรู้สึกเหนื่อยล้าตลอดทั้งวันแม้จะไม่ได้เปลี่ยนกิจวัตรประจำวันหรือเวลานอนก็ตาม อาการอ่อนเพลียแบบไม่มีสาเหตุอาจเป็นสัญญาณของการตั้งครรภ์ในระยะแรก
2. 
   2
   สังเกตการรับรสที่เปลี่ยนไป. คุณอาจจะไม่รู้สึกอยากอาหารในทันที แต่ในช่วงตั้งครรภ์ระยะแรก จู่ๆ คุณก็อาจจะไม่ชอบอาหารบางอย่างขึ้นมา คุณอาจจะไม่ชอบกลิ่นของอาหารหรือเครื่องดื่มที่คุณเคยชอบหรือปกติแล้วก็ไม่ได้เกลียด

   • เช่น ปกติแล้วคุณอาจจะคิดว่า “ฉันชอบกินสลัด ผัก และทุกอย่างที่คล้ายกัน” แต่จู่ๆ พอเห็นสลัดหรือผักกาดหอมคุณก็เกิดรู้สึกขยะแขยงขึ้นมา
3. 
   3
   ลองคิดดูว่าคุณขี้หงุดหงิดหรือเปล่า. ฮอร์โมนในช่วงตั้งครรภ์อาจทำให้อารมณ์แปรปรวนได้ตั้งแต่ในช่วงแรกๆ คุณอาจจะสังเกตว่าตัวเองโกรธหรือหงุดหงิดง่ายขึ้นหรือกลายเป็นคนเจ้าน้ำตา แค่ดูโฆษณาหรือละครเศร้าๆ คุณก็อาจจะร้องไห้ออกมาแล้ว

   • ลักษณะของอารมณ์แปรปรวนที่เกิดขึ้นอาจจะคล้ายกับช่วงก่อนเป็นประจำเดือน
   โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 3:

สังเกตความเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   จดบันทึกรอบเดือน. โดยทั่วไปสัญญาณแรกของการตั้งครรภ์ก็คือประจำเดือนขาด คุณควรจดบันทึกรอบเดือนเพื่อให้รู้คร่าวๆ ว่าประจำเดือนจะมาเมื่อไหร่ ถ้าประจำเดือนยังไม่มาในช่วงเวลานี้ ก็อาจเป็นสัญญาณเริ่มแรกของการตั้งครรภ์
2. 
   2
   สังเกตอาการคลื่นไส้ที่ผิดปกติ. ผู้หญิงประมาณ 1 ใน 4 มีอาการคลื่นไส้เป็นสัญญาณแรกของการตั้งครรภ์ คุณอาจจะรู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งของวัน กลิ่นแปลกๆ ก็อาจจะกระตุ้นความรู้สึกคลื่นไส้และอาเจียนได้ง่าย
3. 
   3
   สังเกตว่ามีเลือดไหลหรือไหลกระปริบกระปรอยแบบผิดปกติหรือไม่. เลือดล้างหน้าเด็กบางครั้งก็เกิดขึ้นทันทีหลังจากการตั้งครรภ์ ซึ่งอาจเกิดจากการที่อสุจิฝังตัวเข้าไปในไข่ ผู้หญิงบางคนอาจเข้าใจผิดว่าเป็นเลือดประจำเดือนที่มาน้อย แต่จริงๆ แล้วอาจเป็นสัญญาณของการตั้งครรภ์ได้เช่นกันหากคุณมีอาการอื่นร่วมด้วย

   • เลือดที่เกิดจากการฝังตัวของตัวอ่อนหรือเลือดที่ออกกระปริบกระปรอยจะน้อยกว่าเลือดประจำเดือนตามปกติมาก และคุณอาจจะเห็นเฉพาะตอนที่เช็ดทำความสะอาดเท่านั้น
   • นอกจากนี้สีก็อาจจะต่างจากประจำเดือนปกติด้วย โดยอาจจะออกเป็นสีชมพูหรือสีน้ำตาลมากกว่าปกติ
4. 
   4
   ประเมินว่าคุณมีอาการเจ็บและปวดที่ผิดปกติหรือไม่. การตั้งครรภ์อาจทำให้ร่างกายรู้สึกไม่สบายตัว ซึ่งมักจะมาในรูปแบบของการปวดเกร็งในมดลูกเล็กน้อยและอาการกดเจ็บและคัดหน้าอก

   • เช่นเดียวกับอาการตั้งครรภ์อื่นๆ อาการเหล่านี้มักจะคล้ายกับอาการปวดที่คุณรู้สึกก่อนประจำเดือนจะมา
5. 
   5
   สังเกตความเปลี่ยนแปลงเรื่องการปัสสาวะ. ในระหว่างการตั้งครรภ์ ไตจะผลิตของเหลวออกมาเพิ่มเนื่องจากว่าระดับเลือดในร่างกายของคุณเพิ่มขึ้น ผู้หญิงหลายคนสังเกตว่าตัวเองปัสสาวะมากขึ้นในช่วงตั้งครรภ์ เพราะฉะนั้นถ้าคุณรู้สึกว่าตัวเองเข้าห้องน้ำบ่อยกว่าปกติ ก็อาจเป็นสัญญาณแรกเริ่มที่บอกว่าคุณตั้งครรภ์

   • ทันทีที่คุณตั้งครรภ์ เป็นเรื่องปกติที่ร่างกายจะผลิตปัสสาวะเพิ่มขึ้นอีกไม่เกิน 25% และปัสสาวะจะเพิ่มสูงสุดในช่วงการครรภ์สัปดาห์ 10-15 หลังจากนั้นคุณจะรู้สึกปวดปัสสาวะบ่อยๆ เพราะน้ำหนักมดลูกที่เพิ่มขึ้นและทารกที่กำลังเจริญเติบโตจะไปกดทับกระเพาะปัสสาวะ
6. 
   6
   สังเกตอาการกดเจ็บที่หน้าอก. เนื้อเยื่อบริเวณหน้าอกไวต่อฮอร์โมนมาก เพราะฉะนั้นหน้าอกของคุณจะแสดงสัญญาณของการตั้งครรภ์ได้ตั้งแต่เนิ่นๆ คุณอาจจะเริ่มรู้สึกว่าหน้าอกบวมและกดเจ็บหลังจากการปฏิสนธิไปได้เพียง 2 สัปดาห์ และเป็นเรื่องปกติที่คุณจะรู้สึกเจ็บจี๊ดๆ และคัดหน้าอก

   • นอกจากนี้คุณก็อาจจะรู้สึกว่าหน้าอกเริ่มเอิบอิ่มและหนักขึ้น
   โฆษณา

วิธีการ 3

วิธีการ 3 ของ 3:

เข้ารับการตรวจ

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ซื้อชุดตรวจการตั้งครรภ์. ถ้าคุณสงสัยว่าตัวเองอาจตั้งครรภ์ ให้ไปซื้อชุดตรวจการตั้งครรภ์ที่ร้านขายยา ปฏิบัติตามวิธีใช้บนบรรจุภัณฑ์และนำชุดตรวจการตั้งครรภ์กลับไปตรวจที่บ้าน ซึ่งตามปกติแล้วจะให้คุณฉี่ใส่ที่ตรวจครรภ์หรือไม่ก็ฉี่ใส่ถ้วยแล้วจุ่มที่ตรวจครรภ์ลงไป

   • ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการตรวจการตั้งครรภ์ก็คือช่วงเช้าตอนที่ระดับฮอร์โมน HCG สูงที่สุด
   • ชุดตรวจการตั้งครรภ์ส่วนใหญ่จะใช้ได้หลังจากที่ประจำเดือนขาดไป 2-3 วัน แต่ก็มีชุดตรวจบางยี่ห้อในท้องตลาดที่สามารถตรวจการตั้งครรภ์ได้ตั้งแต่เนิ่นๆ เช่น E.T.P ที่คุณสามารถซื้อมาตรวจได้ ปฏิบัติตามวิธีใช้บนบรรจุภัณฑ์เพื่อให้สามารถตรวจการตั้งครรภ์ได้อย่างถูกต้อง
   • การตรวจหลังประจำเดือนขาดจะแม่นยำกว่า แต่ถ้าคุณสงสัยว่าตัวเองจะตั้งครรภ์ก่อนที่ประจำเดือนจะขาด ให้ไปพบแพทย์แทนการตรวจเองที่บ้าน
2. 
   2
   นัดแพทย์. ถ้าคุณสงสัยว่าตัวเองตั้งครรภ์หรือใช้ชุดตรวจครรภ์แล้วผลเป็นบวก ให้นัดพบแพทย์

   • เมื่อนัดพบแพทย์ครั้งแรก แพทย์จะตรวจเพื่อยืนยันการตั้งครรภ์อีกครั้ง แพทย์อาจจะตรวจปัสสาวะในห้องตรวจหรืออาจจะสั่งเจาะเลือดก็ได้
   • นอกจากนี้แพทย์ก็จะถามเกี่ยวกับประวัติสุขภาพ การตั้งครรภ์ก่อนหน้า การใช้ชีวิตทั่วไป และยาที่คุณกำลังรับประทานอยู่
   • แพทย์จะตรวจร่างกายพื้นฐานเพื่อให้แน่ใจว่าคุณแข็งแรงดี
3. 
   3
   ขอความช่วยเหลือ. ถ้าคุณตั้งครรภ์ มันก็อาจจะเป็นประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ต่างๆ มากมาย การรอผลตรวจก็อาจสร้างความเครียดได้มหาศาล เพราะฉะนั้นให้พูดคุยกับเพื่อนๆ คนในครอบครัว และพ่อเด็กเกี่ยวกับอารมณ์ของคุณ หรือถ้าคุณพบนักจิตบำบัดอยู่แล้วก็พูดคุยกับนักจิตบำบัดก็ได้
   โฆษณา

เคล็ดลับ

• อาการของการตั้งครรภ์ระยะแรกคล้ายกับช่วงก่อนมีประจำเดือน ซึ่งคุณน่าจะเริ่มรู้จังหวะของร่างกายตัวเองหลังจากจดบันทึกและติดตามรอบเดือนไปได้สัก 2-3 เดือน
• ไม่ต้องกังวลหากคุณไม่มีอาการตั้งครรภ์ตามปกติทั้งหมด! ผู้หญิงแต่ละคนไม่เหมือนกัน และการที่คุณไม่ได้คลื่นไส้หรือไม่เจ็บหน้าอกก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่ได้ตั้งครรภ์หรือเป็นการตั้งครรภ์ที่ผิดปกติ

โฆษณา

คำเตือน

• มีผู้หญิงจำนวนน้อยมากที่ยังมีประจำเดือนตลอดการตั้งครรภ์ เพราะฉะนั้นการมีประจำเดือนไม่ได้ หมายความว่าคุณจะไม่ตั้งครรภ์เสมอไป หากสงสัยว่าตัวเองตั้งครรภ์ ให้เข้ารับการตรวจ

โฆษณา