ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

การเลือกช่างสักที่มีชื่อเสียงเป็นเพียงขั้นตอนแรกในการไปสักรอยสักที่คุณแสนจะภาคภูมิใจ และการดูแลรอยสักหลังจากที่ไปสักมาเรียบร้อยแล้วก็มีความสำคัญพอกันไม่มากก็น้อย แม้แต่รอยสักที่สวยที่สุดยังพังได้ง่ายๆ ถ้าไม่ยอมดูแลมันดีๆ โดยวิธีดูแลนั้นเปลี่ยนไปตามวิธีของช่างสักคนแล้วคนเล่า แต่นี่คือการดูแลโดยรวมที่จำเป็น เพื่อให้รอยสักของคุณคงความสะอาดและปรากฏเด่นชัดอยู่เสมอ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

การทำความสะอาดและดูแลในวันแรก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 เชื่อฟังช่างสักของคุณ.
    หากคุณทำการบ้านมาดีและเลือกช่างสักที่ดีแล้ว เขาหรือเธอจะให้คำแนะนำในการดูแลรอยสักใหม่ของคุณโดยละเอียด ซึ่งคุณต้องทำตามอย่างระมัดระวัง ช่างสักทุกคนมักจะมีความเห็นที่ต่างกันไปเล็กน้อยในเรื่องวิธีที่ดีที่สุดในการดูแลรอยสักใหม่ จึงควรทำตามให้ถูกต้อง[1]
    • ลองคิดจดคำแนะนำลงบนกระดาษหรือพิมพ์ใส่โทรศัพท์ คุณจะได้ไม่ลืม
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ทิ้งผ้าพันแผลเอาไว้ก่อนประมาณ 2-6 ชั่วโมง.
    เมื่อสักมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ช่างสักของคุณจะทำความสะอาดบริเวณรอยสัก แล้วทาขี้ผึ้งป้องกันเชื้อโรค จากนั้นก็จะใช้ผ้าพันแผลหรือผ้าปิดแผลปิดทับรอยสักไว้เมื่อคุณกลับมาจากร้านสักแล้ว อย่าไปแกะผ้าพันแผลออกล่ะ ผ้าพันแผลนี้มีไว้เพื่อป้องกันเชื้อแบคทีเรียที่ลอยอยู่ตามอากาศ ซึ่งสามารถแทรกผ่านและทำให้ผิวหนังของคุณเสียหายได้โดยควรปิดผ้าพันแผลเอาไว้อย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อนที่คุณจะแกะมันออก[2]
    • เนื่องจากช่างสักแต่ละคนก็มีวิธีพันแผลรอยสักแตกต่างกันไป ถามช่างสักด้วยว่าเขาแนะนำให้แกะผ้าพันออกแบบไหน
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ล้างมือก่อนถอดผ้าปิดแผลออก.
    การล้างมือก่อนจะช่วยป้องกันรอยสักจากการติดเชื้อเวลาสัมผัส ในการแกะผ้าปิดแผลออก เริ่มด้วยพรมน้ำอุ่นให้ชุ่มเพื่อไม่ให้กาวติดกับผิวหนังของคุณ พอมันเปียกแล้วก็จะหลุดออกมาได้อย่างง่ายดาย จากนั้นก็ถอดผ้าปิดแผลออกซะ[3]
    • ทิ้งผ้าปิดแผลที่ใช้แล้วซะ
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ทำความสะอาดรอยสักอย่างอ่อนโยนด้วยน้ำอุ่น.
    แทนที่จะแช่รอยสักในน้ำ ให้ใช้มือวักน้ำอุ่นราดแทน แล้วใช้สบู่ไร้กลิ่น หรือสบู่สูตรฆ่าเชื้อโรคถูรอยสักเบาๆ เพื่อกำจัดคราบเลือด หรือหมึกสักที่ซึมออกมา ซึ่งการทำเช่นนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้รอยสักเกิดเป็นสะเก็ดแผล[4]
    • อย่าใช้ผ้าจุ่มน้ำ ใยบวบ หรือฟองน้ำใดๆ ในการทำความสะอาดรอยสักเด็ดขาด เพราะมันอาจเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียได้
    • หลีกเลี่ยงการเอารอยสักรองน้ำโดยตรง แรงดันกระแสน้ำจากก๊อกน้ำอาจแรงกินสำหรับรอยสักใหม่
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ผึ่งให้แห้งซับรอยสักให้แห้งด้วยกระดาษชำระนุ่มๆ เบาๆ....
    ผึ่งให้แห้งซับรอยสักให้แห้งด้วยกระดาษชำระนุ่มๆ เบาๆ. เมื่อคุณทำความสะอาดรอยสักเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ควรซับมันด้วยกระดาษชำระม้วนใหญ่ อย่าถูรอยสัก เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ [5]
    • ผ้าขนหนูปกติสามารถทำให้รอยสักเกิดระคายเคืองหรือมีเศษขนเข้าไปติดได้ จึงควรใช้กระดาษชำระ
  6. How.com.vn ไท: Step 6 ทาขี้ผึ้งฆ่าเชื้อแบบไร้กลิ่น.
    เมื่อรอยสักแห้งหมดแล้ว แล้วผิวหนังเริ่มตึงๆ ก็สามารถทาขี้ผึ้งปริมาณเล็กน้อยลงบนรอยสัก โดยทาลงไปให้บางมากๆ แค่พอที่รอยสักจะขึ้นเงา จากนั้นก็ถูไปมาอย่างเบามือจนกว่ามันจะซึมเข้าไปในผิวหนัง ถ้าไม่แน่ใจว่าจะใช้ขี้ผึ้งแบบไหนให้ถามช่างสัก[6]
    • แนะนำยี่ห้อ Aquaphor สำหรับเพิ่มความชุ่มชื้น
    • ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำมันปิโตรเลียมเป็นตัวทำละลาย เช่นยี่ห้อวาสลีน เพราะมันหนาเกินไปและอาจไปอุดตันรูขุมขน
    • พอรอยสักสะอาดและได้เติมความชุ่มชื้นแล้ว ก็ไม่ต้องปิดแผลซ้ำ
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

ช่วยรักษารอยสักให้หาย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ทำความสะอาดและเติมความชุ่มชื้นให้รอยสักเรื่อยๆ ทุกวันจนกว่าสะเก็ดแผลจะหายไปจนหมด....
    ทำความสะอาดและเติมความชุ่มชื้นให้รอยสักเรื่อยๆ ทุกวันจนกว่าสะเก็ดแผลจะหายไปจนหมด. คุณควรล้างทำความสะอาดรอยสัก 2-3 ครั้งต่อวันด้วยสบู่ฆ่าเชื้อและน้ำอุ่น จนกว่าผิวตรงนั้นจะได้รับการฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์ ซึ่งอาจใช้เวลาประมาณ 2 ถึง 6 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับขนาดและบริเวณที่สัก [7]
    • ถึงแม้การเติมความชุ่มชื้นจะสำคัญ ก็อย่าทาโลชั่นหรือขี้ผึ้งมากเกินไป แค่ชั้นบางๆ ก็พอแล้ว
    • ยังคงใช้สบู่สูตรบางเบาไร้กลิ่นต่อไปในการล้างทำความสะอาด
  2. How.com.vn ไท: Step 2 อย่าไปแกะเการอยสักเชียวนะ.
    ตอนที่มันกำลังรักษาตัวอยู่ รอยสักจะขึ้นสะเก็ด ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ และสะเก็ดเหล่านั้นจะแห้งหลุดร่วงออกไปเอง อย่าไปช่วยย่นเวลาด้วยการแกะสะเก็ดเด็ดขาด มันอาจทำให้สะเก็ดหลุดเร็วเกินไป ทำให้มีรูหรือรอยด่างสีขาวบนผิวหนังของคุณได้[8]
    • ผิวหนังที่แห้ง ตกสะเก็ด และหลุดลอกออกมานั้นจะทำให้คุณคันมาก แต่การไปเกามันอาจทำให้สะเก็ดร่วงออกไปได้
    • ให้ใช้ขี้ผึ้งเพิ่มความชุ่มชื้นไปเรื่อยๆ เพื่อจัดการกับความคัน
  3. How.com.vn ไท: Step 3 อย่าเผยรอยสักใหม่ภายใต้แสงอาทิตย์โดยตรง.
    แสงแดดถือเป็นศัตรูตัวร้ายของรอยสักที่เพิ่งสักมาใหม่ๆ เลยล่ะ รังสีที่รุนแรงจากดวงอาทิตย์อาจทำให้ผิวของคุณเป็นตุ่มพอง และสามารถไปฟอกสีบางสีออกจากรอยสักของคุณได้ด้วย ด้วยเหตุผลนี้ จึงเป็นการดีที่สุดที่จะปกปิดรอยสักเอาไว้ไม่ให้โดนแสงอาทิตย์อย่างน้อย 3 ถึง 4 สัปดาห์ จนกว่าการฟื้นฟูเบื้องต้นจะสมบูรณ์[9]
    • หลังจากนั้นแล้ว คุณก็ยังคงต้องทาครีมกันแดดเพื่อป้องกันไม่ให้แดดเลียจนรอยสักจางไปหมด
  4. How.com.vn ไท: Step 4 หลีกเลี่ยงการจุ่มรอยสักลงในน้ำ.
    จนกว่ารอยสักจะฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ ควรหลีกเลี่ยงการว่ายน้ำในสระ ในทะเล หรือแม้กระทั่งแช่น้ำในอ่างก็ตาม การเปิดให้รอยสักได้สัมผัสกับน้ำปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้หมึกสักละลายออกมาจากผิวหนังของคุณ และน้ำในสระว่ายน้ำ ทะเล และอ่างอาบน้ำ อาจมีฝุ่นผงสกปรก แบคทีเรีย สารเคมี หรือสิ่งเจือปนอื่นๆ ที่อาจเป็นสาเหตุให้รอยสักติดเชื้อได้[10]
    • จะปลอดภัยที่สุดถ้าหากทำแบบข้างต้นไปเรื่อยๆ จนกว่ารอยสักจะรักษาตัวสมบูรณ์ แต่ตอนนี้คุณต้องหมั่นทำความสะอาดรอยสักในอ่างล้างหน้าหรือฝักบัวไปก่อนนะ
  5. How.com.vn ไท: Step 5 เลี่ยงการใส่เสื้อผ้าที่แน่นเกินไป.
    ให้หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นเกินไปในบริเวณที่สักมาใหม่ๆ โดยเฉพาะการสักครั้งแรก ขณะที่รอยสักกำลังรักษาตัวอยู่นั้น เลือดและน้ำหมึกส่วนเกินจะซึมออกมา แล้วจะไปทำให้เสื้อผ้าติดกับรอยสักเอาได้ พอถอดเสื้อผ้าออกก็จะทำให้เจ็บแผล และอาจไปดึงสะเก็ดที่เพิ่งก่อตัวใหม่ๆ ออกมาอีกเช่นกัน[11]
    • ถ้าเสื้อผ้าติดกับรอยสักไปแล้ว ห้ามดึงเด็ดขาดนะ! ก่อนอื่นให้ทำให้บริเวณนั้นเปียก ซึ่งจะทำให้เสื้อผ้าหลุดออกมาได้โดยไม่ทำลายรอยสักของคุณ
    • นอกจากนั้น เสื้อผ้าที่รัดแน่นอาจไปขัดขวางไม่ให้มีการระบายของออกซิเจนต่อรอยสักอีก เพราะออกซิเจนถือเป็นสิ่งสำคัญในขั้นตอนการฟื้นฟูของมัน
  6. How.com.vn ไท: Step 6 หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย.
    รอยสักที่กินพื้นผิวเป็นบริเวณกว้าง หรืออยู่ใกล้ๆ กับข้อต่อ (อย่างข้อศอกหรือหัวเข่า) อาจใช้เวลาฟื้นฟูนานกว่า ถ้าผิวหนังต้องเคลื่อนไหวไปมามากๆ ในขณะที่ออกกำลังกาย หรือทำอะไรก็ตามที่ต้องใช้ร่างกายอย่างหนัก การเคลื่อนไหวนี้อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวแตกและเกิดการระคายเคือง[12]
    • ถ้าคุณทำงานที่ต้องใช้ร่างกาย อย่างงานก่อสร้างหรือเกี่ยวกับการเต้น คุณอาจควรตัดสินใจไปสักในวันศุกร์ จะได้มีเวลาในวันหยุดสุดสัปดาห์ทั้งวันในการฟื้นฟูรอยสักก่อนจะกลับไปทำงาน
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ใช้ผ้าปูที่นอนผืนเก่าที่สะอาดในสองสามคืนแรก เพราะรอยสักอาจมีหนองไหลออกมา
  • กลับไปที่ร้านสักถ้าหากรอยสักนั้นต้องการการเก็บงานให้เรียบร้อย
  • ให้แน่ใจว่าเสื้อผ้าและผ้าเช็ดตัวสะอาดในขณะที่รอยสักกำลังฟื้นตัว
  • ตรวจส่วนผสมของสบู่และโลชั่นที่ใช้ว่าไม่มีการแต่งกลิ่นหรือผสมแอลกอฮอล์
  • คุณอาจต้องการใครสักคนช่วยดูแลรอยสักในจุดที่ยากจะแตะถึง
โฆษณา

คำเตือน

  • หลีกเลี่ยงการโดนน้ำร้อน
  • อย่าพันผ้าพันแปลหรือห่อแรปพลาสติกไว้เกินกว่าหกชั่วโมง
  • อย่าโกนขนตรงรอยสักจนกว่ามันจะหายอย่างเด็ดขาด ให้แน่ใจว่าได้ทาครีมโกนหนวดก่อนเพื่อกันระคายเคือง
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: ทีมงานวิกิฮาว
ร่วมเขียน โดย:
นักเขียนในทีมวิกิฮาว
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา

ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 141,563 ครั้ง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 141,563 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา