วิธีการ กำจัดปลายใบไหม้ของต้นไม้ในบ้าน

ต้นไม้ในบ้านได้รับการขยายพันธุ์ให้สามารถเจริญเติบโตในสภาพแวดล้อมได้หลากหลาย และต่างจากต้นไม้กลางแจ้งตรงที่มันไม่จำเป็นต้องต่อสู้กับเหล่าแมลงหรือสภาพอากาศที่เลวร้าย อย่างไรก็ตามต้นไม้ในบ้านที่แข็งแรงดีก็อาจจะมีจุดสีน้ำตาลที่ไม่น่าดู โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงปลายใบที่เป็นสีน้ำตาล การใช้กรรไกรเล็มปลายสีน้ำตาลออกก็สามารถทำให้ต้นไม้ดูสวยขึ้นได้ แต่คุณก็ควรหาและจัดการกับสาเหตุที่ทำให้ปลายใบไหม้ด้วยเช่นกัน

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 3:

กำจัดปลายใบไหม้ออกโดยที่ยังรักษารูปทรงของใบไม้

ดาวน์โหลดบทความ

1
ใช้กรรไกรคมๆ หรือกรรไกรทำครัวเล็มใบ. เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด คุณควรใช้กรรไกรเล่มที่คมที่สุด เพราะใบมีดที่คมมากจะลดความเสียหายของเซลล์พืช ซึ่งจะไปลดพลังงานที่ต้นไม้ต้องใช้ในการรักษาแผลด้วย^{[1]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- กรรไกรคมๆ ที่แข็งแรงทนทานสักเล่มก็ใช้ได้ แต่รูปทรงและความแข็งแรงของกรรไกรทำครัวจะเหมาะกับงานนี้มากกว่า
- เพื่อลดความเสี่ยงที่จะแพร่โรคต้นไม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณเล็มต้นไม้มากกว่า 1 ต้น ให้ใช้รับบิ้งแอลกอฮอล์เช็ดกรรไกรก่อนและหลังใช้
2
ตัดใบไม้ทั้งใบต่อเมื่อมันไหม้เกือบทั้งใบเท่านั้น. บริเวณที่เป็นจุดเล็กๆ ตามขอบหรือปลายใบไหม้ยังผลิตพลังงานให้ต้นไม้ผ่านการสังเคราะห์แสงได้อยู่ แต่ถ้าใบเป็นสีน้ำตาลและแห้งเกือบทั้งหมด แสดงว่ามันไม่ได้สร้างพลังงานแล้วและสามารถตัดทิ้งทั้งใบได้เลย^{[2]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้าพื้นผิวมากกว่าครึ่งของใบไม้เป็นสีน้ำตาล และโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามันเป็นสีน้ำตาลอย่างน้อย 2 ใน 3 คุณก็สามารถตัดออกทั้งใบได้
- วิธีตัดใบไม้ทั้งใบที่ถูกต้องก็คือ ใช้กรรไกรคมๆ ตัดตรงฐานลำต้น หรือไม่คุณก็เด็ดใบไม้ออกมาโดยให้ฐานลำต้นอยู่ระหว่างเล็บนิ้วโป้งกับนิ้วชี้แล้วบิด
3
ตัดแต่งปลายใบไม้ให้ได้รูปทรงเดิม. สังเกตรูปทรงของปลายใบไม้ที่แข็งแรงดี และตัดแต่งปลายเพื่อเลียนแบบรูปทรงให้ใกล้เคียงที่สุด เช่น ถ้าคุณกำลังตัดแต่งใบไม้ตรงยาวที่มีปลายแหลม ให้ตัดปลายเป็นสองมุมเพื่อทำเป็นรูปสามเหลี่ยมตรงปลายใบไม้^{[3]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- การตัดแต่งใบไม้เป็นแค่เรื่องของความสวยงามเท่านั้น การตัดปลายใบไม้ตรงๆ เพื่อตัดส่วนที่ตายแล้วออกไปไม่ได้ทำให้ต้นไม้เสียหายมากกว่า
- ถ้าคุณฝึกตัดแต่งใบไม้สักหน่อย รับรองว่าคนอื่นต้องแยกใบที่คุณตัดแต่งกับใบที่แข็งแรงดีไม่ออกแน่ๆ!
4
ปล่อยปลายใบที่เป็นสีน้ำตาลเพียงเล็กน้อยไว้อย่างนั้นได้ตามต้องการ. นักจัดต้นไม้ในบ้านยืนกรานว่า คุณควรปล่อยรอยสีน้ำตาลเล็กๆ ตรงปลายใบไม้ไว้จะดีที่สุด เพราะการปล่อยเอาไว้ก็คือการที่คุณไม่ได้เปิดแผลสดของใบไม้ตรงบริเวณที่แข็งแรงดี ซึ่งอาจจะทำให้ต้นไม้เกิดความเครียดและทำให้ส่วนที่เป็นสีน้ำตาลลุกลามได้^{[4]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้าคุณเล็มใบไม้แค่ใบสองใบ การปล่อยปลายสีน้ำตาลไว้ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลอะไร แต่ถ้าคุณเล็มใบไม้หลายใบในคราวเดียว คุณอาจจะต้องจำกัดแผลที่คุณจะสร้างขึ้นในส่วนของใบไม้ที่แข็งแรงดี
5
นำปลายใบไม้ที่เป็นสีน้ำตาลไปหมักปุ๋ยยกเว้นว่าคุณจะสงสัยว่ามันเป็นโรค. ถ้าคุณมีกองปุ๋ยหมัก คุณก็สามารถนำปลายใบไม้ไปหมักเป็นปุ๋ยได้ แต่ถ้าคุณสงสัยว่าต้นไม้ใบบ้านจะเป็นโรค ให้นำปลายใบไปทิ้งถังขยะเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้มันไปปนเปื้อนกองปุ๋ยหมัก
- แต่ปลายใบไหม้เพียงอย่างเดียวมักไม่ได้เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงโรค โดยทั่วไปต้นไม้ที่เป็นโรคจะมีใบที่เป็นจุดสีน้ำตาล เป็นรู หรือเป็นสีน้ำตาลทั้งใบอยู่มากมาย^{[5]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 3:

สังเกตว่ารดน้ำมากไปหรือน้อยไป

ดาวน์โหลดบทความ

1
ดึงต้นไม้ออกจากกระถางเพื่อดูดินและราก. ปลายใบไหม้มักเกิดจากปัญหาเรื่องน้ำ ซึ่งเกิดได้ทั้งจากการรดน้ำมากเกินไปหรือน้อยเกินไป จับกระถางไว้เหนืออ่างล้างจาน จับลำต้นและเขย่าเล็กน้อย จากนั้นก็ดึงต้นไม้และก้อนรากออกมาจากกระถาง วิธีนี้จะช่วยให้หาสาเหตุได้ง่ายขึ้นว่ามาจากการรดน้ำน้อยเกินไปหรือมากเกินไป^{[6]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้าดินกระจัดกระจายแทนที่จะเกาะกันเป็นก้อน แสดงว่าคุณรดน้ำน้อยเกินไป
- ถ้ามีน้ำหยดออกมาจากดินหรือถ้าปลายรากดูเหมือนจะเป็นเชื้อรา แสดงว่าคุณรดน้ำมากเกินไป
2
ย้ายต้นไม้ที่ได้รับน้ำมากเกินไปไว้ในกระถางใหม่และปรับตารางการรดน้ำ. ถ้าดึงต้นไม้ออกจากกระถางแล้วคุณเห็นว่ามีน้ำขังอยู่ในดินและราก ให้นำออกมาตากไว้นอกกระถางหลายๆ ชั่วโมง เมื่อแห้งลงเล็กน้อยแล้วค่อยใส่กลับเข้าไปในกระถางอีกครั้ง แต่ถ้าจะให้ดีคุณควรขูดดินที่มีน้ำขังอยู่ออกจากก้อนรากออกไปบ้าง แล้วย้ายต้นไม้ไปไว้กระถางใหม่โดยเติมดินใหม่เข้าไปบางส่วน^{[7]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้าปลายรากดูเหมือนจะเน่าหรือตายแล้ว ให้ใช้กรรไกรเล็มออก
- แทนที่จะรดน้ำแต่ละครั้งให้น้อยลงแต่บ่อยเท่าเดิม ให้รดน้ำเท่าเดิมแต่ลดความถี่ เช่น ถ้าตอนนี้คุณรดดินจนชุ่มทุก 2 วัน ก็อย่ารดแค่พอให้ดินชื้นแต่รดทุก 2 วันเหมือนเดิม แต่ให้เปลี่ยนไปรดน้ำจนชุ่มทุก 4 วันแทน
3
รดน้ำต้นไม้ที่ได้รับน้ำน้อยให้ชุ่ม. หลังจากที่คุณรู้แล้วว่าปัญหาเกิดจากการรดน้ำน้อยเกินไป ให้นำต้นไม้ใส่กลับเข้าไปในกระถางเหมือนเดิมและรดน้ำให้ชุ่ม ทุกครั้งที่รดน้ำคุณต้องให้มีน้ำไหลออกมาจากรูระบายใต้กระถาง ถ้าไม่มีน้ำไหลออกมา แสดงว่าคุณยังรดน้ำไม่มากพอ^{[8]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- วางจานรองไว้ใต้กระถางเพื่อรองรับน้ำที่ไหลออกมา หรือไม่ก็รดน้ำต้นไม้เหนืออ่างล้างจาน
- รดน้ำต้นไม้ตามตารางเวลาเดิม (เช่น วันเว้นวัน) แต่รดให้เยอะขึ้นในแต่ละครั้ง จากนั้นอีก 1 สัปดาห์ให้ดึงต้นไม้ออกจากกระถางอีกครั้ง (ในวันที่ไม่ได้รดน้ำต้นไม้) และดูว่าดินแห้งหรือเปล่า ถ้ายังแห้งอยู่ ให้เริ่มรดน้ำต้นไม้ถี่ขึ้น (เช่น ทุกวัน) และรดน้ำจนชุ่ม
4
เพิ่มความชื้นโดยรอบโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นพืชเขตร้อน. นอกจากจะรดน้ำให้บ่อยขึ้นแล้ว พืชเขตร้อนยังต้องการความชื้นจากอากาศโดยรอบด้วย วางกระถางไว้ในชามตื้นที่ใส่หินและน้ำไว้ข้างในเพื่อเพิ่มความชื้นรอบต้นไม้ ถ้าบ้านของคุณอากาศแห้งมาก คุณก็อาจจะเปิดเครื่องทำความชื้นไว้ใกล้ๆ ก็ได้^{[9]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- นอกจากนี้การฉีดน้ำจากขวดสเปรย์ใส่ใบไม้วันละ 1 ครั้งก็อาจจะช่วยได้เช่นกัน
- วางต้นไม้ให้ห่างจากรูระบายความร้อนหรือความเย็นที่เป่าลมแห้งออกมา
โฆษณา

วิธีการ 3

วิธีการ 3 ของ 3:

หาสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้ใบไหม้

ดาวน์โหลดบทความ

1
อย่าสับสนระหว่างปลายใบไหม้กับการผลัดใบ. พืชหลายชนิด เช่น สายพันธุ์ปาล์มส่วนใหญ่จะผลัดใบที่อยู่ด้านล่างเป็นประจำเพราะเป็นส่วนหนึ่งของการเจริญเติบโตตามธรรมชาติ ไม่มีวิธีที่จะห้ามไม่ให้ใบไม้ที่กำลังจะผลัดไม่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลได้ และคุณก็สามารถเล็มออกได้เมื่อมันกลายเป็นสีน้ำตาลทั้งใบและแห้งแล้ว^{[10]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ส่วนใบที่ปลายไหม้จะเป็นสีเขียวและแข็งแรงดีทั้งใบยกเว้นตรงปลายที่เป็นสีน้ำตาล
2
รดน้ำกลั่นเพื่อรักษาอาการไหม้เกลือ แร่ธาตุ หรือปุ๋ย. ถ้าคุณไม่ได้รดน้ำต้นไม้มากหรือน้อยเกินไปแต่ปลายใบก็ยังไหม้อยู่ เป็นไปได้ว่าอาจจะมีปริมาณแร่ธาตุหนึ่งชนิดหรือมากกว่ามากเกินไปในดิน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเกลือ โดยทั่วไปแร่ธาตุส่วนเกินจะมาจากน้ำกระด้างที่ไหลมาจากก๊อกหรือไม่ก็ใส่ปุ๋ยมากเกินไป ในการชะล้างเกลือหรือแร่ธาตุอื่นๆ นั้น ให้วางกระถางไว้เหนืออ่างล้างจานและใช้น้ำกลั่นชำระล้างดิน ก็คือเทน้ำกลั่นลงไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีน้ำกลั่นบางส่วนไหลออกจากรูระบาย^{[11]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- รดน้ำกลั่นเพื่อชำระล้างดิน 2-3 ครั้งเป็นเวลาหลายๆ นาที
- เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาอีกในอนาคต ให้คุณรดน้ำต้นไม้ด้วยน้ำกลั่นและใส่ปุ๋ยให้น้อยลง
3
สังเกตรูเล็กๆ ที่บ่งบอกว่ามีการเข้าทำลายของแมลง. จุดหรือรูสีน้ำตาลเล็กๆ บนใบของต้นไม้ในบ้านอาจเป็นสัญญาณการเข้าทำลายของแมลง ตรวจว่ามีแมลงในดินและตรงข้างใต้ของใบหรือไม่เพื่อระบุต้นตอของปัญหาก่อนที่จะยิ่งแย่ลง^{[12]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือเรื่องการระบุชนิดของแมลงที่มารบกวนต้นไม้ในบ้านและอยากได้คำแนะนำเกี่ยวกับการกำจัด ให้ติดต่อสำนักงานกรมส่งเสริมการเกษตรในท้องถิ่นหรือไปที่ร้านขายต้นไม้ใกล้บ้าน
โฆษณา