ทำความสะอาดสูทเองที่บ้าน

การสวมสูทสักตัวช่วยเติมเต็มการแต่งตัวของคุณให้ดูดีและภูมิฐานมากขึ้น แต่เมื่อพูดถึงการทำความสะอาดสูท หลายคนอาจรู้สึกว่าขั้นตอนมีความยุ่งยากไม่น้อย แม้ว่าคุณจะสามารถนำสูทของคุณไปส่งร้านซักแห้งได้ทุกเมื่อ แต่คุณอาจสงสัยว่าการทำความสะอาดสูทสามารถทำเองที่บ้านได้หรือไม่ คำตอบคือได้แน่นอน! บทความนี้จะมาเผยเคล็ดลับการดูแลสูทให้ครบทุกขั้นตอน ตั้งแต่การซักด้วยเครื่องซักผ้า การทำความสะอาดเฉพาะจุด ไปจนถึงการจัดเก็บอย่างเหมาะสม เพื่อให้สูทของคุณดูเหมือนใหม่อยู่เสมอ!

สิ่งที่ควรรู้

ลองเทน้ำเล็กน้อยลงบนจุดเล็กๆ ของเนื้อผ้าให้เปียกและใช้สำลีก้านถูเบาๆ หากไม่มีสีติดสำลีมาแสดงว่าคุณสามารถซักสูทของคุณด้วยเครื่องซักผ้าได้
นำสูทใส่ในถุงตาข่ายซักผ้าและตั้งค่าโปรแกรมการซักแบบถนอมผ้าและอุณหภูมิของน้ำให้เป็นน้ำเย็นเพื่อป้องกันไม่ให้สูทของคุณเกิดความเสียหาย
ดูแลรักษาสูทของคุณด้วยการทำความสะอาดเฉพาะจุดเป็นประจำและจัดเก็บอย่างเหมาะสมโดยแขวนกับไม้แขวนเสื้อแบบไม้

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 2:

ซักทำความสะอาด

ดาวน์โหลดบทความ

1
ซักสูทนานๆ ครั้ง เนื่องจากเนื้อผ้าของสูทโดยส่วนใหญ่มีความบอบบาง.^{[1]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิงSergey Paramonov. Laundry Expert. Expert Interview. 9 กันยายน 2022.} การทำความสะอาดสูทไม่ว่าจะด้วยการซักเครื่องหรือการซักแห้งอาจเสี่ยงต่อการทำให้สูทของคุณเสียหายได้ เนื่องจากสูทเป็นเสื้อผ้าที่มีองค์ประกอบมากและโดยส่วนใหญ่ตัดเย็บจากเนื้อผ้าที่มีความบอบบาง ดังนั้นคุณจึงควรเลือกทำความสะอาดสูทเฉพาะเมื่อจำเป็นจริงๆ เท่านั้น หรือหากไม่แน่ใจให้คุณลองดมกลิ่นดู หากเริ่มมีกลิ่นเหงื่อติดอยู่บนสูทของคุณ แสดงว่าถึงเวลาที่คุณควรโยนสูทของคุณลงเครื่องซักผ้าหรือจัดการซักแห้งให้เรียบร้อยแล้ว^{[2]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- เมื่อถึงเวลาต้องทำความสะอาดสูท ให้เลือกระหว่างซักด้วยเครื่องซักผ้าหรือซักแห้งเท่านั้น ไม่แนะนำให้คุณซักสูทด้วยมือ เพราะหากคุณเกิดซักได้ไม่ทั่วถึง สูทของคุณอาจเริ่มเสียทรงไปได้ ด้วยเหตุนี้การส่งสูทไปซักแห้งกับร้านซักรีดจึงมักเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการทำความสะอาดสูทให้คงรูปทรงเดิม^{[3]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิงSergey Paramonov. Laundry Expert. Expert Interview. 9 กันยายน 2022.}
- หากคุณสะดวกที่จะซักสูทด้วยมือมากกว่า ให้คุณซักในน้ำเย็นจัดและใช้น้ำยาซักผ้าสูตรอ่อนโยน
- แน่นอนว่าคุณคงไม่อยากสวมสูทที่สกปรก ดังนั้นหาความพอเหมาะพอดีระหว่างการใส่ซ้ำและการจำกัดการซัก^{[4]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิงSergey Paramonov. Laundry Expert. Expert Interview. 9 กันยายน 2022.}
2
ลองทดสอบดูว่าสูทของคุณสามารถนำไปซักได้ตามปกติหรือไม่. มองหาจุดเล็กๆ ของเนื้อผ้า (แนะนำจุดที่มองไม่เห็นเมื่อสวมใส่) และเทน้ำปริมาณเท่าเหรียญ 5 บาทลงไปให้พอเปียก จากนั้นใช้สำลีก้านถูบริเวณที่เปียกและดูว่าสำลีเปลี่ยนสีหรือไม่ หากมีสีติดสำลีมาแสดงว่าการซักด้วยมือหรือเครื่องซักอาจไม่ใช่วิธีทำความสะอาดที่เหมาะกับสูทของคุณ^{[5]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- นั่นหมายความว่าคุณจำเป็นต้องส่งสูทของคุณไปซักแห้งกับร้านซักรีด เพราะการทำความสะอาดสูทเองอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อเนื้อผ้าได้
- แม้ว่าสูทโดยส่วนใหญ่จะมีป้ายที่ติดกับเสื้อที่ระบุไว้ว่า “ซักแห้งเท่านั้น” แต่คุณอาจมองข้ามไปได้ หากสูทของคุณระบุข้อแนะนำในการทำความสะอาดไว้ดังกล่าว ให้เป็นสิ่งเตือนว่าคุณควรใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการทำความสะอาดสูท
- ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเนื้อผ้าประเภทใดบ้างที่สามารถซักได้ตามปกติโดยไม่เกิดความเสียหายหรือประเภทใดบ้างที่อาจเสียหายหากนำไปซักด้วยวิธีทั่วไป หากคุณไม่แน่ใจ แนะนำให้คุณทดสอบดูก่อนเป็นอันดับแรก
เลือกใช้น้ำยาซักผ้าสูตรอ่อนโยนที่เหมาะกับประเภทเนื้อผ้าของสูท. ไม่ว่าสูทของคุณจะตัดเย็บจากผ้าวูล ผ้าฝ้าย ผ้าแคชเมียร์ หรือผ้าลินิน น้ำยาซักผ้าทั่วไปอาจมีฤทธิ์ที่แรงเกินไปสำหรับเนื้อผ้าที่บอบบางเหล่านี้ ดังนั้นมองหาน้ำยาซักผ้าสูตรอ่อนโยนที่เหมาะกับประเภทเนื้อผ้าของสูทของคุณ สำหรับผ้าวูลและผ้าแคชเมียร์ คุณควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับซักผ้าวูลและผ้าแคชเมียร์โดยเฉพาะ ส่วนสำหรับผ้าประเภทอื่นๆ ให้คุณเลือกใช้เกล็ดสบู่ซักผ้าแทน^{[6]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
เตรียมพร้อมสำหรับการซักโดยเริ่มจากพับและม้วนสูท. คุณไม่สามารถนำสูทที่ตัดเย็บจากเนื้อผ้าที่บอบบางโยนลงเครื่องซักผ้าได้เลยเหมือนกับเสื้อผ้าประเภทอื่นๆ เริ่มจากกลับด้านในสูทออกมา จากนั้นพับครึ่งตามแนวยาวและจับแขนเสื้อพับทับขึ้นมา ใช้มือรีดรอยยับให้เรียบแล้วม้วนจากด้านล่างขึ้นมาให้แน่นๆ เหมือนเมื่อคุณม้วนเก็บถุงนอน^{[7]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
5
ใส่สูทลงไปในถุงตาข่ายซักผ้าให้เรียบร้อย. เมื่อนำสูทลงซักในเครื่องซักผ้า ไม่ใช่เฉพาะน้ำเท่านั้นที่อาจทำให้สูทของคุณเสียหาย การที่สูทถูกเหวี่ยงไปมาภายในถังซักในระหว่างรอบซักก็สามารถทำลายเนื้อผ้าที่บอบบางได้เช่นกัน ถุงตาข่ายซักผ้าจึงเป็นสิ่งที่ขาดไมได้ในการซักสูทด้วยเครื่องซักผ้า นำสูทที่พับและม้วนเสร็จแล้วใส่ลงไปในถุงตาข่ายซักผ้าและรูดซิปให้เรียบร้อย เท่านี้คุณก็สามารถนำสูทของคุณลงซักได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยกว่าเดิมแล้ว^{[8]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- เพื่อป้องกันความเสียหาย ให้คุณนำสูทลงซักโดยไม่ต้องซักรวมกับเสื้อผ้าตัวอื่นๆ เพื่อไม่ให้เกิดการเสียดสีมากนัก
6
เลือกโปรแกรมการซักแบบถนอมผ้าที่สุดและอุณหภูมิของน้ำให้เย็นที่สุด. หลายคนเข้าใจว่าสามารถซักสูทโดยตั้งค่าการซักแบบใดก็ได้ตราบใดที่ใส่สูทไว้ในถุงตาข่ายซักผ้า แต่ถ้าให้ปลอดภัยจริงๆ กับสูทที่มีเนื้อผ้าบอบบาง คุณควรตั้งค่าการซักให้เป็น “น้ำเย็น” และ “ถนอมผ้า” จะดีที่สุด สุดท้ายใส่น้ำยาซักผ้าลงไปและกดปุ่มเริ่มต้นซักได้เลย^{[9]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- สำหรับผลิตภัณฑ์สำหรับซักผ้าวูลหรือผ้าแคชเมียร์ ให้คุณเติมลงไปในช่องใส่น้ำยาปรับผ้านุ่ม ส่วนสำหรับเกล็ดสบู่ซักผ้า คุณสามารถเติมลงไปในช่องใส่ผงซักฟอกได้เลย
7
หยิบสูทออกจากเครื่องซักผ้าทันทีที่ซักเสร็จและนำไปตากลมให้แห้ง (ไม่ต้องนำเข้าเครื่องอบผ้า). การตากสูทอย่างถูกต้องนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในการถนอมสูทให้มีขนาดและรูปทรงคงเดิม วางสูทลงบนพื้นเรียบที่สะอาดและใช้มือลูบให้รอยยับหรือรอยพับเรียบขึ้นมากที่สุด จากนั้นตากลมให้แห้งแทนการนำเข้าเครื่องอบผ้า หากสูทยังคงเหลือความชื้นอยู่บ้าง ให้คุณตากกับไม้แขวนเสื้อให้แห้งเร็วขึ้น^{[10]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- หลีกเลี่ยงการตากสูทไว้กลางแดดเพราะอาจทำให้สูทเสียทรงได้
- เคล็ดลับ: ใช้ผ้าขนหนูปูรองพื้นเตรียมไว้ก่อนนำสูทออกจากเครื่องซักผ้า วางสูทที่เปียกทับลงไปแล้วค่อยๆ ม้วนสูทพร้อมกับผ้าขนหนูให้เป็นท่อน ผ้าขนหนูจะช่วยซับน้ำออก ทำให้สูทของคุณแห้งเร็วขึ้น^{[11]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 2:

ทำความสะอาดเฉพาะจุด ปัดฝุ่นด้วยแปรง และจัดเก็บ

ดาวน์โหลดบทความ

1
ทำความสะอาดคราบเปื้อนจุดเล็กๆ ด้วยน้ำมะนาวหรือน้ำส้มสายชู. เผลอทำอะไรหกเลอะแขนเสื้อของสูทใช่มั้ย? คุณควรซักสูทของคุณอย่างเต็มรูปแบบเพียงนานๆ ครั้ง และในระหว่างเว้นช่วงแต่ละครั้ง ให้คุณทำความสะอาดเฉพาะจุดบ้างเพื่อให้สูทดูสะอาดขึ้น เทน้ำเย็นลงบนคราบเปื้อนและหยดน้ำมะนาวหรือน้ำส้มสายชูลงไป จากนั้นใช้ผ้าขนหนูซับเบาๆ จนคราบเปื้อนหลุดออก^{[12]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ลองทดสอบกับจุดเล็กๆ ที่มองไม่เห็นดูก่อนว่าน้ำมะนาวหรือน้ำส้มสายชูเป็นอันตรายต่อเนื้อผ้าของสูทหรือไม่ ป้ายน้ำมะนาวหรือน้ำส้มสายชูลงไปเล็กน้อยแล้วใช้สำลีก้านถูเบาๆ หากมีสีติดสำลีมา แนะนำให้คุณส่งสูทไปร้านซักรีดจะดีกว่า
- เริ่มจากหยดน้ำมะนาวหรือน้ำส้มสายชูลงไปเพียงเล็กน้อยแล้วค่อยๆ เพิ่มปริมาณขึ้นทีละน้อยเท่าที่จำเป็น
ปัดฝุ่นทุกครั้งหลังใช้งานด้วยแปรงสำหรับสูท. ใช้แปรงค่อยๆ ปัดไล่สูทให้ทั่วทั้งตัวโดยปัดลงด้านล้างทุกครั้งเพื่อกำจัดฝุ่นผงและสิ่งสกปรกที่เกาะติดอยู่ให้หลุดออกและช่วยดูแลสูทของคุณให้ดูสะอาดเหมือนใหม่ไปอีกนาน การขจัดคราบสกปรกให้หลุดออกไม่เพียงมีความสำคัญต่อรูปลักษณ์ภายนอกของสูทเท่านั้น จริงๆ แล้วขั้นตอนนี้ยังมีประโยชน์มากกว่านั้น คราบสกปรกที่ถูกทิ้งไว้จะฝังลึกลงในเนื้อผ้าจนทำให้สูทของคุณดูโทรมลงไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นอย่าลืมปัดฝุ่นให้เรี่ยมทุกครั้งหลังใส่^{[13]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
3
รีดด้วยเตารีดไอน้ำเพื่อขจัดรอยยับ.^{[14]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิงSergey Paramonov. Laundry Expert. Expert Interview. 9 กันยายน 2022.} เริ่มจากเติมน้ำลงไปในถังบรรจุน้ำและปรับอุณหภูมิให้เหมาะกับเนื้อผ้าของสูทของคุณ ใช้ผ้าขาววางทับลงไปบนสูทก่อนเปิดพ่นไอน้ำและรีดลงไปบนผ้าโดยใช้วิธีกดทับเป็นจุดๆ ไม่ถูไปถูมาเหมือนการรีดผ้าตามปกติ รีดให้ทั่วทั้งตัวจนเรียบกริบและดูให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้เผลอทำให้สูทเกิดรอยยับเพิ่มขึ้นในระหว่างการรีด^{[15]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- สิ่งใดก็ตามที่ทำให้เกิดการยืดหดของเนื้อผ้าอาจส่งผลให้สูทของคุณเริ่มเสียทรงไปได้ ซึ่งการรีดด้วยไอน้ำจะช่วยลดความเสี่ยงนี้ได้
- เคล็ดลับ: คุณสามารถเลือกใช้เครื่องรีดผ้าไอน้ำแทนได้เช่นกัน หรือจะใช้วิธีนำสูทเข้าไปแขวนไว้ในห้องน้ำแล้วปิดประตูตอนที่คุณอาบน้ำอุ่นก็ช่วยให้สูทของคุณเรียบขึ้นได้เช่นกัน^{[16]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิงSergey Paramonov. Laundry Expert. Expert Interview. 9 กันยายน 2022.}
แขวนสูทกับไม้แขวนเสื้อแบบไม้และคลุมด้วยถุงใส่สูท. การแขวนสูทกับไม้แขวนเสื้อแบบลวดเป็นอันตรายต่อสูทกว่าที่คิดเพราะจะทำให้สูทของคุณเริ่มเสียทรงไปได้ ดังนั้นให้คุณแขวนสูทกับไม้แขวนเสื้อแบบไม้คุณภาพดีสำหรับสูทโดยเฉพาะจะดีกว่า และอย่าลืมใช้ถุงใส่สูทคลุมทับสูทของคุณให้เรียบร้อย การจัดเก็บสูทในลักษณะนี้ช่วยให้สูทของคุณระบายอากาศได้ดี รักษารูปทรงของสูท และป้องกันตัวมอดไม่ให้มากัดกินผ้าจนเสียหาย^{[17]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
เว้นช่วงเวลาสักนิดในการหยิบสูทมาสวมแต่ละครั้ง. หากคุณจำเป็นต้องสวมสูทในการทำงานทุกวัน การเว้นช่วงเวลาก่อนหยิบสูทมาสวมอีกครั้งอาจทำได้ยาก แต่หากเป็นไปได้ คุณอาจมีสูทติดตู้เสื้อผ้าไว้มากกว่าหนึ่งตัวสำหรับสลับสับเปลี่ยนการใช้งาน วิธีนี้เป็นการทำให้สูทแต่ละตัวได้คืนตัวกลับสู่สภาพเดิมก่อนนำไปใส่อีกครั้ง^{[18]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
โฆษณา