วิธีการ คำนวณรายได้ประจำปี

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

ถ้าคุณได้รับค่าจ้างรายชั่วโมงในฐานะลูกจ้างหรือแรงงานสัญญาจ้าง (Contract worker) การคำนวณรายได้ต่อชั่วโมงเช่นเดียวกับรายได้ต่อปีก็เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ คุณมักจะจำเป็นต้องแสดงรายได้ต่อปีของคุณบนจดหมายสมัครงาน หรืออาจจะต้องการเปรียบเทียบรายได้ ระหว่างงานที่ทำอยู่กับงานใหม่ คุณสามารถคำนวณรายได้ต่อปีได้ด้วยการใช้สมการง่ายๆ และพื้นฐานทางคณิตศาสตร์เล็กน้อง

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ถ้าชั่วโมงการทำงานของคุณเท่ากันทุกสัปดาห์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 คำนวณค่าจ้างรายชั่วโมงของคุณ.
    คุณคงรู้อยู่แล้วว่าคุณได้รับค่าจ้างต่อชั่วโมงมากน้อยแค่ไหน ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจจะได้ค่าจ้าง 500 บาทต่อชั่วโมง แต่ถ้าคุณยังไม่รู้ คุณต้องหารายได้ต่อชั่วโมงให้ได้ก่อน
    • ค่าจ้างรายชั่วโมงของคุณควรจะปรากฎบนเช็คเงินค่าจ้าง (Pay stub) ของคุณถ้านายจ้างของคุณทำให้
    • ถ้าคุณไม่แน่ใจ คุณสามารถามผู้จัดการหรือพนักงานแผนกจัดการทรัพยากรมนุษย์ได้
  2. How.com.vn ไท: Step 2 คำนวณชั่วโมงงานทั้งหมดที่คุณทำในแต่ละปี.
    ให้คูณชั่วโมงงานที่คุณทำในแต่ละสัปดาห์ด้วย 52 (เพราะ 1 ปีมี 52 สัปดาห์) [1]
    • จำไว้ด้วยว่าคุณควรจะต้องรวมชั่วโมงวันหยุดที่คุณได้ค่าจ้างหรือจ่ายเงินใน 1 ปี ด้วย ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณทำงาน 50 สัปดาห์ใน 1 ปี แต่คุณได้ชั่วโมงวันหยุด 2 สัปดาห์ ดังนั้น คุณก็จะทำงาน 52สัปดาห์ ถ้าคุณไม่ได้รับเงินจากวันหยุด ให้คำนึงถึงส่วนนี้ด้วยเช่นกัน
    • ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณทำงาน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ การคำนวณของคุณจะเป็นดังนี้: 40 ชั่วโมง x 52 สัปดาห์ = 2080 ชั่วโมงต่อปี
  3. How.com.vn ไท: Step 3 คูณรายได้ต่อชั่วโมงด้วยจำนวนชั่วโมงที่คุณทำงานใน 1 ปี....
    คูณรายได้ต่อชั่วโมงด้วยจำนวนชั่วโมงที่คุณทำงานใน 1 ปี. ในการคำนวณรายได้ต่อปีนั้น ให้คูณชั่วโมงงานด้วยค่าจ้างต่อชั่วโมง [2]
    • จากตัวอย่างข้างต้น รายได้ประจำปีของคุณจะเท่ากับ 500 x 2080 = 1,040,000 บาทต่อปี
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ถ้าชั่วโมงการทำงานของคุณในแต่ละสัปดาห์ไม่เท่ากัน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ติดตามชั่วโมงงานของคุณ.
    ให้บันทึกจำนวนชั่วโมงงานที่คุณทำในแต่ละวันเอาไว้ เมื่อถึงวันสุดสัปดาห์ ให้คำนวณดูว่าคุณทำงานไปทั้งหมดกี่ชั่วโมง
    • คุณสามารถคำนวณโดยใช้ใช้แอพพลิเคชั่น โปรแกรมบนอินเทอร์เน็ต หรือเขียนลงบนสมุดก็ได้ [3]
    • ถ้าจำนวนชั่วโมงงานของคุณไม่คงที่ในแต่ละสัปดาห์ คุณก็อาจจะต้องคอยคิดตามชั่วโมงงานของคุณเป็นระยะเวลาที่นานมากขึ้น แล้วค่อยมาหาค่าเฉลี่ยในภายหลัง
    • ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณทำงาน 10 ชั่วโมง 1 สัปดาห์ แล้วทำงาน 25 ชั่วโมงในสัปดาห์หน้า แต่ทำงาน 15 ชั่วโมงในสัปดาห์นี้ และทำงาน 30 ชั่วโมงในสัปดาห์ที่แล้ว สรุปก็คือคุณทำงาน 80 ชั่วโมงในเดือนนี้ ให้หารด้วย 4 แล้วคุณจะพบว่าคุณทำงานเฉลี่ย 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ [4]
    • ถ้าชั่วโมงงานของคุณไม่เท่ากันเลยทั้งปี คุณก็อาจจะต้องใช้เวลาติดตามชั่วโมงงานที่นานขึ้นไปอีก ยกตัวอย่างเช่น คุณทำงาน 50 ชั่วโมงเป็นเวลา 2 สัปดาห์รวมทั้งวันหยุดด้วย แต่ทำงานแค่ 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในช่วงฤดูร้อน เหตุการณ์แบบนี้ส่งผลกระทบต่อการคำนวณเป็นอย่างมาก ในกรณีที่มีความไม่แน่นอนสูง คุณอาจจะต้องติดตามชั่วโมงงานของคุณทั้งปีเพื่อให้ได้ค่าที่แม่นยำ
  2. How.com.vn ไท: Step 2 พิจารณาว่าคุณทำงานนอกเวลามากแค่ไหน.
    ถ้าคุณทำงานมากกว่า 40 ชั่วโมงในช่วงเวลา 7 วัน (ส่วนใหญ่มักจะเรียกกันว่าโอที (Overtime) นายจ้างของคุณจะต้องให้ค่าจ้างคุณเพิ่ม 1.5 เท่าของค่าจ้างปกติของคุณ หรือก็คือ ถ้าคุณทำงานเกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ คุณจะได้รับค่าจ้าง 1.5 เท่าจากจำนวนชั่วโมงที่เกินมา [5]
    • สมการในการคำนวณรูปแบบนี้คือ: รายได้ต่อชั่วโมงโดยรวม = จำนวนชั่วโมงทั้งหมด + [.5*(จำนวนชั่วโมงทั้งหมด-40)]
    • ตัวอย่างเช่น คุณทำงาน 45 ชั่วโมง 1 สัปดาห์ ซึ่งก็คือคุณทำงานเกินมา 5 ชั่วโมง ให้คูณ 5 ด้วย 0.5 ก็จะได้ว่าคุณมีชั่วโมงพิเศษ 2.5 ชั่วโมง ให้บวกกับจำนวนชั่วโมงที่คุณทำงานคือ 45 ชั่วโมง ผลก็คือ คุณทำงาน 47.5 ชั่วโมงแทนที่จะเป็น 45 ชั่วโมง
  3. How.com.vn ไท: Step 3 คำนวณว่าคุณทำงานกี่ชั่วโมงใน 1 ปี.
    ในการคำนวณนั้น ให้คูณรายได้ต่อสัปดาห์เฉลี่ยด้วย 52 [6] ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณมักจะทำงาน 45 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ให้คูณ 47.5 ชั่วโมง (ที่รวมกับชั่วโมงนอกเวลาไปแล้ว) ด้วย 52 ก็จะได้ว่าคุณทำงาน 2,470 ชั่วโมงต่อปี
    • ถ้าคุณติดตามชั่วโมงการทำงานตลอดทั้งปี คุณก็บวกได้เลยแทนที่จะมานั่งคูณค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ด้วยจำนวนสัปดาห์ที่คุณทำงาน
  4. How.com.vn ไท: Step 4 คำนวณรายได้.
    ให้คูณจำนวนชั่วโมงด้วยค่าจ้างรายชั่วโมง
    • ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณได้ค่าจ้าง 500 บาทต่อชั่วโมง ให้คูณ 2,470 ด้วย 500 ก็จะได้ว่าคุณมีรายได้ 1,235,000 บาทต่อปี
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

สิ่งที่ควรพิจารณาเพิ่มเติม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 เพิ่มเงินพิเศษเข้าไปในการคำนวณ.
    ให้เพิ่มเงินพิเศษ (Bonus) เงินค่านายหน้า (Commission) หรือเงินจูงใจพนักงาน (Incentive payments) ลงไปในรายได้ประจำปีด้วยเช่นกัน ในตำแหน่งงานส่วนใหญ่จะมีเงินจูงใจพนักงานซึ่งจะเพิ่มในค่าจ้างรายชั่วโมงด้วย ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจจะได้เงินพิเศษจากผลิตภาพในการทำงาน (Productivity) ความเป็นผู้นำ (Leadership) หรืออายุงาน (Tenure) เป็นต้น [7]
    • ผู้ว่าจ้างบางรายอาจจะให้เงินพิเศษในวันหยุด (Holiday bonus) ให้กับพนักงานในแต่ละปี สืบเนื่องจากตัวอย่างในส่วนที่ 1 สมมติว่าคุณได้เงินพิเศษ 7,500 บาททุกๆ ปี การคำนวณของคุณอาจจะเป็นดังต่อไปนี้: 1,040,000 +7,500 = 1,047,500 บาท
    • ถ้าคุณได้ค่านายหน้าหรือเงินพิเศษอื่นๆ คุณจะต้องคอยติดตามจำนวนเงินนี้ตลอดทั้งปี แล้วเพิ่มลงในการคำนวณของคุณ ยกตัวอย่างเช่น คุณได้เงินพิเศษ 1,500 บาททุกครั้งที่ยอดขายเพิ่มขึ้นในแต่ละระดับ ถ้าคุณได้เงินพิเศษจากตรงนี้ 12 ครั้งตลอด 1 ปี ให้คูณ 1,500 ด้วย 12 จะได้ 18,000 บาท จากตัวอย่างก่อนหน้า ให้คุณเพิ่มเงินจากเดิม 1,047,500 + 18,000 จะได้ 1,065,500 บาท
  2. How.com.vn ไท: Step 2 คาดการณ์รายได้และค่าใช้จ่าย.
    ถ้าคุณต้องใช้จ่ายไปกับการดูแลสุขภาพหรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (401(k)) คุณอาจจะต้องหักค่าใช้จ่ายเหล่านี้ออกไปเพื่อที่จะได้จำนวน “เงินที่ได้จริงๆ” ของคุณ
    • แม้ว่าเงินจำนวนที่คุณใช้จ่ายไปนี้ยังนับเป็นส่วนหนึ่งของรายได้คุณก็ตาม แต่ก็ถูกจัดเป็นรายได้ที่ไม่ช่วยเพิ่มกำลังการใช้จ่ายของคุณ
    • ลองดูที่เช็คค่าจ้างของคุณเพื่อหาว่าเงินที่ถูกหักไปกับค่าใช้จ่ายเหล่านี้มีมากน้อยแค่ไหนในแต่ละเดือน และเพื่อให้ได้ค่าใช้จ่ายต่อปี ให้คูณจำนวนเงินนี้ด้วย 12 แล้วหักออกจากรายได้ต่อปีของคุณ [8]
    • ยกตัวอย่างเช่น ถ้าค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพของคุณคือ 5,000 บาทต่อเดือนและจ่ายให้กับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอีก 7,000 บาท ดังนั้นค่าใช้จ่ายต่อเดือนของคุณคือ 12,000 บาท และค่าใช้จ่ายต่อปีของคุณคือ 12,000 x12 = 144,000 บาท ให้หักจำนวนนี้ออกจากรายได้ต่อปีของคุณ
  3. How.com.vn ไท: Step 3 พิจารณาว่าคุณต้องจ่ายภาษีเท่าใด.
    การทำแบบนี้จะช่วยให้คุณคำนวณรายได้ทั้งก่อนและหลังจ่ายภาษีได้
    • คุณจะต้องดูว่าฐานภาษี (Tax bracket) ของคุณอยู่ในกลุ่มไหน เพื่อพิจารณาว่าคุณจะต้องจ่ายภาษีเงินได้มากเท่าใด รายได้ประจำปีของคุณจะช่วยพิจารณาได้ว่าคุณจะต้องเสียภาษีมากแค่ไหน ซึ่งมีเครื่องคำนวณภาษีเงินได้บนอินเทอร์เน็ตที่ช่วยคุณคำนวณภาษีของคุณให้ถ้าคุณไม่รู้ว่าฐานภาษีของคุณอยู่กลุ่มไหน [9]
    • ในสหรัฐอเมริกา จะมีการเก็บภาษีท้องถิ่น (State tax) ซึ่งเป็นภาษีที่จะเก็บจากคนในรัฐที่ตัวเองอาศัยอยู่ โดยภาษีที่เก็บเข้าท้องถิ่นของคุณนั้นขึ้นอยู่กับว่าคุณอยู่ที่ไหน แต่ก็มีบางรัฐที่คุณไม่ต้องจ่ายภาษีเงินได้ ส่วนรัฐที่มีการเก็บภาษีก็จะมีอัตราภาษีประมาณ 5-6% คุณสามารถค้นหาอัตราภาษีท้องถิ่นในแต่ละรัฐได้บนอินเทอร์เน็ต อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยไม่มีภาษีรูปแบบนี้ คุณจึงไม่ต้องกังวลกับการคำนวณภาษีท้องถิ่น [10]
    • หักเปอเซ็นต์ภาษีเงินได้จากรายได้ทั้งหมดของคุณ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าฐานภาษีของคุณคือกลุ่มที่ต้องจ่ายภาษี 20% ดังนั้น รายได้ของคุณก็จะเป็น 80% จากรายได้ทั้งหมด
    • เปลี่ยนเปอเซ็นต์ให้เป็นเลขทศนิยมด้วยการย้ายจุดทศนิยมสองจุดไปทางซ้าย ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณได้มีรายได้ต่อปี 80% จากรายได้ทั้งหมด การทำให้เป็นทศนิยมก็จะเป็น 0.80 (หรือ 0.8)
    • คูณรายได้ต่อเดือนด้วยเลขทศนิยมนี้เพื่อให้ทราบถึงรายได้หลังจากจ่ายภาษีแล้ว คุณสามารถคำนวณทั้งรายได้ต่อเดือนหรือรายได้ต่อปีได้ด้วยวิธีนี้ [11]
    • ถ้าคุณทำรายได้ 100,000 บาทต่อเดือน และจ่ายภาษี 30% แสดงว่าคุณจะได้รายได้จริงๆ 70% ซึ่งทำเป็นเลขทศนิยมได้เป็น 0.7 ให้คูณ 100,000 ด้วย 0.7 ก็จะได้ว่าคุณมีรายได้หลังจ่ายภาษี 70,000 บาทต่อเดือน [12]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ตามพระราชบัญญัติมาตรฐานแรงงานที่เป็นธรรมในสหรัฐอเมริกา (Fair Labor and Standards Act: FLSA) แรงงานที่ถูกจ้างรายชั่วโมงจะต้องได้รับเงินแม้อยู่ในช่วงรองาน (Waiting time) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นายจ้างต้องการให้ลูกจ้างนั้นมาทำงาน แม้ว่าจะไม่มีงานต้องทำก็ตาม นอกจากนี้คุณก็ควรได้รับเงินแม้อยู่ในช่วงเวลาพร้อมเรียกตัว (On-call time) ซึ่งหมายถึงคุณต้องอยู่ที่ทำงานและพร้อมที่จะถูกเรียกตัวทำงานได้ตลอดเวลา ในกรณีนี้ คุณมีสิทธิที่จะได้รับเงินแม้ในช่วงที่คุณทานอาหารหรือพักผ่อน โดยช่วงเวลาพักผ่อนมักจะไม่เกิน 20 นาที นอกจากนี้คุณมีสิทธิจะได้รับค่าจ้างแม้ในช่วงทานอาหาร ถ้าคุณอยู่ในช่วงช่วงเวลาพร้อมเรียกตัวที่ต้องพร้อมทำงานอยู่ตลอดเวลา [13] อย่างไรก็ตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานในประเทศไทยก็มีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน
  • คุณสามารถคำนวณย้อนกลับได้ง่ายๆ ด้วยการนำรายได้ต่อปีมาหารายได้ต่อชั่วโมง ให้หารรายได้ต่อปีของคุณด้วยจำนวนชั่วโมงที่คุณทำ ถ้าคุณทำงานเต็มเวลา จำนวนชั่วโมงของคุณก็คือ 2,080 ชั่วโมง (ทำงาน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เป็นเวลา 52 สัปดาห์) ยกตัวอย่างเช่น คนที่มีรายได้ประจำปี 1,456,000 บาท เมื่อนำรายได้ต่อปีมาหารกับจำนวนชั่วโมงที่ทำงานตลอดทั้งปีหรือก็คือ 2080 ชั่วโมง คุณก็จะมีรายได้ต่อชั่วโมงอยู่ที่ 700 บาทต่อชั่วโมง
  • ถ้าคุณได้รับค่าจ้างในวันหยุดหรือเวลาที่ป่วยแล้วไม่ได้ทำงานเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์ คุณไม่ต้องหักเวลาหยุดออกไปจาก 52 เพราะคุณยังมีรายได้ปกติแม้ในวันหยุด แต่ถ้าคุณไม่ได้รับค่าจ้างในวันหยุด คุณต้องหักเวลาที่หยุดออกไปจาก 52 ด้วยเพื่อไม่ให้จำนวนเงินจริงๆ ที่คุณได้นั้นคลาดเคลื่อน [14]
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Michael R. Lewis
ร่วมเขียน โดย:
นักลงทุนและที่ปรึกษาด้านการเงิน
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Michael R. Lewis. ไมเคิล อาร์. ลิวอิสเป็นนักลงทุนและที่ปรึกษาด้านการเงินที่เกษียณแล้วในเท็กซัส เขามีประสบการณ์ด้านธุรกิจและการเงินมากว่า 40 ปี บทความนี้ถูกเข้าชม 26,376 ครั้ง
หมวดหมู่: ธุรกิจ
มีการเข้าถึงหน้านี้ 26,376 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา