วิธีการ บริหารการเงิน

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

การบริหารการเงินส่วนบุคคลเป็นเรื่องที่หลายโรงเรียนไม่ได้สอน แต่ก็เป็นเรื่องที่แทบทุกคนต้องมาหาวิธีรับมือด้วยตัวเองในภายหลัง จากสถิติในประเทศไทยพบว่า คนไทยเกือบ 80% เสี่ยงไม่มีเงินพอใช้หลังวัยเกษียณ[1] แม้ว่าโดยทั่วไปเมื่อคำนวณค่าใช้จ่ายบวกเงินเฟ้อในวัยเกษียณแล้ว เราควรมีเงินไว้ใช้ยามเกษียณไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท แต่โดยเฉลี่ยแล้วคนไทยมีเงินเก็บเพียง 11,944 บาทต่อปีเท่านั้น[2] และยังมีหนี้ต่อหัวเฉลี่ยสูงถึงคนละ 150,000 บาท[3] ถ้าข้อเท็จจริงเหล่านี้ทำให้คุณถึงกับต้องผงะ และคุณก็ไม่อยากตามกระแสแบบผิดๆ ให้อ่านบทความนี้ เพราะบทความนี้จะมาบอกวิธีบริหารการเงินที่เฉพาะเจาะจงและตรงจุด เพื่อให้คุณมีอนาคตที่สดใสกว่าเดิม

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

ตั้งงบรายจ่าย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 จดรายจ่ายทั้งหมดเป็นเวลา 1 เดือน.
    คุณไม่จำเป็นต้องจำกัดตัวเอง แค่ดูว่าในช่วงเวลา 1 เดือนคุณใช้เงินไปกับอะไรบ้าง เก็บใบเสร็จรับเงินทุกใบ จดไว้ว่าคุณต้องมีเงินสดติดตัวเท่าไหร่เมื่อหักลบกับค่าใช้จ่ายที่คุณต้องจ่ายผ่านบัตรเครดิต และคำนวณว่าเมื่อหมดเดือนคุณจะมีเงินเหลือเท่าไหร่
  2. How.com.vn ไท: Step 2 หลังจากผ่านไป 1 เดือน...
    หลังจากผ่านไป 1 เดือน ให้กลับมาดูยอดใช้จ่ายในเดือนนั้น. อย่าเขียนลงไปว่าคุณ เสียดายว่า คุณน่าจะใช้เงินไปกับอะไร แต่ให้เขียนสิ่งที่คุณเสียเงินไปกับมัน จริงๆ แบ่งหมวดหมู่ค่าใช้จ่ายแบบที่คุณดูแล้วเข้าใจ รายการค่าใช้จ่ายง่ายๆ ในแต่ละเดือนน่าจะหน้าตาประมาณนี้ :
    • รายได้ต่อเดือน: 90,000 บาท
    • รายจ่าย:
      • ค่าเช่าบ้าน/ค่าผ่อนบ้าน: 24,000 บาท
      • ค่าใช้จ่ายในบ้าน (ค่าสาธารณูปโภค/ค่าไฟ/ค่าเคเบิลทีวี): 3,750 บาท
      • ซื้อของเข้าบ้าน: 9,000 บาท
      • กินข้าวนอกบ้าน: 9,000 บาท
      • ค่าน้ำมัน: 3,000 บาท
      • ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน: 6,000 บาท
      • ค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย: 12,000 บาท
      • เงินออม: 27,000 บาท
  3. How.com.vn ไท: Step 3 เขียนงบรายจ่ายที่แท้จริงลงไป.
    จากค่าใช้จ่ายที่แท้จริงในเดือนที่แล้วและจากที่คุณดูประวัติการใช้จ่ายที่ผ่านมา ให้ตั้งงบรายจ่ายว่า คุณอยากจะเอาเงินที่ได้ไปจัดสรรไว้ในรายจ่ายแต่ละหมวดเท่าไหร่บ้าง โดยคุณจะใช้แพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Mint.com ในการช่วยบริหารงบประมาณก็ได้
    • ในงบรายจ่าย ให้แบ่งคอลัมน์ออกเป็น งบ คาดการณ์ กับงบ ใช้จริง งบคาดการณ์คือจำนวนเงินที่คุณตั้งใจจะใช้ในแต่ละหมวด ซึ่งควรจะเป็นจำนวนเท่ากันทุกเดือนและคำนวณตั้งแต่ตอนต้นเดือน ส่วนงบใช้จริงคือจำนวนเงินที่คุณใช้ไปจริงๆ ซึ่งจะต่างกันไปในแต่ละเดือน และจะคำนวณตอนสิ้นเดือน
    • หลายคนจะเผื่อพื้นที่ใหญ่ๆ ไว้ในงบประมาณสำหรับเป็นเงินออม ซึ่งคุณไม่จำเป็นต้องตั้งงบประมาณที่มีเงินออมรวมอยู่ด้วยก็ได้ แต่โดยทั่วไปแล้วก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรทำ เพราะนักวางแผนการเงินมืออาชีพจะแนะนำให้ลูกค้าแบ่งเงินอย่างน้อย 10 - 15% ของรายได้ทั้งหมดไว้เป็นเงินออม[4][5]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ซื่อสัตย์กับตัวเองเรื่องงบรายจ่าย.
    มันเป็นเงินของคุณ เพราะฉะนั้นมันไม่มีประโยชน์ที่จะโกหกตัวเองว่าคุณจะใช้เงินเท่าไหร่เวลาที่ตั้งงบรายจ่ายขึ้นมา เพราะถ้าทำแบบนี้คนเดียวที่จะเจ็บปวดก็คือคุณ ในทางตรงกันข้ามถ้าคุณไม่รู้ว่าคุณใช้จ่ายเท่าไหร่ งบประมาณของคุณก็อาจจะต้องใช้เวลา 2-3 เดือนกว่าจะเข้าที่ ในระหว่างนี้ก็ไม่ต้องกำหนดตัวเลขตายตัวจนกว่าคุณจะรู้จริงๆ ว่าคุณใช้จ่ายเท่าไหร่
    • เช่น ถ้าคุณแบ่งเงินไว้ออมเดือนละ 15,000 บาท แต่รู้ว่าคุณจะต้องคอยปรับเปลี่ยนงบรายจ่ายไปตลอดเพื่อเก็บเงินตามเป้าให้ได้ ก็ไม่ต้องใส่ตัวเลขนั้นลงไป แต่ให้ใส่ตัวเลขที่เก็บได้จริงแทน จากนั้นกลับไปที่งบรายจ่ายเพื่อดูว่ามีตรงไหนลดทอนเงินลงได้บ้าง แล้วเอาเงินที่เหลือจากตรงนั้นไปเป็นเงินเก็บแทน
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ติดตามงบรายจ่ายสักระยะ.
    ส่วนที่ยากที่สุดของงบรายจ่ายก็คือ รายจ่ายของคุณในแต่ละเดือนอาจจะไม่เหมือนกัน แต่ส่วนที่ดีที่สุดของงบรายจ่ายก็คือ คุณได้ติดตามการเปลี่ยนแปลงในแต่ละเดือน ทำให้คุณรู้แน่ชัดว่าคุณจ่ายเงินไปกับอะไรในช่วงปีนั้น
    • ถ้าก่อนหน้านี้คุณไม่เคยรู้มาก่อน การตั้งงบรายจ่ายจะทำให้คุณรู้ว่าคุณเสียเงินไปกับอะไร หลายคนพอได้ตั้งงบรายจ่ายแล้วพบว่าตัวเองจ่ายเงินไปกับเรื่องไร้สาระเยอะมาก การได้รู้แบบนี้ก็จะช่วยให้เขาสามารถปรับนิสัยการใช้จ่ายและใช้เงินกับเรื่องที่เป็นประโยชน์มากกว่า
    • วางแผนค่าใช้จ่ายกะทันหัน การตั้งงบรายจ่ายยังสอนคุณด้วยว่า คุณไม่มีวันรู้ว่าเมื่อไหร่คุณจะต้องเสียเงินไปกับเรื่องที่ไม่คาดคิด แต่ความไม่นอนคือความแน่นอน แน่นอนว่าคุณคงไม่ได้ วางแผน ว่ารถจะเสียหรือลูกจะต้องเข้าโรงพยาบาล แต่คุณก็ควรเผื่อไว้ว่าอาจจะมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น และมีเงินสำรองไว้เมื่อเกิดเหตุการณ์เหล่านั้น
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

ใช้จ่ายอย่างคุ้มค่า

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ถ้ายืม/เช่าได้ ไม่ต้องซื้อ.
    คุณซื้อแผ่นดีวีดีมาเก็บจนฝุ่นเขรอะหลายปีโดยที่ไม่ได้ดูมากี่ครั้งแล้ว หนังสือ นิตยสาร ดีวีดี เครื่องมือ อุปกรณ์จัดงานปาร์ตี้ และอุปกรณ์กีฬาเป็นของที่คุณสามารถหาเช่าได้ในราคาถูกกว่า นอกจากนี้การเช่ายังทำให้คุณไม่ต้องวุ่นวายเรื่องการเก็บรักษา หาที่เก็บ และโดยทั่วไปแล้วมันก็จะทำให้คุณรักษาของมากขึ้นด้วย
    • แต่ก็อย่าลับหูลับตาเช่าเอาอย่างเดียว ถ้าคุณใช้ของชิ้นนั้นนานพอ ซื้อก็อาจจะคุ้มกว่า ลองคำนวณวิเคราะห์ต้นทุนแบบง่ายๆ เพื่อดูว่าเช่าหรือซื้ออย่างไหนคุ้มกว่ากัน
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ถ้าคุณมีเงิน เก็บเงินดาวน์ไว้จ่ายค่าบ้านเยอะๆ....
    ถ้าคุณมีเงิน เก็บเงินดาวน์ไว้จ่ายค่าบ้านเยอะๆ. สำหรับหลายคน การซื้อบ้านเป็นสิ่งที่ราคาสูงที่สุดและเป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่สุดที่พวกเขาจะต้องจ่ายในชีวิต ด้วยเหตุนี้การรู้ว่าทำอย่างไรจึงจะผ่อนบ้านได้อย่างคุ้มค่าจึงเป็นประโยชน์กับคุณมากๆ เป้าหมายในการผ่อนบ้านของคุณควรจะเป็นการลดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมให้ได้มากที่สุด โดยที่งบรายจ่ายส่วนอื่นๆ ยังคงสมดุลอยู่ด้วย
    • จ่ายล่วงหน้าก่อนเลย โดยทั่วไปช่วง 3 ปีแรกของการผ่อนบ้านจะเป็นช่วงที่คุณจ่ายดอกเบี้ยน้อยที่สุดเพราะมักจะได้โปรโมชั่นดอกเบี้ยต่ำๆ [6] เพราะฉะนั้นถ้ามีเงินให้โปะในช่วงนี้ให้เร็วที่สุด และถ้าคุณสามารถขอคืนเงินภาษีจากการผ่อนบ้านได้ ให้นำเงินที่ได้คืนไปจ่ายค่าบ้านเพิ่ม การจ่ายค่างวดล่วงหน้าจะช่วยให้คุณผ่อนบ้านหมดเร็วขึ้นด้วยการไปลดดอกเบี้ยที่คุณต้องจ่าย
    • ดูว่าคุณสามารถจ่ายค่างวดรายสองสัปดาห์แทนที่จะเป็นรายเดือนได้หรือไม่ แทนที่จะจ่ายปีละ 12 งวด ดูว่าคุณสามารถเปลี่ยนมาจ่ายปีละ 26 งวดแทนได้หรือเปล่า วิธีนี้จะช่วยให้คุณประหยัดเงินไปได้หลายหมื่นบาท แต่มีข้อแม้ว่าต้องไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ซึ่งคุณจะต้องสอบถามกับทางธนาคาร หรือคุณอาจจะใช้วิธีจ่ายค่างวดเพิ่มเป็น 2 เท่าก็ได้ วิธีนี้จะช่วยให้คุณประหยัดเงินได้เป็นหลักแสนเช่นเดียวกัน
    • ขอรีไฟแนนซ์กับทางธนาคาร เช่น ถ้าคุณสามารถรีไฟแนนซ์จากดอกเบี้ย 6.7% ให้เหลือ 5.7% ได้โดยที่คุณเองก็ยังจ่ายค่างวดเท่าเดิม วิธีนี้ก็น่าสนใจเหมือนกัน[7] เพราะคุณจะสามารถลดระยะเวลาการผ่อนชำระได้ หลายปี ทีเดียว
  3. How.com.vn ไท: Step 3 เข้าใจว่าการมีบัตรเครดิตอาจสำคัญต่อการสร้างเครดิตอย่างมาก....
    เข้าใจว่าการมีบัตรเครดิตอาจสำคัญต่อการสร้างเครดิตอย่างมาก. คะแนนเครดิตตั้งแต่ 750 คะแนนขึ้นไปอาจช่วยปลดล็อกอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำลงได้อย่างน่าตกใจและยังเปิดโอกาสให้คุณกู้เงินก้อนใหม่ได้ด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องดีทีเดียว ถึงคุณจะแทบไม่ค่อยได้ใช้บัตรเครดิต แต่คุณก็ต้องมีไว้สักใบ ถ้าคุณไม่ไว้ใจตัวเอง จะล็อกเก็บไว้ในลิ้นชักก็ได้
    • คิดว่าบัตรเครดิตก็คือเงินสด เพราะมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ บางคนมองว่าบัตรเครดิตเป็นเครื่องมือใช้จ่ายที่ไม่จำกัด แล้วยอดใช้จ่ายก็ทับถมไปเรื่อยๆ ทั้งๆ ที่รู้ว่าจ่ายไม่ไหวและก็มาจ่ายขั้นต่ำในแต่ละเดือนเอา ถ้าคุณจะทำแบบนี้ ก็เตรียมเงินก้อนนึงไว้จ่ายค่าดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมได้เลย
    • พยายามรักษาอัตราส่วนเครดิตที่ใช้ไปให้ต่ำๆ อัตราส่วนเครดิตที่ใช้ไปก็คือ การที่หนี้ที่อยู่ในบัตรเครดิตของคุณมีอัตราส่วนที่ต่ำเมื่อเทียบกับวงเงินทั้งหมด พูดง่ายๆ คือหมายความว่า ถ้าคุณมียอดหนี้บัตรเครดิตเฉลี่ยในแต่ละเดือนอยู่ที่ 6,000 บาทโดยที่วงเงินของคุณอยู่ที่ 60,000 บาท อัตราส่วนหนี้เมื่อเทียบกับวงเงินแล้วจะต่ำมากๆ คืออยู่ที่ 1:10 เท่านั้นเอง แต่ถ้ายอดหนี้บัตรเครดิตเฉลี่ยในแต่ละเดือนของคุณอยู่ที่ 6,000 บาท แต่วงเงินของคุณอยู่ที่ 12,000 บาท อัตราส่วนเครดิตที่จะพุ่งทะลุไปที่อัตรา 1:2
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ใช้จ่ายเท่าที่หาได้ ไม่ใช่ใช้จ่ายเท่าที่อยากจะหาได้....
    ใช้จ่ายเท่าที่หาได้ ไม่ใช่ใช้จ่ายเท่าที่อยากจะหาได้. คุณอาจจะคิดว่าตัวเองหาเงินได้เยอะ แต่ถ้าจำนวนเงินที่หาได้จริงมันสวนทางกับคำพูด ก็เท่ากับว่าคุณกำลังเดือดร้อนเพราะการหลอกตัวเอง กฎของการใช้จ่าย ข้อแรก ที่ สำคัญที่สุด ก็คือ ถ้าไม่ใช่เรื่องฉุกเฉินจริงๆ ให้ใช้จ่ายเท่าที่หาได้ ไม่ใช่ใช้จ่ายเท่าที่อยากจะหาได้ วิธีนี้จะช่วยให้คุณปลอดหนี้และสามารถวางแผนเพื่ออนาคตได้อย่างรัดกุม
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

ลงทุนอย่างชาญฉลาด

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ศึกษาทางเลือกในการลงทุนแบบต่างๆ.
    พอเราโตขึ้น เราก็รู้ว่าโลกการเงินข้างนอกมันซับซ้อนกว่าที่เรารู้ตอนเด็กๆ มาก เราสามารถซื้อขายสิ่งที่ อยู่ในจินตนาการ ได้จริงๆ มีทั้งสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่เราสามารถเก็งกำไรจากสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นได้ มีหุ้นเจ๋งๆ เป็นกระตั๊ก ยิ่งคุณมีความรู้เรื่องเครื่องมือทางการเงินและโอกาสต่างๆ มากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งได้เปรียบในการลงทุนมากเท่านั้น แม้ว่าคุณจะรู้แค่ว่าเมื่อไหร่ที่ต้องถอยก็ตาม
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ใช้ประโยชน์จากแผนการเกษียณของบริษัท.
    หลายบริษัทมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้พนักงานได้เก็บเงิน ซึ่งจะหักเงินส่วนหนึ่งของเงินเดือนไปที่แผนการออมอัตโนมัติ วิธีนี้เป็นวิธีเก็บเงินที่ดี เพราะเงินจะถูกหักออกไปจากเงินเดือนเลย คนส่วนใหญ่จึงแทบจะไม่สังเกตเลยว่าเงินถูกหักไป
    • สอบถามตัวแทนฝ่ายบุคคลเรื่องเงินสมทบของบริษัท กฎหมายกำหนดให้บริษัทสมทบเงินในอัตราที่ไม่ต่ำกว่าเงินสะสมของลูกจ้าง ซึ่งหมายความว่าคุณจะได้ออมเพิ่มขึ้นอีก 1 เท่า เพราะฉะนั้นถ้าคุณเลือกออมเดือนละ 3,000 บาท บริษัทก็จะสมทบให้อีก 3,000 บาท เท่ากับว่าคุณได้ออมเดือนละ 6,000 บาท
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ถ้าคุณจะออมเงินในตลาดหุ้น อย่าใช้วิธีพนัน.
    หลายคนซื้อขายหุ้นแบบจบภายในวันเดียว พนันกำไรขาดทุนของหุ้นแต่ละตัวเล็กๆ น้อยๆ ทุกวัน แม้ว่าวิธีนี้จะเป็นวิธีหาเงินที่ได้ผลสำหรับคนที่เชี่ยวชาญ แต่มันก็เสี่ยงมากและเหมือนเป็นการพนันมากกว่าการลงทุน ถ้าคุณอยากลงทุนในตลาดหุ้นอย่างปลอดภัย ให้ลงทุนในระยะยาว[8] ซึ่งก็คือการที่คุณนำเงินไปลงทุนเป็นเวลา 10 20 30 ปี หรือนานกว่านั้น
    • เวลาดูว่าจะเลือกลงทุนในหุ้นตัวไหน ให้ดูองค์ประกอบพื้นฐานขององค์กร (มีกระแสเงินสดในมือเท่าไหร่ ประวัติสินค้าคืออะไร เขาให้คุณค่ากับพนักงานอย่างไร และข้อตกลงระหว่างองค์กรคืออะไร) เพราะโดยหลักการแล้วคือคุณกำลังพนันว่า ราคาหุ้นในปัจจุบันต่ำกว่ามูลค่าจริง และจะสูงขึ้นในอนาคต[9]
    • ถ้าจะให้ปลอดภัยขึ้น เวลาซื้อหุ้นก็ให้ซื้อแบบกองทุนรวม กองทุนรวมคือกองทุนที่นำหุ้นมารวมกันเพื่อลดความเสี่ยง ลองคิดว่า ถ้าคุณเอาเงินทั้งหมดไปลงทุนในหุ้นตัวเดียว พอราคาหุ้นตก คุณก็เจ๊ง แต่ถ้าคุณลงทุนเงินทั้งหมดในหุ้น 100 ตัวเท่าๆ กัน ต่อให้หุ้นหลายตัวจะตกก็ยังไม่กระทบเงินลงทุน กองทุนรวมจึงช่วยลดความเสี่ยงได้
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ซื้อประกันที่ครอบคลุม.
    มีคำกล่าวว่า คนฉลาดจะคาดคิดในสิ่งที่ไม่ได้คาดคิด และจะวางแผนไว้ว่าจะทำอย่างไรหากเกิดเหตุการณ์นั้น คุณไม่มีทางรู้ว่าเมื่อไหร่คุณต้องใช้เงินก้อนใหญ่ยามฉุกเฉิน และการมีประกันที่ครอบคลุมก็สามารถช่วยให้คุณผ่านพ้นช่วงวิกฤตไปได้ ปรึกษาครอบครัวว่ามีประกันประเภทไหนที่คุณจะซื้อได้บ้างเพื่อช่วยคุณในยามฉุกเฉิน :
    • ประกันชีวิต (เผื่อคุณหรือสามี/ภรรยาเสียชีวิตกะทันหัน)
    • ประกันสุขภาพ (เผื่อคุณต้องจ่ายค่าโรงพยาบาลและ/หรือค่ารักษาพยาบาลกะทันหัน)
    • การประกันสรรพภัยเจ้าบ้าน (เผื่อมีเหตุการณ์ที่เป็นอันตรายหรือก่อความเสียหายแก่ตัวบ้าน)
    • ประกันวินาศภัย (เผื่อเกิดพายุไต้ฝุ่น แผ่นดินไหว น้ำท่วม ไฟไหม้ เป็นต้น)
  5. How.com.vn ไท: Step 5 พิจารณากองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ.
    นอกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพซึ่งเป็นแผนเกษียณสำหรับพนักงานที่มักจะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละบริษัทแล้ว หรือแทนที่จะเก็บเงินกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ให้คุณพูดคุยกับที่ปรึกษาการเงินเรื่องกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ซึ่งเป็นกองทุนรวมประเภทที่ส่งเสริมให้เกิดการออมเงินระยะยาวไว้สำหรับใช้จ่ายยามเกษียณอายุ ได้รับการสนับสนุนจากทางการเรื่องสิทธิประโยชน์ทางภาษี และสามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้เมื่ออายุ 55 ปี
    • กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพบางครั้งจะลงทุนในหลักทรัพย์ หุ้นและพันธบัตร กองทุนรวม และกรมธรรม์บำนาญ เมื่อผ่านไปหลายปีจึงมีโอกาสที่จะเติบโตอย่างมาก ถ้าคุณลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพตั้งแต่เนิ่นๆ เมื่อเวลาผ่านไปดอกเบี้ยทบต้นที่คุณได้ (ดอกเบี้ยที่ทบเพิ่มไปเรื่อยๆ) เงินลงทุนของคุณก็จะเติบโตอย่างมาก
    • ลองปรึกษากับที่ปรึกษาประกันเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่การันตีเงินคืนบำนาญ เพราะการวางแผนประเภทนี้จะทำให้คุณได้รับเงินในจำนวนที่แน่นอนทุกปีในช่วงที่คุณเกษียณไปเรื่อยๆ ตราบใดที่คุณยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้เงินขาดมือในช่วงเกษียณ และบางครั้งหลังจากที่คุณเสียชีวิตแล้วเงินนี้ก็ยังคงส่งต่อให้คู่สมรสด้วย
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

สร้างเงินออม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 เริ่มจากการแบ่งเงินเหลือใช้ (เงินส่วนเกิน) ออกมาให้ได้มากที่สุด....
    เริ่มจากการแบ่งเงินเหลือใช้ (เงินส่วนเกิน) ออกมาให้ได้มากที่สุด. ทำให้การออมเป็นสิ่งสำคัญในชีวิต แม้ว่างบรายจ่ายของคุณจะน้อย แต่ให้พยายามปรับเปลี่ยนแผนการเงินเพื่อให้สามารถออมเงินได้มากกว่า 10% ของรายได้ทั้งหมด
    • ลองคิดแบบนี้ สมมุติว่าคุณเก็บเงินได้ปีละ 300,000 บาท ซึ่งไม่ถึงเดือนละ 30,000 บาทด้วยซ้ำ ผ่านไป 15 ปีคุณจะมีเงินเก็บ 4,500,000 บาทยังไม่รวมดอกเบี้ย ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่มากพอที่จะส่งลูกไปเรียนต่อต่างประเทศได้ในวันนี้ แต่ไม่พอสำหรับอนาคตถ้าลูกเพิ่งเกิด เพราะฉะนั้นให้เริ่มเก็บเงิน แล้วคุณอาจจะมีเงินจ่ายค่าเทอมปริญญาโทงวดแรกให้ลูกหรือมีเงินดาวน์บ้านสวยๆ สักหลัง
    • เริ่มเก็บเงินตั้งแต่อายุยังน้อย ถึงคุณจะยังเรียนอยู่ การออมก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ คนที่เก็บเงินเก่งจะมองว่าเงินออมเป็นเรื่องของศีลธรรมมากกว่าความจำเป็น ถ้าคุณเริ่มเก็บเงินเร็วและนำเงินออมไปลงทุนอย่างชาญฉลาด เงินก้อนเล็กก็จะสะสม (ทบต้น) เป็นเงินก้อนใหญ่ การมองการณ์ไกลให้ผลตอบแทนที่ดีแก่เราเสมอ
  2. How.com.vn ไท: Step 2 เก็บเงินสำรองฉุกเฉิน.
    การออมก็คือการดึงรายได้ส่วนเกินออกมา ซึ่งการมีรายได้ส่วนเกินก็คือการไม่เป็นหนี้ และการไม่เป็นหนี้ก็คือการเตรียมพร้อมสำหรับเหตุฉุกเฉิน เพราะฉะนั้นเมื่อเป็นเรื่องของการออมเงินแล้ว เงินสำรองฉุกเฉินสามารถช่วยคุณได้จริงๆ
    • ลองคิดแบบนี้ สมมุติว่ารถของคุณเสียและจู่ๆ คุณก็มีรายจ่ายเพิ่มขึ้นมา 60,000 บาท คุณไม่ได้วางแผนเผื่อไว้ คุณก็เลยต้องไปกู้เงิน และเครดิตคุณเองก็เหลือไม่มาก ดอกเบี้ยเงินกู้ก็อาจจะค่อนข้างสูง ในไม่ช้าคุณก็ต้องจ่ายเงินกู้ที่ดอกเบี้ยร้อยละ 6-7 ซึ่งจะทำให้คุณไม่สามารถเก็บเงินได้ไปอีกครึ่งปี
      • แต่ถ้าคุณมีเงินสำรองฉุกเฉิน คุณก็ไม่ต้องเป็นหนี้และไม่ต้องเสียดอกเบี้ยที่ติดมากับหนี้ตั้งแต่แรก เพราะฉะนั้นการเตรียมพร้อมมันช่วยได้จริงๆ
  3. How.com.vn ไท: Step 3 เมื่อคุณเริ่มเก็บเงินเกษียณและเก็บเงินสำรองฉุกเฉิน ให้เก็บเงินไว้เท่ากับค่าใช้จ่าย 3-6...
    เมื่อคุณเริ่มเก็บเงินเกษียณและเก็บเงินสำรองฉุกเฉิน ให้เก็บเงินไว้เท่ากับค่าใช้จ่าย 3-6 เดือน.[10] สุดท้ายแล้วการออมก็เป็นเรื่องของการเตรียมพร้อมสำหรับความไม่แน่นอน ถ้าคุณตกงานกะทันหัน หรือบริษัทลดค่าคอมมิชชัน คุณก็คงไม่อยากเป็นหนี้เพื่อประทังชีวิต การกันเงินเท่ากับค่าใช้จ่าย 3 6 หรือ 9 เดือนจะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่า ถ้ามีเรื่องร้ายๆ เกิดขึ้นคุณจะรับมือกับมันได้อย่างแน่นอน
  4. How.com.vn ไท: Step 4 พอเข้าที่เข้าทางแล้วให้เริ่มใช้หนี้ให้หมด.
    ไม่ว่าจะเป็นหนี้บัตรเครดิตหรือหนี้บ้าน การมีหนี้ลดทอนความสามารถในการออมได้อย่างมหาศาล เริ่มจากหนี้ที่ดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อน (ถ้าของคุณคือหนี้บ้าน ให้ลองโปะเงินก้อน แต่ให้เน้นไปที่หนี้ที่ไม่ใช่หนี้บ้านก่อน) จากนั้นก็ไปใช้หนี้ที่ดอกเบี้ยสูงรองลงมา และเริ่มจ่ายหนี้ก้อนนั้นให้หมด ค่อยๆ เรียงแบบนี้ตามดอกเบี้ยที่หลดหลั่นกันมาจนกว่าคุณจะจ่ายหนี้ทั้งหมดหมด
  5. How.com.vn ไท: Step 5 เริ่มสะสมเงินสำหรับเกษียณเพิ่มอย่างจริงจัง....
    เริ่มสะสมเงินสำหรับเกษียณเพิ่มอย่างจริงจัง. ถ้าคุณเข้าสู่วัยนั้นแล้ว (อายุ 45 หรือ 50 ปี) และคุณก็ยังไม่ได้เริ่มเก็บเงินเกษียณเลย คุณต้องเก็บเงินเพิ่มเดี๋ยวนี้ เก็บเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (ตามที่บริษัทกำหนด) และกองทุนออมเพื่อการเลี้ยงชีพ (15% ของรายได้ที่ต้องเสียภาษีต่อปี แต่ต้องไม่เกิน 500,000 บาท) ทุกปี ถ้าคุณอายุเกิน 50 ปี คุณก็สามารถออมเงินย้อนหลังได้ถ้าคุณอยากจะเพิ่มเงินออมสำหรับเกษียณ
    • ให้ความสำคัญกับการออมเพื่อการเกษียณมากๆ มากกว่าการออมเงินให้ลูกไว้เรียนมหาวิทยาลัย เพราะคุณกู้เงินมาช่วยค่าเทอมลูกได้เสมอ แต่คุณกู้เงินมาใช้ตอนเกษียณไม่ได้
    • ถ้าคุณไม่รู้เลยจริงๆ ว่าคุณควรออมเงินเท่าไหร่ ให้ใช้เครื่องคำนวณเงินออมหลังเกษียณออนไลน์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย[1] เพื่อคำนวณว่าคุณต้องมีเงินสำหรับเกษียณเท่าไหร่
    • ปรึกษานักวางแผนหรือที่ปรึกษาการเงิน ถ้าคุณอยากเก็บเงินออมเพื่อการเกษียณให้ได้มากที่สุดเพราะคุณไม่รู้เลยว่าจะต้องเริ่มอย่างไร ให้ปรึกษานักวางแผนการเงินมืออาชีพที่มีใบอนุญาต เพราะนักวางแผนจะได้รับการอบรมให้ลงทุนเงินของคุณอย่างชาญฉลาด และมักจะมีประวัติอัตราส่วนผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) อยู่แล้ว ในแง่หนึ่งคุณก็ต้องจ่ายค่าบริการให้เขา แต่ในอีกแง่หนึ่งคุณก็จ่ายเงินให้เขาไปทำเงินให้คุณอีกที จึงไม่ใช่ข้อตกลงที่แย่เลย
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ช่วงที่มีการบังคับเอาทรัพย์จำนองหลุดสูงขึ้นไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะจะซื้อบ้านมากที่สุด เพราะกฎอุปสงค์อุปทานจะทำให้ราคาตกลงมากขึ้นเนื่องจากธนาคารมีแรงจูงใจ
    • เพราะฉะนั้นเมื่อธนาคารขายทรัพย์จำนองหลุดไปหมดแล้ว กฎอุปสงค์อุปทานจะทำให้ราคากลับมาสูงขึ้น
    • ตราบใดที่ยังไม่มีการเอาทรัพย์จำนองหลุดมากนัก ให้เก็บอสังหาริมทรัพย์ของคุณไว้ก่อน เพราะราคาจะสูงขึ้น
  • เพิ่มพูนคุณสมบัติ หาเวลาเพิ่มพูนความรู้และทักษะเพื่อที่คุณจะได้อยู่แนวหน้า ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการหาเงินในอนาคต
  • บัตรเดบิตคือสิ่งที่มาทดแทนบัตรเครดิตที่ไม่ค่อยดีนัก เพราะมันทำให้คนอื่นสามารถเข้าถึงบัญชีธนาคารของคุณได้โดยตรงโดยไม่ต้องมีผู้ออกบัตรเครดิตเป็นคนกลาง นอกจากนี้การพักเงินชั่วคราวของร้านค้ายังทำให้คุณไม่สามารถเข้าถึงเงินของคุณได้ด้วย แม้ว่าสุดท้ายแล้วคุณจะไม่ได้ซื้ออะไรเลยก็ตาม (เช่น เวลาซื้อของในอินเทอร์เน็ต ร้านค้าจะตัดเงินไว้ก่อนไม่ว่าเงินจะผ่านหรือไม่ผ่าน ถ้าไม่ผ่านก็ต้องทำเรื่องกับธนาคารเพื่อขอเงินคืน ซึ่งไม่เป็นปัญหาสำหรับบัตรเครดิต แต่อาจจะมีปัญหากับเงินฝากกระแสรายวัน)
  • ใช้หลักการออมเงิน 6 กระปุก แบ่งเงินออกเป็น 6 กระปุก โดยแต่ละกระปุกมีไว้เพื่อรายจ่ายจำเป็น บันเทิง การกุศล เงินออม ลงทุน และการศึกษา แล้วแบ่งรายได้แต่ละเดือนเป็นเปอร์เซ็นต์ไว้ในกระปุกแต่ละใบ เช่น รายจ่ายจำเป็น 60% เงินออม 10% บันเทิง 10% ลงทุน 10% และการกุศลกับการศึกษาอีกอย่างละ 5% จัดสรรรายจ่ายประจำวันตามกระปุกแต่ละใบ และบันทึกค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน (กระปุกจะเป็นกระปุกจริงๆ หรือเป็นบัญชีออมเงินออนไลน์ก็ได้)
  • กฎ 7% เป็นกฎที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ถ้าคุณเอาเงินออมสำหรับเกษียณคูณด้วย 7% ก็จะได้ผลลัพธ์เป็นจำนวนเงินที่คุณสามารถเอาไว้ใช้จ่ายในแต่ละปีได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเงินออมสำหรับเกษียณจะไม่พอ เพราะฉะนั้นเงิน 9,000,000 บาท x .07 (7%) = 630,000 บาทที่คุณสามารถเอาไว้ใช้จ่ายต่อปี ลบด้วยภาษีที่มาจากรายได้นั้น บวกด้วยรายได้ทางอื่นเช่น เงินบำนาญประกันสังคม ถ้างบรายจ่ายของคุณสูงกว่านี้ ค่าใช้จ่ายไม่คงที่ หรือดอกเบี้ยที่ได้ลดลง เงิน 9,000,000 ก็ไม่พอสำหรับใช้จ่ายไปตลอดชีวิต
โฆษณา

คำเตือน

  • เวลาที่มีโทรศัพท์จากธนาคารบอกว่าคุณมีเงินหลายล้านและชวนให้คุณสมัครบัตรเครดิต อย่าตอบรับคำชวนเพิ่มหนี้ไม่ว่ามันจะน่าตื่นเต้นแค่ไหน เพราะไม่มีอะไรน่ารำคาญไปกว่าการที่ธนาคารจะคอยทวงจิกที่คุณชำระเงินล่าช้า และคุณเองก็ไม่มีปัญญาจ่ายด้วยซ้ำ
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

วิกิฮาวเป็น "wiki" ซึ่งหมายความว่าบทความหลายๆ บทความของเรานั้นเป็นการร่วมมือกันเขียนของผู้เขียนหลายคน ในการเขียนบทความชิ้นนี้ ผู้คน 52 คน ซึ่งบางคนไม่ขอเปิดเผยตัว ได้ร่วมกันเขียนและปรับปรุงเนื้อหาของบทความอย่างต่อเนื่อง บทความนี้ถูกเข้าชม 2,291 ครั้ง
หมวดหมู่: ธุรกิจ
มีการเข้าถึงหน้านี้ 2,291 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา