วิธีการ ขจัดคราบเลือดที่เปื้อนผ้าปูที่นอน

คราบเลือดเลอะผ้าปูที่นอนเป็นเรื่องปกติ และมันก็ไม่ได้หมายความว่าเกิดการฆาตกรรม หรือการทะเลาะวิวาทกันบนเตียงแต่อย่างใด คราบเลือดอาจจะมาจากเลือดกำเดา แผลที่เผลอเการะหว่างหลับเพราะถูกแมลงกัด พลาสเตอร์ปิดแผลหลุด หรือเลือดจากประจำเดือน แค่มีคราบเลือดเปื้อน ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องโยนผ้าปูที่นอนทิ้งไปทั้งผืน แต่คุณควรขจัดคราบเลือดออกให้เร็วที่สุด ก่อนที่มันจะซึมลึกติดใยผ้า

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 3:

ขจัดคราบเลือดใหม่

ดาวน์โหลดบทความ

ถอดผ้าปูออกจากฟูก แล้วใช้น้ำเย็นล้าง ห้ามใช้น้ำร้อน เพราะน้ำร้อนจะทำให้คราบติดใยผ้าแน่นขึ้น ให้ทำตามขั้นตอนนี้แล้วเลือกทำตามขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งจากด้านล่างนี้เพื่อขจัดคราบเลือดออก
2
ขจัดคราบหนักด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์.^{[1]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} เทไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ลงบนคราบเลือด รอสัก 20 ถึง 25 นาที แล้วจึงซับคราบที่เหลือด้วยกระดาษเช็ดมือ หากคุณไม่มีไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ในบ้าน คุณก็สามารถใช้โซดาแทนได้
- คุณสามารถใช้น้ำส้มสายชูกลั่นขาวได้เช่นกัน^{[2]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- แสงจะสามารถเปลี่ยนไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ให้เป็นน้ำได้ หากห้องของคุณสว่าง ให้คลุมแผ่นพลาสติกบริเวณที่มีคราบ แล้วตามด้วยผ้าขนหนูสีทึบ ผ้าขนหนูจะช่วยป้องกันแสง และแผ่นพลาสติกจะช่วยป้องกันไม่ให้ผ้าขนหนูซับไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์
ฉีดน้ำยาเช็ดกระจกไปที่คราบ รอสัก 15 นาที แล้วจึงล้างมันออกจากด้านหลังด้วยน้ำเย็น^{[3]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
4
ใช้แอมโมเนียเจือจางกับคราบหนัก. เติมขวดสเปรย์ด้วยแอมโมเนีย 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำเย็น 1 ถ้วย (240 มิลลิลิตร) ปิดฝาขวดและเขย่า ฉีดส่วนผสมไปที่คราบ และรอสัก 30 ถึง 60 นาที ซับคราบที่เหลือด้วยผ้าสะอาด แล้วนำผ้าปูไปซักในน้ำเย็น^{[4]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ระวังหากใช้วิธีนี้กับผ้าสี แอมโมเนียอาจทำให้สีผ้าด่างหรือซีดลงได้
5
ใช้เบคกิ้งโซดา. ผสมเบคกิ้งโซดาหนึ่งส่วนกับน้ำเปล่าสองส่วนเพื่อทำยาป้าย ทำให้คราบชื้นด้วยน้ำ แล้วใช้ยาป้ายถูที่คราบ นำผ้าไปผึ่งแดดจนแห้ง แปรงเอาคราบที่เหลือออก แล้วซักในน้ำเย็น ^{[5]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- คุณสามารถใช้แป้งฝุ่นหรือแป้งข้าวโพดได้เช่นกัน^{[6]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}^{[7]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
6
ใช้เกลือและน้ำยาล้างจานก่อนนำไปซัก. ผสมเกลือ 2 ช้อนโต๊ะ และน้ำยาล้างจาน 1 ช้อนโต๊ะ^{[8]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} ทำให้คราบชื้นด้วยน้ำเย็น แล้วจึงทำให้ชุ่มด้วยน้ำยาล้างจานที่ผสมแล้ว รอสัก 15 ถึง 30 นาที และล้างคราบออกด้วยน้ำเย็น^{[9]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- คุณสามารถใช้แชมพูแทนน้ำยาล้างจานได้
7
ทำน้ำยาขจัดคราบเองด้วยเบคกิ้งโซดา ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ และน้ำเปล่า. เติมขวดสเปรย์ด้วยเบคกิ้งโซดา 1 ส่วน ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 1 ส่วน และน้ำเย็น ½ ส่วน ปิดฝาขวดแล้วเขย่า ฉีดน้ำยาไปที่คราบ รอสัก 5 นาที แล้วจึงล้างออก ทำซ้ำอีกสัก 2 ครั้ง และล้างผ้าปูด้วยน้ำเย็น^{[10]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- วิธีนี้จะใช้ได้ผลดีที่สุดกับผ้าโพลีเอสเตอร์ผสมฝ้าย
8
ซักผ้าปูที่นอนในน้ำเย็นหลังจากทำตามขั้นตอนขจัดคราบแล้ว. ใช้น้ำเย็น ผงซักฟอกสูตรอ่อนโยน และกระบวนการซักตามปกติที่คุณใช้ประจำ นำผ้าปูออกจากเครื่องซักผ้าทันทีที่ซักเสร็จ อย่านำมันไปใส่ในเครื่องอบแห้ง แต่ให้ผึ่งมันด้วยลมหรือแดดจนแห้งแทน
- ทำตามขั้นตอนขจัดคราบอีกครั้ง หากคราบเลือดยังคงอยู่หลังจากที่ซักผ้าปูที่นอนแล้ว คุณจะต้องขจัดคราบและซักซ้ำไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมองไม่เห็นคราบเลือด เมื่อคราบเลือดหมดไปแล้ว คุณก็สามารถผึ่งผ้าให้แห้งได้ตามปกติ
- คุณสามารถใช้น้ำยาฟอกขาวกับผ้าปูสีขาวได้
โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 3:

ขจัดคราบเลือดที่แห้งแล้ว

ดาวน์โหลดบทความ

1
ถอดผ้าปูที่นอนออก และแช่ส่วนที่เป็นคราบในน้ำเย็นเป็นเวลาสองถึงสามชั่วโมง หรืออาจจะแช่นานข้ามคืน. น้ำเย็นจะช่วยให้คราบเลือดที่แห้งแล้วจางลง คุณสามารถใช้วิธีซักผ้าปูด้วยเครื่องซักผ้าได้เช่นกัน โดยใช้น้ำเย็นและผงซักฟอก วิธีนี้ไม่ใช่การขจัดคราบ แต่ก็จะช่วยให้คราบจางลงได้ ให้ทำขั้นตอนนี้แล้วตามด้วยขั้นตอนขจัดคราบขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งจากด้านล่างนี้
- โปรดจำไว้ว่าคราบอาจจะเป็นคราบถาวร โดยเฉพาะเมื่อตัวผ้าได้ผ่านการอบแห้งมาแล้ว ความร้อนจะทำให้คราบฝังลึก ดังนั้นหากคุณเคยนำผ้าปูไปใส่ในเครื่องอบแห้งมาแล้ว คราบที่มีอยู่ก็จะฝังลึกถึงใยผ้าเป็นที่เรียบร้อย
สำหรับคราบที่เปื้อนเล็กน้อย ให้เติมชามด้วยน้ำส้มสายชู แล้วแช่ผ้าส่วนที่มีคราบลงไป สำหรับคราบที่มีขนาดใหญ่ ให้วางผ้าขนหนูหรือผ้าขี้ริ้วรองใต้ส่วนที่เป็นคราบ แล้วเทน้ำส้มสายชูลงบนคราบ รอสัก 30 นาที (ทั้งคราบขนาดเล็กและคราบขนาดใหญ่) แล้วจึงซักผ้าปูที่นอนตามปกติโดยใช้น้ำเย็น
ผสมผงหมักเนื้อ 1 ช้อนโต๊ะ กับน้ำเย็น 2 ช้อนชา ป้ายส่วนผสมให้ทั่วคราบ เพื่อให้มันซึมลึกไปถึงใยผ้า รอสัก 30 ถึง 60 นาที แล้วจึงแปรงออก และนำไปซักในน้ำเย็น^{[11]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
ผสมผงซักฟอก 1 ส่วน และน้ำเปล่า 5 ส่วน ลงในถ้วย คนให้เข้ากันและนำไปป้ายที่คราบ แปรงเบาๆ ด้วยแปรงขนสัตว์ และรอสัก 10 ถึง 15 นาที ซับคราบด้วยฟองน้ำหรือผ้าขนหนูชุบน้ำ แล้วซับให้แห้งด้วยผ้าขนหนูสีขาว^{[12]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
5
ใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์กับคราบฝังลึก. เทไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ลงที่คราบ แปรงเบาๆ ด้วยแปรงขนสัตว์ รอสัก 5 ถึง 10 นาที แล้วจึงซับคราบด้วยฟองน้ำหรือผ้าขี้ริ้วชุบน้ำ ซับคราบอีกครั้งด้วยผ้าขนหนูแห้ง^{[13]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- แสงจะเปลี่ยนไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เป็นน้ำ ดังนั้น ถ้าห้องของคุณสว่าง ให้คลุมคราบด้วยพลาสติก แล้วตามด้วยผ้าขนหนู
- ลองแต้มทดสอบบนผ้าสีก่อน เพราะไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์อาจจะทำให้สีผ้าด่างหรือซีดลงได้
- หากไม่ได้ผล ให้ใช้สารแอมโมเนียเข้มข้นเป็นวิธีสุดท้าย แต่อย่าใช้กับผ้าสี^{[14]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
แช่ผ้าส่วนที่มีคราบฝังลึกขจัดยากในสารบอแรกซ์ผสมน้ำเป็นเวลาสองถึงสามชั่วโมง หรือนานข้ามคืน. ทำตามคำแนะนำบนกล่องสารบอแรกซ์ในการแช่ผ้า จุ่มคราบลงในสารเป็นเวลาสองถึงสามชั่วโมง หรือนานข้ามคืน ล้างออกด้วยน้ำในวันต่อมา แล้วนำไปแขวนผึ่งให้แห้ง^{[15]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
7
ซักผ้าปูที่นอนหลังจากทำตามขั้นตอนขจัดคราบแล้ว. ใช้น้ำเย็น ผงซักฟอกสูตรอ่อนโยน และกระบวนการซักตามปกติที่คุณใช้ประจำ นำผ้าปูออกจากเครื่องซักผ้าทันทีที่ซักเสร็จ อย่านำมันไปใส่ในเครื่องอบแห้ง แต่ให้ผึ่งมันด้วยลมหรือแดดจนแห้งแทน
- คราบเลือดอาจไม่จางออกจนหมด หากยังคงมีคราบอยู่ ให้ทำตามขั้นตอนขจัดคราบซ้ำ
- คุณสามารถใช้สารฟอกขาวกับผ้าขาวได้
โฆษณา

วิธีการ 3

วิธีการ 3 ของ 3:

ทำความสะอาดฟูกและเครื่องนอน

ดาวน์โหลดบทความ

หากผ้าปูที่นอนของคุณเปื้อน ให้ตรวจดูที่ฟูกกับผ้ารองกันเปื้อน ฟูกกับผ้ารองกันเปื้อนก็อาจจะมีคราบได้เช่นกัน และคุณจะต้องทำความสะอาดมันด้วย
2
ทำให้คราบบนผ้ารองกันเปื้อนชุ่มด้วยน้ำเย็น. หากเป็นคราบใหม่ คุณอาจจะแค่ใช้น้ำเย็นในการขจัดมันออก แต่ถ้าคราบแห้งแล้ว การทำให้ชุ่ม (ประมาณสองถึงสามชั่วโมง หรือนานข้ามคืน) ก็จะช่วยให้คราบจางลงและขจัดออกง่ายขึ้น
- หากคราบอยู่บนฟูก ให้ฉีดน้ำไปที่คราบเล็กน้อย แต่อย่าให้เปียกถึงขั้นชุ่ม
ใช้ยาป้ายที่ทำจากแป้งข้าวโพด ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ และเกลือ. ผสมแป้งข้าวโพด ½ ถ้วย (65 กรัม) ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ¼ ถ้วย (60 มิลลิลิตร) และเกลือ 1 ช้อนโต๊ะ ป้ายยาให้ทั่วคราบ ปล่อยให้แห้ง แล้วแปรงออก ทำตามขั้นตอนซ้ำอีกครั้งหากจำเป็น^{[16]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
ซับคราบบนฟูกด้วยน้ำส้มสายชูกลั่นขาว หรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์. อย่าทำให้คราบชุ่มด้วยน้ำส้มสายชู หรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ แต่ให้ชุบน้ำส้มสายชูกลั่นขาว หรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ด้วยผ้าสะอาดแทน บิดผ้าเพื่อเอาน้ำส่วนเกินออก แล้วจึงนำไปเช็ดที่คราบ หากคราบเลือดทำให้ผ้าสกปรก ก็ให้ใช้ส่วนที่สะอาดเช็ดต่อแทน เพื่อไม่ให้คราบกลับไปอยู่บนฟูก
5
ใช้วิธีการขจัดคราบบนผ้าปูที่นอนวิธีใดก็ได้กับผ้าคลุมเตียงและผ้ารองกันเปื้อน. เมื่อคุณขจัดคราบออกได้แล้ว ก็ให้นำมันไปซักแยกในเครื่องซักผ้า โดยซักด้วยน้ำเย็นกับผงซักฟอกสูตรอ่อนโยน ซักสักสองรอบหากคุณสามารถ^{[17]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ใส่ลูกเทนนิสหรือลูกบอลซักผ้าฟูเข้าไปในเครื่องอบแห้งพร้อมกับผ้าคลุมเตียงเพื่อทำให้ผ้ากลับมานุ่มฟูอีกครั้ง
โฆษณา

เคล็ดลับ

ป้ายทดสอบผ้าสีตรงส่วนที่มักจะมองไม่เห็น เช่น ตามแนวตะเข็บ หรือขอบผ้า วิธีนี้จะช่วยทำให้คุณรู้ว่าวิธีการขจัดคราบที่จะใช้จะทำให้สีผ้าด่างหรือซีดลงหรือไม่
มีผลิตภัณฑ์บางชนิดตามท้องตลาดที่สามารถใช้ขจัดคราบหนักได้ รวมถึงคราบเลือดด้วย ลองมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอมโมเนีย ซึ่งสามารถขจัดคราบเลือดได้ดูสิ
ฉีดน้ำมะนาวไปที่คราบก่อนจะใช้สเปรย์หรือแท่งขจัดคราบ ทิ้งไว้สักสองถึงสามนาทีก่อนนำไปซัก
หากคราบมีขนาดเล็กมาก ให้ลองใช้น้ำลายดู ถ่มน้ำลายลงบนคราบ แล้วซับให้แห้งด้วยผ้าสะอาด^{[18]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
ใช้แผ่นรองที่นอนหรือแผ่นรองกันเปื้อนเพื่อไม่ให้ฟูกเปื้อนคราบ
ลองใช้เอนไซม์ขจัดคราบดู แต่ระวังอย่าใช้กับผ้าปูที่นอนที่ทำจากไหมหรือขนแกะ^{[19]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}

โฆษณา

คำเตือน

อย่าใส่ผ้าปูที่นอนที่มีคราบเข้าเครื่องอบแห้งเด็ดขาด ความร้อนจะทำให้คราบฝังลึก ดูให้ดีว่าคราบหมดไปหรือยัง ก่อนจะใช้เครื่องอบแห้ง
ห้ามใช้น้ำร้อนเด็ดขาด เพราะจะยิ่งเป็นการทำให้คราบฝังลึก

โฆษณา