ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความX
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Alicia Ramos. อลิเซีย รามอสเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความงามที่มีใบอนุญาตและเป็นเจ้าของ Smoothe Denver ในเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด เธอได้รับใบอนุญาตจากวิทยาลัยเสริมความงาม โดยผ่านการฝึกในด้านการสักคิ้ว โกนขนหน้า แว็กซ์ การขัดผิว และการลอกผิวด้วยสารเคมี และตอนนี้เป็นผู้ดูแลผิวพรรณให้กับลูกค้านับพัน
มีการอ้างอิง 11 ข้อที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ
บทความนี้ถูกเข้าชม 11,510 ครั้ง
เปลือกตาบวม เป็นปัญหาผิวหนังที่น่ารำคาญซึ่งอาจจะเกิดจากอะไรก็ได้ตั้งแต่ปฏิกิริยาภูมิแพ้ไปจนถึงการขาดน้ำ แม้ว่าอาการเปลือกตาบวมบางอย่างอาจจะต้องได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญ แต่ส่วนใหญ่จะสามารถรักษาได้โดยใช้สิ่งที่ใช้รักษาที่บ้านธรรมดาๆ
ขั้นตอน
ทาครีมแก้อักเสบที่หาซื้อได้เองโดยไม่ต้องใช้ใบสั่งแพทย์รอบดวงตา. ครีมรักษาริดสีดวงทวารก็เป็นสารแก้อักเสบที่สามารถลดอาการบวมได้เช่นกัน ค่อยๆ แตะครีมรอบบริเวณเบ้าตาใต้ดวงตา อย่าให้สัมผัสกับเปลือกตาเมื่อสังเกตเห็นอาการบวมเพิ่มขึ้น[1]- อย่าให้ครีมเข้าตา เพราะว่านี่อาจจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้
กดอะไรเย็นๆ ลงบนบริเวณที่บวม. นำน้ำแข็งใส่ในผ้าขนหนูนิ่มๆ แล้วกดลงบนบริเวณที่บวม ถ้าคุณไม่มีน้ำแข็ง ให้นำช้อนสองคันใส่ในช่องแช่แข็งประมาณ 10-15 นาที จากนั้นนำมาห่อในผ้าขนหนูกระดาษและวางกดพวกมันบนเปลือกตาของคุณ ความเย็นจะช่วยลดอาการบวมและบรรเทาอาการปวดใดๆ ก็ตาม[2]- จำไว้ว่าน้ำแข็งหรือวัตถุแช่แข็งไม่ควรจะสัมผัสกับผิวหนังของคุณโดยตรง ให้แน่ใจว่ามีสิ่งที่กีดขวางเสมอ เช่น ผ้าขนหนูกระดาษ หรือผ้า
วางแตงกวาหั่นเป็นแว่นเย็นๆ ลงบนดวงตาของคุณ. คุณจะต้องเอนศีรษะไปข้างหลังและค้างไว้อย่างนั้นสักครู่หนึ่ง แต่แตงกวาเย็นๆ เป็นวิธีที่ดีและผ่อนคลายในการลดอาการเปลือกตาบวม แตงกวามีกรดแอสคอร์บิก (Ascorbic Acid) ที่ช่วยลดอาการระคายเคือง และความเย็นจะช่วยเกี่ยวกับอาการบวมได้อีกด้วย[3]- หั่นแตงกวาเป็นสองชิ้นบางๆ
- เอนศีรษะไปด้านหลัง
- วางชิ้นแตงกวาไว้บนดวงตาของคุณ
- ทิ้งไว้อย่างน้อย 10 นาที
- เอาออกและล้างหน้า
วางมันฝรั่งหั่นเป็นแผ่นบนบริเวณที่บวม. มันฝรั่งมีเอนไซม์ที่เรียกว่า เคตีคอเลส (Catecholase) ซึ่งช่วยลดการกักน้ำรอบดวงตา วางชิ้นมันฝรั่งแผ่นบางๆ ไว้บนดวงตาแต่ละข้างและทิ้งไว้อย่างน้อย 10 นาทีก่อนเอาออกและล้างหน้า[4]
แตะบนเปลือกตาของคุณเบาๆ . ของเหลวจะสะสมบนเปลือกตาของคุณในชั่วข้ามคืนเพราะว่าคุณไม่ได้กะพริบตา การแตะบนเปลือกตาจะช่วยให้น้ำส่วนเกินระบายออกจากเปลือกตาที่บวมของคุณ[5]
หลีกเลี่ยงการขยี้ตา. แม้ว่าการแตะเบาๆ อาจจะทำให้ของเหลวระบายออกไปได้ แต่การขยี้อย่างแรงอาจจะทำให้สถานการณ์มีแต่จะแย่ลง พยายามอย่าขยี้ตาตลอดทั้งวันแม้ว่าคุณจะง่วงนอนก็ตาม[6]
ใช้ยาหยอดตาเพื่อให้ดวงตาชุ่มชื้น. ถ้าอาการบวมเกิดจากความแห้งและอาการระคายเคืองที่บางครั้งเกิดขึ้นพร้อมกับอาการแพ้แล้วล่ะก็ ยาหยอดตาที่ไม่ต้องใช้ใบสั่งยาจากแพทย์อาจจะเป็นวิธีที่ไม่แพงและง่ายในการทำให้ดวงตาของคุณดูดีขึ้นและรู้สึกดีขึ้น ถ้าคุณมีอาการแพ้หรือไข้ละอองฟาง ให้ปรึกษาแพทย์ให้สั่งยาหยอดตาให้เพื่อช่วยจัดการอาการของคุณ[7]- หายาหยอดตาที่ปราศจากสารกันบูด เนื่องจากบางคนแพ้สารกันบูดในยาหยอดตาธรรมดา
- ถ้าอาการบวมเกิดจากการติดเชื้อมากกว่าอาการแพ้ แพทย์อาจจะสั่งยาหยอดตาแก้อักเสบหรือยาปฏิชีวนะให้แทน
ถ้าทำได้ก็อย่าใส่คอนแทคเลนส์. แม้ว่าคุณจะไม่ได้รู้สึกอะไรตอนใส่คอนแทคเลนส์ แต่มันก็คือชั้นพลาสติกที่ถูกับเปลือกตาตลอดทั้งวัน ถ้าเปลือกตาของคุณบวมแล้วล่ะก็ การใส่แว่นตาแทนไปสักพักหนึ่งก็อาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงอาการระคายเคืองเพิ่มมากขึ้น[8]- อย่างไรก็ตาม การปล่อยให้ดวงตาได้หายใจบ้างเป็นครั้งคราวนั้นดีต่อดวงตาของคุณ
โฆษณา
กินเกลือให้น้อยลง. ถ้าคุณกินโซเดียมมากเกินไปจากอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพจะทำให้ร่างกายของคุณกักน้ำมากขึ้น เนื่องจากปริมาณเกลือในระบบของร่างกาย[9] การสะสมของเหลวส่วนเกินนี้จะทำให้คุณเกิดอาการบวมที่เปลือกตา สมาคมโรคหัวใจสหรัฐอเมริกา (American Heart Association) แนะนำให้บริโภคโซเดียมไม่เกิน 1,500 มิลลิกรัมต่อวัน ถ้าคุณยังบวมน้ำอยู่ คุณอาจจะต้องกินเกลือน้อยกว่านั้นอีก
ดื่มน้ำให้เพียงพอ. ตอนตื่นนอนให้ดื่มน้ำสักแก้วหนึ่งก่อน และดื่มน้ำอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ความชุ่มชื้นที่เหมาะสมจะช่วยป้องกันการสะสมของเลือดรอบดวงตาที่อาจจะทำให้เกิดอาการบวมและแดงได้[10]- ตามข้อแนะนำด้านสุขภาพทั่วไป ผู้ชายควรดื่มน้ำวันละประมาณ 13 แก้ว ในขณะที่ผู้หญิงควรดื่มประมาณ 9 แก้ว[11]
- ถ้าคุณขาดน้ำ คุณอาจจะดื่มได้มากกว่าปริมาณที่แนะนำเพื่อช่วยให้ร่างกายของคุณกลับมาทำงานได้เต็มที่อย่างที่ควรจะเป็น
นอนหลับ 7-9 ชั่วโมงต่อคืน. ขึ้นอยู่กับว่าร่างกายของคุณตอบสนองต่อหนี้การนอนอย่างไร การนอนหลับไม่พออาจจะทำให้เกิดรอยคล้ำใต้ดวงตา อาการบวมที่เปลือกตา หรือทั้งสองอย่างรวมกัน ให้มีรูปแบบการนอนหลับที่สม่ำเสมอตามคำแนะนำของ Mayo Clinic ว่าผู้ใหญ่ควรจะนอนหลับคืนละ 7-9 ชั่วโมง[12]- ถ้าทำได้ ให้ลองนอนหงายโดยยกศีรษะขึ้นเล็กน้อย โดยนี่จะช่วยระบายน้ำออกจากใบหน้าของคุณและลดอาการบวมตอนคุณตื่นนอน
ให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้เป็นโรคภูมิแพ้. เปลือกตาบวม พร้อมกับอาการแดง อาการคัน และน้ำตาไหลนั้นเป็นอาการทั่วไปของโรคภูมิแพ้ ถ้าผลทดสอบสำหรับโรคภูมิแพ้ของคุณเป็นบวกซึ่งทำให้เกิดอาการบวม ให้หยุดใช้ผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยา หรือถ้าไม่สามารถหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ได้ ก็ให้ปรึกษาแพทย์ให้สั่งยาให้ แหล่งที่ทำให้เกิดอาการแพ้ที่พบได้บ่อยที่อาจจะทำให้เปลือกตาบนของคุณบวมนั้น ได้แก่:[13]- เครื่องสำอางและ/ หรือผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอาง
- ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่มีส่วนผสมของน้ำมัน
- ครีมกันแดด
- รา (ในบริเวณที่คุณนอนและที่อยู่อาศัยของคุณ ในหนังสือ ฯลฯ)
- ตัวไรหรือแมลง (รวมไปถึง รอยแมลงกัดด้วย)
- ละอองเกสร
- สะเก็ดผิวหนังของสัตว์เลี้ยง
- อาหาร
ใส่ผ้าปิดตาตอนนอนหลับ. แรงกดเบาๆ ของผ้าปิดตาที่กดบนเปลือกตาของคุณจะป้องกันไม่ให้ของเหลวก่อตัวขึ้นในช่วงข้ามคืน ใช้ผ้าปิดตาที่นุ่มและสบายที่ใส่พอดีในช่วงเวลาที่คุณนอนหลับ แต่ไม่แน่นจนรู้สึกอึดอัด[14]โฆษณา
คำเตือน
- ถ้าเปลือกตาของคุณบวมอย่างน่าเป็นห่วง หรือถ้ามีอาการปวดอย่างรุนแรงหรืออาการระคายเคืองร่วมด้วย ให้ไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.15minutebeauty.com/2014/03/preparation-h-under-eyes.html
- ↑ http://www.allaboutvision.com/conditions/swollen-eyelids.htm
- ↑ http://homeremediesforlife.com/cucumber-for-puffy-eyes/
- ↑ http://diyremedies.org/potato-for-puffy-eyes/
- ↑ http://www.eyehealthweb.com/swollen-eyelid/
- ↑ http://www.allaboutvision.com/conditions/swollen-eyelids.htm
- ↑ http://www.allaboutvision.com/cosmetic/puffy-eyes.htm
- ↑ http://www.eyehealthweb.com/puffy-eyes/
- ↑ http://www.actiononsalt.org.uk/salthealth/factsheets/retention/
- ↑ https://universityhealthnews.com/daily/energy/the-dangers-of-dehydration-swollen-eyes-and-a-shrunken-brain/
- ↑ http://www.mayoclinic.org/healthy-living/nutrition-and-healthy-eating/in-depth/water/art-20044256
- ↑ http://www.mayoclinic.org/healthy-living/adult-health/expert-answers/how-many-hours-of-sleep-are-enough/faq-20057898
- ↑ http://www.eyehealthweb.com/swollen-eyelid/
- ↑ http://www.eyehealthweb.com/puffy-eyes/
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
Medical Aesthetician
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Alicia Ramos. อลิเซีย รามอสเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความงามที่มีใบอนุญาตและเป็นเจ้าของ Smoothe Denver ในเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด เธอได้รับใบอนุญาตจากวิทยาลัยเสริมความงาม โดยผ่านการฝึกในด้านการสักคิ้ว โกนขนหน้า แว็กซ์ การขัดผิว และการลอกผิวด้วยสารเคมี และตอนนี้เป็นผู้ดูแลผิวพรรณให้กับลูกค้านับพัน บทความนี้ถูกเข้าชม 11,510 ครั้ง
หมวดหมู่: การดูแลและไลฟ์สไตล์
มีการเข้าถึงหน้านี้ 11,510 ครั้ง
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.
โฆษณา
