บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Raymond Chiu. เรย์มอนด์ ชิวเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการทำความสะอาดและผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการของ MaidSailors.com ผู้ให้บริการทำความสะอาดชั้นนำ Maid Sailors ภูมิใจที่ได้ให้บริการการทำความสะอาดทั้งอาคารบ้านรือนและอาคารสำนักงานในราคาย่อมเยาว์
บทความนี้ถูกเข้าชม 34,679 ครั้ง
คราบน้ำที่ฝังแน่นจะเป็นจุดฝ้าสีขาวบนผิวกระจก ซึ่งเกิดจากการสะสมตัวของอัลคาไลน์และแร่ธาตุอื่นๆ ในน้ำ ขณะที่คราบสกปรกเหล่านี้ยากที่จะกำจัดออกได้ แต่ก็มีวิธีทำความสะอาดและป้องกันมากมายที่จะช่วยให้กระจกของคุณกลับมาใสสะอาดได้ดังเดิม
ขั้นตอน
- ใช้น้ำยาทำความสะอาดชนิดที่เป็นกรดจะได้ผลดี. เนื่องจากคราบน้ำนั้นเป็นด่าง จึงใช้กรดขจัดได้ดี มองหาผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของกรดฟอสฟอริก, ซัลฟูริก หรือไฮโดรคลอริก เพราะกรดเหล่านี้สามารถขจัดคราบน้ำได้ผล อ่านคำแนะนำบนฉลากแล้วใช้ตามคำแนะนำ[1]
- น้ำยาทำความสะอาดชนิดที่เป็นกรดนั้นเป็นสารพิษ จึงต้องแน่ใจว่าได้ป้องกันเบื้องต้นเวลาใช้ เช่น สวมแว่นตาและถุงมือนิรภัย และอย่าใช้มันบนพื้นผิวที่ต้องสัมผัสโดยตรงกับอาหาร เช่น บนเคาน์เตอร์ครัว
- น้ำยาทำความสะอาดชนิดที่เป็นกรดจะใช้ได้ผลดีบนพื้นผิวเอนาเมลกับอะครีลิก แต่สามารถทำความเสียหายกับประเภทอื่นได้ เช่น พื้นหินอ่อน หิน หินขัด อลูมิเนียม และปูนสี การป้องกันจึงควรทดสอบในบริเวณที่ไม่เตะตาก่อนจะใช้ลงบนพื้นที่ทั้งหมด[2]
- ผสมเกลือเข้ากับน้ำ. ผสมเกลือกับน้ำแล้วใช้ส่วนผสมนี้ในการกำจัดแร่ธาตุที่ก่อตัวขึ้น เกลือจะทำหน้าที่เป็นผงขัด และสามารถขัดผ่านรอยคราบน้ำได้ ให้ใช้ส่วนผสมทาลงบริเวณที่มีคราบและใช้ผ้าสะอาดถูคราบเป็นวงกลม จากนั้นล้างน้ำเกลือที่เหลือออกให้สะอาดเมื่อขัดเสร็จ
- ใช้น้ำส้มสายชูใส. น้ำส้มสายชูมีฤทธิ์เป็นกรด ซึ่งจะสามารถทำให้แร่ธาตุที่ฝังอยู่คลายตัวได้ และน้ำส้มสายชูสูตรใสก็มีคุณสมบัติที่ไร้สี เหมาะกับที่จะไม่มีคราบสีใดๆ หลงเหลือเอาไว้ วิธีนี้ยังเป็นวิธีทำความสะอาดด้วยของเหลวตามธรรมชาติซึ่งไม่เป็นพิษ และไม่ก่อให้เกิดปัญหากับตาหรือปอดของคุณเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นเคมีอื่นๆ
- ผสมน้ำเลมอนเข้ากับน้ำส้มสายชูเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเพิ่มกลิ่นเลมอน น้ำเลมอน (ซึ่งเป็นกรดเช่นกัน) ให้ผลกับแร่ธาตุในน้ำเช่นเดียวกับน้ำส้มสายชู[3]
- เทน้ำส้มสายชูและน้ำเลมอนลงในขวดสเปรย์ และนำไปอุ่นเล็กน้อยในไมโครเวฟ สัก 20-40 วินาที ขึ้นอยู่กับประเภทของไมโครเวฟคุณ สารทำความสะอาดที่อุ่นจะได้ประสิทธิภาพในการดึงคราบออกมามากกว่าแบบเย็นหรือในอุณหภูมิห้อง และขอแค่เปิดฝาขวดสเปรย์เอาไว้ตอนเวฟเพื่อที่มันจะได้ไม่ระเบิดออกในไมโครเวฟ[4]
- ฉีดสารละลายลงบนผิวกระจกแล้วทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที ก่อนที่จะเช็ดออกให้แห้งด้วยทิชชู่แผ่นหนาหรือผ้าชนิดไร้ขนหรือเส้น
- เพื่อที่จะกำจัดคราบฝังแน่นจากแก้วน้ำดื่มหรือแก้วชนิดอื่นๆ ที่มีขนาดเล็ก ให้ผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำเปล่าอัตราส่วน 50/50 แล้วแช่แก้วลงในสารละลายหลายๆ ชั่วโมงก่อนที่จะล้างออกให้สะอาด
- เติมน้ำยาเคลือบแห้งลงในน้ำยาล้างจาน. น้ำยาเคลือบแห้ง เช่น ยี่ห้อ Finish จะช่วยกำจัดคราบน้ำฝังแน่นจากจานของคุณได้ โดยให้เติมน้ำยาเคลือบแห้งผสมน้ำยาล้างจานลงในช่องสำหรับใส่น้ำยานี้ของเครื่องล้างจานที่ใช้ตามปกติ จากนั้นก็เปิดเครื่องเพื่อล้างทำความสะอาดแก้ว
- เติมแอมโมเนียลงในน้ำยาทำความสะอาดทั่วไป. คุณสามารถลองเพิ่มพลังให้กับน้ำยาทำความสะอาดหน้าต่าง/กระจกอเนกประสงค์ด้วยแอมโมเนีย เพื่อทะลวงคราบน้ำฝังแน่นก็ย่อมได้[5]
- ขอความช่วยเหลือจากร้านขายอุปกรณ์เกี่ยวกับบ้าน. ถ้าผลิตภัณฑ์ที่วางขายอยู่ยังไม่ให้ผลที่น่าพึงพอใจอีก คุณก็สามารถไปหาผลิตภัณฑ์ที่แรงกว่าได้จากร้านขายอุปกรณ์ใกล้บ้าน ขอให้ระมัดระวังและทำตามคำแนะนำของผลิตภัณฑ์อย่างเคร่งครัด เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านั้นจะแรงมาก[6]โฆษณา
- เริ่มด้วยวิธีที่ต้อง“ออกแรง”ก่อน. ก่อนที่จะไปใช้วิธีแพงๆ หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อาจเป็นพิษ ให้ลองใช้วิธีการขัดดูก่อนเป็นอันดับแรก
- ใช้แผ่นขัดหรือฟองน้ำสำหรับขัด เพื่อขัดผิวกระจกอย่างปลอดภัย[7] พยายามขัดออกด้วยฟองน้ำชุ่มๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
- ห้ามใช้แปรงขนแข็งหรือวัสดุทำความสะอาดที่รุนแรงในการทำความสะอาดกระจก เพื่อไม่ให้เกิดรอยขีดข่วนขึ้นบนผิวกระจกได้
- การขัดจะได้ผลดีที่สุดในคราบน้ำฝังแน่นเล็กๆ รอยคราบใหม่ และคราบที่ยังไม่ฝังแน่น[8]
- ขัดออกด้วยแปรงสีฟัน. หลายๆ คนเลือกจะใช้ยาสีฟันแทนเบกกิ้งโซดา[9]
- ทายาสีฟันลงบนผ้าขนหนูชุ่มๆ และถูบนคราบน้ำเป็นวงกลม
- รอสองสามนาที จากนั้นล้างยาสีฟันออกด้วยน้ำเปล่าผสมน้ำส้มสายชูที่อัตราส่วนเท่ากันเพื่อล้างคราบที่หลงเหลือออก
- ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด. มีผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมากมายที่ผลิตขึ้นมาเพื่อใช้สำหรับคราบน้ำ โดยมีรูปแบบเป็นเนื้อครีม
- ประโยชน์หลักๆ ของการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ไม่ใช่ของเหลวคือ มันจะไม่ทิ้งคราบของเหลวหรือคราบน้ำของตัวผลิตภัณฑ์เองเอาไว้
- ส่วนข้อเสียก็คือ มันอาจทำให้เกิดหมอกขึ้นได้ ถ้าหากว่าไม่ขัดมันออกจากกระจก ฉะนั้นให้แน่ใจว่าได้ทำตามคำแนะนำเพื่อเลี่ยงการเกิดผลข้างเคียงดีแล้ว
โฆษณา
- หยุดคราบก่อนที่มันจะเกิด. หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการกำจัดคราบน้ำก็คือกีดขวางสาเหตุของปัญหา และพยายามปรับค่ากรด-ด่างและระดับของแร่ธาตุในน้ำ
- คุณสามารถลองกำจัดแร่ธาตุในน้ำได้โดยการติดตัวกรองในระบบจ่ายน้ำของคุณ[10]
- ระบบกรองความกระด้างของน้ำสามารถใช้เพื่อลดความกระด้างของน้ำได้เช่นกัน
- เช็ดและทำความสะอาดผิวกระจก. ควรเช็ดน้ำกระด้างออกเพื่อป้องกันไม่ให้แห้งเป็นคราบ
- เช็ดประตูห้องอาบน้ำฝักหัวให้แห้งทุกครั้งหลังใช้ ด้วยผ้าไร้ขนหรือเส้น หรือไม้กวาดหุ้มยาง เพื่อกำจัดหยดน้ำหรือรอยน้ำที่เหลือ[11]
- ทำความสะอาดกระจกประมาณทุกๆ สัปดาห์ เพื่อไม่ให้เกิดคราบน้ำขึ้น
- ทำอย่างรวดเร็ว ยิ่งทิ้งคราบไว้นานเท่าไร ก็จะยิ่งกำจัดออกยากเท่านั้น และมันยังมีสิทธิ์ติดบนผิวกระจกอย่างถาวรอีกด้วยนะ[12]
- ป้องกันไม่ให้เกิดคราบน้ำในอนาคต. คุณยังสามารถเลี่ยงไม่ให้เกิดคราบน้ำด้วยการป้องกันหรือปกคลุมผิวกระจกได้ด้วยนะ
- สำหรับโต๊ะกระจก ให้ใช้ถาดรองแก้ววางใต้แก้วน้ำดื่ม มันจะกั้นหยดน้ำและน้ำที่หกและไม่ทำให้เกิดรอยน้ำที่เป็นวงกลมเหลือไว้บนโต๊ะอีกด้วย[13]
- สำหรับประตูห้องอาบน้ำฝักบัว ให้พิจารณาในการใช้ผลิตภัณฑ์ขี้ผึ้งเคลือบป้องกันทุกๆ ครั้งหรือสองครั้งต่อปี น้ำจะไหลลงจากประตูที่เคลือบเอาไว้ และทำให้กระจกใสสะอาดอยู่เสมอ[14]
โฆษณา
เคล็ดลับ
- ถ้าคุณไม่มั่นใจในการใช้ผลิตภัณฑ์ ให้ลองใช้กับจุดที่ไม่เป็นที่สังเกตดูก่อนเพื่อเลี่ยงไม่ให้เกิดความเสียหาย[15]
- ถ้าคราบน้ำยังอยู่ ให้ฉีดสเปรย์ใส่อีกครั้ง ทิ้งเอาไว้ และเช็ดออก โดยให้ทำซ้ำหากจำเป็น
- ลองใช้ฟองน้ำทำความสะอาดแทนที่จะเป็นผ้า เพราะมันมีแนวโน้มว่าจะขัดออกได้ดีกว่า และมีสิทธิ์ที่ทำให้เกิดการถลอกน้อยกว่า[16]
คำเตือน
- ทำตามคำแนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์และสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันให้เหมาะสม (ถุงมือ แว่นตานิรภัย หน้ากากนิรภัย) ก่อนจะใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นสารเคมี
- ห้ามผสมแอมโมเนียกับน้ำยาฟอกขาว
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://homequicks.com/how-to-remove-hard-water-stains
- ↑ http://www.housecleaningcentral.com/en/cleaning-tips/stain-removal/hard-water.html
- ↑ http://www.howtocleanstuff.net/how-to-clean-hard-water-stains/
- ↑ http://www.howtocleanstuff.net/how-to-clean-hard-water-stains/
- ↑ http://www.howtocleanstuff.net/how-to-clean-hard-water-stains/
- ↑ http://www.howtocleanstuff.net/how-to-clean-hard-water-stains/
- ↑ http://www.housecleaningcentral.com/en/cleaning-tips/stain-removal/hard-water.html
- ↑ http://www.housecleaningcentral.com/en/cleaning-tips/stain-removal/hard-water.html
- ↑ http://www.thriftyfun.com/Removing-Hard-Water-Spots-on-Windows.html
- ↑ http://www.housecleaningcentral.com/en/cleaning-tips/stain-removal/hard-water.html
- ↑ http://www.housecleaningcentral.com/en/cleaning-tips/stain-removal/hard-water.html
- ↑ http://www.howtocleanstuff.net/how-to-clean-hard-water-stains/
- ↑ http://www.housecleaningcentral.com/en/cleaning-tips/stain-removal/hard-water.html
- ↑ http://www.housecleaningcentral.com/en/cleaning-tips/stain-removal/hard-water.html
- ↑ http://www.housecleaningcentral.com/en/cleaning-tips/stain-removal/hard-water.html
- ↑ http://www.howtocleanstuff.net/how-to-clean-hard-water-stains/
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.