ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความX
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Mohiba Tareen, MD. โมฮิบา ทารีนเป็นแพทย์โรคผิวหนังที่ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการและเป็นผู้ก่อตั้ง Tareen Dermatology ในโรสวิลล์ เมเปิลวูดและฟาริโบลท์ มินนิโซตา แพทย์หญิงทารีนจบการศึกษาจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมิชิแกนในแอนอาร์เบอร์ ซึ่งเธอได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของ Alpha Omega Alpha สมาคมนักศึกษาเกียรตินิยมอันทรงเกียรติ และระหว่างที่เป็นแพทย์ประจำบ้านแผนกโรคผิวหนังที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบียในนิวยอร์กซิตี้ เธอก็ได้รับรางวัล Conrad Stritzler จากสมาคมโรคผิวหนังแห่งนิวยอร์กและได้ตีพิมพ์ผลงานใน The New England Journal of Medicine จากนั้นแพทย์หญิงทารีนก็สำเร็จการฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านต่อยอดด้านศัลยกรรมผิวหนัง เลเซอร์ และเวชศาสตร์ความงาม
บทความนี้ถูกเข้าชม 131,338 ครั้ง
คุณตัดสินใจย้อมผมเองที่บ้านเพื่อประหยัดเงิน และตอนนี้ก็ได้ผมสีแดงสวยตามแบบที่อยากได้มาตลอดแล้ว แต่เสร็จแล้วคุณก็สังเกตว่ามีคราบสีย้อมผมสีแดงเต็มมือและตามไรผมเต็มไปหมด! อย่ากังวลไป มีวิธีหลายวิธีเลยสำหรับกำจัดคราบสีย้อมผมแสนน่ารำคาญ รวมถึงมีวิธีป้องกันไม่ให้สีติดผิวหนังครั้งต่อไปที่คุณย้อมผมที่บ้านด้วย
ขั้นตอน
กำจัดคราบสีให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้. เมื่อคุณย้อมสีผมเสร็จ คุณจะต้องรีบกำจัดคราบสีที่มือหรือตามไรผมเพื่อที่สีจะได้ไม่ซึมเข้าไปในผิวหนัง สีที่ซึมเข้าไปในผิวหนังแล้วจะกำจัดออกได้ยากมาก และคุณจะต้องขัดผิวเยอะ[1]
ใช้ผงฟูหรือยาสีฟันที่มีผงฟูเป็นส่วนผสม. ผงฟูช่วยขัดขวางสารออกฤทธิ์ของสีย้อมผมได้ดี และเนื้อไม่หยาบมาก ผงฟูจะทำหน้าที่เป็นสครับธรรมชาติสำหรับมือและไรผมของคุณ[2]- อย่างไรก็ตาม หากผิวหนังของคุณระคายเคืองได้ง่าย ให้ใช้ผงฟูนิดเดียวผสมน้ำแล้วนำมาถูกับผิวเบาๆ หากผิวหนังแดงหรือรู้สึกแสบขึ้นมา ให้ลองใช้วิธีอื่นเพื่อกำจัดสีแทน
- คุณจะลองผสมน้ำมะนาวไปกับผงฟูและน้ำเพื่อให้ได้ส่วนผสมที่เป็นธรรมชาติและมีฤทธิ์กำจัดคราบได้มากขึ้นก็ได้
ใช้น้ำมันมะกอก เบบี้ออยล์ หรือมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีน้ำมันเป็นส่วนผสมหลัก. สีย้อมผมส่วนใหญ่จะสลายตัวเมื่อคุณใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำมันเป็นส่วนผสมหลักทาลงไปเพื่อกำจัดมันออกจากผิวหนัง น้ำมันมะกอก เบบี้ออยล์ หรือมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีน้ำมันเป็นส่วนผสมหลักล้วนใช้กำจัดสีย้อมผมได้ดีทั้งนั้น วิธีนี้เหมาะเป็นพิเศษสำหรับคนที่ผิวหนังระคายเคืองง่าย[3]- ใช้ก้อนสำลีจุ่มน้ำมันแล้วนำมาถูบริเวณผิวหนังที่ติดสีเป็นเวลาหลายๆ นาที
- ล้างสีและน้ำมันออกด้วยน้ำอุ่น ลองดูว่าสียังติดผิวอยู่หรือไม่ หากยังติดอยู่ ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำมันอีกครั้งและแช่ผิวส่วนที่ติดสีให้นานขึ้นก่อนจะใช้สำลีถูและล้างน้ำมันออก
- คุณจะทาเบบี้ออยล์หรือน้ำมันมะกอกทิ้งไว้บนผิวที่ติดสีข้ามคืนก็ได้เพื่อให้น้ำมันมีเวลาสลายสีย้อมผม ใช้ผ้าขนหนูปูทับหมอนเพื่อที่สีย้อมผมจะได้ไม่ติดปลอกหมอน ล้างน้ำมันและสีย้อมผมออกในตอนเช้าด้วยน้ำอุ่น[4]
ใช้ผงซักฟอกผสมน้ำยาล้างจาน. คุณสมบัติของผงซักฟอกคือมันจะช่วยกำจัดสีย้อมผมได้อย่างรวดเร็ว แต่มันอาจจะออกฤทธิ์แรงเกินไปสำหรับผิวบอบบางบนใบหน้า ฉะนั้นให้ผสมน้ำยาล้างจานที่ไม่มีกลิ่นเพื่อใช้กับผิวหนังบนใบหน้าด้วยหากคุณไม่ได้เป็นคนที่ผิวหนังระคายเคืองง่าย[5]- เทผงซักฟอกปริมาณน้อยใส่ผ้าขนหนูหมาดๆ และถูผิวส่วนที่ติดสี ถ้าคุณคิดว่าผงซักฟอกอาจจะแรงไปสำหรับผิวของคุณ ให้เทน้ำยาล้างจานปริมาณน้อยใส่ผ้าขนหนูหมาดแล้วนำมาถูผิวเพื่อกำจัดสีย้อมผม
- ถ้าคุณสังเกตว่าผิวเกิดอาการแดงหรือระคายเคือง ให้เลิกใช้วิธีนี้
- สบู่สามารถทำให้ผิวแห้ง ให้แน่ใจว่าคุณได้ใช้มอยเจอไรเซอร์หลังจากทำเสร็จ
ใช้สเปรย์ฉีดผมหรือน้ำส้มสายชู. ทั้งสองสิ่งนี้เป็นผลิตภัณฑ์ภายในบ้านที่สามารถกำจัดรอยสีย้อมผมออกจากผิวหนังได้จริง สเปรย์ฉีดผมและน้ำส้มสายชูสามารถกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ซึ่งรวมสีย้อมผมไปด้วย และทำหน้าที่เหมือนเป็นสารเร่งการผลัดเซลล์ผิว ช่วยเผยผิวใหม่ให้เห็น [6]- ใช้ก้อนสำลีชุบสเปรย์ฉีดผมหรือน้ำส้มสายชูเช็ดผิวหนังบริเวณที่ติดสีเป็นวงกลมเพื่อกำจัดสีย้อมผม
- เช็ดซ้ำตามความจำเป็น
- หากคุณรู้สึกระคายเคืองหรือผิวหนังเกิดอาการแดงหลังจากใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ให้เลิกใช้และลองทำตามวิธีอื่นที่อ่อนโยนกว่า
หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ฤทธิ์แรงๆ อย่างเช่นน้ำยาล้างเล็บ. น้ำยาล้างเล็บมีส่วนผสมที่อาจแรงเกินไปสำหรับผิวหนังของคุณ โดยเฉพาะผิวหนังที่บอบบางบริเวณใบหน้า ทางที่ดีควรใช้วิธีที่เหมาะสำหรับผิวหนังที่บอบบาง อย่างเช่นผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำมันเป็นส่วนผสมหลักมากกว่า[7][8]โฆษณา
ซื้อน้ำยากำจัดรอยเปื้อนแบบมืออาชีพ. หากคุณไม่สามารถกำจัดคราบสีย้อมผมออกไปจากผิวได้สักที ลองลงทุนซื้อน้ำยากำจัดรอยเปื้อนจากร้านค้าดู ร้านขายยาจำนวนมากขายยากำจัดรอยเปื้อนที่สามารถกำจัดสีที่เข้มเกินไปจากปลายผม รอยเปื้อนบนเสื้อผ้า และคราบสีบนผิวหนังได้
ใช้กระดาษเปียกกำจัดคราบ. ถ้าต้องการของที่ใช้ง่ายๆ ให้ลองหาซื้อกระดาษเปียกกำจัดคราบตามร้านขายยาใกล้บ้านดู กระดาษเปียกชนิดนี้จะช่วยสลายคราบสีบนผิวหนังและมักจะมีส่วนผสมที่จะไม่ทำให้ผิวหนังระคายเคือง
ปรึกษาช่างทำผมเรื่องผลิตภัณฑ์กำจัดคราบแบบมืออาชีพ. ช่างทำผมของคุณอาจจะสามารถช่วยแนะนำผลิตภัณฑ์สำหรับกำจัดคราบที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณและประเภทของสีย้อมผมของคุณ ลองขอคำแนะนำดู แต่ก็เตรียมตัวโดนดุที่ไม่ไปให้ร้านทำสีผมให้ด้วยนะ!โฆษณา
ใส่ถุงมือเวลาย้อมผม. ขั้นตอนแรกในการหลีกเลี่ยงไม่ให้สีย้อมผมติดผิวหนังก็คือการเตรียมพร้อมก่อนย้อมผมที่บ้าน ให้ซื้อถุงมือยางหรือถุงมือพลาสติกมาคู่หนึ่งเพื่อป้องกันมือของคุณ ปูแผ่นพลาสติกหรือหนังสือพิมพ์เพื่อปกป้องพื้นผิวรอบตัวขณะที่คุณย้อมผม และใส่เสื้อผ้าเก่าๆ ที่คุณยอมให้เลอะคราบสีได้[9]- หลังจากที่ย้อมสีผมแล้ว คุณควรใส่หมวกอาบน้ำพลาสติกเพื่อปกป้องผมของคุณและเลี่ยงไม่ให้สีย้อมผมติดผิวหนังหรือเสื้อผ้าด้วย
ใช้ผลิตภัณฑ์ปกป้องผมที่มีน้ำมันเป็นส่วนผสมหลักตามไรผมก่อนย้อมสีผม. อีกวิธีหนึ่งที่ดีมากคือการทำผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวรอบๆ ไรผมเองเพื่อที่สีย้อมผมจะได้ไม่สามารถซึมเข้าผิวได้[10]- ใช้ผลิตภัณฑ์อย่างเช่นวาสลีน (ปิโตรเลียมเจล) โลชั่นที่มีน้ำมันเป็นส่วนผสมหลัก หรือแม้แต่ลิปมัน ใช้นิ้วทาผลิตภัณฑ์ไปตามไรผม หลังใบหู รวมถึงหลังลำคอเพื่อที่สีย้อมผมจะได้ไม่สามารถทำผิวหนังเป็นคราบได้ง่ายๆ
- ปิโตรเลียมเจลเป็นมอยเจอไรเซอร์ด้วย คุณจึงไม่ต้องกังวลเรื่องผิวแห้ง
ลองพิจารณาการใช้สีย้อมผมธรรมชาติดู. สีย้อมผมธรรมชาติอย่างเช่นเฮนน่ามักจะกำจัดออกจากผิวได้ง่ายกว่าสีย้อมผมทั่วไป สีเฮนน่าส่วนใหญ่จะหลุดจากผิวภายใน 48 ชั่วโมงและไม่มีส่วนประกอบที่เป็นพิษที่อาจซึมเข้าผิวหนังได้[11]โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.totalbeauty.com/editors_blogs/how-to-get-hair-dye-off-skin
- ↑ https://www.cleanipedia.com/gb/odour-stain-removal/remove-hair-dye-skin
- ↑ https://www.cleanipedia.com/gb/odour-stain-removal/remove-hair-dye-skin
- ↑ http://www.totalbeauty.com/editors_blogs/how-to-get-hair-dye-off-skin
- ↑ http://www.harpersbazaar.com/beauty/hair/advice/a4503/how-to-remove-hair-dye/
- ↑ http://www.totalbeauty.com/editors_blogs/how-to-get-hair-dye-off-skin
- ↑ https://www.cleanipedia.com/gb/odour-stain-removal/remove-hair-dye-skin
- ↑ http://www.harpersbazaar.com/beauty/hair/advice/a4503/how-to-remove-hair-dye/
- ↑ http://www.stain-removal-101.com/hair-dye-stain-removal.html
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลผิว
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Mohiba Tareen, MD. โมฮิบา ทารีนเป็นแพทย์โรคผิวหนังที่ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการและเป็นผู้ก่อตั้ง Tareen Dermatology ในโรสวิลล์ เมเปิลวูดและฟาริโบลท์ มินนิโซตา แพทย์หญิงทารีนจบการศึกษาจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมิชิแกนในแอนอาร์เบอร์ ซึ่งเธอได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของ Alpha Omega Alpha สมาคมนักศึกษาเกียรตินิยมอันทรงเกียรติ และระหว่างที่เป็นแพทย์ประจำบ้านแผนกโรคผิวหนังที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบียในนิวยอร์กซิตี้ เธอก็ได้รับรางวัล Conrad Stritzler จากสมาคมโรคผิวหนังแห่งนิวยอร์กและได้ตีพิมพ์ผลงานใน The New England Journal of Medicine จากนั้นแพทย์หญิงทารีนก็สำเร็จการฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านต่อยอดด้านศัลยกรรมผิวหนัง เลเซอร์ และเวชศาสตร์ความงาม บทความนี้ถูกเข้าชม 131,338 ครั้ง
หมวดหมู่: ทรงผมและเล็บ
มีการเข้าถึงหน้านี้ 131,338 ครั้ง
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.
โฆษณา
