ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความX
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Susan Stocker. ซูซาน สต็อกเกอร์เป็นเจ้าของบริษัท #1 Green Cleaning Company ในซีแอตเทิล เธอโด่งดังในย่านนั้นด้วยการบริการที่โดดเด่น เคยชนะรางวัล Better Business Torch Award for Ethics & Integrity ในปี 2007 และการที่เธอสนับสนุนการจ่ายค่าจ้างอย่างเป็นธรรม สิทธิประโยชน์สำหรับลูกจ้าง และการทำความสะอาดแนวรักษ์โลก
บทความนี้ถูกเข้าชม 3,262 ครั้ง
ถ้าเสื้อผ้าของเรามีกลิ่นเหม็นอับ แสดงว่าอาจมีราอยู่ในเสื้อผ้านั้น เสื้อผ้าเกิดกลิ่นเหม็นอับได้ ถ้าเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้านานเกินไปหรือลืมทิ้งไว้ในเครื่องซักผ้าสองสามวัน เราสามารถกำจัดกลิ่นเหม็นอับด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่แล้วภายในบ้าน เช่น น้ำส้มสายชู ผงฟู หรือบอแรกซ์ หลังจากซักผ้าแล้ว นำมาผึ่งแดดจนแห้งสนิท กลิ่นเหม็นอับจะได้หายไป
ขั้นตอน
เลือกผลิตภัณฑ์ภายในบ้านที่จะใช้ซักผ้า. เสื้อผ้าที่มีกลิ่นเหม็นอับไม่มากนักสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ภายในบ้านทั่วไปซึ่งปลอดภัยมากำจัดกลิ่นได้ วิธีนี้ยังเหมาะกับผ้าเนื้อบางเพราะไม่สามารถใช้สารฟอกขาวกับผ้าแบบนี้ได้ ถ้าเสื้อผ้าของเรามีรา กลิ่นเหม็นอับก็จะไม่หายไปจนกว่ารานั้นจะถูกกำจัด ฉะนั้นให้ลองหาสิว่าในบ้านของเรานั้นมีผลิตภัณฑ์อะไรที่สามารถนำมาจัดการราได้บ้าง- น้ำส้มสายชู
- บอแรกซ์
- ผงฟู
เริ่มการซักผ้า. นำเสื้อผ้าที่มีกลิ่นเหม็นอับมาใส่ในเครื่องซักผ้าพร้อมกับใส่ผงซักฟอกในปริมาณที่เราใช้ตามปกติลงไป ปล่อยให้น้ำเข้าเครื่องเพื่อเริ่มการซักผ้า รอให้น้ำเข้าเครื่องซักผ้าเรียบร้อยก่อนที่จะทำขั้นตอนต่อไป- ให้ใช้น้ำร้อนซักผ้าเพื่อจะได้ฆ่าราในเสื้อผ้าได้
- ถ้าเสื้อผ้าที่มีกลิ่นเหม็นอับนั้นไม่สามารถซักในน้ำร้อนได้ ให้ลองใช้น้ำเย็นซักผ้าดู เราอาจต้องซักผ้าเกินหนึ่งครั้งเพื่อกำจัดกลิ่นเหม็นอับ
ใส่ผลิตภัณฑ์ที่เลือกไว้แล้วลงในน้ำ. พอน้ำเข้าเครื่องซักผ้าเรียบร้อยแล้ว เทน้ำส้มสายชู บอแรกซ์ หรือผงฟูลงไป เทใส่ลงไปในน้ำตรงๆ ผลิตภัณฑ์ที่เทลงไปจะได้กระจายไปทั่วอย่างสม่ำเสมอ ปล่อยให้เครื่องซักผ้าทำงานตามปกติ- ผลิตภัณฑ์แต่ละอย่างมีคุณสมบัติในการฆ่าราและกำจัดกลิ่นเหม็นอับ ถ้าเสื้อผ้าของเรามีกลิ่นเหม็นอับมาก เทผงฟูและน้ำส้มสายชูลงไปด้วยกัน
- ถ้าเราไม่สามารถเทผลิตภัณฑ์เหล่านี้ลงในน้ำโดยตรงได้ ให้นำมาผสมกับน้ำร้อนหนึ่งถ้วยและเทใส่ช่องน้ำยาซักผ้า
นำเสื้อผ้าไปผึ่งแดดให้แห้ง. การนำเสื้อผ้าไปผึ่งแดดจะช่วยฆ่าราที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในเสื้อผ้าและทำให้เสื้อผ้ามีกลิ่นหอมสดชื่น แม้แต่ในช่วงฤดูหนาวเราก็สามารถนำผ้าที่ซักเสร็จมาผึ่งแดดได้ พยายามนำผ้ามาตากบริเวณที่มีแดดและมีลมมากที่สุด- ถ้าข้างนอกฝนตก เราจะต้องใช้เครื่องอบผ้าแทน ความจริงแล้วไม่อยากแนะนำให้ใช้เครื่องอบผ้า เพราะภายในเครื่องอบผ้าเป็นพื้นที่ปิด ทำให้ไม่มีอากาศถ่ายเทผ่านเสื้อผ้า
- ถ้านำเสื้อผ้าออกจากเครื่องอบผ้าแล้ว เสื้อผ้ายังมีกลิ่นเหม็นอับ รอจนกว่าจะมีแดดแล้วค่อยซักผ้านั้นอีกครั้งและนำไปผึ่งแดดให้แห้ง
โฆษณา
ลองใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแบบไม่ต้องล้างออก. ถ้าต้องการกำจัดกลิ่นเหม็นอับออกจากเสื้อโค้ทหรือผ้าแบบอื่นที่ต้องใช้วิธีซักแห้งเท่านั้น ไม่สามารถนำไปแช่น้ำเพื่อซักได้ การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแบบไม่ต้องล้างน้ำออกจะสามารถทำความสะอาดเสื้อผ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องทำให้เนื้อผ้าเปียกชุ่ม ฉะนั้นจึงทำให้เสื้อผ้ามีโอกาสเสียรูปทรงลดลง ลองหาซื้อผลิตภัณฑ์ซักรีด "แบบไม่ต้องล้างออก" ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะอยู่ในรูปแบบสารละลายเข้มข้นเหมือนกับน้ำยาซักผ้าธรรมดาทั่วไป- ส่วนใหญ่แล้วเราจะนำผลิตภัณฑ์ซักผ้าแบบไม่ต้องล้างออกมาผสมกับน้ำหลายลิตร แล้วเทใส่ขวดสเปรย์
- นำน้ำยานี้มาฉีดเสื้อผ้าที่มีกลิ่นเหม็นอับให้ทั่วจนชุ่มเล็กน้อย
- นำเสื้อผ้านั้นมาผึ่งแดดและลมจนแห้ง เมื่อเสื้อผ้าแห้ง กลิ่นก็จะหายไป แต่ถ้ายังคงมีกลิ่นอยู่ ให้นำไปฉีดน้ำยาซ้ำและตากแดดและลมอีกครั้ง
- ผลิตภัณฑ์แบบที่ไม่ต้องล้างออกจะทำให้บริเวณที่โดนฉีดเปียก อย่าใช้กับผ้าที่ไม่ควรทำให้เปียกอย่างเช่น ผ้าหนังหรือผ้าหนังกลับ
ใช้ผงฟู. แทนที่จะนำผงฟูมาผสมน้ำแล้วนำไปซักผ้า เราสามารถนำผงฟูแห้งๆ มาใช้ทำความสะอาดเสื้อผ้าได้ ผงฟูจะดูดกลิ่นเหม็นอับ เราอาจต้องใช้ซ้ำๆ จนกว่ากลิ่นเหม็นอับนั้นจะหมดไป- นำผ้ามาวางไว้บนพื้นผิวที่สะอาด โรยผงฟูลงไปบนเสื้อผ้าจนทั่ว พลิกเสื้อผ้ากลับไปอีกด้านหนึ่งแล้วโรยผงฟูให้ทั่วอีกครั้ง ถ้าเราไม่อยากโรยผงฟูลงบนเสื้อผ้าตรงๆ ให้นำเสื้อผ้ามาใส่ถุงพลาสติกและนำไปวางไว้ข้างๆ ภาชนะบรรจุผงฟูท่ี่เปิดฝาไว้
- วางเสื้อผ้าที่โรยผงฟูทิ้งไว้หนึ่งคืน
- นำเสื้อผ้าออกไปสะบัดข้างนอก ใช้แปรงนุ่มๆ ขัดผงฟูที่เหลืออยู่ออก
- นำเสื้อผ้าไปผึ่งข้างนอก
ลองฉีดวอดก้าใส่เสื้อผ้า. ถ้าผลิตภัณฑ์ซักแห้งอื่นๆ ใช้ดับกลิ่นเหม็นอับไม่ได้ผล ลองใช้วอดก้าราคาถูกฉีดดู เทวอดก้าใส่ขวดสเปรย์ ฉีดเสื้อผ้าที่มีกลิ่นเหม็นอับให้ทั่ว ต้องฉีดให้ทั่วทุกจุด นำผ้าไปตากแดดให้แห้ง กลิ่นเหม็นอับจะหมดไปหรือลดลง
ใช้บริการร้านซักแห้ง. ถ้าใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ภายในบ้านแล้วไม่สามารถกำจัดกลิ่นเหม็นอับได้ เราอาจต้องใช้บริการร้านซักแห้ง ร้านซักแห้งจะใช้สารเคมีที่มีประสิทธิภาพมาดับกลิ่นเสื้อผ้าและร้านซักแห้งโดยส่วนใหญ่จะสามารถกำจัดกลิ่นเหม็นอับบนเสื้อผ้าให้เราได้ แต่ถ้าเราไม่อยากให้ทางร้านใช้สารเคมีกับผ้า ลองปรึกษากับทางร้านว่ามีวิธีจัดการกับกลิ่นเหม็นอับวิธีอื่นไหม[1]โฆษณา
นำเสื้อผ้าไปแช่ในน้ำร้อน. ถ้าเสื้อผ้าของเรานั้นมีราขึ้นเยอะมากแต่เราไม่อยากทิ้ง ลองนำเสื้อผ้านั้นไปแช่ในน้ำร้อนเพื่อฆ่าราและกำจัดกลิ่นเหม็นอับ วิธีนี้ใช้ได้กับผ้าขนหนู ผ้าปูที่นอน และผ้าลินินที่ทนทานซึ่งสามารถทนน้ำร้อนได้ ถ้านำผ้าเนื้อบางไปแช่น้ำร้อน เนื้อผ้าอาจเสียหายได้ นำเสื้อผ้าที่ขึ้นราไปแช่น้ำร้อนเพื่อฆ่าราและกำจัดกลิ่นเหม็นอับ- นำหม้อใบใหญ่มาใส่น้ำแล้วต้ม เราต้องการน้ำที่มีปริมาณมากพอที่จะแช่ผ้าของเรา
- นำเสื้อผ้าใส่หม้อใบใหญ่ เทน้ำร้อนใส่เสื้อผ้า ต้องให้เสื้อผ้าขึ้นรานั้นเปียกชุ่มจนทั่ว
- แช่ทิ้งไว้สักห้านาที
- บิดผ้าเอาน้ำออก ถ้าน้ำยังคงร้อนอยู่ ให้ใส่ถุงมือยางบิดผ้า
- นำเสื้อผ้ามาเข้าเครื่องซักผ้าตามปกติ พอเครื่องซักเสร็จแล้วนำออกไปตากแดด
ใช้น้ำยาฟอกขาว. น้ำยาฟอกขาวนั้นสามารถฆ่าราได้อย่างมีประสิทธิภาพ น้ำยาฟอกขาวจะช่วยกำจัดราและกลิ่นเหม็นอับ เหมาะนำมาใช้กับผ้าขนหนู ผ้าปูที่นอน และถุงเท้า อย่าลืมตรวจสอบที่ป้ายของผ้าว่าใช้น้ำยาฟอกขาวได้หรือเปล่า ถ้าป้ายบอกว่า "ห้ามใช้น้ำยาฟอกขาว" ให้ใช้วิธีอื่น เมื่อไหร่ก็ตามที่ใช้น้ำฟอกขาว ให้ใช้ในห้องที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกและอย่าลืมใส่ถุงมือป้องกันด้วย ใช้น้ำยาฟอกขาวเพื่อกำจัดราและกลิ่นเหม็นอับ- นำน้ำยาฟอกขาวครึ่งถ้วยมาผสมกับน้ำหนึ่งแกลลอน
- นำเสื้อผ้าลงไปแช่ในน้ำยาดังกล่าว
- นำเสื้อผ้านั้นมาเข้าเครื่องซักผ้าโดยใส่ผงซักฟอกตามปกติ นำไปผึ่งแดดให้แห้ง
ลองใช้แอมโมเนีย. แอมโมเนียมีกลิ่นฉุนมากจนเป็นพิษต่อปอด ฉะนั้นห้องที่เราใช้ซักผ้าต้องมีอากาศถ่ายเทดีมาก ถึงจะใช้วิธีนี้ได้ นำผ้ามาเข้าเครื่อง การซักผ้ารอบแรกไม่ต้องใช้ผงซักฟอก แต่ให้ใส่แอมโมเนียหนึ่งถ้วยลงในน้ำ พอเครื่องซักรอบแรกเสร็จ ให้ซักเครื่องรอบที่สองโดยใส่ผงซักฟอกอย่างเดียว นำผ้าไปตากแดดให้แห้ง[2]- อย่านำน้ำยาฟอกขาวมาผสมกับแอมโมเนีย เพราะจะก่อให้เกิดแก๊สที่อาจเป็นพิษต่อปอดได้ถ้าหากสูดดมเข้าไป
- ใช้แอมโมเนียด้วยความระมัดระวัง เราอาจต้องใส่เสื้อผ้าที่สามารถป้องกันแอมโมเนียไม่ให้ถูกผิวของเราได้ ถ้าเกิดเราสูดหายใจเอาแอมโมเนียเข้าไป ให้รีบออกจากบริเวณนั้นไปสูดอากาศบริสุทธิ์ ถ้าเรารู้สึกวิงเวียนศีรษะ ให้โทรเรียกรถพยาบาล[3]
โฆษณา
เคล็ดลับ
- ถ้าเครื่องซักผ้าของเราเป็นแบบฝาเปิดด้านหน้า ลองดูวงแหวนยางที่ใช้ผนึกประตู ถ้าด้านล่างของวงแหวนนั้นซึ่งเป็นที่ระบายน้ำมีราขึ้น แสดงว่าปัญหากลิ่นเหม็นอับของเสื้อผ้าอาจเกิดจากราในเครื่องซักผ้าก็ได้ ให้ลองใช้น้ำยาฟอกขาวทำความสะอาดบริเวณนั้น แต่ถ้าราฝังแน่นมาก ให้เปลี่ยนวงแหวนยาง จะได้ไม่ต้องซื้อเครื่องซักผ้าใหม่ เมื่อไม่ได้ใช้เครื่องซักผ้า เปิดฝาแง้มไว้เล็กน้อย จะช่วยให้บริเวณนั้นแห้งและป้องกันราขึ้น
- มีผลิตภัณฑ์ชื่อว่า "Purewasher" ขายตามอินเตอร์เน็ตเท่านั้น ผลิตภัณฑ์นี้จะช่วยกำจัดกลิ่นจากเครื่องซักผ้าและเสื้อผ้า นี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองแล้วว่าใช้ได้ผลดี
- จะใช้แผ่นดรายเออร์ชีทในการอบผ้าก็ได้ ความร้อนจะช่วยให้แผ่นนี้ส่งกลิ่นหอมออกมา เสื้อผ้าก็จะพลอยหอมไปด้วย อย่างไรก็ตามนี้เป็นการกลบกลิ่นเท่านั้น ไม่ใช่การทำให้กลิ่นหมดไป
- ซักผ้าเป็นประจำ ทำความสะอาดตู้เสื้อผ้าทุกเดือน และฉีดน้ำหอมใส่เสื้อผ้าเพื่อป้องกันไม่ให้เสื้อผ้ามีกลิ่นเหม็นอับ
- นำลิสเตอรีนมาฉีดเสื้อผ้า
- ผลิตภัณฑ์อย่างเช่น Oxiclean อาจนำมาใช้กำจัดกลิ่นเหม็นอับบนเสื้อผ้าได้
- คลอรีนไดออกไซด์ถูกใช้ในเรือเพื่อช่วยลดกลิ่นเหม็นอับและถูกใช้ในห้องสมุดเพื่อลดการแพร่กระจายของรา จึงสามารถนำมาใช้กับเสื้อผ้าได้ด้วยเช่นกัน ผลิตภัณฑ์ที่มีคลอรีนไดออกไซด์เพื่อใช้ในการลดกลิ่นนั้นหายาก แต่ก็ควรลองพยายามหาซื้อดูก่อน เมื่อได้มาแล้ว ให้ลองมาวางไว้ในตู้เสื้อผ้าเพื่อป้องกันราและกลิ่นเหม็นอับ คลอรีนไดออกไซด์เป็นสารก่อความระคายเคือง ฉะนั้นถ้าจะใช้สารนี้ ต้องทำให้บริเวณที่จะใช้มีอากาศถ่ายเทดีหรือให้ปิดตู้ ถ้าเรากำลังใช้คลอรีนออกไซด์ดับกลิ่นตู้เสื้อผ้า แต่ถ้าหาซื้อไม่ได้จริงๆ ลองใช้ถุงหอมปรับกลิ่นในตู้เสื้อผ้าแทนก็ได้
โฆษณา
คำเตือน
- อย่านำน้ำยาฟอกขาวมาผสมกับแอมโมเนีย เพราะจะก่อให้เกิดแก๊สซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้ที่สูดดมเข้าไป
- ถ้าหากน้ำยาฟอกขาวหรือแอมโมเนียกระเด็นใส่ผิว ล้างผิวบริเวณนั้นทันทีด้วยน้ำปริมาณมาก
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำความสะอาดแบบรักษ์ธรรมชาติ
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Susan Stocker. ซูซาน สต็อกเกอร์เป็นเจ้าของบริษัท #1 Green Cleaning Company ในซีแอตเทิล เธอโด่งดังในย่านนั้นด้วยการบริการที่โดดเด่น เคยชนะรางวัล Better Business Torch Award for Ethics & Integrity ในปี 2007 และการที่เธอสนับสนุนการจ่ายค่าจ้างอย่างเป็นธรรม สิทธิประโยชน์สำหรับลูกจ้าง และการทำความสะอาดแนวรักษ์โลก บทความนี้ถูกเข้าชม 3,262 ครั้ง
หมวดหมู่: การทำความสะอาด
มีการเข้าถึงหน้านี้ 3,262 ครั้ง
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.
โฆษณา
