บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้
บทความนี้ถูกเข้าชม 17,467 ครั้ง
บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการไรท์ไฟล์วีดีโอแบบ MP4 ลงแผ่น DVD เปล่า ถ้าอยากให้แผ่น DVD นี้เปิดในเครื่องเล่น DVD ส่วนใหญ่ได้ ก็ต้องใช้โปรแกรมฟรีอย่าง DVD Flick (Windows) หรือ Burn (Mac) แต่ถ้าแค่อยากเก็บไฟล์ MP4 ใส่แผ่น หรือเอาไว้เปิดในคอมอย่างเดียว ก็ไรท์ไฟล์ลงแผ่น DVD ด้วยโปรแกรมที่มีมาในคอมแต่แรกได้เลย
ขั้นตอน
- ใส่แผ่น DVD เปล่าในถาดใส่แผ่น DVD ของคอม. จะใช้แผ่น DVD แบบไรท์ซ้ำ (rewriteable) เช่น DVD±R และ DVD±RW ก็ได้ ขอแค่ใช้กับเครื่องไรท์ DVD ที่มีได้ แต่แผ่น DVD±RW จะเปิดในเครื่องเล่น DVD ทั่วไปไม่ค่อยได้
- ถ้ามีหน้าต่าง auto-play โผล่มาหลังใส่แผ่น DVD ในคอม ให้ปิดก่อนทำขั้นตอนต่อไป
- ถ้าคอมไม่มีถาดใส่แผ่น DVD (จะมีคำว่า "DVD" ติดอยู่ใกล้ๆ ถาด) ก็ต้องหาซื้อถาด DVD แบบ USB มาเสียบแทน
- ดาวน์โหลดโปรแกรม DVD Flick. เป็นโปรแกรมฟรี ใช้แปลงไฟล์ MP4 ให้เปิดในเครื่องเล่น DVD ทั่วไปได้ คุณดาวน์โหลดโปรแกรมนี้ได้โดย[1]
- พิมพ์ http://www.dvdflick.net/download.php ในเบราว์เซอร์
- คลิก Download DVD Flick ที่กลางหน้า
- รอจนเริ่มดาวน์โหลด อาจจะต้องเลือกตำแหน่งเซฟไฟล์ และ/หรือยืนยันว่าจะดาวน์โหลดซะก่อน
- ติดตั้ง DVD Flick. ให้ดับเบิลคลิกไฟล์ติดตั้ง DVD Flick หลังดาวน์โหลดเสร็จ แล้ว
- คลิก Next
- ติ๊กช่อง I accept
- คลิก Next 4 ครั้ง
- คลิก Install
- คลิก Next
- คลิก Finish
- เปิด DVD Flick. ให้ดับเบิลคลิกไอคอน DVD Flick ที่เป็นรูปแผ่นฟิล์ม แล้วหน้าต่าง DVD Flick จะเปิดขึ้นมา
- อาจจะต้องคลิก OK หรือ Close ที่หน้าต่าง tutorial ก่อน
- ใส่ไฟล์ MP4 ในหน้าต่าง DVD Flick. หาไฟล์วีดีโอ MP4 ที่อยากไรท์ลงแผ่น DVD จากนั้นคลิกแล้วลากไฟล์ไปใส่ในหน้าต่าง DVD Flick โดยปล่อยเมาส์เพื่อหย่อนไฟล์
- ถ้า DVD Flick เปิดมาแบบเต็มจอ ให้คลิกไอคอนสี่เหลี่ยม 2 อัน ที่มุมขวาบนของหน้าต่าง แล้วคลิกลากด้านบนของหน้าต่าง เพื่อปรับขนาดหน้าต่างในหน้าจอ
- ถ้าเปิดอยู่ 2 หน้าต่าง ให้ลากหน้าต่างหนึ่งไปทางซ้ายสุดของหน้าจอ เพื่อให้เด้งเข้าที่ แล้วจะมีให้เลือกอีกหน้าต่างที่อยากเปิดคู่กัน ที่อีกฝั่งของหน้าจอ
- คลิก Project settings. ที่เป็น tab ด้านบนของหน้าต่าง DVD Flick เพื่อเปิดหน้า Settings ของ DVD Flick
- คลิก tab Burning. ที่ด้านซ้ายของหน้า
- ติ๊กช่อง "Burn project to disc". ทางด้านบนของหน้า เพื่อให้แน่ใจว่าไฟล์ MP4 จะไรท์ลงแผ่น DVD
- คลิก Accept. ท้ายหน้าต่าง เพื่อเซฟค่าใหม่ แล้วกลับไปที่หน้าหลักของ DVD Flick
- ถ้าจะไรท์แผ่นด้วย DVD Flick อีก ให้คลิก Use as defaults แทน
- คลิก Create DVD. ที่เป็นปุ่มด้านบนของหน้าต่าง เพื่อให้ DVD Flick เริ่มแปลงและไรท์ไฟล์ MP4
- ถ้ามีคำเตือนขึ้นมาเรื่องให้ตั้งชื่อไฟล์ใหม่ ก็คลิก Continue ได้เลย
- รอจนขั้นตอนเสร็จสิ้น. ปกติขั้นตอนแปลงและไรท์ไฟล์ลง DVD จะใช้เวลาหลายนาทีไปจนถึงหลายชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความยาวของวีดีโอ
- ถ้า error ระหว่างไรท์แผ่น ให้อ่าน "เคล็ดลับ" ท้ายบทความวิกิฮาวนี้ ว่าจะไรท์ไฟล์ MP4 ลงแผ่น DVD ด้วย DVD Flick ได้ด้วยวิธีไหนอีก
- ทดสอบ DVD. พอขั้นตอนเสร็จสิ้น ก็ eject แผ่น DVD ออกมาได้เลย แล้วเอาไปเปิดในเครื่องเล่น DVD ทั่วไป
- ย้ำว่าถ้าไรท์แผ่น DVD ออกมาไม่สมบูรณ์ ใช้งานไม่ได้ ให้เลื่อนลงไปอ่าน "เคล็ดลับ" ท้ายบทความ จะมีวิธีแก้ไขแนะนำไว้
โฆษณา
- ใส่แผ่น DVD เปล่าในไดรฟ์. ถ้าอยากทำแผ่น DVD แบบเปิดในเครื่องเล่นทั่วไป จะใช้แผ่น DVD เปล่าแบบไหนก็ได้ แต่ถ้าเป็น DVD±R จะดีที่สุด เพราะเล่นได้กับแทบทุกเครื่อง
- ถ้ามีหน้าต่าง auto-play โผล่มาหลังใส่แผ่น DVD ในคอม ให้ปิดก่อนทำขั้นตอนต่อไป
- ถ้าคอมไม่มีถาดใส่แผ่น DVD (จะมีคำว่า "DVD" ติดอยู่ใกล้ๆ ถาด) ก็ต้องหาซื้อถาด DVD แบบ USB มาเสียบแทน แต่ต้องเลือกที่เสียบกับสล็อต USB ของคอมได้ เพราะเครื่อง Mac รุ่นใหม่ๆ จะใช้สล็อตแบบ USB-C ไม่ใช่สล็อต USB แบบทั่วไป
- ดาวน์โหลดและติดตั้ง Burn. Burn เป็นโปรแกรมฟรีที่นอกจากไรท์ไฟล์ MP4 ลงแผ่น DVD แล้วยังทำได้อีกสารพัดอย่าง เข้าไปดาวน์โหลดได้ที่ http://burn-osx.sourceforge.net/Pages/English/home.html แล้วคลิก Download Burn ที่ด้านขวาล่างของหน้า จากนั้น
- ดับเบิลคลิกเพื่อเปิดโฟลเดอร์ ZIP ของโปรแกรม Burn
- คลิกแล้วลากไอคอนของแอพ Burn ไปไว้ในโฟลเดอร์ Applications
- ดับเบิลคลิกไอคอน Burn
- ยืนยันการดาวน์โหลด ถ้ามี
- เปิด Burn. คลิก Spotlight พิมพ์ burn แล้วดับเบิลคลิกตัวเลือก Burn ตอนที่โผล่มาในผลการค้นหา
- อาจจะต้องคลิกขวาที่ไอคอน Burn ก่อน จากนั้นคลิก Open ในเมนู แล้วคลิก Open ตอนที่ขึ้น เพื่อเปิด Burn ขึ้นมาอย่างถูกต้อง
- คลิก tab Video. ทางด้านบนของหน้าต่าง Burn เพื่อสลับหน้าต่างไฟล์ของ Burn ไปที่หัวข้อ "Video"
- พิมพ์ชื่อ DVD. คลิกช่องพิมพ์ด้านบนของหน้าต่าง Burn แล้วแทนที่ข้อความเดิม (ปกติจะเป็น "Untitled") ด้วยอะไรก็ตามที่อยากตั้งเป็นชื่อ DVD[2]
- คลิก +. ที่มุมซ้ายล่างของหน้าต่าง แล้วหน้าต่าง Finder จะเปิดขึ้นมา
- เลือกไฟล์ MP4. คลิกไฟล์ MP4 ที่อยากไรท์ลงแผ่น DVD
- คลิก Open. ที่มุมขวาล่างของหน้าต่าง Finder เพื่อให้ไฟล์ MP4 มาอยู่ในหน้าต่าง Burn
- คลิกช่อง file type ให้ขยายลงมา. เป็นตัวเลือกทางด้านขวาบนของหน้าต่าง Burn
- คลิก DVD-Video. ในเมนูที่ขยายลงมา
- คลิก Convert ถ้าจำเป็น. ถ้ามีตัวเลือก Convert โผล่มาหลังเลือกชนิดไฟล์ ให้คลิก แล้วทำตามขั้นตอนที่ปรากฏในหน้าจอ เพื่อให้แน่ใจว่าไฟล์ใน DVD จะเปิดในแผ่นได้
- คลิก Burn. ที่มุมขวาล่างของหน้าต่าง เท่านี้ก็จะเริ่มไรท์ไฟล์ MP4 ลงแผ่น DVD
- ทำตามขั้นตอนในหน้าจอ. จะมีแจ้งเตือนว่าไรท์แผ่นเสร็จสมบูรณ์ แต่ถ้าไม่มี ก็รอจนแถบความคืบหน้าหายไป พอไรท์เสร็จแล้ว ก็ eject แผ่น DVD ออกมาได้เลย แล้วใช้เปิดในเครื่องเล่น DVD ทั่วไปโฆษณา
- ใส่แผ่น DVD เปล่าในถาดใส่แผ่น DVD ของคอม. ต้องเช็คให้ชัวร์ว่าในแผ่นไม่มีไฟล์อื่น แล้วค่อยเริ่มขั้นตอน
- ถาดใส่แผ่น CD ต้องไรท์แผ่น DVD ได้ วิธีเช็คคือจะมีโลโก้ "DVD" ที่ตัวถาด CD หรือใกล้ๆ กัน
- เลือกตำแหน่งเซฟไฟล์. คลิกโฟลเดอร์ที่มีไฟล์ MP4
- เลือกหนัง. คลิกไฟล์หนังที่จะไรท์ลงแผ่น DVD
- คลิก Share. ที่ด้านซ้ายบนของหน้าต่าง แล้วจะมี toolbar โผล่มาด้านบน
- คลิก Burn to disc. ในหัวข้อ "Send" ของ toolbar แล้วจะมีหน้าต่างใหม่โผล่มา
- คลิก Burn. ทางด้านบนของหน้าต่าง เพื่อเริ่มไรท์หนังลงแผ่น DVD
- ขั้นตอนอาจใช้เวลาตั้งแต่หลายนาทีไปจนถึงหลายชั่วโมง แล้วแต่ขนาดของไฟล์หนัง และความเร็วในการไรท์ของคอม
- คลิก Finish ตอนที่ขึ้น. จะอยู่ทางด้านล่างของหน้าต่าง หลังคลิก Finish แล้ว ก็ eject แผ่น DVD จากคอมได้เลย เท่านี้ก็เอาแผ่น DVD ไปเปิดดูไฟล์ MP4 ในคอมเครื่องไหนก็ได้ที่มีไดรฟ์ DVDโฆษณา
- ซื้อไดรฟ์ DVD แบบ USB มาเสียบกับคอม. เครื่อง Mac รุ่นใหม่ๆ จะไม่มีไดรฟ์ DVD ติดมา เพราะงั้นต้องใช้ไดรฟ์แบบ external ถึงจะไรท์ข้อมูลลงแผ่น DVD ได้
- ถ้าเครื่อง Mac ของคุณใช้พอร์ท USB-C (รีๆ) ไม่ใช่พอร์ท USB 3.0 (เหลี่ยมๆ) ก็ต้องเลือกไดรฟ์ DVD ที่เสียบแบบ USB-C เหมือนกัน หรือซื้อ adapter แปลง USB 3.0 เป็น USB-C มาใช้แทน
- ใส่แผ่น DVD เปล่าในถาด CD ของ Mac. เช็คก่อนว่าในแผ่น DVD ไม่มีไฟล์อื่น แล้วค่อยทำตามขั้นตอน
- เปิด Finder. โดยคลิกไอคอนรูปหน้าสีฟ้า ใน Dock ของ Mac
- ไปยังโฟลเดอร์ที่มีไฟล์ MP4. ทางซ้ายของหน้าต่าง Finder ให้คลิกโฟลเดอร์ที่มีไฟล์ MP4 อยู่
- เลือกไฟล์ MP4. คลิกไฟล์ MP4 เพื่อเลือกหรือเน้นไฟล์นั้น
- คลิก File. ที่เป็นเมนูด้านบนของหน้าจอ แล้วเมนูจะขยายลงมา
- คลิก Burn [movie] to Disc…. ในเมนูที่ขยายลงมา เพื่อเปิดหน้าต่าง Burn
- คลิก Burn ตอนที่ขึ้น. จะอยู่ท้ายหน้าต่างที่โผล่มา
- คลิก OK ตอนที่ขึ้น. ที่มุมขวาล่างของหน้าต่าง เสร็จแล้ว eject แผ่น DVD จากคอมได้เลย หลังจากนี้ก็เอาแผ่น DVD ไปเปิดดูไฟล์ MP4 ในคอมเครื่องไหนก็ได้ที่มีไดรฟ์ DVDโฆษณา
เคล็ดลับ
- DVD Flick ให้คุณแปลงไฟล์ MP4 เป็นไฟล์ ISO แทนไฟล์ DVD ได้ด้วย แค่ติ๊กช่อง "Create ISO image" แทน "Burn project to disc" ซึ่งไฟล์อิมเมจ ISO นี้ใช้ไรท์ลงแผ่น DVD ได้ ด้วยฟีเจอร์ไรท์แผ่นที่มีในคอม แล้วเอาไปเปิดในเครื่องเล่น DVD ตามปกติ
คำเตือน
- เครื่องเล่น DVD บางเครื่อง เช่น เครื่องรุ่นเก่าๆ หรือเครื่อง Blu-Ray มักจะเปิดแผ่น DVD ที่คุณไรท์เองไม่ได้
ข้อมูลอ้างอิง
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.