ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความX
วิกิฮาวเป็น "wiki" ซึ่งหมายความว่าบทความหลายๆ บทความของเรานั้นเป็นการร่วมมือกันเขียนของผู้เขียนหลายคน ในการเขียนบทความชิ้นนี้ นักเขียนที่อาสาสมัครมาได้ร่วมกันเขียนและปรับปรุงเนื้อหาของบทความอย่างต่อเนื่อง
บทความนี้ถูกเข้าชม 10,162 ครั้ง
เมื่อคุณได้รู้จักใครสักคน การส่งข้อความหาเธอก็เป็นทางเลือกที่ดีในการทำลายกำแพง และเรียนรู้ว่าอีกฝ่ายชอบหรือสนใจอะไร เพื่อจะได้รู้จักกันและกันมากยิ่งขึ้น หากคุณต้องการส่งข้อความหาสาว แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไงล่ะก็ บทความนี้จะบอกคุณเอง
ขั้นตอน
ขอเบอร์สาว. พยายามเป็นฝ่ายเข้าไปขอเบอร์เองเพราะเธออาจจะรู้สึกแปลกๆ เมื่อได้รับข้อความจากคนที่เธอก็ไม่รู้ว่าไปได้เบอร์ตัวเองมาจากไหน- วิธีง่ายๆ ก็คือการชวนเธอคุยเรื่องวิดีโอหรือรูปภาพตลกๆ และบอกเธอว่า “เดี๋ยวจะส่งลิงค์/รูปไปให้ในข้อความนะ เดี๋ยวสิ ผมยังไม่มีเบอร์คุณเลย! ขอเบอร์หน่อยได้ไหมครับ?” ทำตัวสบายๆ เข้าไว้ อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่แล้วเธอจะรู้สึกสบายใจที่จะให้เบอร์คุณเอง
- ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมในการขอเบอร์สาว ลองอ่านบทความ วิธีการขอเบอร์สาว ดูสิ
- ถ้าเธอไม่อยากให้เบอร์กับคุณ อย่าพยายามไปหาเบอร์จากแหล่งอื่นหรือคนอื่น คุณต้องเคารพพื้นที่ส่วนตัวของเธอ บางทีคุณอาจจะรอต่อไปอีกหน่อยแล้วค่อยขอเบอร์เธอใหม่ตอนรู้จักกันมากขึ้นอีกนิดแล้วก็ได้
ทักทาย แต่อย่าทำ แค่ ทักทาย. การทักไปว่า “สวัสดีครับ” จะทำให้อีกฝ่ายตอบกลับมาลำบาก แถมยังทำให้คุณดูเป็นคนขี้เกียจและน่าเบื่ออีกด้วย คุณน่าจะลองถามไถ่เรื่องเธอหรือถามว่าเธอสบายดีไหมด้วยนะ- การถามคำถามเป็นวิธีที่ดี เพราะคุณจะได้คำตอบกลับมาแน่ๆ ถ้าคุณถามเธอว่าวิชาภาษาอังกฤษมีการบ้านไหม เธอก็จะรู้ทันทีว่าควรตอบคุณว่าอย่างไร และคุณก็สามารถถามคำถามอื่นต่อได้ อีกฝ่ายจะไม่สามารถต่อบทสนทนาได้ ถ้าคุณทักไปแค่ “หวัดดี” และเธอไม่รู้ว่าควรจะตอบกลับว่าอะไร
- คำถามปลายเปิดมักดีกว่าคำถามปลายปิดที่ตอบได้แค่ “ใช่ หรือ ไม่” เพราะมีตัวเลือกให้ใช้ตอบมากกว่า ตัวอย่างเช่น คำถามว่า “คุณชอบดูหนังตลกไหม?” เธออาจจะตอบกลับมาแค่คำเดียว แต่ถ้าคุณถามว่า “คุณชอบดูหนังประเภทไหน?” คำตอบที่ได้ก็น่าจะยาวและเฉพาะเจาะจงกว่า และทำให้ต่อบทสนทนาได้ง่ายขึ้น
พูดสิ่งที่ถูกกาลเทศะและตรงประเด็น. หากคุณกำลังพยายามทำลายกำแพงครั้งแรก ก็เป็นเรื่องสำคัญมากที่จะต้องทำให้เธอไม่รู้สึกว่า คุณส่งข้อความมากะทันหันโดยไม่มีเหตุผลหรือแรงจูงใจในการส่ง ให้ชวนเธอคุยเกี่ยวกับสิ่งที่คุณทั้งคู่สนใจร่วมกัน- ตัวอย่างเช่น ถ้าคืนนั้นที่โรงเรียนมีกิจกรรม คุณอาจถามเธอว่า “คุณจะไปดูการแข่งขัน/เล่นเกม/งานเต้นรำคืนนี้ไหม?” คุณอาจจะชวนเธอไปด้วยกันกับคุณก็ได้ (หรือไปกับคุณและกลุ่มเพื่อนของคุณ ถ้าคุณรู้สึกเขินกับเดทแรกที่มาแบบกะทันหัน)
- คุณอาจจะชวนเธอคุยเกี่ยวกับประสบการณ์ที่มีร่วมกันได้ เช่น "ไม่อยากเชื่อเลยว่าผมจะเจอคุณที่ Starbucks วันนี้!" หรือ "ไม่อยากเชื่อเลยว่าครูจะตะโกนใส่นักเรียนในคาบวิชาภาษาอังกฤษวันนี้"
พูดคุยเรื่องความสนใจของเธอ. ถ้าคุณรู้ว่าเธอชอบวงดนตรี รายการทีวี หรือหนังเรื่องไหนเป็นพิเศษ ก็ชวนเธอคุยเรื่องนั้นเลยสิ! ถามเธอว่าเธอคิดอย่างไรกับตอนล่าสุดของรายการโปรด หรือมีเพลงอะไรของวงโปรดที่อยากแนะนำบ้าง การทำอย่างนี้จะแสดงให้เธอเห็นว่าคุณสนใจเธอมากพอที่จะรับฟังความเห็นของเธอและจดจำได้ว่าเธอชอบหรือไม่ชอบอะไร- การใช้หัวข้อเหล่านี้พูดคุยเป็นทางเลือกที่ดี เพราะคนเรามักทุ่มเทความสนใจให้กับวงดนตรีหรือรายการโปรดของตัวเอง และชอบพูดคุย ติดตามดู และหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ การได้พบกับคนที่มีความสนใจตรงกันจึงเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น
- ถ้าคุณเกิดมีความเห็นไม่ตรงกันในบางเรื่อง ก็อย่าเพิ่งตระหนกไป! การถกเถียงกันอย่างสนุกสนานว่า “เพลงไหนของ The Beatles เจ๋งที่สุด” นั้นสามารถทำให้คุณรู้จักกันและกันดีขึ้นได้ แถมยังสร้างความครื้นเครงและสนุกดี แค่อย่าไปดูถูกรสนิยมของเธอหรือพูดจาไม่ดีตอนถกกันก็พอ
ส่งหน้ายิ้มไปให้เธอสิ!. การส่งหน้ายิ้มไปทางข้อความนั้นทำให้คุณดูเป็นคนเฮฮาและเป็นการหว่านเสน่ห์ไปในตัว แต่ก็เป็นการแสดงทีท่าที่ดูไร้เดียงสาจนไม่ทำให้เธอรู้สึกว่าคุณจู่โจมหรือรุกคืบเข้าหาเกินไป แค่ส่งหน้ายิ้มไปให้ เธอก็จะเข้าใจเจตนาคุณแล้วล่ะ ;)- ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าจะใช้หน้ายิ้มยังไง ก็เริ่มด้วยการใส่หน้ายิ้มซักอันตรงข้างหลังข้อความ เช่น “คุณได้ดูตอนล่าสุดของซีรีย์ ‘New Girl’ หรือยัง? สนุกดีนะครับ :)”
- โดยทั่วไปแล้ว การส่งหน้าขยิบตาไปให้สาวนั้นจะส่อเจตนามากกว่า และมักใช้กับข้อความที่หว่านเสน่ห์หรือตีความได้หลายแบบ อย่าพิมพ์หน้าขยิบตาท้ายข้อความที่ปกติคุณใช้หน้ายิ้ม เพราะจะดูผิดที่ผิดทางหรือก่อความสับสนได้
- พยายามอย่าส่งอีโมติคอนมากเกินไป เพราะอาจจะทำให้อีกฝ่ายสับสนและรู้สึกรำคาญได้
สู้ต่อไป!. เมื่อบทสนทนาเริ่มไปได้สวย ก็ให้พยายามเดินหน้าต่อไป!- เมื่อคุณพร้อมแล้ว คุณก็สามารถพัฒนาความสัมพันธ์ไปอีกขั้นได้ ด้วยการส่งข้อความขอนัดเจอกัน ไม่ว่าจะเป็นการนัดเดท การพบปะพูดคุย หรือการนัดเจอกันเป็นกลุ่ม การส่งข้อความหากันเป็นเรื่องที่ดี แต่การได้พูดคุยกันตัวเป็นๆ ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาความสัมพันธ์
โฆษณา
หยุดส่งข้อความถ้าเธอไม่ชอบ. หากเธอดูไม่สนใจคุณ (เช่น หายไปนานมากกว่าจะตอบ ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง ตอบแต่คำเดิมๆ หรือตอบสั้นๆ เพียงคำเดียว) คุณก็ควรหยุดส่งข้อความหาเธอ หรือถ้าเธอบอกคุณตรงๆ ว่าอย่าส่งข้อความมา คุณก็ควรหยุดทันที- หากเธอไม่อยากคุยกับคุณ การฝืนคุยต่อไปก็มีแต่จะเสียเวลา ไปหาสาวสวยคนใหม่คุยดีกว่า
- หากคุณยังคงส่งข้อความหาเธอ ทั้งๆ ที่เธอขอให้คุณหยุดแล้ว การกระทำของคุณก็อาจจะถูกมองเป็นการรบกวนหรือการคุมคามได้
โทรหาหรือพูดต่อหน้า หากคุณมีเรื่องสำคัญจะพูด. แม้ว่าการส่งข้อความจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการทำความรู้จักหรือทำลายกำแพงอีกฝ่าย แต่ก็ยังมีเรื่องบางเรื่องที่ไม่เหมาะจะคุยกันผ่านข้อความ เช่น- ชวนเธอไปเที่ยว. หากคุณต้องการจะชวนใครไปเที่ยว ก็ให้ชวนต่อหน้า หรือชวนผ่านโทรศัพท์ อย่าชวนผ่านข้อความ นอกเสียจากว่าเป็นการชวนแบบไม่เป็นทางการหรือไม่สำคัญมาก
- ขอเลิก หากคุณต้องการจะจบความสัมพันธ์กับใคร คุณก็ควรให้เกียรติอีกฝ่าย ด้วยการพูดต่อหน้าหรือผ่านโทรศัพท์ แต่อย่าบอกเลิกผ่านข้อความ มันแสดงให้เห็นว่าคุณรู้สึกขี้เกียจและไม่มีความเป็นผู้ใหญ่
- ปลอบใจหรือให้คำแนะนำจริงจัง หากเธอเพิ่งเสียญาติที่สนิทกันไป หรือมีปัญหาส่วนตัวที่แก้ได้ยาก คุณก็สามารถส่งข้อความหาเธอได้ว่า "ผมจะโทรหาคุณทีหลัง และเราจะคุยกันเรื่องนี้นะ" แต่อย่าให้ข้อความเป็นตัวแทนคุณทั้งหมดในช่วงเวลาที่เธอลำบาก แม้แต่เพื่อนก็ยังต้องการได้ยินเสียงคุณเมื่อพวกเขาต้องการกำลังใจ
- เมื่อคุณรู้สึกสับสนและไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร ให้ถามตัวเองว่าเรื่องที่จะคุยกันเป็นเรื่องที่สำคัญและมีความหมายมากหรือไม่ หรือเป็นแค่เรื่องทั่วๆ ไปที่เอาไว้คุยทีหลังก็ได้ การส่งข้อความจะทำให้ความสำคัญของเรื่องนั้นลดลง หรือเป็นกันเองมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งต่างจากการคุยกันผ่านโทรศัพท์หรือการคุยกันต่อหน้า ดังนั้นหากคุณต้องการให้ใครสักคนรู้ว่าคุณจริงจังและเรื่องที่กำลังจะพูดมีความหมายกับคุณมาก คุณก็ไม่ควรคุยผ่านข้อความ[1]
คิดให้ดีก่อนส่งข้อความ. โปรดจำไว้ว่าข้อความรวมถึงรูปที่ส่งไปจะถูกบันทึกและไม่สามารถลบได้ ดังนั้นอย่าส่งอะไรที่คุณไม่ต้องการให้มันหลุดไปอยู่ในมือคนอื่นไป ไม่ว่าจะเป็นเพราะผู้รับส่งมันต่อให้คนอื่นดู โทรศัพท์โดนขโมยหรือหายไปก็ตาม- อย่าส่งข้อความลามกหรือรูปโป๊ของตัวเองออกไป นอกเสียจากว่าคุณจะอายุเกิน 18 ปีแล้ว และผู้รับก็ยินดีที่จะรับมัน การส่งรูปโป๊ของเยาวชนถือเป็นอาชญากรรม แม้ว่าเยาวชนที่เป็นคนส่งจะเป็นตัวคุณเองก็ตาม และการขอให้เยาวชนส่งข้อความลามกมาก็ถือเป็นอาชญากรรมเช่นกัน[2] การส่งรูปโป๊ไปให้คนที่ไม่ต้องการถือเป็นการคุกคามได้
- อย่าส่งคำขอหรือสนทนาเกี่ยวกับสิ่งที่ผิดกฎหมาย เพราะบันทึกข้อความในโทรศัพท์สามารถนำมาใช้เป็นหลักฐานระหว่างกระบวนการในศาลได้[3]
- อย่าส่งข้อความด่าทอหัวหน้างาน แม่ ครู หรือใครก็ตามที่คุณไม่อยากให้พวกเขามาเห็นข้อความ แม้ว่าคุณจะเชื่อใจผู้รับว่าเธอจะไม่บอกใครก็ตาม แต่คุณก็ไม่สามารถควบคุมสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด ถ้าหากโทรศัพท์ถูกขโมยหรือหายไป หรือเพื่อนของเธอแอบดูและเห็นข้อความที่คุณส่งไปเข้า
โฆษณา
เคล็ดลับ
- การหว่านเสน่ห์อาจดูกุ๊กกิ๊กดี แต่ก็อาจจะดูน่ารำคาญหรือกวนใจเธอได้ ในขณะที่คุณหว่านเสน่ห์ใส่เธอ คุณต้องสังเกตว่าเธอตอบกลับมาอย่างไรด้วย ถ้าเธอส่งข้อความหว่านเสน่ห์กลับมาและตอบคุณไวก็ถือเป็นสัญญาณดี แต่ถ้าเธอดูไม่สนใจหรือดูกังวลใจเล็กน้อย ก็ให้รุกเธอช้าลงหน่อยและกลับไปคุยกันเรื่องสบายๆ แทน
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.
โฆษณา
