วิธีการ เป็นคนมีสไตล์

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

ปรับทัศนคติ

การมีสไตล์ของตัวเองในแบบผู้ชาย

มีสไตล์ของตัวเองในแบบผู้หญิง

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

การมีสไตล์เป็นของตัวเองไม่ได้ขึ้นอยู่กับเสื้อผ้าที่เรียงรายมากมายในตู้เสื้อผ้าคุณ แต่มันเกี่ยวกับการมีทัศนคติและแนวคิดที่ถูกทางต่างหาก แน่นอนว่า รองเท้าหรือแว่นกันแดดเก๋ๆ อาจสามารถช่วยได้บ้าง แต่การมีสไตล์เป็นของตัวเองนั้น มักอยู่ที่ทัศนคติอันส่งผลให้ทุกสิ่งที่คุณทำดูดีขึ้นมาได้ทันที ดังนั้น หากคุณต้องการเป็นคนมีสไตล์ของตัวเอง คุณจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติก่อน จากนั้น คุณจะสามารถเริ่มขยับไปในเรื่องเสื้อผ้าและการแต่งกายได้เอง หากคุณต้องการหาวิธีเป็นเด็กแนว หรือเป็นคนมีสไตล์ตามแบบของตัวเอง ก็ลองทำตามคำแนะนำเหล่านี้ดู

ขั้นตอน

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 3:

ปรับทัศนคติ

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   จงภูมิใจในการปรับแต่งสไตล์ของตนเอง. การมีสไตล์ของตัวเองเป็นเรื่องของความมั่นใจเท่านั้น หากคุณเพิ่งซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ หรือลองทำผมทรงใหม่ และเริ่มที่จะกังวลว่า มันอาจจะดูตลก มันก็จะแสดงออกให้คนอื่นเห็นเช่นนั้น หรือหากคุณขาดศรัทธาในภาพลักษณ์ของตัวเอง และรู้สึกตะขิดตะขวงใจกับสไตล์ส่วนตัวหรือลักษณะคำพูดของตัวเอง เมื่อนั้น คนรอบข้างก็จะเคลือบแคลงคุณเช่นกัน

   • ไม่ว่าคุณจะกำลังทำอะไร จงภูมิใจกับมัน อย่ามองไปรอบข้าง หรือมองหาความเห็นชอบจากผู้อื่น หรือถามความเห็นว่า มัน "โอเค" แล้วหรือไม่ในการที่คุณจะดูหนังที่ตนเองอยากดู หรือเข้าไปเลือกเสื้อผ้าสไตล์ฟังค์กี้สักชุดมาใส่
   • อย่ามัวใช้เวลาเป็นชั่วโมงในการส่องกระจก เช็ครูปลักษณ์ตนเอง หรือถามเพื่อนๆ ว่า มันดูตลกหรือเปล่า แค่ส่องดูให้รู้ว่าตนเองดูดีก็พอ และเดินออกไปเลย
   • ยืนอย่างสง่าผ่าเผย เดินเชิดหน้าเข้าไว้ และให้หัวไหล่ซ้ายขวาแผ่ออกแทนที่จะขดตัว พยายามมองไปข้างหน้า อย่าก้มหน้ามองพื้น จงแสดงให้ผู้อื่นรู้ว่า คุณมีความสุขกับสไตล์ของตัวเอง และภูมิใจในการเปิดตัวหรืออยู่ท่ามกลางสังคม
2. 
   2
   ทำให้เป็นในแบบส่วนตัว. การมีสไตล์ของตัวเองไม่ใช่เรื่องของการเลียนแบบกระแสนิยมทั่วไป หรือการแต่งตัวตามสไตล์แรปเปอร์คนโปรดของคุณ แม้ว่าไอดอลและเพื่อนๆ อาจมีอิทธิพลต่อสไตล์ของคุณ คุณก็ควรจะเพิ่มความเป็นตัวของตัวเองเข้าไปในเสื้อผ้า ท่าทาง และคำพูดของคุณด้วย การค้นหาว่าอะไรเป็นเอกลักษณ์ของคุณ เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างแบรนด์ของตัวเองขึ้นมา สิ่งที่คุณสามารถทำออกมาให้เห็น ย่อมเป็นส่วนหนึ่งของ ตัวตน ของคุณเอง และต่อไปนี้เป็นวิธีบางอย่าง ที่อาจจะช่วยให้คุณมีสไตล์เป็นของตัวเองได้:

   • บางทีคุณอาจชอบแต่งตัวแนวกิ๊บเก๋ๆ ตามแบบสาววัยรุ่น แต่ก็อาจจะทำหางเปียสไตล์ร็อคเป็นครั้งคราวดูบ้าง
   • บางทีคุณอาจจะเป็นผู้ชายคนเดียวในโลก ที่สามารถทำให้รองเท้าเรืองแสงเป็นเรื่องเท่ๆ ได้
   • บางทีคุณอาจทำให้การชูนิ้วโป้งและขยิบตาซึ่งดูเชยๆ กลับมาเป็นเรื่องเท่ได้อีกครั้งเช่นกัน
   • บางทีคุณอาจจะเป็นผู้ชายที่หัวเราะ ได้เสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
3. 
   3
   อย่าเอาแต่เกลียดชัง. คุณอาจคิดว่า การมีสไตล์เป็นของตัวเอง หมายถึง การทำตัวเท่เสียเต็มประดา หรือการถูกรายล้อมด้วยบรรดาสาวก ซึ่งอยากให้คุณหันไปสนใจ จนทำให้คุณต้องคอยกดคนอื่นให้ต่ำลง หรือทำให้พวกเขารู้สึกว่า ตนเองไม่เคยดีพอ เพียงเพื่อที่จะทำให้ตัวคุณเองรู้สึกเท่หรือเหนือกว่า ที่จริงแล้ว มันตรงข้ามกันต่างหาก การเป็นคนมีสไตล์ของตัวเอง คุณต้องให้เกียรติกับทุกคนด้วย

   • นี่ไม่ได้หมายความว่า คุณต้องเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน หรือใช้เวลาร่วมชั่วโมงในการเอ่ยปากชมและทนอยู่กับใครก็ตามที่คุณพบเจอ แต่มันเพียงหมายความว่า คนทั่วไปควรจะรู้สึกอยากอยู่ใกล้คุณ ด้วยเหตุผลที่ว่า พวกเขารู้สึกได้ว่า ตัวคุณไม่ถูกครอบงำด้วยความเกลียดชังหรือความอิจฉา
   • คุณอาจจะคิดว่าการกดคนอื่นให้ต่ำลง จะทำให้คุณสูงขึ้น แต่มันเป็นการประจานตัวเองว่า คุณรู้สึกหวาดหวั่นอยู่ภายใน
   • หากคนรอบข้างคุณ มักแสดงความเกลียดชัง คุณก็ควรที่จะเตือนพวกเขา หรือหาเพื่อนใหม่ๆ ในการจะใช้เวลาร่วมด้วย
4. 
   4
   จงใช้เวลาร่วมกับคนที่ทำให้คุณอยากจะพัฒนาตัวเอง. นี่ไม่ได้หมายความว่า คุณต้องไปตีสนิทกับพวกเด็กนักเรียนสุดฮอตในโรงเรียน เพียงเพราะมันจะทำให้คุณเท่จากการมีเพื่อนเหล่านั้นหรอก แต่มันแค่หมายความว่าคุณควรจะเข้าหากลุ่มคนที่มีสไตล์เช่นเดียวกัน เพราะพวกเขาจะทำให้คุณรู้ว่าการมีสไตล์เป็นของตัวเองอย่างแท้จริงต้องเป็นเช่นไร และคุณจะได้เก็บเกี่ยวเคล็ดลับในการแสดงออกทางบุคลิกภาพ จากการพบปะพูดคุยกับพวกเขาบ่อยๆ ด้วย

   • หากคุณใช้เวลาร่วมกับบางคนที่คุณมองว่าเป็นภาระ เพียงเพราะว่าคุณดีกับพวกเขาเกินไป หรือคุณอาจเคยเป็นเพื่อนกันมานาน แต่พวกเขากลับไม่มีประโยชน์อะไรในชีวิตคุณเลย ก็อาจถึงเวลาที่ต้องตัดขาดจากพวกเขาบ้างล่ะ
   • หากคุณรู้จักใครบางคนที่มีสไตล์เช่นคุณ แต่คุณยังไม่รู้จักพวกเขาดีพอ ก็ควรจะค่อยเป็นค่อยไป อย่าพยายามใช้เวลาร่วมกับพวกเขาตลอดเวลา ไม่งั้นพวกเขาจะคิดว่าคุณเป็นพวกชอบเกาะแกะผู้อื่น
5. 
   5
   ค้นหาแรงบันดาลใจจากไอดอลของคุณ. ลองเลือกคนที่คุณรู้สึกยกย่องมาสักสองสามคน และให้พวกเขาเป็นสื่อนำทางคุณ ไปสู่ความมีสไตล์เป็นของตัวเอง พวกเขาไม่จำเป็นต้องเท่มากที่สุดในโลก แต่อย่างน้อยควรให้แรงบันดาลใจแก่คุณได้ในบางแง่มุม โดยอาจจะเป็นในแง่ที่พวกเขาทำให้คุณอยากไล่ตามความฝันของตัวเอง เริ่มค้นหาแนวทางของตัวเอง หรือแม้กระทั่งอยากปรับปรุงตัวเองในเรื่องของความใจร้อนให้ลดน้อยลง เป็นต้น ต่อไปนี้ คือ ตัวอย่างของรูปแบบการรับเอาแรงบันดาลใจจากคนบางกลุ่มมาปรับใช้:

   • สมาชิกบางคนในครอบครัวของคุณ คุณคงเคยอยากมีอารมณ์ขันเหมือนคุณแม่ตัวเอง หรือมีทักษะการทำให้ผู้อื่นรู้สึกดีเหมือนคุณย่าคนอื่นใช่ไหม หรือบางที จริยธรรมในการทำงานของพี่ชายคุณ ก็เป็นเรื่องที่น่าเอาอย่าง จงทำอะไรบางอย่างเพื่อพัฒนาคุณลักษณะเหล่านี้ขึ้นมาดูบ้างสิ
   • นักดนตรีคนโปรด คุณชอบมารายห์ แครี่ หรือเลดี้ กาก้า และนักร้องดีว่าคนใดอยู่หรือเปล่า หรือคุณอาจชอบนักดนตรีย้อนยุคอย่างมิค แจคเกอร์ และสตีวี่ วันเดอร์ ซึ่งไม่ว่าศิลปินโปรดของคุณจะเป็นใคร ลองหาดูว่าคุณสามารถเรียนรู้อะไรจากพวกเขาได้บ้าง คุณอาจจะได้เรียนรู้ความเด็ดเดี่ยว เรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอย่างรื่นเริง และก้าวย่างอย่างมีสไตล์ก็ได้
   • นักกีฬาคนโปรด คุณสามารถเรียนรู้อะไรจากเลอบรอน เจมส์, ไทเกอร์ วูดส์, เซเรน่า วิลเลี่ยมส์ หรือเดวิด เบ็คแฮม ได้บ้าง ในแบบที่คุณไม่สามารถอ่านจากตำราใดๆ ในโรงเรียนได้ ลองติดตามชีวิตทั้งในและนอกสนามของนักกีฬาเหล่านี้ดู และมองหาบางสิ่งที่คุณอาจยกย่องในตัวพวกเขาได้
   • บุคคลมีชื่อเสียงคนโปรด ไม่ว่าคุณจะชื่นชอบประธานธิบดีโอบามา, แจ๊ค หม่า, หรือแม้แต่ตัวละครในทีวี ภาพยนตร์ และนิยายเรื่องใดๆ อยู่ก็ตาม คุณควรลองค้นหาว่า มีคุณลักษณะใดที่คุณชอบเกี่ยวกับพวกเขาเหล่านั้น และคุณจะบรรลุคุณสมบัติเหล่านั้นได้อย่างไรบ้าง
   • ใครสักคนในกลุ่มเพื่อนของคุณ ลองมองหาไอดอลจากกลุ่มเพื่อน หรือคนในชุมชนของตนเอง ที่อาจสอนบทเรียนบางเรื่องเกี่ยวกับชีวิตให้แก่คุณได้
6. 
   6
   หยุดกังวลว่า คนอื่นจะคิดอย่างไร. หากคุณต้องการที่จะเป็นคนมีสไตล์จริงๆ คุณก็ควรจะทำอะไรก็ได้ที่ตนเองมีความสุข และไม่ต้องแคร์ว่า ใครๆ จะมองคุณอย่างไร ตราบใดที่คุณไม่ได้หาเรื่องหรือทำร้ายใคร คุณควรที่จะสวมใส่เสื้อผ้า และพูดจาในแบบที่คุณรู้สึกดีได้เสมอ ไม่ใช่ในแบบที่คุณคิดว่า จะทำให้บรรดาหนุ่มสาวฮอตๆ ในโรงเรียนของคุณเกิดความประทับใจ

   • หากคุณมัวแต่หมกมุ่นอยู่กับการพยายามทำให้คนอื่นประทับใจ และเอาใจพวกเขา คุณจะไม่มีวันได้รับความเคารพนับถือจากพวกเขา
   • หากมีใครมาเยาะเย้ยถากถางการแต่งตัวของคุณ หรือสิ่งที่คุณชอบทำ อย่าปล่อยให้พวกเขาทำให้คุณรู้สึกแย่ หากคุณเลิกที่จะสวมใส่สิ่งใด เพียงเพราะมีคนเหน็บแนม ก็แสดงว่าคุณยอมแพ้ จงใส่มันต่อไปด้วยความภาคภูมิใจมากขึ้นเถอะ
   • ไม่เป็นไรหรอก หากจะถามความเห็นและคำปรึกษาจากคนที่คุณแคร์บ้าง แต่มันไม่โอเคเลย หากคุณชอบถามความเห็นเพื่อนๆ เพื่อให้เห็นชอบกับทุกสิ่งที่คุณทำ หรือกำลังจะทำ
7. 
   7
   จงมีความเด็ดเดี่ยว. คนที่มีสไตล์ของตัวเองอย่างแท้จริง ย่อมสามารถรู้สึกผ่อนคลายเวลาอยู่คนเดียวได้ เช่นเดียวกับเวลาอยู่กับกลุ่มเพื่อนด้วย หากคุณต้องการเป็นคนมีสไตล์ของตัวเอง จงฝึกความเด็ดเดี่ยวและมีความสุขอยู่กับแนวทางของตัวเอง แทนที่จะไปทำเลียนแบบคนอื่นเพียงเพราะไม่ต้องการที่จะถูกลืม หรือถูกทิ้งไว้ข้างหลัง การที่จะมีความเด็ดเดี่ยวอย่างแท้จริงนั้น คุณต้องพัฒนาความชอบ เป้าหมาย และความฝันของตัวเองขึ้นมา

   • หากคุณจะใช้เวลากับเพื่อนของคุณบ่อยๆ ก็ไม่เป็นไร แต่อย่าใช้เวลาทุกนาทีของคุณในการสังสรรค์ มันเป็นเรื่องสำคัญที่คุณต้องใช้เวลาส่วนตัวได้ ตามความสนใจของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการแต่งเพลง อ่านหนังสือ หรือออกกำลังกายก็ตาม
   • ส่วนหนึ่งของการเป็นคนเด็ดเดี่ยว คือ การรู้จักคิดอย่างเป็นอิสระ อย่ากลัวที่จะมีความคิดเห็นเป็นของตนเอง แทนที่จะเอาแต่เห็นด้วยกับเพื่อนๆ เพียงเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง
   • หากเพื่อนของคุณ ขอให้คุณสังสรรค์กับพวกเขา แต่คุณกำลังอยากทำกิจกรรมของตัวเอง จงชั่งน้ำหนักดูแล้วกัน เพราะพวกเขาจะเคารพนับถือคุณมาก คุณมีเป้าหมายในชีวิตของตัวเองให้คอยบรรลุ
   โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 3:

การมีสไตล์ของตัวเองในแบบผู้ชาย

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   มีภาษากายที่เหมาะสม. สิ่งสำคัญที่สุด คือ เชิดหน้าเข้าไว้ และ อย่า เอาแต่ก้มหน้ามองพื้น เว้นเสียแต่ว่า คุณอยากจะดูเหมือนพวกขี้กลัวและสับสน หากคุณต้องการฝึก เดินอย่างมีสไตล์ คุณอาจจะลองกางขาออกเล็กน้อย และหันปลายเท้าออกในขณะที่เดิน ให้มีจังหวะยกตัวเพียงเล็กน้อยในแต่ละก้าว พยายามเอามือไว้ข้างลำตัว หรือใช้มันในการประกอบการพูด แต่อย่าเอาแขนมากอดหน้าอก ไม่งั้นคุณจะดูเหมือนพวกไม่แน่ใจในตัวเอง

   • อย่ากลัวที่จะยิ้ม การยิ้ม ไม่ได้หมายความว่า จะทำให้คุณดูเฉิ่ม
   • เวลาคุยกับคนอื่น ควรสบตาพวกเขา อย่าทำราวกับว่า คุณมีอย่างอื่นให้สนใจมากกว่าการใส่ใจคนที่อยู่ตรงหน้าคุณ
2. 
   2
   สวมเสื้อผ้าให้เหมาะสม. สำหรับผู้ชาย เสื้อผ้ามีความสำคัญรองลงมาจากเครื่องประดับที่ใส่คู่กัน พยายามมั่นใจว่าคุณได้ใส่เสื้อยืด แบบที่ไม่ฟิตมาก หรืออาจจะเป็นเสื้อฮูด ชุดแนวเจอร์ซี่ หรืออะไรก็ตามที่ทำให้คุณดูดี สำหรับกางเกง คุณอาจจะใส่กางเกงบาสเกตบอลแบบขาสั้นหรือยาว แบบขากองๆ หน่อย รวมถึงอาจจะใส่กางเกงยีนส์หลวมนิดๆ ก็ได้

   • แม้ว่าคุณอาจจะอยากนำกางเกงไปตัดแต่งเพิ่มเติม เพราะคิดว่ามันจะเพิ่มความเท่และมีสไตล์ แต่ผู้หญิงหลายคนไม่ชอบแนวนี้ ดังนั้น ก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วกันกัน
   • หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อคอวี เท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะมันดูน่ารักเกินไป สำหรับกรณีที่อยากมีสไตล์แบบดั้งเดิม
   • จงมีความกล้าและลองสวมเสื้อกั๊กยีนส์ สเวตเตอร์ลายขวาง หรือชุดแนวเรโทรดูบ้าง หากคุณอยากนำสไตล์เหล่านั้น กลับมาทำให้เท่และโดดเด่นอีกครั้ง
   • หากต้องการดูหวือหวามีสไตล์มากขึ้น คุณอาจลองใส่เสื้อเชิ้ตแบบติดกระดุมปกเสื้อ และมีสไตล์การออกแบบแนวฟังกี้ก็ได้
   • คุณอาจใส่กางเกงหลวมหน่อยก็ได้ แต่อย่าหลวมจนหลุดตูด
   • เสื้อยืดสีขาว เหมาะที่จะสวมใส่ได้เสมอ
   • ลองใส่สูทแบบแจ็คเก็ต คู่กับเชิ้ตกระดุมปกและกางเกงยีนส์ดูสิ การใส่สูทแจ็คเก็ต ไม่จำเป็นต้องใส่ในงานแฟนซีอะไรหรอก
3. 
   3
   จัดรองเท้าโดนๆ มาสักคู่. หากคุณอยากมีสไตล์ ก็จำเป็นต้องมีรองเท้าคู่ใจที่ดี ส่วนใหญ่แล้วผู้ชายจะเหมาะกับหุ้มส้นที่สุด เว้นเสียแต่ว่า จำเป็นต้องเป็นทางการนิดนึง แต่จะว่าไปแล้ว หากกล้าพอ การแต่งชุดแบบทางการคู่กับรองเท้าหุ้มส้นต่อไปนี้ ก็ทำให้มีสไตล์ได้เช่นกัน

   • จอร์แดน เรโทร
   • เลอบร็อน
   • โคบี้
   • เคดีส์ (KD's)
   • ร็อชเช รันส์ (รุ่นหนึ่งของไนกี้)
   • ไนกี้ เอสบี
   • แวนส์ (Vans)
   • สเปอร์รี (Sperry)
   • ไนกี้ โฟมโพสิท
   • คอนเวิร์สแบบหุ้มข้อ
4. 
   4
   เครื่องประดับ. สำหรับผู้ชาย การตกแต่งด้วยเครื่องประดับเล็กน้อย สามารถทำให้การแต่งกายดูเจ๋งได้มากกว่าเดิมอีกเป็นกอง ซึ่งคุณไม่จำเป็นต้องเน้นปริมาณ แต่ต้องเลือกสรรอย่างรอบคอบ ไม่ว่าจะเป็นแว่นกันแดด หรือหมวกเก๋ๆ เก๋าๆ สักหน่อย ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างเครื่องประดับ ที่เหมาะกับเสื้อผ้าแบบผู้ชายๆ :

   • แว่นดำแบบไม่มีกรอบ หรือแบบชัตเตอร์เฉด
   • นาฬิกาเรือนทอง
   • หมวกเบสบอล
   • แลปแลนเดอร์
   • หมวกแค็ปกระดุมหลัง ยี่ห้อ Mitchell and Ness, Zephyr, American Needle, New Era และ Last Kings เป็นต้น
   • หากคุณมีเงินมากหน่อย ก็ไปสอยเข็มขัดจากแบรนด์เนมชื่อดังอย่าง Hermes, Gucci, Fendi, หรือ Louis Vuitton มาใส่ดู
   • ป้ายชื่อหรือโซ่ห้อยคอแบบทหาร (Dog Tag) ก็เอามาใส่เท่ๆ ได้
   โฆษณา

วิธีการ 3

วิธีการ 3 ของ 3:

มีสไตล์ของตัวเองในแบบผู้หญิง

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   มีภาษากายที่ถูกต้อง. การมีสไตล์ในแบบผู้หญิง คุณต้องรู้จักควบคุมภาษากาย และทำให้ทุกคนเห็นว่า คุณภาคภูมิใจในภาพลักษณ์ของตัวเอง เดินให้หัวไหล่แผ่ออกเล็กน้อย และเชิดศีรษะเข้าไว้ หลีกเลี่ยงการเดินขดตัว ไม่ว่าในกรณีใดๆ จงยืนอย่างสง่าผ่าเผย และมีความทะนงตน ยิ้มให้คนอื่นและสบตากับพวกเขา อย่ากลัวที่จะสัมผัสใครบางคนอย่างอ่อนโยนบ้าง ในขณะที่พูดคุยกัน

   • เวลาที่คุณเดินไปในที่ต่างๆ อย่าทำท่าทางลังเล พยายามทำตัวราวกับว่า คุณรู้จุดหมายอยู่เสมอ แม้ว่าคุณอาจจะไม่รู้ก็ตาม
   • หลีกเลี่ยงการหยิบจับเครื่องประดับ สายสร้อย วุ่นอยู่กับนิ้วมือของตัวเอง ไม่งั้นคุณจะดูเป็นพวกไม่มั่นใจ
2. 
   2
   สวมชุดท่อนบนอย่างมีสไตล์. ตราบใดที่คุณใส่แล้วดูดี คุณสามารถสวมใส่เชิ้ตแบบไหนก็ได้ ที่ดูเหมาะกับคุณ ไม่ว่าคุณจะเลือกใส่ชุดรัดรูปหรือแบบหลวม ทั้งหมดที่ต้องทำก็คือ การภาคภูมิใจกับมัน ไม่ว่าคุณจะใส่ชุดเปลือยไหล่ เสื้อเอวลอย เสื้อลายกิ๋บเก๋ หรือเสื้อแบบสายคล้องคอ พยายามเลือกสวมใส่ในแบบที่ยกระดับความมีสไตล์ของคุณเอง:

   • เสื้อฮูด คุณอาจจะเลือกแบบที่มีโลโก้ทีมกีฬาที่คุณโปรดปราน หรือถ้าจะเอาแบบเรโทรหน่อยๆ ก็ลองใส่เสื้อฮูดแบบมีโลโก้สถาบันการศึกษาเก่าของตนเอง มันจะเด่นเสียจนทำให้คุณดูมีสไตล์ของตัวเองขึ้นมาโดยปริยาย
   • เสื้อยืด ไม่ว่าจะแบบหลวม แบบรัดรูป แบบมีลายกราฟฟิกหรือโลโก้ใดๆ ต่างก็ใส่แล้วดูเท่ได้ คุณยังอาจลองใส่เสื้อเอวลอยคู่กับกางเกงแบบแบ็คกี้ หลวมๆ กองๆ โดยเลือกเสื้อแบบที่มีโลโก้อย่าง 'Adidas' หรือ 'Under Armour' มาใส่ก็ได้
   • ชุดเปลือยไหล่ จะใส่แบบสายคล้องคอ สายสปาเก็ตตี้ หรือแม้แต่เสื้อเกาะอกก็ได้ หากคุณกล้าพอ หรือจะใส่ชุดเปลือยใหล่กะทัดรัดกับแจ็คเก็ตเท่ๆ ตัวใหญ่ ก็เก๋ไม่เบาทีเดียว
   • แจ็คเก็ตสีเงินหรือสีทอง ยิ่งมีกระเป๋าและซิปมากเท่าไร ก็ยิ่งเท่
   • แจ็คเก็ตแบบเลทเทอร์แมน ยังดูเท่เสมอ แม้จะเก่าเก็บมาเป็นสิบปีแล้วก็ตาม
   • ชุดกีฬาก็เท่ได้ ไม่ว่าจะเป็นชุดกีฬาที่มีชื่อของนักกีฬาบาสเก็ตบอลคนโปรดในยุคปัจจุบัน หรือจะเป็นนักกีฬาในตำนานอย่างแช็คและจอร์แดน ที่ให้ภาพลักษณ์ของวันคืนเก่าๆ ใส่คู่กับเล็กกิ้ง ก็ดูมีสไตล์ไปอีกแบบ
3. 
   3
   สวมกางเกงขาสั้นหรือยาวแบบเท่ๆ. ไม่ว่าจะเป็นกางเกงตัวใด ต่างก็ทำให้การแต่งกายของคุณดูมีสไตล์ขึ้นมาได้ ขอเพียงใส่ด้วยมุมมองที่เหมาะสม ทั้งกางเกงบาสเก็ตบอล หรือกางเกงช่างฯ ต่างก็ใส่แล้วดูดี ขอแค่ใส่ด้วยความภาคภูมิ หากจะเอาแบบกางเกงรัดรูป ก็ควรเลือกเสื้อที่หลวมหน่อย แต่หากกางเกงหลวม ก็ควรใส่กับเสื้อรัด ส่วนกางเกงในแบบต่างๆ ต่อไปนี้ก็ดูดีได้เช่นกัน:

   • กางเกงขาสั้นรัดก้น กางเกงกีฬา หรือกางเกงขาเต้น (Chachi)
   • เสื้อวอร์มหลวมๆ กางเกงวอร์ม หรือกางเกงเป้าถ่วง
   • ยีนส์รัดรูป เล็กกิ้ง หรือแบบผสม (Jeggings)
   • กางเกงลวดลายสัตว์ต่างๆ หรืออะไรก็ได้ที่ดูสีฉูดฉาด แรงๆ
4. 
   4
   รองเท้าต้องเท่ด้วย. หากคุณอยากใส่รองเท้าแบบมีสไตล์ คุณอาจใส่แนวอินเทรนด์หรือแบบนักกีฬาก็ได้ หรืออาจจะเสริมความเป็นกุลสตรีด้วยส้นสูงสักหน่อย คุณต้องเลือกว่าจะให้มันมาเสริมความมีสไตล์โดยรวมของคุณ หรือปล่อยให้มันเป็นเพียงส่วนประกอบชิ้นเล็กๆ เพียงชิ้นหนึ่งเท่านั้น หากคุณต้องการแบบแรก ก็ลองเลือกรองเท้าต่อไปนี้:

   • รองเท้าหุ้มส้นอย่าง ยี่ห้อ Jordans, Vans, Supra, Nikes, และAdidas
   • คอนเวิร์สสีขาวหรือดำ
   • ส้นสุงลายดำ เงิน หรือทอง
   • รองเท้าของ Rainbows หรือแตะแบบมีสายรัด ยี่ห้อใดๆ ก็ตาม
   • รองเท้าส้นแบน
   • รองเท้าของ Birkenstocks
   • รองเท้าของ Crocks
5. 
   5
   เครื่องประดับมีสไตล์. คุณต้องเลือกว่า คุณจะออกแนวหลุดโลกไปเลย หรือจะเอาแค่ต่างหูคู่เดียว หรือหมวกแบบมีสไตล์เข้ากันลงตัวกับส่วนอื่นๆ ในร่างกาย แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกแบบไหน เครื่องประดับก็มีมากมายหลากหลายให้คุณเลือกลอง ดังเช่นสิ่งของต่อไปนี้:

   • กำไล สร้อยข้อมือ หรือแม้แต่กุญแจมือแฟชั่น
   • ต่างหูแบบห่วงสีเงินหรือทอง รวมถึงสร้อยคอ
   • สายโซ่แฟชั่น
   • แหวนนิ้วเท้า
   • แหวนลวดลายโบราณ
   • จิวจมูกหรือจิวหูเพชร
   • หมวกผ้าแบบสปอร์ต หรือหมวกฟิตศีรษะ
   • แถบคาดผม
   • แว่นไร้กรอบขนาดใหญ่
6. 
   6
   แต่งหน้าทำผมให้สุดชิค. การจะมีสไตล์ของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องโบ๊ะหน้าให้หนาเป็นสิบๆ ชั้น หรือทำผมเลียนแบบชมพู่ อารยา ก็ได้ ขอแค่เป็นตัวของตัวเอง และดึงดูดทุกสายตามาที่รูปลักษณ์ของคุณให้ได้ก็พอ โดยทำสิ่งต่อไปนี้ :

   • แต่งหน้าในระดับที่คุณรู้สึกมั่นใจก็พอ หากคุณชอบแต่งหน้า ก็จัดเต็มไปเลย แต่หากไม่ใช่แนวของคุณ ยังไงก็ยังเท่ได้อยู่
   • ทาลิปสติกหรือลิปกรอสบางๆ
   • ใช้อายไลเนอร์และชาโดว์สีเข้มๆ เพื่อแต่งแนวสโมคกี้อายส์
   • เปลี่ยนทรงผมเป็นระยะๆ บ้าง โดยอาจย้อมเป็นสีแรงๆ อย่างสีม่วงหรือเขียว และตัดทรงซอยสั้นตั้งๆ แบบไมลีย์ ไซรัส ดูนานๆ ครั้ง หรือจะเลือกไว้ปอยผมให้ยาวลงมาต่ำกว่าไหล่บ้างก็ได้
   โฆษณา

เคล็ดลับ

• จงสนุกเข้าไว้ อย่ากลัวที่จะเป็นตัวของตัวเองไปพร้อมพร้อมกับการมีสไตล์ หากคุณชอบบางสิ่งที่แม้อาจดูไม่มีสไตล์ ก็จงกล้าที่จะเปิดเผย
• สวมใส่รองเท้าที่มาจากแฟชั่นไลน์ของนักกีฬาดังอย่าง จอร์แดน หรือ เลอบรอนส์ ดูก็ได้ พื้นมันอาจจะดูสูงไปนิด แต่มันก็ทำให้คุณมีสไตล์ขึ้นมาได้ทันที

โฆษณา