วิธีการ เปลือยกายบ่อยขึ้นแม้ว่าจะอยู่กับครอบครัว

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

หาโอกาสที่จะได้เปลือยกาย

สนุกกับการเปลือยกายโดยไม่ทำให้คนในครอบครัวไม่พอใจ

เคารพความสบายใจและธรรมเนียมปฏิบัติของคนในครอบครัว

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

ไม่ว่าใครก็อยากสบายใจที่ได้เป็นตัวของตัวเองทั้งนั้น แต่บางคนก็สบายใจมากเสียจนไม่อยากเอาอะไรมาคลุมไว้เลยล่ะ! การเปลือยกายนอกจากจะเป็นเรื่องธรรมชาติมากๆ แล้วยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพด้วย แต่มันก็ยากที่จะอธิบายพฤติกรรมชอบโชว์ให้คนอื่นเข้าใจถ้าคุณอยู่ร่วมบ้านกับสมาชิกคนอื่นๆ ในครอบครัว ถ้าคุณตั้งใจจะใส่ชุดวันเกิดให้บ่อยขึ้น ก่อนอื่นคุณต้องแน่ใจก่อนว่าคนอื่นเขาสบายใจที่คุณทำแบบนั้น หลังจากนั้นคุณก็สามารถหาวิธีที่จะปลดปล่อยตัวเองได้โดยที่ยังรักษาความเป็นส่วนตัวไว้ได้ด้วย

ขั้นตอน

ส่วน 1

ส่วน 1 ของ 3:

หาโอกาสที่จะได้เปลือยกาย

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   นอนเปลือยกาย. เริ่มจากการนอนเปลือยกายก่อน ซึ่งมันก็ไม่ได้ฟังดูแปลกขนาดนั้นเพราะหลายคนก็ชอบความรู้สึกของการถูกปลดปล่อยระหว่างเข้านอนในตอนกลางคืน แต่ถ้าคุณอยู่ร่วมห้องกับคนอื่น คุณก็ต้องคิดถึงความรู้สึกของเขาก่อนที่จะเปลือยกายเอาดื้อๆ คุณอาจจะต้องคุยกับรูมเมตเกี่ยวกับการนอนของคุณก่อนเพื่อดูว่า เขามีปัญหากับการที่คุณนอนเปลือยกายในห้องเดียวกันหรือเปล่า

   • การนอนเปลือยกายทำให้คุณรู้สึกเย็นขึ้นและผ่อนคลายขึ้นขณะที่คุณผล็อยหลับไป
2. 
   2
   ถอดเสื้อผ้าเวลาไม่มีใครอยู่บ้าน. คุณสามารถฉวยโอกาสจากการที่ไม่มีใครอยู่บ้านได้ด้วยการถอดเสื้อผ้าทิ้งไปเวลาที่คุณอยู่บ้านคนเดียว คุณจะแก้ผ้าเดินไปไหนมาไหนก็ได้ตามใจคุณโดยไม่ต้องกังวลว่าใครจะว่าอะไร แต่คุณต้องรู้ว่าทุกคนจะกลับมาตอนไหน เพื่อที่จะได้ไม่เกิดความประหลาดใจแบบกระอักกระอ่วน

   • หรือคุณจะรอจนกว่าทุกคนจะหลับไปแล้วก็ได้ค่อยถอดเสื้อผ้าออกหมด
   • อย่าเปิดหน้าต่างทิ้งไว้เวลาเปลือยกายอยู่ที่บ้าน เพราะการอยู่แบบธรรมชาติกับการโชว์ของดีให้เพื่อนบ้านดูนั้นมันคนละเรื่องกัน
3. 
   3
   ทำให้ห้องของคุณเป็นเขต “ปลอดเสื้อผ้า”. ถ้าคุณมีห้องส่วนตัว บอกให้ทุกคนรู้ว่าคุณจะเปลือยกายเวลาอยู่คนเดียว คุณอาจจะแขวนป้ายบอกไว้ว่า เวลาที่คุณปิดประตูอยู่ในห้อง เป็นไปได้ว่าคุณอาจจะไม่ได้ใส่เสื้อผ้า นอกจากนี้คุณอาจจะแค่บอกคนในครอบครัวว่า คุณเลือกที่จะเปลือยกายและขอให้พวกเขาเคาะประตูก่อนโผล่พรวดเข้ามา

   • คุณอาจจะล็อกประตูเวลาที่คุณปล่อยให้ร่างกายได้หายใจหายคอ แล้วแต่ว่ากฎความเป็นส่วนตัวในครอบครัวเป็นอย่างไร
   • คุณอาจจะมีเสื้อผ้าที่ใส่และถอดง่ายๆ ติดไว้ใกล้ๆ เผื่อว่าคุณต้องเข้าออกห้องบ่อยๆ
4. 
   4
   แน่ใจว่าคนรอบข้างสบายใจกับการที่คุณเปลือยกาย. สมมุติว่าคุณไม่ใช่คนขี้อายและไม่ได้รู้สึกอายอะไรที่คนที่คุณรักจะมาเห็นคุณในตอนที่คุณเปราะบางที่สุด ก็ค่อยๆ เพิ่มระดับไปทีละนิดเพื่อให้คนในครอบครัวอนุญาตให้คุณเปลือยกายได้ ถามคนที่คุณอยู่ด้วยก่อนว่า เขาจะรู้สึกอย่างไรกับการที่คุณเปลือยกายรอบบ้านเพื่อไม่ให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ชวนกระอักกระอ่วน ถ้าเขาโอเคกับความคิดนี้ คุณก็สามารถเปลือยกายได้บ่อยขึ้นทีละนิดๆ จนมันกลายเป็นเรื่องปกติในบ้าน

   • เปิดประเด็นด้วยการถามคำถามจริงจังว่า "จะเป็นอะไรไหมถ้าฉันจะใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นในบ้าน" การถามอย่างตรงไปตรงมาจะทำให้คนในครอบครัวเข้าใจว่า คุณนึกถึงความรู้สึกของพวกเขา
   • ถ้าคนรอบตัวคุณดูจะไม่เห็นด้วยหรือแสดงความคิดเห็นที่เป็นการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการเปลือยการของคุณ คุณก็ควรใส่เสื้อผ้าเวลาที่พวกเขาอยู่ด้วยตั้งแต่นี้เป็นต้นไป

ส่วน 2

ส่วน 2 ของ 3:

สนุกกับการเปลือยกายโดยไม่ทำให้คนในครอบครัวไม่พอใจ

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   บอกให้พวกเขารู้ว่าคุณแก้ผ้าอยู่. บอกให้คนในครอบครัวรู้ว่าคุณอาจจะเปลือยกายอยู่ด้วยการเตือนพวกเขาว่า เป็นไปได้ว่าพวกเขาอาจจะเห็นคุณมากกว่าที่พวกเขาคิดว่าจะได้เห็น เช่น ถ้ามีคนเคาะประตูหรือพยายามจะเข้ามาคุยกับคุณ ก็ให้บอกเขาไปตรงๆ ว่าคุณไม่ได้ใส่เสื้อผ้า ถ้าจะเข้ามาก็เสี่ยงเอา ถ้าเขาเลือกที่จะเข้ามาก็แปลว่าเขาโอเค และถึงเขาจะไม่โอเค คุณก็ยังได้เปลือยกายแบบเป็นส่วนตัวเหมือนเดิม

   • หลังจากที่คุณเปลือยกายในที่ส่วนตัวไปแล้วสักระยะ ครอบครัวของคุณก็จะเริ่มมองว่ามันแปลกประหลาดน้อยลง
   • พยายามอย่าทำให้เขาตกอกตกใจโดยที่ไม่เตือนเขาก่อน เพราะสำหรับบางคนการเห็นพ่อ/แม่ ลูก หรือพี่/น้องเปลือยกายนั้นมันคือฝันร้ายชัดๆ
2. 
   2
   เริ่มใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นลง. วิธีที่ดีที่สุดในการเตรียมความพร้อมให้ครอบครัวชินกับการที่คุณเปลือยกายมากขึ้นหลังจากที่คุณได้รับอนุญาตแล้วก็คือ การค่อยๆ ไต่ระดับไปเรื่อยๆ ลองนั่งๆ นอนๆ ในชุดชั้นในหรือชุดที่เปิดเผยมากกว่าปกติ เวลาที่คุณอาบน้ำเสร็จ ก็ให้เอาผ้าขนหนูพันตัวแล้วอ้อยอิ่งอยู่ในครัวหรือห้องนั่งเล่นสักพักในที่ที่มีคนเห็นคุณ พอความรู้สึกกระอักกระอ่วนในช่วงแรกหายไปแล้ว พวกเขาก็จะยอมรับที่คุณเลือกที่จะเปลือยกายในบ้านได้ไม่ยาก

   • อย่าเปลี่ยนจากใส่เสื้อผ้าเต็มยศไปเดินล่อนจ้อนในชั่วข้ามคืน เริ่มจากค่อยๆ ใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นลงเรื่อยๆ ไปสักระยะเพื่อที่การเปลี่ยนผ่านจะได้ไม่น่าตกอกตกใจเกินไป
3. 
   3
   ระมัดระวังเวลาเปลือยกาย. พอทุกคนยอมรับพฤติกรรมใหม่ของคุณได้แล้ว คุณก็สามารถเปลือยกายสักเดี๋ยวในพื้นที่ส่วนร่วมได้ เดินผ่านห้องนั่งเล่นแบบไม่ต้องกลัวสายตาใคร หรือค่อยๆ ย่องไปตามทางเดินเพื่อไปเข้าห้องน้ำในตอนกลางคืนตอนที่คุณไม่ได้ใส่เสื้อผ้า ช่วงแรกๆ คนที่คุณรักอาจจะประหลาดใจอยู่บ้างถ้าพวกเขายังไม่ชิน แต่ตราบใดที่คุณทำให้พวกเขาสบายใจกับการกระทำของคุณได้ พวกเขาก็จะเริ่มชินในที่สุด

   • อย่าเดินเปลือยกายปราดไปข้างหน้าคนในครอบครัว หรือทำอย่างนั้นแค่เพื่อให้คนอื่นเห็นเด็ดขาด
4. 
   4
   เล่นมุกเรื่องที่คุณเลือกที่จะเปลือยกาย. พูดถึงเรื่องที่คุณเปลือยกายเดินไปไหนมาไหนเป็นประจำเหมือนเป็นเรื่องขบขัน ถ้าคุณโน้มน้าวให้พวกญาติๆ มองว่ามันเป็นเรื่องขำๆ หรือตลกได้ พวกเขาก็จะรู้สึกกระอักกระอ่วนและตึงเครียดน้อยลง เรื่องที่เป็นเรื่องต้องห้ามส่วนใหญ่จะเบาบางลงเมื่อคุณสามารถหัวเราะกับเรื่องเหล่านั้นได้

   • การทำเหมือนว่าการเปลือยกายของคุณเป็นเรื่องขำขันเป็นการเปิดโอกาสให้คุณได้เปิดประเด็นโดยที่ไม่ทำให้รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องประหลาด

ส่วน 3

ส่วน 3 ของ 3:

เคารพความสบายใจและธรรมเนียมปฏิบัติของคนในครอบครัว

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   พูดคุยเรื่องพฤติกรรมของคุณอย่างเปิดใจ. พูดคุยกับครอบครัวไปตามตรงว่าทำไมคุณถึงรู้สึกสบายใจเวลาเปลือยกายมากกว่า ทำให้พวกเขารู้ว่าคุณเองก็ไม่ได้มีปัญหากับวิธีที่พวกเขาเลือกจะผ่อนคลาย เพราะฉะนั้นอย่างน้อยพวกเขาก็น่าจะเข้าใจวิธีการผ่อนคลายของคุณ พวกเขาอาจจะไม่เข้าใจในตอนแรก แต่การพูดคุยกันตรงๆ จะสามารถช่วยให้พวกเขารู้สึกสบายใจกับการตัดสินใจของคุณได้

   • อธิบายให้พวกเขาฟังว่า การเปลือยการเป็นวิธีที่ดีในการแสดงออกถึงการเห็นคุณค่าในร่างกายของตัวเอง
   • เตรียมใจว่าครอบครัวอาจจะไม่เห็นด้วยกับปรัชญาของคุณ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะเห็นดีเห็นงามกับการเปลือยกายต่อหน้าคนอื่น
2. 
   2
   เน้นย้ำว่าการเปลือยกายเป็นเรื่องธรรมชาติ. สงบศึกกับการไม่เห็นด้วยใดๆ ก็ตามที่อาจเกิดขึ้นด้วยการบอกว่า คุณเชื่อว่าการเปลือยกายคือการเป็นอิสระ การเปลือยกายโดยตัวมันเองแล้วนั้นไม่ได้เป็นเรื่องสกปรกหรือผิดศีลธรรมแต่อย่างใด และเนื่องจากว่าคุณเป็นครอบครัวเดียวกัน คุณก็ควรจะคุ้นเคยกับการเห็นกันและกันในสภาพที่ไม่น่าดูอยู่แล้ว และการคุ้นเคยกับการเปลือยกายของคนในครอบครัวในหลากหลายระดับก็อาจจะทำให้คุณใกล้ชิดกันมากขึ้น

   • ถ้าคุณไม่ได้ทำเหมือนว่าการเปลือยกายเป็นเรื่องน่าเกลียดหรือเสื่อมเสีย ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องรู้สึกอับอายเวลาที่คุณหรือคนรักไม่ได้ใส่เสื้อผ้า
3. 
   3
   ประนีประนอมการโต้เถียง. ครอบครัวของคุณอาจจะยอมรับนิสัยของคุณได้ แต่มันก็มีบางเวลาที่พวกเขารู้สึกว่ามันไม่เหมาะสม ประนีประนอมด้วยการกำหนดเงื่อนไขขึ้นมาว่า เวลาไหน ที่ไหน และกับใครบ้างที่คุณสามารถเปลือยกายด้วยได้ คุณอาจจะทำได้เมื่อคุณอยู่บ้านคนเดียวหรือถ้าคุณอยู่ในห้องนอนและห้องน้ำ แต่คุณควรใส่เสื้อผ้าเวลาที่ปู่ย่าตายายมาเยี่ยม หรือตอนที่พ่อแม่เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงอาหารค่ำ

   • คุณก็ควรมีขอบเขตกำหนดไว้เสมอแม้ในเวลาที่มีแต่คนในครอบครัว อย่าลืมว่าคุณไม่ได้อยู่ในบ้านหลังนี้คนเดียว
4. 
   4
   รู้ว่าเมื่อไหร่ต้องใส่เสื้อผ้า. ไม่ว่าคุณจะยืนกรานสักแค่ไหน แต่คนในครอบครัวก็อาจจะไม่ชอบเรื่องที่คุณจะแก้ผ้าเดินไปเดินมาก็ได้ รู้ผิดชอบชั่วดีและเคารพความต้องการของคนอื่น คุณยังสามารถเปลือยกายเวลาที่อยู่คนเดียวได้ แต่คุณไม่ควรบังคับให้ใครต้องมาเห็นคุณ ทุกสิ่งมีเวลาและสถานที่ที่เหมาะสมกับมัน แค่อาจจะไม่ใช่ตอนที่คุณต้องอยู่ร่วมบ้านกับใครเท่านั้นเอง

   • คนรอบตัวคุณมีสิทธิ์ที่จะไม่ต้องเห็นคุณเปลือยกายเท่าๆ กับที่คุณมีสิทธ์ที่จะเลือกทำแบบนั้น

เคล็ดลับ

• เตรียมเสื้อผ้าที่คุณสามารถใส่ได้อย่างรวดเร็วติดไว้เสมอเผื่อมีเหตุฉุกเฉิน
• มั่นใจในร่างกายและการตัดสินใจที่จะเปลือยกาย ถ้าคุณแสดงออกว่าคุณอาย มันจะดูเหมือนว่าคุณกำลังทำผิด
• ทำให้คนในครอบครัวมั่นใจว่า คุณเปลือยกายเพราะมันสบายกว่า ไม่ใช่เพราะว่าคุณอยากเรียกร้องความสนใจหรือแสดงความคิดเห็นอะไรออกมา
• พอคนในครอบครัวเคยชินกับการที่คุณเปลือยกายแล้ว คุณก็สามารถเดินไปเดินมาในบ้านได้อย่างสบายใจเหมือนเวลาที่คุณใส่เสื้อผ้า

คำเตือน

• สมาชิกคนอื่นๆ ในครอบครัวก็มีสิทธิ์ที่จะสบายใจเช่นเดียวกับคุณ และนั่นก็อาจจะหมายถึงการที่พวกเขาไม่อยากเห็นคุณล่อนจ้อน ถ้าเป็นแบบนี้ให้เปลือยกายเฉพาะในพื้นที่ส่วนตัวเท่านั้น
• เป็นเรื่องปกติที่เด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงในช่วงก่อนวัยรุ่นจะแก้ผ้า และบางคนก็อาจจะมองว่ามันน่ารักดีด้วยซ้ำ แต่พอคุณโตขึ้นและใกล้เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ คนอื่นอาจจะมองว่ามันเป็นพฤติกรรมที่ผิดศีลธรรม หยาบคาย หรือต่ำช้าก็ได้
• ความต้องการที่จะเปลือยกายที่บ้านอาจขัดแย้งกับค่านิยมของครอบครัว คุณต้องแน่ใจว่าไม่มีใครไม่พอใจก่อนจะอวดเรือนร่างให้คนอื่นเห็น
• ดูให้ดีก่อนว่าคนในครอบครัวไม่ได้พาใครมาบ้านก่อนที่คุณจะเสี่ยงให้คนอื่นเห็นคุณแก้ผ้า