บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้
บทความนี้ถูกเข้าชม 47,533 ครั้ง
บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการ run หรือเปิดไฟล์ executable (EXE) ของ Windows ในเครื่อง Mac โดยติดตั้งโปรแกรมฟรีอย่าง WINE หรือติดตั้ง Windows 8 หรือ 10 ด้วยฟีเจอร์ Boot Camp ของ Mac แทน
ขั้นตอน
- เข้าเว็บ WineBottler. เข้าเว็บ http://winebottler.kronenberg.org/ WINE เป็นโปรแกรมขั้นสูง แต่ WineBottler จะมีเมนูที่ใช้ง่ายกว่า WINE
- บางโปรแกรมจะใช้กับ WINE ไม่ได้ ถ้าไฟล์ EXE ไม่ยอมเปิดใน WINE ก็ต้องใช้ Boot Camp แทน
- คลิกปุ่ม "WineBottler 1.8-rc4 Development". ที่เป็นปุ่มกลางหน้า มีลูกศรสีเขียวข้างบน
- ถ้าใช้ระบบเก่ากว่า OS X Capitan ให้คลิกตัวเลือก WineBottler 1.6.1 Stable แทน
- คลิก Download ตอนที่ขึ้น. แล้วจะไปโผล่ที่หน้าโฆษณา
- คลิก SKIP AD. ที่โผล่มามุมขวาบนของหน้าจอ หลังผ่านไป 5 วินาที
- ห้ามคลิกอย่างอื่นในหน้านี้ ระหว่างรอให้ปุ่ม SKIP AD โผล่มา
- ถ้าใช้ ad blocker ก็ต้องปิดการใช้งานเฉพาะหน้าเว็บนี้ก่อน
- รอจนดาวน์โหลด WineBottler เสร็จ. ถ้า WineBottler ไม่เริ่มดาวน์โหลดลงคอมภายใน 5 วินาที ให้คลิกลิงค์ "WineBottlerCombo_1.8-rc4.dmg" เพื่อบังคับดาวน์โหลด
- ติดตั้ง WineBottler. โดยดับเบิลคลิกไฟล์ติดตั้ง WineBottler แล้วลากทั้งไอคอน "Wine" และ "WineBottler" ไปใส่ในโฟลเดอร์ "Applications" สีฟ้า
- คลิก 2 นิ้วที่ไฟล์ EXE. เพื่อขยายเมนูลงมา
- เลือก Open With. ทางด้านบนของเมนูที่ขยายลงมา
- คลิก Wine. ในหน้าต่างที่โผล่มาทางซ้ายหรือขวาของเมนูที่ขยายลงมา แล้วจะมีขึ้นเตือน
- ต้องติ๊กเลือก "Run directly in" ไว้. ถ้ายังไม่ได้ติ๊ก ให้คลิกวงกลมทางซ้ายของ "Run directly in [address]"
- คลิก Go. ที่เป็นปุ่มสีฟ้า มุมขวาล่างของหน้าต่างเตือน ถ้า WINE รองรับไฟล์ EXE นั้น ก็จะเริ่มโหลดทันที
- ถ้าไฟล์ EXE ไม่ยอมเปิดใน WINE ให้ใช้วิธีการถัดไปแทน
โฆษณา
- เช็คว่ามีไฟล์ติดตั้ง Windows. Boot Camp ของ MacOS รองรับการใช้งาน Windows 8, 8.1 และ 10[1]
- คุณดาวน์โหลดไฟล์ ISO ของ Windows จากเว็บของ Microsoft ได้เลย
- เปิดโฟลเดอร์ Utilities ของ Mac. โดยคลิกไอคอนรูปแว่นขยายที่ด้านขวาบนของหน้าจอ Mac พิมพ์ "Utilities" แล้วคลิกโฟลเดอร์ Utilities
- ดับเบิลคลิกไอคอน Boot Camp Assistant. ที่เป็นรูปฮาร์ดไดรฟ์สีเทา
- ทำตามขั้นตอนในหน้าจอ. โดยขั้นตอนคือให้เลือกไฟล์ติดตั้ง Windows เลือกไดรฟ์ที่จะติดตั้ง Windows และรีสตาร์ท Mac
- ถ้าติดตั้ง Windows จากไดรฟ์ USB จะมีให้เสียบไดรฟ์ระหว่างขั้นตอน
- รอจน Mac รีสตาร์ท. พอตั้ง settings ของ Boot Camp เสร็จแล้ว จะมีให้รีสตาร์ท Mac พอรีสตาร์ทเสร็จ ก็จะเข้าหน้าจอติดตั้ง Windows[2]
- แบ่งพาร์ทิชั่น "BOOTCAMP" ก่อน. ถ้าติดตั้ง Windows จากไดรฟ์ USB ก็ต้องเลือกติดตั้งด้วยตัวเลือกนี้
- ถ้าติดตั้ง Windows จากไฟล์ ISO โดยตรง Boot Camp จะแบ่งพาร์ทิชั่นไดรฟ์ให้เอง
- ติดตั้ง Windows ไปตามขั้นตอนในหน้าจอ. ขั้นตอนจะต่างกันไปตาม Windows เวอร์ชั่นที่ใช้ เสร็จแล้วก็ต้องรีสตาร์ท Mac เหมือนตอนติดตั้ง Boot Camp Assistant
- กด ⌥ Option ค้างไว้ตอน Mac รีสตาร์ท. เพื่อโหลดเข้าหน้าต่าง Startup Manager
- ปล่อยปุ่ม ⌥ Option ตอน Startup Manager โผล่มา. จะเป็นหน้าต่างที่มีไดรฟ์ต่างๆ ทั้งหมดที่ใช้เปิดเครื่อง Mac ได้
- คลิกไอคอน "Boot Camp" แล้วกด ⏎ Return. เพื่อโหลดเครื่อง Mac เข้าระบบปฏิบัติการ Windows
- หาแล้วดับเบิลคลิกไฟล์ EXE. ถ้าใช้ Windows แล้ว ก็จะเปิดไฟล์ EXE ได้ทันทีหลังดับเบิลคลิกโฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.