ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความX
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้
บทความนี้ถูกเข้าชม 7,341 ครั้ง
เครื่องสแกนเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาในโลกดิจิตอลปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นความจำเป็นในด้านธุรกิจหรือการผลิตซ้ำ การใช้เครื่องสแกนก็มีความจำเป็นอย่างมากต่อโลกธุรกิจสมัยใหม่ และก็โชคดีที่มันใช้งานง่ายแบบสุดๆ ถ้าไม่มีเครื่องสแกนเป็นของตัวเอง คุณสามารถหาใช้ได้ตามห้องสมุดใกล้ๆ บ้าน หรือตามร้านถ่ายเอกสารและร้านส่งพัสดุ ประเด็นสำคัญคือ การสแกนเป็นการแปลงข้อมูลในเอกสารเป็นแผ่นๆ ออกมาเป็นไฟล์ภาพแบบดิจิตอล โดยใช้เทคโนโลยีแบบเดียวกับที่เครื่องถ่ายเอกสารใช้ในการถ่ายภาพบนเอกสาร แต่แทนที่จะปรินท์ภาพที่ถ่ายได้ออกมา เครื่องสแกนจะส่งภาพเข้าคอมพิวเตอร์ คุณจึงสามารถนำภาพไปใช้งานได้หลากหลาย
ขั้นตอน
หาซื้อเครื่องสแกน. ก่อนอื่น คุณจำเป็นต้องหาซื้อเครื่องสแกนสักเครื่องสำหรับสแกนเอกสาร คุณสามารถซื้อเครื่องแบบที่สแกนได้อย่างเดียว หรือจะซื้อแบบที่มีฟังก์ชันอื่นๆ มาเป็นเซ็ตก็ได้ (มีทั้งฟังก์ชันส่งแฟกซ์ ปรินท์งาน และถ่ายเอกสาร)- เมื่อซื้อเครื่องสแกนมาแล้ว คุณจะต้องต่อเครื่องเข้ากับคอมพิวเตอร์ และทำการติดตั้งโปรแกรมที่เกี่ยวข้อง โดยปกติ เครื่องสแกนจะเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์โดยใช้สาย USB (ซึ่งน่าจะมีมาพร้อม) ส่วนการติดตั้งโปรแกรมก็ไม่ค่อยมีอะไรซับซ้อน ลองทำตามคำแนะนำในคู่มือการใช้งาน หรือจะใช้แผ่นติดตั้งก็ได้
- เมื่อซื้อเครื่องสแกนมาแล้ว คุณจะต้องต่อเครื่องเข้ากับคอมพิวเตอร์ และทำการติดตั้งโปรแกรมที่เกี่ยวข้อง โดยปกติ เครื่องสแกนจะเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์โดยใช้สาย USB (ซึ่งน่าจะมีมาพร้อม) ส่วนการติดตั้งโปรแกรมก็ไม่ค่อยมีอะไรซับซ้อน ลองทำตามคำแนะนำในคู่มือการใช้งาน หรือจะใช้แผ่นติดตั้งก็ได้
หาโปรแกรมดีๆ สักตัว. คุณจำเป็นต้องมีโปรแกรมเพื่อเปิดใช้เครื่องสแกน โดยปกติ โปรแกรมนี้จะติดมากับเครื่องสแกนอยู่แล้ว ยกเว้นคุณจะซื้อเครื่องมือสองมา (ถ้าเป็นอย่างนั้นก็อย่าลืมถามถึงโปรแกรมด้วยนะ) นอกจากนี้ ถ้าคุณตั้งใจไว้ว่าจะใช้เครื่องสแกนไว้ทำอะไรซับซ้อนๆ สักหน่อย คุณก็ต้องมีโปรแกรมไว้ปรับเครื่องสแกนด้วย- โปรแกรมต่างๆ เช่น Adobe Acrobat ช่วยให้คุณสามารถปรับเนื้อหาที่สแกนออกมาเป็นเอกสารอ่านได้แบบหลายหน้า ส่วนโปรแกรมอย่าง Adobe Photoshop จะช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งภาพถ่ายที่สแกนออกมา หรือปรับเนื้อหาที่สแกนให้มีขนาดใหญ่ขึ้นได้
- โปรแกรมต่างๆ เช่น Adobe Acrobat ช่วยให้คุณสามารถปรับเนื้อหาที่สแกนออกมาเป็นเอกสารอ่านได้แบบหลายหน้า ส่วนโปรแกรมอย่าง Adobe Photoshop จะช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งภาพถ่ายที่สแกนออกมา หรือปรับเนื้อหาที่สแกนให้มีขนาดใหญ่ขึ้นได้
เตรียมเอกสารที่สามารถสแกนได้. คุณจำเป็นต้องมีเอกสารที่ต้องการสแกน เพราะคุณจะต้องใส่มันเข้าไปในเครื่องสแกน (เหมือนที่ทำกับเครื่องถ่ายเอกสารนั่นแหละ) และต้องแน่ใจด้วยว่าเอกสารของคุณสามารถนำมาสแกนได้ เพราะถ้าเอกสารไม่เรียบ หรือมีขนาดใหญ่กว่าเครื่องสแกน หรือมีลักษณะที่ต้องคอยระมัดระวัง เช่น มีวัสดุที่สะท้อนแสงมากเป็นพิเศษ เอกสารเหล่านั้นจะไม่สามารถนำมาสแกนได้โฆษณา
เปิดเครื่องสแกน. เมื่อมีเครื่องสแกนและต่อเครื่องเข้ากับคอมพิวเตอร์เรียบร้อยแล้ว ทีนี้ คุณก็สามารถเริ่มสแกนเอกสารได้แล้วล่ะ โดยขั้นแรก ให้เปิดฝาเครื่องสแกนเพื่อเผยโฉมหน้าของแผ่นกระจกสำหรับวางเอกสาร เหมือนกับตอนที่คุณเปิดเครื่องถ่ายเอกสารนั่นแหละ
ใส่เอกสารลงในถาดใส่เอกสารสแกนหรือวางลงบนแผ่นกระจก. โดยให้คว่ำด้านที่ต้องการสแกนลงบนแผ่นกระจกเพื่อให้กล้องด้านใต้เห็นข้อมูลของคุณ แล้วจัดวางเอกสารให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ตามขอบของแผ่นกระจกจะมีเครื่องหมายแสดงพื้นที่ของกระดาษขนาดมาตรฐาน รวมถึงขนาดอื่นๆ ทั่วๆ ไป ส่วนใดก็ตามของเอกสารที่ไม่อยู่บนแผ่นกระจกจะไม่ถูกสแกน เมื่อวางเอกสารที่ต้องการสแกนลงไปแล้วก็ปิดฝาเครื่องได้เลย
เปิดโปรแกรมสแกน. เมื่อวางเอกสารที่ต้องการสแกนลงไปแล้ว ให้เปิดโปรแกรมสแกนบนคอมพิวเตอร์ของคุณ โดยคุณสามารถเข้าโปรแกรมได้หลายวิธี พยายามติดตั้งโปรแกรมที่มีไอคอนให้กดเข้าได้ตลอดเวลา
ปรับตั้งค่าการสแกน. ปรับตั้งค่าที่จำเป็นสำหรับเอกสารที่ต้องการสแกน ส่วนใหญ่เอกสารแบบข้อความจะสามารถสแกนแบบขาวดำได้ โปรแกรมสแกนบางตัวอาจจะมีฟังก์ชันให้เลือกระหว่างสแกนแบบภาพถ่ายหรือสแกนแบบโปสเตอร์ โดยโปรแกรมสแกนจะมีอยู่มากมายหลายแบรนด์หลายรูปแบบ คุณต้องทดลองเล่นดูเอาเองแล้วล่ะ- ค่าที่คุณต้องการเปลี่ยนมักจะเกี่ยวข้องกับคุณภาพในการสแกน ยิ่งคุณตั้งคุณภาพการสแกนสูงเท่าไร ไฟล์ที่ได้ก็จะมีขนาดใหญ่มากเท่านั้น สำหรับการสแกนภาพอาจจะต้องตั้งคุณภาพให้สูงสักหน่อย ส่วนการสแกนข้อความ โดยปกติมักจะสแกนแบบคุณภาพต่ำสุดได้ โดยโปรแกรมบางตัวจะตั้งค่าส่วนนี้เอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
- ค่าที่คุณต้องการเปลี่ยนมักจะเกี่ยวข้องกับคุณภาพในการสแกน ยิ่งคุณตั้งคุณภาพการสแกนสูงเท่าไร ไฟล์ที่ได้ก็จะมีขนาดใหญ่มากเท่านั้น สำหรับการสแกนภาพอาจจะต้องตั้งคุณภาพให้สูงสักหน่อย ส่วนการสแกนข้อความ โดยปกติมักจะสแกนแบบคุณภาพต่ำสุดได้ โดยโปรแกรมบางตัวจะตั้งค่าส่วนนี้เอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
เลือก “Scan”. เมื่อปรับตั้งค่าเรียบร้อยแล้ว คุณต้องสั่งโปรแกรมหรือเครื่องสแกนให้เริ่มสแกนเอกสาร โปรแกรมบางตัวอาจจะมีปุ่ม “Scan” หรือบางทีคุณอาจจะต้องกดปุ่ม “Scan” บนเครื่องเอง ถ้าสับสนไม่รู้จะทำยังไง ลองอ่านคู่มือการใช้งานดูนะ
ปรับตั้งค่าเพิ่มเติมถ้าจำเป็น. เมื่อสแกนเสร็จเรียบร้อยแล้ว โปรแกรมมักจะมีตัวเลือกให้คุณปรับตั้งค่าเพิ่มเติม เช่น เปลี่ยนการวางแนวกระดาษ ให้ทำการปรับตั้งค่าต่างๆ ที่คิดว่าจำเป็น จากนั้นจึงสั่งโปรแกรมให้บันทึกไฟล์- ระวังไว้ด้วยว่าภาพที่สแกนออกมามักจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ โดยเฉพาะถ้าเลือกสแกนแบบคุณภาพสูง ให้เปลี่ยนการตั้งค่าแล้วสแกนภาพใหม่อีกครั้งถ้าไฟล์มีขนาดใหญ่เกินไปสำหรับนำไปใช้ในงานของคุณ
- อย่าลืมเช็ครูปแบบไฟล์ที่บันทึกเอกสารด้วยล่ะ เพราะคุณอาจจะอยากได้ไฟล์รูปแบบอื่นที่ไม่ใช่รูปแบบตามค่าเริ่มต้น
โฆษณา- ระวังไว้ด้วยว่าภาพที่สแกนออกมามักจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ โดยเฉพาะถ้าเลือกสแกนแบบคุณภาพสูง ให้เปลี่ยนการตั้งค่าแล้วสแกนภาพใหม่อีกครั้งถ้าไฟล์มีขนาดใหญ่เกินไปสำหรับนำไปใช้ในงานของคุณ
ปรับแต่งข้อความ. เมื่อสแกนเอกสารออกมาเรียบร้อยแล้ว คุณอาจจะอยากใช้โปรแกรม เช่น Adobe Acrobat เพื่อแปลงไฟล์เป็น PDF หรือรวมไฟล์เข้าด้วยกันเป็นชุดเอกสารแบบหลายหน้า นอกจากนี้ คุณยังสามารถตั้งค่า Acrobat ให้ตรวจหาเนื้อหาที่สแกนมา แล้วแปลงเนื้อหานั้นๆ เป็นแบบค้นหาได้หรือแก้ไขได้- หากบันทึกเป็นไฟล์ภาพ คุณอาจจะอยากใช้โปรแกรมปรับแต่งภาพเพื่อเพิ่มการตัดกันของสี (contrast) เพื่อให้ข้อความอ่านง่ายขึ้น
- หากบันทึกเป็นไฟล์ภาพ คุณอาจจะอยากใช้โปรแกรมปรับแต่งภาพเพื่อเพิ่มการตัดกันของสี (contrast) เพื่อให้ข้อความอ่านง่ายขึ้น
ปรับแต่งภาพ. เปิดไฟล์ภาพโดยใช้โปรแกรมปรับแต่งภาพธรรมดาๆ หรือจะใช้โปรแกรมที่ซับซ้อนขึ้นมาหน่อยอย่าง Photoshop ก็ได้นะ จากนั้นให้ลองเปลี่ยนการตัดกันของสี ระดับสี หรือปรับค่าต่างๆ ของภาพในโปรแกรมโฆษณา
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
นักเขียนในทีมวิกิฮาว
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 7,341 ครั้ง
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 7,341 ครั้ง
หมวดหมู่: ซอฟท์แวร์
มีการเข้าถึงหน้านี้ 7,341 ครั้ง
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.
โฆษณา
