วิธีการ รู้ว่าก้อนหินที่คุณเจอเป็นอุกกาบาตหรือไม่

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

สังเกตลักษณะที่มองเห็นได้

ตรวจสอบคุณสมบัติทางกายภาพของหิน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

ถ้าคุณบังเอิญไปเจอก้อนหินที่ดูแล้วไม่น่าจะอยู่ในโลกใบนี้มาตั้งแต่แรก ก็เป็นไปได้ว่ามันอาจจะเป็นอุกกาบาต แม้ว่าการจะพบอุกกาบาตบนโลกจะเป็นเรื่องค่อนข้างยาก แต่ถ้าเป็นในป่าเขาก็ไม่ถึงกับเป็นไปไม่ได้ อย่างไรก็ตามคุณต้องตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่า ก้อนหินที่คุณได้มานั้นเป็นอุกกาบาตหินหรืออุกกาบาตเหล็กจากอวกาศและไม่ได้เป็นแค่วัตถุบนพื้นโลกธรรมดา ซึ่งคุณสามารถระบุได้ว่าหินที่คุณได้มานั้นเป็นหินที่มาจากนอกโลกจริงๆ หรือไม่ด้วยการตรวจสอบลักษณะที่สามารถมองเห็นได้และลักษณะทางกายภาพเสียก่อน

ขั้นตอน

ส่วน 1

ส่วน 1 ของ 2:

สังเกตลักษณะที่มองเห็นได้

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   สังเกตให้ดีว่าก้อนหินเป็นสีดำหรือสีน้ำตาลสนิม. ถ้าก้อนหินที่คุณไปเจอเป็นอุกกาบาตที่เพิ่งตกลงมายังพื้นโลกใหม่ๆ มันจะเป็นสีดำแวววาวเนื่องจากการเผาไหม้ผ่านชั้นบรรยากาศ แต่ถ้ามันตกลงมาบนพื้นโลกนานแล้ว แร่เหล็กที่อยู่ในอุกกาบาตจะกลายเป็นสนิม ทำให้อุกกาบาตกลายเป็นสีน้ำตาลสนิม

   • กระบวนการกลายเป็นสนิมนี้จะเริ่มจากจุดสีแดงและสีส้มเล็กๆ บนผิวของอุกกาบาตก่อน แล้วค่อยๆ ขยายพื้นที่บนก้อนหินไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นคุณอาจจะยังสังเกตเห็นเปลือกสีดำด้านนอกได้อยู่แม้ว่าจะมีบางส่วนที่เริ่มขึ้นสนิมแล้วก็ตาม
   • อุกกาบาตอาจจะเป็นสีดำที่มีเฉดสีแตกต่างกันเล็กน้อย (เช่น สีดำอมน้ำเงินคล้ายเหล็ก) แต่ถ้าหินที่คุณไปเจอไม่ได้ใกล้เคียงกับสีดำหรือสีน้ำตาลเลย ก็แสดงว่ามันไม่ใช่อุกกาบาต
2. 
   2
   สังเกตว่าก้อนหินมีรูปทรงประหลาดหรือไม่. อุกกาบาตส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นก้อนกลมๆ อย่างที่คุณอาจจะเข้าใจ แต่โดยทั่วไปแล้วรูปทรงของมันจะค่อนข้างประหลาด และตรงด้านข้างก็จะมีขนาดและรูปทรงที่แตกต่างกันออกไป แม้ว่าจะมีอุกกาบาตที่กลายเป็นทรงกรวยบ้าง แต่ตอนที่มันตกลงมารูปร่างของมันจะไม่ค่อยลู่ลมเท่าไหร่

   • แม้ว่าจะมีรูปทรงประหลาด แต่ขอบของอุกกาบาตส่วนใหญ่จะมนมากกว่าแหลม
   • ถ้าหินที่คุณเจอรูปทรงค่อนข้างจะดูธรรมดาหรือกลมเหมือนลูกบอล มันก็อาจจะเป็นอุกกาบาตก็ได้ เพียงแต่ว่าอุกกาบาตส่วนใหญ่มักจะมีรูปทรงประหลาดเท่านั้นเอง
3. 
   3
   สังเกตว่าก้อนหินมีเปลือกหลอมไหม. ขณะที่ก้อนหินทะลุผ่านชั้นบรรยากาศของโลก พื้นผิวของมันจะเริ่มละลายและความดันอากาศก็จะดันวัตถุที่หลอมละลายกลับไป เกิดเป็นพื้นผิวที่ไร้รูปร่างและเหมือนผ่านการหลอมละลายที่เรียกว่าเปลือกหลอม ถ้าก้อนหินของคุณมีพื้นผิวที่ดูเหมือนผ่านการหลอมละลายและเคลื่อนที่มาก่อน มันก็อาจจะเป็นอุกกาบาตก็ได้

   • เปลือกหลอมมักจะเรียบและไร้รูปร่าง แม้ว่ามันอาจจะมีลักษณะเหมือนเป็นคลื่นเล็กๆ และ “หยดน้ำ” ตรงบริเวณที่ก้อนหินที่หลอมละลายเคลื่อนไหวและกลายเป็นของแข็งอีกครั้ง
   • ถ้าก้อนหินของคุณไม่มีเปลือกหลอม ก็เป็นไปได้มากว่ามันไม่ใช่อุกกาบาต
   • เปลือกหลอมอาจจะมีลักษณะเหมือนเป็นเปลือกไข่สีดำเคลือบก้อนหินอยู่
   • ก้อนหินที่อยู่ในทะเลทรายบางครั้งผิวด้านนอกจะเป็นสีดำมันเงาที่ดูเหมือนเปลือกหลอม ถ้าคุณเจอก้อนหินในสภาพแวดล้อมที่เป็นทะเลทราย ให้ดูดีๆ ว่าพื้นผิวสีดำเป็นเคลือบหินทะเลทรายหรือเปล่า
4. 
   4
   สังเกตริ้วคลื่นบริเวณพื้นผิวที่อาจจะเคยละลายมาก่อน. ริ้วคลื่นจะเป็นเส้นบางๆ ที่อยู่บนเปลือกหลอม เกิดจากการที่เปลือกละลายและถูกผลักไปทางด้านหลัง ถ้าก้อนหินของคุณมีพื้นผิวลักษณะคล้ายเปลือกที่มีเส้นริ้วเล็กๆ ก็เป็นไปได้มากว่าจะเป็นอุกกาบาต

   • เส้นริ้วอาจจะเล็กมากและอาจจะไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าในทันที เพราะเส้นมันอาจจะขาดหรือไม่ได้เป็นเส้นตรงเสียทีเดียว เพราะฉะนั้นให้ใช้แว่นขยายและสายตาที่แหลมคมในการมองหาเส้นบนพื้นผิวของก้อนหิน
5. 
   5
   สังเกตหลุมและส่วนที่ยุบลงไปบนพื้นผิวของก้อนหิน. แม้ว่าโดยทั่วไปพื้นผิวของอุกกาบาตจะไม่มีรูปร่าง แต่มันก็อาจจะมีหลุมตื้นๆ และรูลึกๆ ที่คล้ายกับลายนิ้วหัวแม่มือ สังเกตลักษณะเหล่านี้บนก้อนหินเพื่อให้รู้ว่ามันเป็นอุกกาบาตหรือเปล่าและเป็นอุกกาบาตชนิดไหน

   • อุกกาบาตเหล็กมักจะผ่านการหลอมละลายแบบไม่ปกติและจะมีหลุมที่ลึกและชัดกว่า ในขณะที่อุกกาบาตหินอาจจะเป็นแอ่งเรียบเหมือนพื้นผิวของก้อนหิน
   • รอยยุบแบบนี้ตามหลักการแล้วเรียกว่า “เรกแมกลิปต์” แต่คนส่วนใหญ่ที่ทำงานด้านอุกกาบาตมักจะเรียกเล่นๆ ว่า “ลายนิ้วหัวแม่มือ”
6. 
   6
   ดูให้ดีว่าก้อนหินไม่ได้เป็นรูพรุนหรือมีรูเต็มไปหมด. แม้ว่าแอ่งและหลุมบนพื้นผิวอาจเป็นสิ่งที่บอกว่าก้อนหินของคุณเป็นอุกกาบาต แต่อุกกาบาตจะไม่มีรูอยู่ด้านใน อุกกาบาตเป็นหินเนื้อแข็งที่มีความหนาแน่นสูง ถ้าหินที่คุณเจอเป็นรูพรุนหรือฟองอากาศ ก็แสดงว่ามันไม่ใช่อุกกาบาต

   • ถ้าก้อนหินที่คุณเจอมีรูอยู่บนพื้นผิวหรือดูเหมือนเป็น “ฟองอากาศ” ราวกับว่าเคยหลอมละลายมาก่อน ก็แสดงว่าไม่ใช่อุกกาบาตแน่ๆ
   • คนมักจะสับสนระหว่างเศษแร่จากกระบวนการอุตสาหกรรมกับอุกกาบาต แม้ว่าเศษแร่จะมีพื้นผิวที่เป็นรูพรุนก็ตาม และหินอื่นๆ ที่คนมักสับสนว่าเป็นอุกกาบาตก็ได้แก่หินภูเขาไฟและหินปูนสีดำ
   • ถ้าคุณแยกระหว่างรูกับเรกแมกลิปต์ไม่ออก ให้ลองหาภาพเปรียบเทียบสองสิ่งนี้คู่กันในอินเทอร์เน็ตเพื่อเรียนรู้วิธีสังเกตความแตกต่าง
   โฆษณา

ส่วน 2

ส่วน 2 ของ 2:

ตรวจสอบคุณสมบัติทางกายภาพของหิน

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   คำนวณความหนาแน่นของหินถ้ารู้สึกว่ามันหนักกว่าปกติ. อุกกาบาตเป็นก้อนหินเนื้อแข็งที่อัดแน่นไปด้วยโลหะ ถ้าก้อนหินที่คุณเจอดูเหมือนอุกกาบาต ให้เปรียบเทียบกับหินก้อนอื่นๆ เพื่อให้แน่ใจว่ามันค่อนข้างที่จะหนัก จากนั้นก็คำนวณความหนาแน่นเพื่อให้รู้ว่าเป็นอุกกาบาตหรือไม่

   • คุณสามารถคำนวณความหนาแน่นของหินที่สงสัยว่าจะเป็นอุกกาบาตได้ด้วยการนำมวลมาหารด้วยปริมาตร ถ้าก้อนหินมีค่าความหนาแน่นที่คำนวณได้มากกว่า 3 หน่วย ก็เป็นไปได้มากว่าจะเป็นอุกกาบาต
2. 
   2
   ใช้แม่เหล็กเพื่อดูว่าก้อนหินดูดแม่เหล็กหรือไม่. อุกกาบาตแทบทั้งหมดจะมีคุณสมบัติเป็นแม่เหล็กอยู่บ้างแม้ว่าจะแค่อ่อนๆ ก็ตาม อุกกาบาตส่วนใหญ่มีความเข้มข้นของเหล็กและนิเกิลสูง ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นแม่เหล็ก แต่ถ้าแม่เหล็กดูดก้อนหินไม่ติด ก็เกือบจะมั่นใจได้เลยว่าไม่ใช่อุกกาบาตแน่นอน

   • เนื่องจากว่าก้อนหินบนพื้นโลกหลายชนิดก็มีคุณสมบัติเป็นแม่เหล็กเช่นกัน เพราะฉะนั้นการทดสอบด้วยแม่เหล็กจึงไม่ใช่วิธีที่พิสูจน์ได้ว่าก้อนหินของคุณเป็นอุกกาบาตแน่ๆ แต่ถ้าทดสอบด้วยแม่เหล็กแล้วไม่ผ่าน ก็เป็นไปได้มากว่าก้อนหินของคุณไม่ใช่อุกกาบาต
   • อุกกาบาตเหล็กจะมีคุณสมบัติเป็นแม่เหล็กมากกว่าอุกกาบาตหิน และส่วนมากจะมีแรงดึงดูดมากพอที่จะทำให้เข็มทิศที่อยู่ใกล้ๆ กระดิกได้
3. 
   3
   นำก้อนหินไปขูดกับเซรามิกที่ไม่ได้เคลือบเพื่อดูว่าเป็นรอยหรือไม่. การทดสอบด้วยการขูดก็เป็นวิธีการที่ทำให้แน่ใจได้ว่ามันไม่ใช่วัตถุบนพื้นโลก นำก้อนหินไปขูดกับกระเบื้องเซรามิกด้านที่ไม่ได้เคลือบ ถ้าขูดแล้วเกิดเป็นรอยเข้มกว่ารอยสีเทาจางๆ ก็แสดงว่าไม่ใช่อุกกาบาต

   • สำหรับกระเบื้องเซรามิกที่ไม่ได้เคลือบนั้น คุณสามารถใช้ข้างใต้ของแผ่นกระเบื้องห้องน้ำหรือห้องครัวที่ยังไม่ได้ปู ข้างใต้ของถ้วยกาแฟเซรามิกที่ไม่ได้เคลือบ หรือด้านในของฝาถังพักน้ำชักโครก
   • คนมักจะสับสนระหว่างหินเฮมาไทต์และหินแมกนีไทต์กับอุกกาบาต หินเฮมาไทต์เมื่อขูดแล้วจะเป็นเส้นสีแดง ในขณะที่หินแมกนีไทต์เมื่อขูดแล้วจะเป็นเส้นสีเทาเข้ม ซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าไม่ใช่อุกกาบาต
   • จำไว้ว่าก้อนหินบนพื้นโลกเองเมื่อขูดแล้วก็ไม่เป็นรอยเช่นกัน เพราะฉะนั้นแม้ว่าการทดสอบด้วยการขูดจะสามารถบอกได้ว่ามันเป็นหินเฮมาไทต์หรือแมกนีไทต์ แต่โดยตัวการทดสอบแล้วมันไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นอุกกาบาตจริงๆ หรือเปล่า
4. 
   4
   ตะไบพื้นผิวของก้อนหินและดูว่ามีสะเก็ดโลหะแวววาวหรือไม่. อุกกาบาตส่วนใหญ่จะมีส่วนประกอบของโลหะที่แวววาวอย่างเห็นได้ชัดอยู่ใต้พื้นผิวของเปลือกหลอม ใช้ตะไบเพชรตะไบมุมของก้อนหินและดูว่าด้านในมีโลหะอย่างที่ว่าไว้หรือเปล่า

   • คุณต้องใช้ตะไบเพชรในการขูดพื้นผิวของอุกกาบาต นอกจากนี้กระบวนการตะไบยังใช้เวลาและต้องออกแรงมากด้วย เพราะฉะนั้นถ้าคุณไม่สามารถทำเองได้ ก็ให้นำไปที่ห้องปฏิบัติการเพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญทำการทดสอบ
   • ถ้าด้านในของก้อนหินเป็นเนื้อธรรมดา ก็เป็นไปได้มากว่าไม่ใช่อุกกาบาต
5. 
   5
   ตรวจสอบด้านในของก้อนหินว่ามีเม็ดอนุภาคทรงกลมเหมือนหินหรือไม่. อุกกาบาตที่ตกลงมายังพื้นโลกส่วนใหญ่เป็นอุกกาบาตชนิดที่มีอานุภาคทรงกลมเล็กๆ อยู่ข้างในที่เรียกว่าคอนดรูล ซึ่งจะคล้ายกับหินก้อนเล็กๆ และมีขนาด รูปร่าง และสีต่างกันออกไป

   • แม้ว่าปกติแล้วคอนดรูลจะอยู่ด้านในของอุกกาบาต แต่การกัดกร่อนจากสภาพอากาศก็อาจทำให้คอนดรูลปรากฏอยู่บนพื้นผิวของอุกกาบาตที่สัมผัสกับสภาพอากาศมาเป็นระยะเวลาที่นานพอ
   • ส่วนใหญ่แล้วคุณจะต้องผ่าอุกกาบาตออกมาถึงจะเห็นคอนดรูลที่อยู่ด้านใน
   โฆษณา

เคล็ดลับ

• อุกกาบาตมีฟองอากาศอยู่จริงซึ่งเรียกว่าเวสิเคิล อุกกาบาตดวงจันทร์ทั้งหมดจะมีเวสิเคิล อุกกาบาตหินและเหล็กจะไม่มีฟองอากาศอยู่ ด้านใน และอุกกาบาตหินบางชนิดก็มีฟองอากาศอยู่ด้านนอก
• เนื่องจากว่าอุกกาบาตมักจะมีความเข้มข้นของนิเกิลสูงกว่าหินจากพื้นโลก คุณจึงสามารถใช้นิเกิลในการทดสอบว่าก้อนหินของคุณเป็นอุกกาบาตหรือไม่ ซึ่งคุณสามารถให้ห้องปฏิบัติการทดสอบอุกกาบาตที่ไหนทำให้ก็ได้ และจะได้ผลการทดสอบที่แม่นยำกว่าการทดสอบส่วนใหญ่ในข้างต้น
• มีหนังสือและเว็บไซต์ดีๆ มากมายที่คุณสามารถศึกษาด้วยตนเองได้
• โอกาสที่คุณจะเจออุกกาบาตของจริงมีน้อยมาก แต่ถ้าคุณอยากหาจริงๆ ทะเลทรายเป็นที่ที่คุณมีโอกาสหาเจอมากที่สุด

โฆษณา

คำเตือน

• อย่าพยายามขายก้อนหินของคุณใน eBay แล้วบอกว่ามันเป็นอุกกาบาต ยกเว้นว่าจะได้รับการรับรองจากผู้เชี่ยวชาญแล้ว เพราะ eBay ไม่อนุญาตให้คุณลงขายสิ่งที่ "อาจจะเป็นอุกกาบาต"

โฆษณา