ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความX
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้
บทความนี้ถูกเข้าชม 5,175 ครั้ง
จริงๆ แล้ว Firefox บล็อกเว็บเองไม่ได้ ต้องติดตั้ง extension สำหรับตรวจจับและบล็อกเว็บผู้ใหญ่หรือมีเนื้อหาล่อแหลม ถ้าอยากได้วิธีที่ครอบคลุมกว่านั้น ก็ต้องไปแก้ไข hosts file เอง จะได้แน่ใจว่าทุกคนเข้าเว็บนั้นไม่ได้ ไม่ว่าใช้เบราว์เซอร์ไหนก็ตาม แต่ถ้าอยากบล็อกเว็บทีเดียวหลายอุปกรณ์ในเครือข่ายเดียวกัน ก็ต้องใช้ OpenDNS ถึงจะได้ผล
ขั้นตอน
เปิด Firefox ในคอม. คุณติดตั้ง extension ต่างๆ สำหรับบล็อกเว็บใน Firefox ได้ แต่ใช้ได้เฉพาะ Firefox เวอร์ชั่นเว็บเท่านั้น วิธีการนี้จะเน้นการใช้งาน extension ดังอย่าง BlockSite ที่ให้คุณเลือกเว็บที่จะบล็อกได้- extension ของ Firefox นั้น bypass หรือหาทางลัดเจาะผ่านไปได้ง่าย แถมใช้ได้เฉพาะกับ Firefox ถ้าอยากบล็อกเว็บในทุกเบราว์เซอร์ ต้องเลื่อนลงไปอ่านวิธีการอื่นๆ
คลิกปุ่ม Menu (☰) แล้วเลือก "Add-ons". เพื่อเปิด tab ใหม่แสดง plugin ทั้งหมดที่ติดตั้งไว้
คลิก tab "Get Add-ons" ทางซ้ายของหน้าจอ. เพื่อดู featured add-ons หรือ add-on เด่นของ Firefox
คลิก "See more add-ons" ที่ท้ายหน้า. เพื่อเปิด add-ons market ใน tab ใหม่
ค้นหา "BlockSite". หา extension BlockSite สำหรับบล็อกเว็บที่ต้องการอย่างรวดเร็วทันใจ- มีหลาย extension เลยที่บล็อกและคัดกรองเว็บได้ ถ้าไม่ชอบ BlockSite ก็ลองหา "site block" หรือ "parental control" ดู เผื่อจะเจอ extension อื่นที่ได้ใจกว่า
คลิกปุ่ม "Add to Firefox" แล้วคลิก "Install". เพื่อติดตั้ง BlockSite ใน Firefox
รีสตาร์ท Firefox. พอติดตั้ง extension แล้วจะมีให้รีสตาร์ทเบราว์เซอร์
คลิก "I don't want to help" ใน tab ใหม่. เพื่อไม่ให้ส่งข้อมูลการท่องเน็ตของคุณไปยัง BlockSite
เปิด settings ของ BlockSite. กลับไปที่ tab Add-ons แล้วคลิก "Extensions" จากนั้นคลิกปุ่ม "Options" ข้าง "Block site"
ตั้งรหัสผ่าน. ติ๊กช่อง "Enable authentication" เพื่อตั้งรหัสผ่าน โดนพิมพ์รหัสที่ต้องการในช่องที่มี ต่อไปใครจะใช้ Firefox ก็ต้องกรอกรหัสนี้ ถึงจะเข้าไปปรับ settings ของ BlockSite ได้
เลือกว่าจะใช้ "Blacklist" หรือ "Whitelist". ถ้าใช้ blacklist ทุกเว็บที่ระบุจะถูกบล็อก แต่ถ้าใช้ whitelist เว็บทั้งหมดจะถูกบล็อก ยกเว้นเว็บที่ระบุ แนะนำว่า Whitelists จะสะดวกกว่า โดยเฉพาะถ้าอยากให้เด็กๆ ในบ้านใช้งานเฉพาะเว็บที่คุณเลือก
เพิ่มเว็บลงในรายชื่อ. คลิกปุ่ม "Add" แล้วพิมพ์หรือ paste address ของเว็บในช่องที่มี เพื่อระบุเว็บที่จะบล็อกหรือแสดงใน blacklist และ whitelist แล้วแต่ว่าคุณเลือกใช้แบบไหน- คุณใช้ wildcards บล็อกเว็บอื่นๆ ที่แสดงผลตรงกันได้ด้วย เช่น บล็อกทุกเว็บที่มีคำว่า "drugs" ใน address โดยพิมพ์ *drugs* ลงไป
โฆษณา
เปิด hosts file. ไฟล์นี้ใช้ reroute หรือเปลี่ยนเส้นทางของบางเว็บไปยัง local address เพื่อบล็อก เป็นการบล็อกเว็บจากผู้ใช้ทั้งหมดในคอมเครื่องนั้น แต่การแก้ไข hosts file นั้นเหมาะสำหรับกรณีที่จะบล็อกแค่ไม่กี่เว็บเท่านั้น- Windows - เข้า C:\Windows\System32\drivers\etc แล้วดับเบิลคลิก hosts file ถ้ามีให้เลือกโปรแกรมที่จะเปิด ก็เลือก "Notepad" ไป
- macOS - เปิดโปรแกรม Terminal จากในโฟลเดอร์ Utilities แล้วพิมพ์ sudo nano /etc/hosts จากนั้นใส่รหัสผ่าน เพื่อเปิดไฟล์ใน editor
ขึ้นบรรทัดใหม่ท้ายไฟล์. เดี๋ยวจะต้องพิมพ์ชื่อเว็บที่จะบล็อกในบรรทัดใหม่ท้ายไฟล์
พิมพ์ 127.0.0.1 <site>. เช่น ถ้าอยากบล็อก Facebook ให้พิมพ์ 127.0.0.1 www.facebook.com
ระบุเว็บที่จะบล็อกเพิ่มเติมในบรรทัดอื่นๆ. เวลาจะบล็อกเว็บอื่นเพิ่มเติม ก็ต้องขึ้นบรรทัดใหม่ทุกครั้ง แต่อย่าลืมใส่ 127.0.0.1 ทุกบรรทัดด้วย- ต้องบล็อกเว็บเวอร์ชั่นมือถือด้วย เช่น ถ้าบล็อก Facebook ไปก่อนหน้า ก็ต้องบล็อก m.facebook.com ด้วย
เสร็จแล้วเซฟไฟล์. พอแก้ไขไฟล์เรียบร้อยแล้ว ให้เซฟค่าใหม่- Windows - กด Ctrl+S หรือเลือก "Save" ในเมนู File
- macOS - กด Ctrl+X แล้วเลือก "Yes" ตอนที่มีให้เซฟ จากนั้นใช้ filename เดียวกัน เพื่อเซฟทับต้นฉบับ
ทดสอบการบล็อก. พอแก้ไข hosts file แล้ว ให้ลองเข้าเว็บนั้นดูในเบราว์เซอร์ไหนก็ได้ ถ้า redirect หรือเปลี่ยนเส้นทางไปยังหน้าขาวๆ โล่งๆ แสดงว่าได้ผล ไม่ว่าใครมาใช้คอมเครื่องนี้ก็จะเห็นเหมือนกัน รวมถึง Private Browsing หรือใช้เบราว์เซอร์แบบไม่ระบุตัวตนด้วย[1]โฆษณา
เข้าเว็บ OpenDNS. OpenDNS เป็นเว็บ DNS สำหรับใช้ reroute หรือเปลี่ยนเส้นทางเว็บที่มีเนื้อหาล่อแหลมสำหรับผู้ใหญ่ ใช้บล็อกเว็บจากทุกคนในเครือข่าย ไม่ว่าจะใช้เบราว์เซอร์หรืออุปกรณ์ไหนก็ตาม โดยเว็บ OpenDNS ให้บริการคัดกรองเว็บฟรี- เริ่มจากเข้า opendns.com ในเบราว์เซอร์
เลือก "Personal" ในเว็บ OpenDNS. เพื่อดูแพ็คเกจต่างๆ สำหรับการใช้งานส่วนตัว
เลือก "OpenDNS Family Shield". เป็นฟิลเตอร์หรือระบบคัดกรองแบบ preconfigured คือตั้งค่ามาพร้อมใช้ สำหรับบล็อกเว็บผู้ใหญ่และเว็บล่อแหลมอื่นๆ ไม่ให้คนที่ใช้ home network หรือเน็ตบ้านของคุณเข้าเว็บที่ระบุได้
เลือก "Home routers". จะมีรายชื่อเราเตอร์ที่คนนิยมใช้กัน พร้อมคำแนะนำในการตั้งค่า
หาเราเตอร์ที่ใช้ในรายชื่อ. ถ้าไม่รู้หรือไม่แน่ใจ อีกทีคือถ้าไม่มีเราเตอร์ที่ใช้ในรายชื่อ ให้เลือก "FamilyShield Router Configuration Instructions"
เปิดหน้า configuration (หน้าปรับแต่ง) ของเราเตอร์. วิธีการจะต่างกันออกไปในแต่ละเบราว์เซอร์ที่ใช้ รวมถึงค่า home network ด้วย ให้อ่านบทความวิธีการเข้าหน้าปรับแต่งเราเตอร์ ถ้าอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติม- แต่โดยทั่วไปคือให้พิมพ์ IP address ของเราเตอร์ในเบราว์เซอร์ จากนั้นล็อกอินด้วย username และรหัสผ่านแอดมินของเราเตอร์ แล้วเข้าหน้า settings ได้เลย
เข้าหัวข้อ "Internet" หรือ "WAN". จะเห็น DNS settings ของเราเตอร์
ปิด automatic DNS. หลายเราเตอร์จะเปิดใช้ automatic DNS ไว้ ต้องปิดก่อน แล้วใส่ DNS server ของคุณเข้าไปแทน
พิมพ์ DNS server 2 อันต่อไปนี้. ให้พิมพ์ address ต่อไปนี้ใน DNS server ช่องแรกและช่องที่ 2- 208.67.222.123
- 208.67.220.123
คลิก "Apply" หรือ "Save Changes". เพื่อใช้ค่าใหม่ และรีสตาร์ทเราเตอร์ อาจต้องรอ 1 นาทีขึ้นไป กว่าเราเตอร์จะกลับมาออนไลน์
ทดสอบการบล็อก. DNS server ใหม่จะเปลี่ยนเส้นทาง traffic ของเว็บที่ถูกบล็อกโดยอัตโนมัติ ยังไงลองเข้าเว็บผู้ใหญ่ดู ว่าบล็อกสำเร็จหรือเปล่า[2]โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
นักเขียนในทีมวิกิฮาว
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 5,175 ครั้ง
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 5,175 ครั้ง
หมวดหมู่: อินเทอร์เน็ต
มีการเข้าถึงหน้านี้ 5,175 ครั้ง
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.
โฆษณา
