ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความX
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้
บทความนี้ถูกเข้าชม 3,543 ครั้ง
ปัจจุบันอีเมลเป็นช่องทางการสื่อสารที่ได้รับความนิยมอย่างมาก แต่ถ้าใช้ไม่ระวังก็อาจจะสร้างความรำคาญได้ เพราะถ้าเราเผลอบอกอีเมลแอดเดรสให้กับคนที่ไม่รู้จัก หรือกรอกอีเมลแอดเดรสลงในเว็บที่ไม่น่าไว้วางใจ มันก็อาจส่งเมลที่เป็นสแปมมารบกวนและทำให้อินบ็อกซ์ (inbox) ของเราเต็มไปด้วยเมลขยะมากมาย แต่ก็ไม่ต้องกังวลไป เราสามารถจัดการกับสแปมเหล่านี้ได้ไม่ยาก เพราะเว็บที่ให้บริการอีเมลส่วนใหญ่มีฟังก์ชันซึ่งใช้กรองหรือบล็อกอีเมลจากผู้ส่งที่ไม่ต้องการได้ ถ้าอยากรู้ว่าการบล็อกอีเมลมีวิธีการอย่างไร ก็ลองอ่านแล้วทำตามขั้นตอนที่อยู่ด้านล่างนี้ได้เลย
ขั้นตอน
คลิกที่ไอคอนรูปฟันเฟืองแล้วเลือก “Settings”. ปัจจุบัน Gmail มีฟังก์ชันที่ใช้บล็อกอีเมลโดยตรงแล้ว ถึงกระนั้นเราก็สามารถสร้างตัวกรองหรือฟิลเตอร์ (filter) ที่ทำให้เมลจากผู้ส่งที่ไม่ต้องการถูกทิ้งลงถังขยะอัตโนมัติได้เช่นกัน- เราสามารถใช้ส่วนขยาย (extension) ในการบล็อกได้ ซึ่งสามารถดาวน์โหลดมาติดตั้งได้ทั้งใน Chrome และ Firefox ส่วนขยายบางตัวอาจมีฟังก์ชันให้ใช้จำกัด แต่เราก็สามารถเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความสามารถได้ ซึ่งจะทำให้การบล็อกอีเมลนั้นง่ายขึ้น ดังนั้นถ้าต้องการบล็อกอีเมลใน Gmail โดยตรง ก็ลองอ่านรายละเอียดของส่วนขยายแต่ละตัว แล้วติดตั้งส่วนขยายที่มีฟังก์ชันซึ่งเราต้องการมากที่สุด
คลิกที่แท็บ “Filters and Blocked Addresses”. แล้วคลิกที่ลิงก์ “Create a new filter” เพื่อสร้างฟิลเตอร์ (ส่วนการบล็อกสามารถทำได้โดยเปิดอีเมลที่ต้องการบล็อก แล้วเลือกคำสั่ง “Block” ในเมลนั้นได้เลย)- เราสามารถสร้างฟิลเตอร์ในหน้าเมลที่เปิดอยู่ได้เช่นกัน โดยเปิดอีเมลที่ต้องการบล็อก แล้วกดที่ปุ่ม “More” ซึ่งอยู่ด้านบน แล้วเลือก “Filter message like these”
ใส่รายละเอียดต่างๆ ลงไป. Gmail สามารถกรองอีเมลได้หลากหลายรูปแบบ โดยใส่รายละเอียดของอีเมลที่ต้องการบล็อกด้วยลักษณะที่ต่างกัน กล่าวคือ เราจะใส่อีเมลเดียวหรือหลายอีเมลก็ได้ โดยคั่นแต่ละอีเมลด้วยเครื่องหมายคอมม่า หรือจะใส่เฉพาะชื่อโดเมน (ชื่อที่อยู่ด้านหลังสัญลักษณ์ “@”) ก็ได้เช่นกัน เมื่อใส่รายละเอียดต่างๆ เสร็จเรียบร้อย ให้คลิกที่ “Create filter with this search”
ติ๊กถูกหน้าคำสั่งคำสั่งที่ต้องการใช้กับเมลที่เราใส่ลงไป. ติ๊กถูกที่ “Mark as read” และ “Delete it” เพื่อให้อีเมลดังกล่าวถูกส่งตรงไปยังถังขยะทันทีที่ถูกส่งมา ไม่ต้องผ่านอินบ็อกซ์ เสร็จแล้วคลิกที่ “Create filter” จากนั้นอีเมลต่างๆ ที่ส่งมาจากอีเมลแอดเดรสนี้ก็จะถูกส่งไปยังถังขยะทั้งหมด[1]- ติ๊กถูกที่ “Apply filter to matching conversations” เพื่อล้างอีเมลก่อนๆ ที่ถูกส่งมาจากอีเมลแอดเดรสดังกล่าวออกจากอินบ็อกซ์ทั้งหมด
โฆษณา
เปิดหน้าเว็บ Yahoo! แล้วลงชื่อเข้าใช้. โดยกรอกอีเมลแอดเดรสและพาสเวิร์ดลงไป
คลิกที่ “Mail” ในหน้าโฮมเพจของ Yahoo!. จากนั้นหน้าที่แสดงอีเมลก็จะเปิดขึ้นมา
คลิกที่ไอคอนรูปฟันเฟืองซึ่งอยู่มุมบนขวา. แล้วเลือก “Settings” ในเมนูที่เด้งขึ้นมา
คลิกที่ “Blocked Addresses”. แล้วกรอกอีเมลแอดเดรสที่ต้องการบล็อกลงไป จากนั้นคลิกที่ปุ่ม “Block”- เคล็ดลับ: ในแอคเคาท์เดียว เราสามารถบล็อกอีเมลแอดเดรสได้มากถึง 500 ชื่อ และนอกจากอีเมลต่างๆ จะถูกลบทันทีที่ถูกส่งมาแล้ว มันยังไม่แจ้งผู้ส่งว่า อีเมลดังกล่าวไม่สามารถส่งถึงผู้รับ (undeliverable) อีกด้วย
- เราสามารถบล็อกโดเมนที่ส่งเมลมาได้โดยกรอกชื่อโดเมนที่ต้องการบล็อกลงไป ซึ่งเหมาะกับกรณีที่เราได้รับสแปมเมลที่ใช้ชื่อโดเมนเดิมแต่ชื่ออีเมลแตกต่างจากเดิม (ชื่อโดเมนคือชื่อที่อยู่หลังเครื่องหมาย “@”)[2]
- ถ้าเราต้องการลบอีเมลแอดเดรสออกจากรายชื่อที่ถูกบล็อก ให้คลิกเลือกอีเมลนั้นแล้วคลิกที่ปุ่ม “Remove”
โฆษณา
สำหรับ Outlook.com เวอร์ชันเก่า ให้เปิดหน้าเว็บแล้วคลิกที่ไอคอนรูปฟันเฟืองซึ่งอยู่มุมบนขวา. จากนั้นเลือก “More mail settings” สำหรับ Outlook.com เวอร์ชันใหม่ให้เลือก “Options”
คลิกที่ “Safe and blocked senders”. ซึ่งอยู่ใต้หัวข้อ “Preventing junk mail” ส่วนเวอร์ชันใหม่ให้ไปยัง “Junk email” ซึ่งอยู่ในแถบด้านซ้ายมือ
คลิกที่ “Blocked senders”. จากนั้นหน้า “Blocked senders” ก็จะเปิดขึ้นมาให้เราใส่อีเมลแอดเดรสที่ต้องการบล็อก
ใส่อีเมลแอดเดรสหรือชื่อโดเมนที่ต้องการบล็อก. (ชื่อโดเมนคือชื่อที่อยู่ด้านหลังเครื่องหมาย “@”) ถ้าคุณใส่เป็นชื่อโดเมน มันก็จะบล็อกอีเมลทั้งหมดที่ใช้โดเมนนั้น เมื่อใส่อีเมลที่ต้องการบล็อกเสร็จแล้วให้คลิกที่ปุ่ม “Add to list >>” สำหรับเวอร์ชันใหม่ให้คลิกที่เครื่องหมายบวก- สำหรับเวอร์ชันเก่า บางโดเมนไม่สามารถบล็อกได้ด้วยวิธีนี้ ต้องใช้วิธีอื่นคือ เปิดหน้า “More mail settings” แล้วเลือก “Rules for sorting new messages” คลิกที่ปุ่ม “New” เลือก “Sender’s address contains” จากนั้นใส่ชื่อโดเมนที่ต้องการบล็อก เสร็จแล้วติ๊กถูกที่ “Delete these messages” และคลิก “Save”[3]
โฆษณา
ลงชื่อเข้าใช้ด้วยแอคเคาท์ iCloud
คลิกที่ “Mail” ซึ่งอยู่ในเมนูหลัก
คลิกที่ปุ่มตั้งค่า. ซึ่งเป็นไอคอนรูปฟันเฟือง อยู่ด้านล่างซ้ายของหน้าต่าง แล้วเลือก “Rules”
คลิกที่ลิงก์ “Add a Rule...”
ใส่อีเมลแอดเดรสที่เราต้องการบล็อก. เคล็ดลับ: ใส่ชื่อโดเมน (ชื่อที่อยู่ด้านหลังสัญลักษณ์ “@” เช่น “Facebook.com”) เพื่อบล็อกอีเมลแอดเดรสที่ใช้ชื่อโดเมนดังกล่าว[4]
เลือก “Move to Trash”. จากนั้นอีเมลจากอีเมลแอดเดรสที่ถูกบล็อกก็จะถูกส่งไปยัง “Trash” หรือถังขยะทันทีที่ถูกส่งมา ไม่มาอยู่ในอินบ็อกซ์ของเรา
คลิก “Done” เพื่อบันทึกการตั้งค่า. เราสามารถเพิ่มอีเมลแอดเดรสที่ต้องการบล็อกได้ตามต้องการ
ถ้าเราต้องการลบอีเมลแอดเดรสออกจากรายการที่บล็อก. ให้คลิกที่ไอคอนรูป “i” ซึ่งอยู่ด้านขวาของรายการที่บล็อก จากนั้นก็จะมีหน้าต่างเด้งขึ้นมา ให้คลิกที่ “Delete” เพื่อลบรายการที่บล็อกโฆษณา
เปิดใช้งาน “Outlook Express” แล้วคลิกเลือกอีเมลที่ส่งมาจากอีเมลแอดเดรสที่ต้องการบล็อก. เช็คให้แน่ใจว่าคลิกบนอีเมลดังกล่าวแล้ว โดยสังเกตได้จากแถบไฮไลต์ที่ปรากฏขึ้นมา
คลิกขวาบนชื่ออีเมลของผู้ส่ง. จากนั้นเมนูคำสั่งก็จะปรากฏขึ้นมา
เลื่อนเมาส์ไปยัง “Junk E-mail”. แล้วเลือก “Add Sender to Blocked Senders List”- วิธีนี้จะทำให้อีเมลที่ส่งมาจากอีเมลแอดเดรสดังกล่าวถูกบล็อกทั้งหมด โดยไม่คำนึงว่าเราต้องการเปิดดูหรือไม่
โฆษณา
เปิดใช้งาน “Mozilla Thunderbird” แล้วคลิกเลือกอีเมลที่ส่งมาจากอีเมลแอดเดรสที่ต้องการบล็อก. คลิกขวาบนอีเมลแอดเดรสของผู้ส่ง ซึ่งอยู่ด้านบนของอีเมล แล้วเลือก “Create Filter From” ในเมนูที่เด้งขึ้นมา- จากนั้นหน้า “Filter Rules” ก็จะเปิดขึ้นมา โดยมีชื่อของอีเมลแอดเดรสดังกล่าวถูกใส่ไว้เรียบร้อย
ตั้งชื่อฟิลเตอร์. ในหน้า “Filter Rules” เราสามารถตั้งชื่อฟิลเตอร์ได้ เช่นตั้งว่า “Block list” เพื่อให้รู้ว่าเป็นฟิลเตอร์อะไรและให้ค้นหาได้ง่าย
คลิกเลือกคำสั่ง “Match any of the following”. ซึ่งจะทำให้ฟิลเตอร์นี้ทำงานเมื่อมีอีเมลที่ใช้แอดเดรสอื่นถูกเพิ่มเข้ามา
เปลี่ยนคำสั่งเป็น “Delete Message”. คำสั่งนี้อยู่ในหัวข้อ “Perform these actions” ของหน้า “Filter Rules” เสร็จแล้วคลิก “OK” เพื่อบันทึกการตั้งค่า จากนั้นอีเมลที่ส่งมาจากอีเมลแอดเดรสดังกล่าวก็จะถูกลบทั้งหมด
เพิ่มอีเมลแอดเดรสที่ต้องการบล็อก. ถ้าเราต้องการเพิ่มรายการที่ต้องการบล็อก ก็ให้คลิกที่ “Tools” ในแถบเมนูที่อยู่ด้านบน แล้วเลือก “Message filters...” ตามด้วยฟิลเตอร์ที่ชื่อ “Block list” จากนั้นคลิกที่ปุ่ม “+” เสร็จแล้วใส่อีเมลแอดเดรสหรือโดเมนที่ต้องการบล็อกทีละชื่อ[5]โฆษณา
เคล็ดลับ
- ถ้าอีเมลแอดเดรสของคุณ ใช้ชื่อโดเมนเป็นชื่อเฉพาะ ไม่ใช่ชื่อของผู้ให้บริการอีเมล คุณอาจจะต้องติดต่อผู้ให้บริการอีเมลนั้นเพื่อหาวิธีบล็อกอีเมลแอดเดรสที่ไม่ต้องการ
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://support.google.com/mail/answer/8151?hl=en
- ↑ http://help.yahoo.com/kb/index?locale=en_US&page=content&id=SLN3228
- ↑ http://answers.microsoft.com/en-us/windowslive/forum/mail-wlsettings/unable-to-block-emails-from-a-specific-sender/df4f8124-1a1a-4853-a9c0-0e1a0edde54e
- ↑ http://support.apple.com/kb/PH2650
- ↑ https://support.mozillamessaging.com/en-US/kb/blocking-sender
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
นักเขียนในทีมวิกิฮาว
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 3,543 ครั้ง
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 3,543 ครั้ง
หมวดหมู่: อินเทอร์เน็ต
มีการเข้าถึงหน้านี้ 3,543 ครั้ง
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.
โฆษณา
