ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความX
วิกิฮาวเป็น "wiki" ซึ่งหมายความว่าบทความหลายๆ บทความของเรานั้นเป็นการร่วมมือกันเขียนของผู้เขียนหลายคน ในการเขียนบทความชิ้นนี้ ผู้คน 88 คน ซึ่งบางคนไม่ขอเปิดเผยตัว ได้ร่วมกันเขียนและปรับปรุงเนื้อหาของบทความอย่างต่อเนื่อง
บทความนี้ถูกเข้าชม 42,894 ครั้ง
สำหรับหนอนหนังสือ คุณมักจะไม่รู้จะหาอะไรที่ดีสุดๆ มาคั่นนิยายเล่มโปรดของคุณรึเปล่า? ไม่ต้องกลัวไป คุณสามารถทำที่คั่นหนังสือในหลายๆ สไตล์เพื่อที่คุณจะได้ไม่หลุดจากการอ่านหนังสืออีก มาเรียนรู้วิธีการทำที่คั่นหนังสือจากกระดาษ ใช้แม่เหล็ก ลูกปัด และอีกหลายวิธีตามวิธีด้านล่างเลย
ขั้นตอน
เลือกกระดาษที่เหมาะสม. เลือกกระดาษที่หนาเหมือนกระดาษทำการ์ดเพื่อให้สามารถรองรับที่คั่นหนังสือของคุณได้ จากนั้นให้เลือกรูปภาพอื่นๆ หรือลวดลายที่จะติดกาวด้านบน ลองทำคอลลาจ (ภาพตัดแปะ) จากกระดาษอื่นๆ หรือเลือกรูปภาพหลายๆ รูปในแบบที่คุณต้องการเลย
ตัดกระดาษ. ขนาดของที่คั่นหนังสือนั้นตามใจชอบ ตัดกระดาษการ์ดให้เป็นแผ่นเล็กๆ ที่คั่นหนังสือที่เล็กมาหน่อยจะมีขนาด 1 นิ้วเท่านั้น หรือถ้าจะเป็นที่คั่นหนังสือมาตรฐานทั่วไปจะมีความกว้าง 2-3 นิ้ว อย่าทำที่คั่นหนังสือยาวเกิน 6 นิ้ว เพราะหนังสือบางเล่มมีขนาดเท่านี้และคุณคงไม่อยากให้ที่คั่นหนังสือโผล่ออกมาที่ด้านล่างหรือด้านบน- เพิ่มรายละเอียด. ใช้กระดาษสำหรับตกแต่งหรือรูปภาพที่คุณได้เลือกไว้ ตัดและติดกาวลงบนกระดาษการ์ด ลองติดกาวเศษกระดาษที่มีผิวไม่เรียบหรือที่ตัดมาจากกระดาษนิตยสารให้ทั่วกระดาษการ์ด นี่เป็นวิธีง่ายๆ ในการเพิ่มสไตล์ให้งานประดิษฐ์ของคุณ
- ลองโรยกากเพชรหรือติดสติกเกอร์ก็จะทำให้ที่คั่นหนังสือของคุณดูโดดเด่นโดยไม่ต้องทำอะไรมาก
- วาดอะไรบางอย่างที่ที่คั่นหนังสือหรือเขียนตัวหนังสือ วลี หรือคำคมที่คุณชื่นชอบ คุณอาจจะวาดรูปตัวเองลงบนกระดาษก็ได้ หรือจะวาดรายละเอียดนิดหน่อยที่กระดาษหรือรูปภาพที่คุณติดกาวลงไป
- ทำภาพตัดแปะจากภาพที่คุณตัดมาจากนิตยสารโดยการแปะมันซ้อนๆ กันที่กระดาษการ์ด คุณอาจจะทำแบบนี้กับรูปภาพของตัวคุณเองก็ได้
- เคลือบที่คั่นหนังสือ. เพื่อเป็นการปกป้องไม่ให้กระดาษยุ่ยหรือเสียหาย ถ้าคุณทำได้ให้ลองเคลือบที่คั่นหนังสือด้วยพลาสติกบางๆ
- คุณอาจจะใช้เทปกว้างๆ ติดที่ขอบทั้งสองด้านของที่คั่น
- ลองใช้เจลสำหรับเคลือบระบายไปที่ทั้งสองด้านของที่คั่นหนังสือ ให้ระบายทีละข้าง ปล่อยให้แห้งระหว่างที่เคลือบ
- ตกแต่งขั้นสุดท้าย. ใช้ที่เจาะรูเจาะตรงด้านบนของที่คั่นหนังสือ ตัดริบบิ้นให้มีความยาว 6-8 นิ้วแล้วพับครึ่ง จากนั้นสอดด้านที่หูของริบบิ้นที่พับทบกันไปที่รูที่เจาะไว้ และเอาปลายของริบบิ้นสอดไปในหูของริบบิ้น มัดให้แน่นๆ
- ใช้ริบบิ้นหลายๆ เส้นเพื่อเพิ่มสีสันและเนื้อผ้าบนที่คั่นหนังสือ
- ใส่ลูกปัดที่ปลายของริบบิ้นเพื่อให้ดูเก๋ขึ้นมาอีกนิด ใส่ลูกปัด 2-3 เม็ดที่ปลายริบบิ้นทั้งสองด้าน จากนั้นให้มัดปมไว้
- ใช้ไม้ขีดหรือไฟแช็กลนที่ปลายริบบิ้นเพื่อไม่ให้มันลุ่ย เปลวไฟจะทำให้พลาสติกละลายและทำให้ปลายของริบบิ้นทู่[1]
โฆษณา
เลือกริบบิ้นและลูกปัด. เลือกริบบิ้นที่บางและงอได้ โดยที่ไม่มีสาย ลูกปัดจะมีขนาดใดก็ได้และจะเป็นแบบไหนก็ได้ตราบเท่าที่รูของลูกปัดใหญ่พอที่ริบบิ้นจะลอดผ่าน ลองใส่ลูกปัดชาร์ม (charm bead) เพื่อให้มันห้อยที่ปลายริบบิ้น- ตัดริบบิ้น. ใช้กรรไกรตัดริบบิ้นให้มีความยาว 42 นิ้ว ใช้ไม้ขีดไฟหรือไฟแช็กลนที่ปลายริบบิ้นเพื่อไม่ให้มันลุ่ย
- ร้อยลูกปัด. ร้อยลูกปัดที่คุณต้องการให้ห้อยที่ปลายของที่คั่นหนังสือ หากคุณเลือกเป็นลูกปัดชาร์ม ให้ใส่มันไปตรงกลางของริบบิ้นและจากนั้นให้พับริบบิ้นครึ่งหนึ่ง ร้อยลูกปัดอื่นๆ ตรงปลายทั้งสองด้าน
- ถ้าคุณไม่ได้ใช้ลูกปัดชาร์ม ให้ร้อยลูกปัด 1 ลูกไปที่ตรงกลางของริบบิ้น (ใส่ไปแค่ที่ปลายด้านเดียวเท่านั้น) จากนั้นให้พับริบบิ้นครึ่งหนึ่งและนำปลายทั้งสองด้านยัดเข้าไปในลูกปัดที่เหลือเพื่อเป็นการล็อค
- มัดปมที่ฐานของลูกปัดเมื่อคุณได้ร้อยลูกปัดทั้งหมดแล้ว
- เหลือพื้นที่ไว้ประมาณ 10 นิ้ว จากนั้นมัดอีกปมหนึ่งที่ปลายริบบิ้นทั้งสองด้าน ร้อยลูกปัดอื่นๆ ตามต้องการที่ด้านบนของที่คั่น จากนั้นก็มัดปมอีกครั้งเพื่อไม่ให้มันร่วงออกมา
- ใช้ที่คั่นหนังสือ. รอยพับตรงกลางของริบบิ้นควรมีลักษณะเหมือนห่วงระหว่างริบบิ้นทั้งสอง สอดห่วงริบบิ้นไปที่หนังสือเพื่อที่ริบบิ้นอันหนึ่งจะได้อยู่ที่หน้าหนังสือที่ต้องการคั่น อีกอันหนึ่งอยู่ที่ปกด้านหน้า นี่จะทำให้ที่คั่นหนังสือหนังสือไม่เขยื้อนไปไหนด้วยโฆษณา
- สร้างแบบ. ใช้ดินสอวาดสี่เหลี่ยมขนาด 5 x 5 นิ้วบนเศษกระดาษ ใช้ไม้บรรทัดและแบ่งสี่เหลี่ยมเป็นสี่ส่วน เป็นการสร้างสี่เหลี่ยมเล็กๆ 4 อันในสี่เหลี่ยมอันใหญ่ 1 อัน จากนั้นให้ลบสี่เหลี่ยมด้านบนขวาออกเพื่อที่คุณจะได้เหลือแค่สี่เหลี่ยมสามอันเล็กๆ เรียงเป็นตัว ‘L’
- แบ่งสี่เหลี่ยมซ้ายบนในมุมทแยงจากมุมล่างซ้ายไปยังมุมบนขวา. คุณก็จะแบ่งสี่เหลี่ยมเป็นสามเหลี่ยมสองอัน ทำแบบเดียวกับสี่เหลี่ยมด้านล่างขวา ดังนั้นก็จะมีแค่สี่เหลี่ยมล่างซ้ายที่มีรูปร่างเหมือนเดิม
- ระบายถมในสามเหลี่ยม. ใช้ดินสอระบายถมเร็วๆ ที่สามเหลี่ยมที่คุณร่างด้านบนสุดและสามเหลี่ยมด้านล่างสุด ตอนนี้คุณก็จะได้รูปที่ประกอบด้วยสี่เหลี่ยมล่างซ้ายและสามเหลี่ยมสองอันที่ที่ติดอยู่ทางด้านบนและทางด้านขวาของสี่เหลี่ยม
- ตัดออกมา. ตัดที่ขอบของรูปทรงที่คุณสร้างไว้ ตัดสามเหลี่ยมที่แรเงาออก ตอนนี้คุณก็จะมีรูปทรงที่เหมือนลูกศรที่พุ่งไปทางซ้าย
- ใช้แบบสร้างที่คั่นหนังสือ. ใช้รูปทรงที่คุณพึ่งตัดและวางทาบไปกับกระดาษการ์ดหรือกระดาษสำหรับงานฝีมือที่คุณเลือก ตัดกระดาษให้เป็นรูปร่างดังกล่าวเมื่อคุณได้ร่างแบบไว้แล้ว
- พับกระดาษ. พับสามเหลี่ยมที่อยู่ติดกับสี่เหลี่ยม สามเหลี่ยมทั้งสองอันจะซ้อนกันและตอนนี้กระดาษก็จะเป็นสี่เหลี่ยมอีกครั้ง
- ติดกาวที่คั่นหนังสือ. ทากาวที่สามเหลี่ยมด้านบน และติดมันลงไปที่สามเหลี่ยมด้านล่างเพื่อทำให้มันเหมือนกระเป๋า คุณอาจจะตัดที่ฐานของสี่เหลี่ยมและตรงที่ด้านล่างของกระเป๋าสามเหลี่ยมเพื่อให้มันเป็นรูปร่างต่างๆ ถ้าไม่ทำแบบนั้น คุณก็จะได้ที่คั่นหนังสือที่เสร็จแล้ว!
- ตกแต่งที่คั่นหนังสือ. ลองแปะเศษกระดาษอื่นๆ สำหรับตกแต่งที่ด้านหน้าและด้านหลังของช่องสามเหลี่ยม อาจจะลองวาดรูปหรือเขียนคำคมที่ชอบหรือเนื้อเพลงตรงด้านหน้าก็ได้ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณตกแต่งจนพอใจแล้ว นั่นก็แปลว่าที่คั่นหนังสือของคุณเสร็จแล้ว! ลองสวมมันที่มุมกระดาษของหน้าที่คุณอยากจะคั่นไว้ในหนังสือเล่มโปรด[2]โฆษณา
หาเศษผ้าน่ารักๆ. ใช้เศษผ้าอะไรก็ได้ตามใจชอบตราบใดที่มันมีขนาดกว้างอย่างน้อย 1 นิ้วและยาว 5 นิ้ว ลองใช้น้ำยาที่ทำให้ผ้าแข็งตัวไปนิดหน่อยเพื่อทำให้มันแข็งขึ้นในตอนทำเป็นโบว์- ตัดผ้า. ในการทำเป็นโบว์ คุณจะต้องตัดเป็นสามชิ้น หูของโบว์ ปลายโบว์ และห่วงตรงกลางที่จะยึดมันเข้าด้วยกัน ตัดผ้าเป็นเส้นสำหรับโบว์กว้างประมาณ ¾ นิ้ว ยาว 4.5 นิ้ว เศษผ้าสำหรับปลายโบว์ควรมีกว้าง ¾ นิ้ว ยาว 3.5 นิ้ว และเศษผ้าที่ยึดตรงกลางควรมีขนาดกว้าง ¼ นิ้วและยาว 1.5 นิ้ว
- ประกอบเศษผ้าเข้าด้วยกัน. พับเศษผ้าที่ยาวที่สุดให้เป็นเหมือนห่วงและแต้มกาวร้อนเพื่อติดปลายผ้าไว้ด้วยกัน กดตรงกลางห่วงผ้าและติดเศษผ้าเพื่อทำปลายโบว์ไว้ด้านหลังของเศษผ้าอันแรก โดยติดไว้ตรงกลาง ใช้เศษผ้าเล็กๆ มัดยึดเศษผ้าทั้งสองอันในแนวตั้งเพื่อทำเป็นโบว์แบบมาตรฐาน จากนั้นก็ผูกเอาไว้
- ใส่คลิปหนีบกระดาษเข้าไป. สอดด้านกว้างของคลิปหนีบกระดาษที่ด้านหลังโบว์ตรงที่ผูกปมไว้ ใช้เศษผ้าเล็กๆ ที่ตัดไว้นำมาหุ้มคลิปไว้ ปลายของผ้าจะมาอยู่ที่คลิปหนีบกระดาษพอดีที่ด้านหลัง หยอดกาวร้อนเพื่อติดโบว์กับคลิปหนีบกระดาษ และเศษผ้าตรงกลางเข้าด้วยกัน
- ใช้ที่คั่นหนังสือของคุณ. รอให้กาวหายร้อนประมาณ 2-3 นาที จากนั้นก็สามารถนำคลิปหนีบกระดาษไปใช้ได้โดยการสอดคลิปไปที่หน้าที่คุณต้องการคั่น โบว์จะโผล่ออกมาทางด้านบน ดังนั้นต้องระมัดระวังไม่ทำให้มันพังด้วย[3]โฆษณา
เลือกกระดาษ. สำหรับวิธีนี้ คุณต้องใช้กระดาษการ์ดหนาๆ จะเป็นลายหรือมีผิวแบบไหนก็ได้ คุณสามารถเลือกกระดาษตกแต่งเพิ่มเติมแล้วแปะที่ด้านบนของที่คั่นหนังสือเมื่อคุณประกอบเสร็จแล้ว- ตัดกระดาษ. ตัดกระดาษเป็นเส้นๆ ทรงสี่เหลี่ยมมุมฉากกว้าง 2 นิ้ว ยาว 6 นิ้ว จากนั้นให้พับกระดาษครึ่งกระดาษตรงกลาง ดังนั้นคุณก็จะมีสี่เหลี่ยมแต่ละครึ่งขนาด 2 x 3 นิ้ว
- ติดแม่เหล็ก. ใช้แม่เหล็กเล็กๆ หรือกระดาษแม่เหล็กที่หาซื้อได้ตามร้านขายของสำหรับงานประดิษฐ์ และตัดมันเป็นชิ้นเล็กๆ กว้างประมาณ ½ ยาว ½ นิ้ว ติดกาวแต่ละชิ้นที่ด้านในกระดาษที่พับแล้วในด้านตรงข้ามกัน เมื่อกระดาษพับครึ่งเข้าหากัน แม่เหล็กจะดูดเข้าหากัน
- ตกแต่งที่คั่นหนังสือ. ติดกระดาษตกแต่งเพิ่มเติมที่ด้านหน้าและด้านหลังของที่คั่นหนังสือ หรือจะวาดรูปหรือเขียนคำคมลงไปก็ได้ ถ้าอยากให้มันดูสวยระยิบระยับ คุณอาจจะโรยกากเพชรหรือติดเลื่อมที่กระดาษ เคลือบที่คั่นหนังสือด้วยเจลมีเดียมแบบเหลว (liquid gel medium) เพื่อป้องกันไม่ให้กระดาษขาดยุ่ยหรือติดกาวที่เศษกระดาษเพื่อไม่ให้หลุดออก
ใช้ที่คั่นหนังสือ. ที่คั่นหนังสือควรเสียบที่กระดาษหน้าหนึ่งและมีแม่เหล็กดูดเข้าหากันโดยมีหน้ากระดาษอยู่ตรงกลาง เพื่อไม่ให้มันร่วงลงมา ให้เสียบที่คั่นหนังสือให้ใกล้กับสันหนังสือแทนที่จะเสียบไว้ตรงขอบๆ[4]โฆษณา
- ตัดที่โฟมสำหรับงานฝีมือเป็นสี่เหลี่ยม.
ตกแต่งตามต้องการ. ตัวอย่างเช่น คุณอาจจะแปะรูปภาพของสุนัขหรือแมวของคุณ เพื่อน สมาชิกในครอบครัว เป็นต้น หรืออาจจะแปะกับแผ่นโฟม ริบบิ้น กากเพชร เป็นต้น- ทำขอบ. วาดขอบโดยใช้ปากกามาร์กเกอร์หรือจะใช้ด้ายเย็บที่ขอบด้วย
ใส่พู่. เป็นวิธีที่ตามใจชอบเลย มันอาจจะเพิ่มลูกเล่นสวยๆ ได้
เสร็จเรียบร้อย. ใช้ที่คั่นหนังสือจากโฟมได้บ่อยเท่าที่คุณต้องการเลย หรือจะทำเพิ่มอีกเพื่อแจกเป็นของขวัญโฆษณา
เคล็ดลับ
- คุณอาจจะเปลี่ยนภาพวาดของเด็กๆ เป็นที่คั่นหนังสือสำหรับคั่นนิทานก่อนนอน
- คุณอาจจะทำที่คั่นหนังสือจากการ์ดต้อนรับหรือการ์ดเชิญเก่าๆ
- ถ้าคุณทำที่คั่นหนังสือมากกว่าหนึ่งอันในคราวเดียว ประหยัดเวลาและประหยัดเงินโดยการจัดที่คั่นหนังสือทั้งหมดในแผ่นเคลือบแผ่นใหญ่ให้ห่างกันประมาณ 1/2 นิ้ว (1.3 เซนติเมตร) จากอันอื่น ทากาวแท่งใสๆ เพื่อยึดมันไว้และเคลือบมันในคราวเดียว
- ถ้าลูกปัดมีรูที่ใหญ่ คุณอาจจะต้องผูกปมที่ริบบิ้นหลายครั้งเพื่อให้ลูกปัดไม่หลุด
- การทำที่คั่นหนังสือเองเป็นการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และประหยัดเงิน
- คุณสามารถดาวน์โหลดแบบที่คั่นหนังสือและรูปภาพออนไลน์เพื่อทำที่คั่นหนังสือแบบง่ายๆ และรวดเร็ว
- ถ้าคุณไม่ชอบพู่ลูกปัดหนักๆ คุณอาจจะซื้อพู่จากร้านขายอุปกรณ์งานประดิษฐ์ ผูกขนนกเล็กๆ ที่ปลายริบบิ้น ใช้ริบบิ้นเรียบๆ หรือไม่ต้องติดพู่เลยก็ได้
- คุณอาจจะแปะภาพหรือข้อความที่ตัดมาจากนิตยสารก็ได้
- คุณสามารถใช้กระดาษการ์ดโน้ต พับครึ่งเพื่อที่มันจะได้อยู่ในด้านยาวและด้านเปล่าๆ จะพับเข้าหากัน จากนั้นใช้ปลายปากการีดให้มันแบน และพับหลายๆ ครั้ง หลังจากนั้นคุณอาจจะวาดรูปหรือระบายสีตามใจชอบที่ด้านเปล่า เมื่อคุณทำเสร็จแล้วก็ให้แปะเทปไว้
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.favecrafts.com/Paper-Craft-Videos/How-to-Make-Paper-Bookmarks
- ↑ http://tallystreasury.com/2011/02/corner-page-bookmarks-3/
- ↑ www.howaboutorange.blogspot.com/2011/03/bow-tie-paper-clips-from-fabric-scraps.html
- ↑ http://www.marthastewart.com/264358/clip-art-craft-magnet-bookmarks
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.
โฆษณา
