วิธีการ ทำช่อดอกไม้เจ้าสาว

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

วางแผนการทำช่อดอกไม้

ทำช่อดอกไม้ทรงกลม

ทำช่อดอกไม้แบบผูกก้านสำหรับถือ

ทำช่อดอกไม้แบบอื่นๆ

แสดงเพิ่มอีก 1...

แสดงน้อยลง...

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

การจัดปาร์ตี้งานแต่งงานและทำช่อดอกไม้เจ้าสาวเองเป็นการทำให้งานเลี้ยงของคุณมีสไตล์และมีความสร้างสรรค์อย่างเป็นเอกลักษณ์ คุณสามารถเลือกดอกไม้ทุกดอกและของตกแต่งทุกชิ้นได้ ให้ชวนเพื่อนเจ้าสาวมาด้วยเพราะจะได้มาช่วยกันทำช่อดอกไม้ของแต่ละคนพร้อมๆ กันไปเลย

ขั้นตอน

ส่วน 1

ส่วน 1 ของ 4:

วางแผนการทำช่อดอกไม้

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   เลือกสีดอกไม้โดยรวม. ดอกไม้สีขาวหรือสีครีมเป็นสีแบบดั้งเดิมที่นิยมใช้กัน แต่จะดีที่สุดถ้าคุณเลือกสีดอกไม้ให้เข้ากับชุดเจ้าสาว ชุดเจ้าสาวสุดอลังการควรจะเป็นจุดศูนย์กลางความสนใจ ดังนั้น ควรจะควบคุมการเลือกสีช่อดอกไม้ให้เป็นเพียงสีเดียวหรือใช้สีไม่เยอะ แต่ถ้าเป็นชุดเจ้าสาวแบบเรียบๆ ก็เหมาะกับช่อดอกไม้อลังการแทน โดยควรทำช่อดอกไม้ที่มีหลายๆ สีและตกแต่งเยอะๆ

   • สำหรับขั้นตอนที่ซับซ้อนขึ้น ให้เลือกสีที่คล้ายกับสีชุดเจ้าสาวของคุณ แต่ควรหลีกเลี่ยงเฉดสีที่เหมือนกันเป๊ะและอาจจะลองเลือกสีให้เด่นขึ้น ถ้าดอกไม้เหมือนกับชุดเจ้าสาวเกินไปจะทำให้ดูราบเรียบและจะถ่ายรูปออกมาดูสวยได้ยาก
   • ช่อดอกไม้ที่ใช้ดอกไม้เฉดสีคล้ายกันจะเข้ากันได้ง่ายที่สุด ช่อดอกไม้แบบคลาสสิคจะใช้ดอกไม้สีขาว สีครีม สีพีช และสีชมพูอ่อน
   • สีดอกไม้ที่ตรงข้ามกันก็อาจจะทำให้ช่อดอกไม้ดูสวย ลองเลือกดอกไม้สีเหลืองและม่วง สีเขียวและส้ม หรือสีแดงและเขียว ถ้าคุณไม่อยากให้ช่อดอกไม้มีสีจัดจ้านเกินไป ให้ใช้ดอกไม้โทนสีอ่อนๆ และมีเฉดสีสว่าง
2. 
   2
   เลือกดอกไม้หลักที่มีก้านแข็งแรง. ดอกไม้ที่ใช้ควรมีก้านยาวและแข็งแรงเพื่อรวมกันเป็นช่อดอกไม้โดยที่ก้านไม่หัก ถ้าเป็นไปได้ ให้เลือกดอกไม้ประจำฤดูในช่วงเวลาของงานแต่งงานของคุณ ดอกไม้นอกฤดูจะแพงกว่ามากและอาจจะต้องสั่งล่วงหน้า ซึ่งถ้าเกิดเสียหายขึ้นก็ยากที่จะหามาทดแทน เลือกดอกไม้ที่คุณชอบและเหมาะสม 2-3 ชนิด หรือจะลองดูดอกไม้ดังต่อไปนี้

   • กุหลาบที่มีกลีบสีเดียว (ไม่ใช่กุหลาบดอกช่อ)
   • พีโอนี (ขอให้คนขายดอกไม้แนะนำสายพันธุ์ของดอกพีโอนีให้ เพราะดอกพีโอนีแบบดอกซ้อนจะมีก้านไม่แข็งแรง)
   • ดอกไฮเดรนเยีย
   • ดอกแมกโนเลีย
   • ดอกรักเร่ที่มีกลีบดอกซ้อน (ดอกรักเร่ที่มีกลีบชั้นเดียวกลีบดอกมักจะร่วง)
   • ดอกไลเซนทัส
   • ดอกกล้วยไม้พันธุ์ซิมบิเดียม
   • ดอกคาลล่าลิลลี่ (หรือดอกคาลล่าเล็กหลากสี)
   • ดอกลิลลี่พันธุ์สตาร์เกเซอร์
3. 
   3
   เลือกดอกไม้รอง (ไม่จำเป็น). ช่อดอกไม้ที่มีดอกไม้ชนิดเดียวก็ดูสวยงามมากและไม่ทำให้นักจัดดอกไม้มือใหม่อย่างคุณเครียดมากด้วย แต้ถ้าอยากแสดงความสามารถทางศิลปะเพิ่ม ให้หาดอกไม้ที่มีขนาดเล็กกว่าปริมาณเท่าไหร่ก็ได้เพิ่มไปในช่อเพื่อทำให้ดูหลากหลาย คุณสามารถใช้ดอกไม้อะไรก็ได้ แต่ถ้าคุณไม่รู้จะเลือกดอกไม้อะไร ให้ไปลองหาที่ร้านขายดอกไม้หรือร้านจัดช่อดอกไม้ออนไลน์

   • ดอกไม้รองที่ได้รับความนิยมได้แก่ ดอกกุหลาบที่มีกลีบสีเดียวเล็กๆ ดอกกุหลาบช่อ และดอกฟรีเซีย
   • ใช้ "ดอกไม้แต่งเติม (Filler flowers)" ที่เป็นดอกไม้ช่อเล็กๆ ดอกไม้ตูม หรือช่อผลเบอร์รี่ ลองใช้ดอกแว็กซ์ฟลาวเวอร์ ดอกเบบี้ส์เบรธ (Baby's breath) หรือกิ่งยูคาลิปตัสที่มีกระเปาะเมล็ด (Seeded Eucalyptus)
4. 
   4
   เลือกขนาดช่อดอกไม้. ช่อดอกไม้ควรมีขนาดพอเหมาะกับขนาดตัวของคุณและความอลังการของสถานที่จัดงาน ช่อดอกไม้ขนาดใหญ่จะเหมาะกับงานแต่งงานในโบสถ์ใหญ่และริมชายหาด ขณะที่ช่อดอกไม้เล็กๆ จะเหมาะกับพื้นที่งานแต่งที่เล็กๆ เป็นกันเอง และมีกฎง่ายๆ ที่สำคัญคือช่อดอกไม้ไม่ควรกว้างกว่าเอวเจ้าสาว ให้นึกถึงความสะดวกสบายเวลาถือด้วย ช่อดอกไม้ขนาดใหญ่จะเหนื่อยเวลาถือ

   • ช่อดอกไม้เจ้าสาวส่วนใหญ่จะมีเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 8 นิ้ว (20 ซม.) ไปจนถึง 13 นิ้ว (33 ซม.)
   • ให้หาดอกไม้เตรียมไว้มากกว่าที่ต้องใช้ จำนวนของดอกไม้ที่ใช้ขึ้นอยู่กับชนิดของดอกไม้ แต่โดยปกติแล้วจะใช้ดอกไม้ 15-30 ดอก อย่างไรก็ตาม ควรที่จะสั่งเกินมาเผื่อๆ ด้วย เพราะคุณอาจจะเปลี่ยนใจหรือมีไอเดียใหม่ๆ ขณะจัดดอกไม้อยู่
5. 
   5
   เล็มก้านดอกไม้เมื่อนำก้านจุ่มน้ำแล้ว. จุ่มก้านดอกไม้ลงไปในถังหรืออ่างน้ำ เล็มส่วนปลายของก้านออก โดยเล็มให้เฉียง 45 องศา เล็มออกประมาณ 1–2 นิ้ว (2.5–5 ซม.) นี่จะทำให้ดอกไม้ดูดน้ำโดยไม่มีฟองอากาศอยู่ภายในก้าน เก็บดอกไม้ไว้ในภาชนะที่ใส่น้ำเย็นจนกว่าคุณจะนำมาทำเป็นช่อดอกไม้

   • ปล่อยให้ก้านดอกไม้มีขนาดยาวเพื่อที่จะได้นำมาจัดได้ง่าย คุณสามารถเล็มมันอีกรอบเมื่อทำช่อดอกไม้เสร็จแล้ว
   โฆษณา

ส่วน 2

ส่วน 2 ของ 4:

ทำช่อดอกไม้ทรงกลม

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   เลือกดอกไม้หนึ่งชนิดในการจัด. โดยปกติแล้ว คุณควรจะใช้ดอกกุหลาบ 12 ดอก
2. 
   2
   ดึงใบและหนามออก. ดึงใบกับหนามออกด้วยที่รูดหนามหรือกรรไกรตัดดอกไม้ หรือจะใช้มือดึงใบออกก็ได้ถ้าก้านดอกไม้ไม่มีหนาม

   • ทิ้งดอกไม้ที่เสียหายหรือเปลี่ยนสี
3. 
   3
   ใช้ดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดสร้างจุดศูนย์กลาง. เลือกดอกไม้หลักที่ใหญ่ที่สุด 4 ดอก จัดดอกไม้ให้เป็นชั้นเท่าๆ กัน ไขว้ก้านดอกให้สับหว่างกัน

   • ใช้มือจับใต้ดอกไม้ตรงที่ก้านดอกไขว้กัน ถ้าคุณจับต่ำกว่านั้น ก้านดอกจะงอและทำให้ดอกไม้หัก
4. 
   4
   เพิ่มดอกไม้หลักไปทีละดอก. เพิ่มดอกไม้ไปทีละดอก ค่อยๆ เพิ่มดอกไม้ให้เท่าๆ กันจากศูนย์กลาง ให้ดอกไม้จับกลุ่มรวมกันให้แน่นที่สุดเท่าที่ทำได้และไขว้ก้านดอกแบบสับหว่างเพื่อที่ช่อดอกไม้จะได้ค่อยๆ บานออกมาเป็นทรงโดม

   • ขณะที่คุณไขว้ก้านดอก หมุนมือของคุณเพื่อไขว้ก้านดอกให้วนเป็นก้นหอย
   • ช่อดอกไม้เล็กๆ อาจจะใช้ดอกไม้แค่ 1 ชั้นรอบจุดศูนย์กลาง ถ้าดอกไม้นั้นมีขนาดใหญ่และบานฟู
5. 
   5
   ขยายขนาดช่อดอกไม้เป็นทรงกลมโดมขณะที่คุณเพิ่มดอกไม้. ถ้าคุณใช้ดอกไม้รอง ให้ใส่มันไปตรงไหนก็ได้ที่เป็นช่องว่างระหว่างดอกไม้ ให้ใส่มันที่ขอบช่อดอกไม้ด้วยเพื่อทำเป็นชั้นดอกไม้ด้านนอก จัดตำแหน่งดอกไม้รองให้ห่างๆ กันเพื่อที่ดอกไม้รองชนิดเดียวกันจะได้ไม่อยู่ติดกัน เมื่อทำเสร็จแล้ว คุณจะได้ช่องดอกไม้ทรงกลมโดมแน่นๆ โดยที่มีดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดอยู่ตรงกลาง

   • อีกทางเลือกหนึ่ง ทำช่อดอกไม้แบบบิเอร์ไมร์ (Biedermeier) ช่อดอกไม้แบบนี้จะมีศูนย์กลางเป็นวงกลมคล้ายพานพุ่มและใช้ดอกไม้สีสดหลายๆ สี
6. 
   6
   เล็มก้านดอกไม้ออกเพื่อจะได้จัดได้ง่ายขึ้น. ใช้กรรไกรสำหรับตัดก้านดอกไม้หรือกรรไกรทำสวนสะอาดๆ ตัดก้านดอกให้มีความยาวเท่ากัน ควรจะปล่อยให้ก้านดอกยาวนิดหน่อยก่อน (อย่างน้อย 10 นิ้ว หรือ 25.4 เซนติเมตร) เพราะเราจะเล็มอีกครั้งในขั้นตอนสุดท้าย
7. 
   7
   จัดแต่งครั้งสุดท้าย. จับขยับดอกไม้ในช่อดอกไม้ของคุณ ลองขยับความสูงของดอกไม้และทำให้แน่ใจว่าช่อดอกไม้ดูสมดุลและเป็นทรงกลม ถ้าคุณเห็นว่าตรงไหนดูไม่เท่ากัน ให้ใส่ดอกไม้เพิ่มเข้าไปอีก

   • ถ้าคุณมีปิ่นเพชรพลอยที่ใช้ประดับช่อดอกไม้ ให้เสียบปิ่นเพชรพลอยลงไประหว่างดอกไม้ให้ทั่วช่อดอกไม้ มันอาจจะต้องใช้ปิ่น 3-4 อันเพื่อที่จะได้เป็นที่สังเกตเห็น แต่ก็สามารถใช้เพิ่มได้
   • คุณอาจจะใส่ดอกไม้แต่งเติมเพิ่มให้ทั่วช่อดอกไม้ของคุณ ถ้าอยากให้ขอบของช่อดอกไม้ฟุ้งๆ ให้ใส่มันเข้าไปแค่ตรงระหว่างดอกไม้ชั้นนอกสุด
8. 
   8
   มัดช่อดอกไม้ด้วยเทปพันก้านดอกไม้หรือเชือกปาล์ม. มัดช่อดอกไม้โดยมัดใต้ดอกไม้ประมาณ 1 นิ้ว (2.5 ซม.) หรือจะให้ใกล้ดอกไม้มากที่สุดเพื่อที่มันจะได้รวมเป็นช่อแน่นๆ พันเทปที่ก้านดอกหลายๆ ครั้ง และพันลงมาที่ก้านประมาณ 3–4 นิ้ว (7.5-10 ซม.)

   • คุณจะใช้หนังยางที่ใหญ่และแข็งแรงแทนก็ได้ ถ้าช่อดอกไม้ของคุณไม่ใช่ดอกไม้ที่มีก้านดอกบอบบางอย่างดอกทิวลิปและดอกไฮยาซินธ์ ใส่หนังยางที่ก้านดอก 2 ก้านที่ด้านใดด้านหนึ่งของช่อดอกไม้จากนั้นรัดไว้ มัดหนังยางแน่นๆ หลายๆ ครั้งรอบทั้งช่อดอกไม้ โดยไม่ต้องเพิ่มก้านดอกเข้าไปข้างใน เมื่อแน่นดีแล้ว ดึงหนังยางให้เปิดออกและใส่ก้านดอกสองก้านที่ด้านตรงข้าม มัดหนังยางเส้นหนึ่งให้อยู่ด้านบนของก้านและเส้นที่สองให้ห่างจากเส้นแรกประมาณ 4 นิ้ว (10 ซม.)
9. 
   9
   ผูกริบบิ้นให้เป็นโบว์หรือจะพันริบบิ้นลงมาตามความยาวของก้าน. เลือกริบบิ้นที่เข้ากับชุดเจ้าสาวหรือสีของช่อดอกไม้ ตัดริบบิ้นให้ยาวกว่าความยาวของก้าน 3-4 เท่า

   • สำหรับอีกวิธีหนึ่ง ให้พันริบบิ้นลงมาตามความยาวของก้าน จากนั้นเสียบปลายริบบิ้นที่เทปพันก้านบริเวณด้านบนและด้านล่าง ใช้หมุดเล็กๆ ปักริบบิ้นไว้เพื่อให้ติดที่ก้าน
   • สำหรับวิธีการผูกเป็นโบว์ ให้ตัดริบบิ้นและผูกเป็นโบว์รอบช่อดอกไม้ ขอให้แน่ใจว่าเมื่อผูกโบว์เสร็จแล้ว คุณได้ตัดเทป เชือกปาล์ม หรือหนังยางออก
   • สำหรับช่อดอกไม้ที่ดูหรูหรายิ่งขึ้นให้ใช้ริบบิ้นที่มีหมุดไข่มุกตรงปลาย
10. 
    10
    เล็มก้านดอกอีกครั้ง. ช่อดอกไม้แบบนี้ทำขึ้นสำหรับให้เจ้าสาวถือไว้ข้างหน้า ดังนั้นก้านดอกไม้ควรจะสั้นเพื่อที่มันจะได้ไม่ไปโดนชุด โดยปกติแล้วความยาวของก้านดอกไม้ควรอยู่ที่ 6–7 นิ้ว (15–17.5 ซม.) ซับปลายก้านให้แห้งด้วยกระดาษทิชชู่ก่อนที่เจ้าสาวจะเอาไปถือ
11. 
    11
    ทำให้ช่อดอกไม้ดูสดใหม่. เก็บช่อดอกไม้ไว้ในที่เย็นจนกว่าจะถึงวันแต่งงาน โดยปักช่อดอกไม้ในภาชนะที่ใส่น้ำ คนขายดอกไม้อาจจะขายสารกันเสียสำหรับดอกไม้ที่จะช่วยยืดอายุของดอกไม้ ย้ายช่อดอกไม้ไปแช่ในน้ำถ้าเป็นไปได้

    • ถ้าห้องของคุณอุณหภูมิไม่เย็น ให้เก็บดอกไม้ไว้ในตู้เย็นที่มีอุณหภูมิ มากกว่า 1.7 องศาเซลเซียส เอาผลไม้ทั้งหมดออกมาจากตู้เย็น ผลไม้ส่วนใหญ่จะผลิตแก๊สที่เร่งอายุของดอกไม้
    • การฉีดสเปรย์สำหรับเส้นผมเบาๆ ก็จะช่วยถนอมดอกไม้เช่นกัน ให้คว่ำช่อดอกไม้ลงประมาณ 2-3 นาทีจนสเปรย์แห้งไปกับดอกไม้ก่อนที่จะนำไปปักที่แจกัน
    โฆษณา

ส่วน 3

ส่วน 3 ของ 4:

ทำช่อดอกไม้แบบผูกก้านสำหรับถือ

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   เลือกดอกไม้ที่คุณจะจัด. ดอกไม้ที่มักใช้มาจัดร่วมกันคือดอกกุหลาบสีขาว ดอกลิลลี่ และช่อใบไม้สีเขียว (ใบ Gunny Eucalyptus, ใบเฟิร์น, ใบดอกคาร์มีเลีย, ใบปาล์มหางกระรอก และใบดอกยาร์โรว์)

   • ขอให้จำไว้ว่าให้ระวังเรื่องอาการแพ้ดอกไม้หรือพืชบางชนิดเมื่อเลือกมันมาจัดเป็นช่อ
2. 
   2
   รวบรวมอุปกรณ์ที่ต้องใช้ก่อนที่จะเริ่มจัด.

   • คุณอาจจะต้องใช้ที่รูดหนาม กรรไกร เชือกปาล์ม หนังยาง กรรไกรเล็ม และริบบิ้นสีขาว
3. 
   3
   ทำความสะอาดดอกไม้และใบไม้ที่จะจัด. ใช้ที่รูดหนามรูดใบไม้และหนามออกไปจากก้านดอกไม้ จะดึงกลีบชั้นนอกสุดออกก็ได้ หรือดึงสิ่งที่อยู่บนก้านที่รุ่งริ่งหรือเหี่ยวเฉา

   • ถ้าคุณอยากให้ช่อดอกไม้ของคุณมีสีเขียวเยอะๆ ให้เก็บใบที่ด้านบนของก้านดอกไม้แต่ละดอกไว้
   • เอาเกสรออกจากดอกลิลลี่เพราะมันจะเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาลและจะทำให้ชุดเจ้าสาวเปื้อนได้
   • บริเวณด้านล่างก้านดอกตรงที่คุณจะจับ ให้เล็มใบและเล็มทุกอย่างออก
4. 
   4
   ใช้มือข้างที่ไม่ถนัดถือช่อดอกไม้. ถ้าคุณถนัดขวา ให้ใช้มือซ้ายจับช่อดอกไม้และใช้มือขวาเสียบดอกไม้ทีละดอก การจัดวางดอกไม้ก็แล้วว่าดอกไม้งอไปทางไหน
5. 
   5
   หมุนช่อดอกไม้ขณะที่คุณใส่ดอกไม้เพิ่ม. เพิ่มดอกไม้ตรงที่คุณแบมือ ไขว้ก้านดอกไม้แบบสับหว่างเพื่อที่มันจะได้วนเป็นก้นหอย
6. 
   6
   จัดขยับดอกไม้ขณะที่คุณหมุนช่อดอกไม้. ขอให้แน่ใจว่าได้จัดดอกไม้ให้อยู่ในมุมที่สวยหรือไม่ยื่นออกไปจากตรงศูนย์กลางของช่อมากนัก เพิ่มดอกไม้แต่งเติมที่ขอบนอกสุดของช่อ เพื่อเป็นการรวมช่อดอกไม้เข้าด้วยกัน และทำให้ดูเหมือนว่ามันเป็นริมของช่อดอกไม้
7. 
   7
   ตัดก้านออกประมาณ 6 นิ้ว. นี่จะทำให้จัดได้ง่ายขึ้น
8. 
   8
   รัดช่อดอกไม้เอาไว้. พันเชือกปาล์ม หนังยาง หรือใช้ตัวยึดที่ช่อดอกไม้
9. 
   9
   พันช่อดอกไม้ด้วยริบบิ้น ตัดเชือกหรือหนังยางออกหลังจากพันริบบิ้นไปสองทบแล้ว. ใช้ริบบิ้นขนาด 4 ถึง 6 หลา ขึ้นอยู่กับความกว้างของช่อดอกไม้ มัดปลายริบบิ้นเป็นปมหรือเป็นโบว์
10. 
    10
    ตัดก้านดอกที่เหลือออกและปักช่อดอกไม้ในน้ำเพื่อให้ดอกไม้สด! ตัดก้านดอกไม้ให้เท่าๆ กัน โดยตัดให้ห่างจากริบบิ้นประมาณ 1 นิ้ว
    โฆษณา

ส่วน 4

ส่วน 4 ของ 4:

ทำช่อดอกไม้แบบอื่นๆ

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ทำช่อดอกไม้ที่ไว้ใช้สำหรับแสดงความยินดี. ช่อดอกไม้เหล่านี้จะมีก้านสำหรับจับยาวและใช้ดอกไม้ที่สูงยาว เจ้าสาวจะอุ้มส่วนที่เป็นก้านไว้และพิงช่อดอกไม้ที่เหลือที่แขนข้างหนึ่ง ช่อดอกไม้แบบนี้ทำง่ายมาก แต่มันจะเหนื่อยไปถ้าคุณจะถือมันตลอดพิธีการ
2. 
   2
   ใช้ที่ตั้งช่อดอกไม้. นอกจากที่ตั้งช่อดอกไม้จะช่วยตกแต่งแล้ว มันยังทำให้ดอกไม้มีความชุ่มชื้น แช่ "โฟมปักดอกไม้" ของที่ตั้งช่อดอกไม้ก่อนจะใส่ดอกไม้เข้าไป ดอกไม้จะสามารถดูดน้ำที่อยู่ข้างในตลอดงานแต่งงานของคุณ

   • คำศัพทเฉพาะ "nosegay" หมายถึงช่อดอกไม้ช่อเล็กๆ ที่อยู่ในที่ตั้งช่อดอกไม้หรือใน "กรวยช่อดอกไม้ (tussy mussy)" สำหรับตกแต่ง มันอาจจะหมายถึงช่อดอกไม้เล็กๆ หลวมๆ ที่มีใบสีเขียวและใบสมุนไพร
3. 
   3
   ทำช่อดอกไม้ทรงน้ำตก. นี่อาจจะเป็นช่อดอกไม้ที่ทำยากที่สุดเพราะว่ามันจะดูไม่สมดุลได้ง่ายหรือมันอาจจะกลบของตกแต่งอย่างอื่น ในการทำช่อดอกไม้ชนิดนี้ ให้หาที่ตั้งช่อดอกไม้แบบพิเศษแบบหัวเอียง จัดดอกไม้ให้ล้นออกมาจากที่ตั้ง ให้บริเวณด้านหน้าเป็นช่อเลื้อยมายาวๆ และจัดให้ดอกไม้ที่มีดอกใหญ่กว่าปิดที่ปากของที่ตั้ง
   โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

• ดอกไม้ที่มีก้านแข็งแรง 15–30 ดอก
• ดอกไม้เพิ่มเติม 10 ดอกขึ้นไป (ไม่จำเป็น)
• ปิ่นเพชรพลอยประดับช่อดอกไม้ (ไม่จำเป็น)
• กรรไกรตัดก้าน
• ถังน้ำ
• หนังยาง (2 เส้นต่อช่อ) หรือเทปพันก้านดอกไม้
• กระดาษอเนกประสงค์
• ริบบิ้นกว้างๆ
• เข็มหมุด

เคล็ดลับ

• จัดดอกไม้หน้ากระจกเพื่อที่จะได้เห็นชัดขึ้นว่ารูปทรงของช่อดอกไม้ออกมาเป็นอย่างไร
• ถ้าคุณใช้กุหลาบที่ยังไม่บาน ให้จุ่มก้านที่น้ำร้อน (แค่ 2-3 นาที) เพื่อบังคับให้มันบานออก อย่าจุ่มทิ้งไว้นานไปเพราะมันจะตายได้
• ลองเพิ่มของตกแต่งช่อดอกไม้ ถ้าคุณอยากให้ช่อดอกไม้ของคุณดูหรูหราขึ้นนิดหน่อยโดยไม่ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ให้ซื้อปิ่นเพชรพลอยสำหรับประดับช่อดอกไม้ โดยปกติแล้วมันจะเป็นปิ่นหรือเข็มกลัดที่เป็นเงินหรือมุก ให้เสียบเข้าไปที่ช่อดอกไม้
• ทำช่อดอกไม้ที่เป็นตัวคุณโดยการใช้ดอกไม้ในสวนของคุณเอง

โฆษณา

คำเตือน

• ช่อดอกไม้ที่ใหญ่เกินไปหรือช่อดอกไม้ที่ประดับเพชรพลอยแหลมคมและหนักไม่เหมาะเป็นช่อดอกไม้สำหรับใช้โยน ให้ทำช่อดอกไม้อีกช่อหนึ่งที่เล็กกว่าเพื่อที่จะใช้โยนได้

โฆษณา