ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความX
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Michelle Driscoll, MPH. มิเชล ดริสคอลเป็นเจ้าของ Mulberry Maids ในโคโลราโด ดริสคอลได้รับปริญญาโทด้านการสาธารณสุขจากคณะสาธารณสุขมหาวิทยาลัยโคโลราโดในปี 2016 และเข้าใจในประโยชน์ทางสุขภาพจากการมีสิ่งแวดล้อมที่สะอาด
มีการอ้างอิง 8 ข้อที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ
บทความนี้ถูกเข้าชม 3,692 ครั้ง
แผ่นยางกันลื่นรองอ่างอาบน้ำควรได้รับการทำความสะอาดเป็นครั้งคราวเพื่อชะล้างคราบไขมันสะสมจากสบู่และผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมที่อาจทิ้งความลื่นไว้บนพื้นผิว จำไว้ว่าโดยทั่วไปแล้วห้องน้ำเป็นพื้นที่ปิดที่อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้นเชื้อราจึงสามารถเจริญเติบโตได้ดีและนำไปสู่การเกิดกลิ่นเหม็นได้ และที่แย่ไปกว่านั้นคือคราบไขมันที่สะสมบนพื้นผิวอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุเมื่อคุณก้าวเข้าออกฝักบัวหรืออ่างอาบน้ำได้อีกด้วย
ขั้นตอน
เจือจางน้ำยาฟอกขาวกับน้ำเปล่าในอ่างอาบน้ำ. หากแผ่นยางกันลื่นที่ต้องการทำความสะอาดถูกใช้ปูไว้ในอ่างอาบน้ำใบดังกล่าว ให้คุณลอกแผ่นยางกันลื่นที่ติดอยู่ให้หลุดออกจากก้นอ่างเสียก่อน คุณสามารถทำความสะอาดแผ่นยางกันลื่นได้อย่างง่ายดายและได้ผลอย่างดีเยี่ยมด้วยการแช่ในน้ำยาฟอกขาวเจือจางในน้ำเปล่าที่เติมไว้ในอ่างอาบน้ำ หรือหากที่บ้านของคุณมีอ่างล้างมือก้นลึกหรืออ่างซักล้าง แนะนำให้คุณนำแผ่นยางกันลื่นแช่ไว้ในอ่างประเภทดังกล่าวแทนเพื่อความสะดวกยิ่งขึ้น ตวงน้ำยาฟอกขาวให้ได้ปริมาณที่เหมาะสมสำหรับเจือจางในน้ำเปล่าและตรวจสอบให้แน่ใจว่าภายในอ่างมีพื้นที่กว้างมากพอเพื่อให้แผ่นยางกันลื่นจมอยู่ใต้น้ำทั่วทุกส่วน
สวมอุปกรณ์ป้องกันเมื่อสัมผัสน้ำยาฟอกขาว. น้ำยาฟอกขาวอาจกระเด็นถูกร่างกายในระหว่างที่เทลงไปในอ่างอาบน้ำและทำให้เกิดการระคายเคืองต่อดวงตาและผิวหนังของคุณได้ ดังนั้นคุณจึงควรป้องกันโดยสวมถุงมือทำความสะอาดให้เรียบร้อยก่อนเริ่มเทน้ำยาฟอกขาว นอกจากนี้คุณอาจสวมแว่นตาเพื่อป้องกันดวงตาของคุณไว้ด้วย[1]
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าห้องน้ำมีการระบายอากาศที่ดี. อย่าลืมเปิดหน้าต่างและประตูห้องน้ำค้างไว้ก่อนลงมือเจือจางน้ำยาฟอกขาวกับน้ำเปล่า เนื่องจากไอระเหยจากการใช้น้ำยาฟอกขาวหรือเจือจางกับน้ำเปล่าอาจมีความเป็นพิษและก่อให้เกิดอาการเวียนศีรษะได้[2]
เริ่มจากเติมน้ำเย็นลงไปในอ่างอาบน้ำ. เติมน้ำเปล่าประมาณ 4 ลิตรลงไปในอ่างอาบน้ำก่อนเป็นอันดับแรกและอย่าการเทน้ำยาฟอกขาวลงไปโดยตรง รวมทั้งหลีกเลี่ยงการเจือจางน้ำยาฟอกขาวกับน้ำร้อนเพราะอาจทำให้ไอระเหยมีความเข้มข้นมากขึ้นเมื่อเทน้ำยาฟอกขาวลงไป[3]
ตวงน้ำยาฟอกขาวให้ได้ปริมาณที่เหมาะสม. เตรียมถ้วยตวงหรือช้อนโต๊ะให้พร้อมและอย่าเทน้ำยาฟอกขาวลงไปโดยกะปริมาณคร่าวๆ เท่านั้น เนื่องจากสัดส่วนของน้ำยาฟอกขาวต่อน้ำเปล่าที่ไม่สมดุลอาจทำให้สารทำความสะอาดมีความเข้มข้นสูงเกินไปจนเป็นอันตรายต่อสุขภาพและทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะหรือปัญหาด้านการหายใจได้ สัดส่วนน้ำยาฟอกขาวต่อน้ำเปล่าที่เหมาะสมสำหรับทำความสะอาดแต่ละรูปแบบมีดังนี้:[4]- เทน้ำยาฟอกขาว 1 ช้อนชา (5 มล.) ต่อน้ำเปล่า 4 ลิตรสำหรับการทำความสะอาดทั่วไป[5]
- เทน้ำยาฟอกขาว 1 ถ้วย (240 มล.) ต่อน้ำเปล่า 20 ลิตรสำหรับการทำความสะอาดงานหนัก[6]
- นอกเหนือจากน้ำยาฟอกขาวแล้ว คุณยังสามารถผสมน้ำส้มสายชู 1 ถ้วย (240 มล.) และน้ำเปล่า 1 ถ้วย (240 มล.) ให้เข้ากันสำหรับใช้ขัดทำความสะอาดแผ่นยางกันลื่นแทนได้ หรือจะใช้วิธีเติมน้ำส้มสายชูและน้ำเปล่าในสัดส่วนที่เท่ากันลงไปในอ่างอาบน้ำหรือกะละมังก่อนนำแผ่นยางกันลื่นลงไปแช่ก็ได้เช่นกัน
แช่แผ่นยางกันลื่นทิ้งไว้สักพักก่อนขัดทำความสะอาดให้ทั่ว. ลองดูว่าแผ่นยางกันลื่นของคุณจำเป็นต้องทำความสะอาดอย่างละเอียดหรือไม่หรือเพียงต้องการการทำความสะอาดสักเล็กน้อยเพื่อให้น่าใช้งานมากขึ้นเท่านั้น- หากต้องการกำจัดเชื้อราให้หลุดออกไป ให้คุณแช่แผ่นยางกันลื่นไว้ในน้ำยาฟอกขาวเจือจางในน้ำเปล่านาน 3-4 ชั่วโมง
- หากต้องการทำความสะอาดอย่างรวดเร็วทันใจ ให้คุณใช้แปรงหรือแผ่นใยขัดขัดทำความสะอาดให้ทั่วพื้นผิวแผ่นยางกันลื่นหลังแช่ทิ้งไว้สัก 2-3 นาทีเพื่อขจัดสิ่งสกปรกและเศษฝุ่นให้หลุดออก
นำแผ่นยางกันลื่นที่ทำความสะอาดเสร็จแล้วไปตากให้แห้ง. เอาแผ่นยางกันลื่นขึ้นจากอ่างอาบน้ำและนำไปพาดไว้บนพนักเก้าอี้หรือตากไว้นอกบ้านให้โดนแดดเพื่อให้แผ่นยางกันลื่นแห้งสนิท จากนั้นระบายน้ำในอ่างอาบน้ำออกและล้างด้วยน้ำเปล่าเพื่อขจัดคราบและสิ่งสกปรกที่สะสมระหว่างการทำความสะอาดแผ่นยางกันลื่นออกให้หมดจด[7]- อย่านำแผ่นยางกันลื่นเข้าไปอบในเครื่องอบผ้า เพราะความร้อนอาจทำให้แผ่นยางกันลื่นบิดงอได้
โฆษณา
ใส่แผ่นยางกันลื่นเข้าไปในเครื่องซักผ้า. คุณสามารถซักแผ่นยางกันลื่นในเครื่องซักผ้าได้เช่นเดียวกับการซักเสื้อผ้าตามปกติ ซึ่งคุณสามารถซักแผ่นยางกันลื่นพร้อมกับเสื้อผ้าบางส่วนเพื่อให้สะอาดมากยิ่งขึ้น[8]- เลือกซักพร้อมกับเสื้อผ้าเนื้อหนาทนทานที่สามารถซักด้วยผลิตภัณฑ์ซักผ้าและน้ำยาฟอกขาวได้อย่างปลอดภัย เช่น ผ้าขนหนูสีขาว และหลีกเลี่ยงการซักรวมกับเสื้อผ้าที่อาจเสียหายได้ง่ายหรือเกิดรอยด่างจากน้ำยาฟอกขาว[9]
เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญมิเชล ดริสคอลเป็นเจ้าของ Mulberry Maids ในโคโลราโด ดริสคอลได้รับปริญญาโทด้านการสาธารณสุขจากคณะสาธารณสุขมหาวิทยาลัยโคโลราโดในปี 2016 และเข้าใจในประโยชน์ทางสุขภาพจากการมีสิ่งแวดล้อมที่สะอาดผู้ก่อตั้ง Mulberry Maids
Michelle Driscoll, MPH
ผู้ก่อตั้ง Mulberry Maidsเคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ: คุณสามารถขจัดคราบฝังลึก กลิ่นเหม็น หรือเชื้อราบนแผ่นยางกันลื่นได้โดยเติมน้ำยาฟอกขาว ½ ถ้วยลงไปก่อนเริ่มใช้งานเครื่องซักผ้า
เลือกโปรแกรมซักแบบถนอมและซักด้วยน้ำเย็นหรือน้ำอุ่น. การซักแผ่นยางกันลื่นด้วยโปรแกรมการซักแบบปกติหรือซักทรงพลังอาจทำให้แผ่นยางกันลื่นเสื่อมสภาพหรือเสียหายได้เมื่อใช้งานไปเรื่อยๆ[10]
นำแผ่นยางกันลื่นออกจากเครื่องซักผ้าและพาดไว้บนพนักเก้าอี้หรือราวตากผ้าเพื่อตากให้แห้ง. คุณอาจใช้ผ้าเช็ดเพื่อช่วยให้แผ่นยางกันลื่นแห้งเร็วยิ่งขึ้น[11]โฆษณา
เคล็ดลับ
- สำหรับบริเวณที่มีคราบเปื้อนหรือคราบฝังแน่น คุณสามารถขจัดให้หลุดออกได้โดยใช้เบคกิ้งโซดา 3 ส่วนผสมเข้ากับน้ำเปล่า 1 ส่วนก่อนนำไปขัดตรงบริเวณดังกล่าว
- รู้หรือไม่ว่าเครื่องล้างจานสามารถทำความสะอาดแผ่นยางกันลื่นได้อย่างดีเยี่ยมไม่แพ้กัน ซึ่งนอกเหนือจากจานชามแล้ว เครื่องล้างจานยังสามารถทำความสะอาดอุปกรณ์ของใช้อื่นๆ ภายในบ้านได้อีกมากมาย ดังนั้นคุณอาจเลือกล้างแผ่นยางกันลื่นในเครื่องล้างจานแทนหากไม่ต้องการนำไปซักในเครื่องซักผ้าหรือหากเครื่องซักผ้ากำลังใช้งานอยู่ในขณะนั้น[12]
- หลีกเลี่ยงการนำแผ่นยางกันลื่นเข้าไปอบในเครื่องอบผ้า เนื่องจากความร้อนอาจทำให้แผ่นยางกันลื่นเกิดความเสียหายได้
โฆษณา
คำเตือน
- น้ำยาฟอกขาวเป็นผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนที่จำเป็นต้องใช้งานอย่างระมัดระวัง ดังนั้นคุณจึงควรสวมอุปกรณ์ป้องกันต่างๆ อย่างแว่นตาและถุงมือทำความสะอาดให้เรียบร้อย รวมถึงตรวจสอบให้แน่ใจว่าบริเวณดังกล่าวมีการระบายอากาศที่ดีก่อนเริ่มลงมือทำความสะอาด[13]
โฆษณา
สิ่งของที่ใช้
- เครื่องซักผ้า
- แผ่นยางกันลื่นสำหรับอ่างอาบน้ำ
- ผลิตภัณฑ์ซักผ้า
- น้ำยาฟอกขาว
- น้ำส้มสายชู (ไม่จำเป็น)
- เบคกิ้งโซดา (ไม่จำเป็น)
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://www.ag.ndsu.edu/flood/home/chlorine-bleach-safety
- ↑ https://www.ag.ndsu.edu/flood/home/chlorine-bleach-safety
- ↑ http://www.info.gov.hk/info/sars/en/useofbleach.htm
- ↑ https://www.cdc.gov/disasters/bleach.html
- ↑ https://www.cdc.gov/disasters/bleach.html
- ↑ https://www.cdc.gov/disasters/bleach.html
- ↑ http://www.creativehomemaking.com/cleaning/rubber-bath-mat.shtml
- ↑ http://www.creativehomemaking.com/cleaning/rubber-bath-mat.shtml
- ↑ http://www.creativehomemaking.com/cleaning/rubber-bath-mat.shtml
- ↑ http://www.goodhousekeeping.com/home/cleaning/tips/a25048/washing-machine-items/
- ↑ http://www.creativehomemaking.com/cleaning/rubber-bath-mat.shtml
- ↑ https://www.mnn.com/your-home/at-home/blogs/18-things-you-can-clean-in-the-dishwasher-aside-from-the-dishes
- ↑ https://www.ag.ndsu.edu/flood/home/chlorine-bleach-safety
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
ผู้ก่อตั้ง Mulberry Maids
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Michelle Driscoll, MPH. มิเชล ดริสคอลเป็นเจ้าของ Mulberry Maids ในโคโลราโด ดริสคอลได้รับปริญญาโทด้านการสาธารณสุขจากคณะสาธารณสุขมหาวิทยาลัยโคโลราโดในปี 2016 และเข้าใจในประโยชน์ทางสุขภาพจากการมีสิ่งแวดล้อมที่สะอาด บทความนี้ถูกเข้าชม 3,692 ครั้ง
หมวดหมู่: การทำความสะอาด
มีการเข้าถึงหน้านี้ 3,692 ครั้ง
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.
โฆษณา
