วิธีการ ทำความสะอาดคราบน้ำบนหน้าต่าง

รอยคราบน้ำนั้นเกิดจากแร่ธาตุอย่างพวกแคลเซียมและแมกนีเซียมในน้ำ เมื่อพื้นผิวเปียกขึ้นมา น้ำจะระเหยหายไป แต่ยังคงทิ้งแร่ธาตุหลงเหลือตกตะกอนไว้อยู่ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องฉีดน้ำในสนามหญ้า การล้างรถ และน้ำจากฝักบัว ก็สามารถทำให้เกิดคราบน้ำบนพื้นผิวที่เป็นแก้วกระจกได้ ในทางเคมี ตะกอนเหล่านี้มีความเป็นด่าง ฉะนั้นจึงต้องใช้กรดในการกำจัดมันออกไป ด้วยของที่มีอยู่ตามบ้าน คุณสามารถกำจัดและป้องกันไม่ให้เกิดตะกอนแร่ธาตุเหล่านี้ได้อีก

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 5:

ใช้ส่วนผสมของน้ำส้มสายชู

ดาวน์โหลดบทความ

เติมน้ำครึ่งหนึ่งและน้ำส้มสายชูครึ่งหนึ่งลงในขวดสเปรย์. น้ำส้มสายชูที่เหมาะกับการใช้ที่สุดคือน้ำส้มสายชูกลั่นใสธรรมดา ซึ่งทั้งไม่แพงและได้ผลดีอีกด้วย^{[1]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} น้ำส้มสายชูที่เข้มข้นกว่าอาจมีประสิทธิภาพที่ดีกว่า ฉะนั้นให้ผสมอัตราส่วนของน้ำส้มสายชูต่อน้ำโดยขึ้นอยู่กับความเข้มของคราบน้ำ
ฉีดใส่กระจกให้เปียกโชกตรงบริเวณที่มีรอยคราบน้ำ ปล่อยให้น้ำส้มสายชูเกาะอยู่อย่างนั้น แล้วฉีดซ้ำอีกในบริเวณที่สกปรกเป็นพิเศษ
จุ่มผ้าขนหนูหยาบๆ ลงไปในส่วนผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำ แล้วเช็ดให้ทั่วบริเวณที่ฉีดสเปรย์ทิ้งไว้ จะแปะผ้าขนหนูเอาไว้เพื่อให้น้ำส้มสายชูซับบริเวณนั้นสักพักก็ย่อมได้^{[2]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
ใช้ผ้าขนหนูหยาบชุ่มน้ำส้มสายชูเช็ดกระจก ไม่จำเป็นต้องถูให้แรง ผิวขรุขระของผ้าขนหนูจะช่วยทำความสะอาดรอยน้ำและช่วยให้น้ำส้มสายชูซึมซับแร่ธาตุที่ก่อตัวขึ้นได้
ยิ่งคราบแน่นเท่าไร ก็ต้องพักน้ำส้มสายชูทิ้งไว้นานขึ้น ปล่อยให้น้ำส้มสายชูค้างอยู่บนกระจกอย่างนั้น และเติมไปใหม่เมื่อมันดูเหมือนว่าจะแห้ง^{[3]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
เช็ดน้ำส้มสายชูออกด้วยผ้าขนหนูแห้งหรือไม้กวาดหุ้มยาง. คุณอาจต้องฉีดสเปรย์น้ำส้มสายชูหรือน้ำเปล่าใส่อีกครั้งหนึ่งก่อนจะเช็ดออกด้วยผ้าขนหนูแห้งสะอาด (หรือทิชชู่แผ่นหนา) หรือใช้ไม้กวาดหุ้มยางปาดน้ำออก โดยไม่ให้หลงเหลือน้ำส้มสายชูหรือน้ำเปล่าบนพื้นผิวกระจกเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นจะทำให้เกิดรอยคราบน้ำใหม่เพิ่มขึ้นไปอีก
โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 5:

ใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติอื่นๆ

ดาวน์โหลดบทความ

1
ใช้น้ำเลมอนแทนน้ำส้มสายชู. น้ำเลมอนก็มีฤทธิ์เป็นกรดเหมือนกัน และประสิทธิภาพก็เท่าๆ กันด้วย^{[4]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} น้ำเลมอนสดๆ จะใช้ได้ผลดีกว่าน้ำเลมอนบรรจุขวด
- ลองกลิ้งผลเลมอนไปบนพื้นผิวแข็งๆ ด้วยแรงกดเล็กน้อยก่อนจะหั่นเลมอนออกมา จะทำให้ง่ายในการคั้นน้ำมากขึ้น
- คั้นน้ำเลมอนแล้วใส่ลงในขวดสเปรย์ผสมกับน้ำเปล่า หรือใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำเลมอนจากในแก้ว
- หรือว่าจะใช้แค่เลมอนทาเลยก็ได้ โดยหั่นเลมอนออกครึ่งซีกแล้วถูส่วนที่ผ่าลงบนกระจกด้วยแรงกดที่พอเหมาะ
- ปล่อยให้น้ำเลมอนแช่ค้างไว้บนนั้น จากนั้นค่อยล้างออกด้วยน้ำเปล่าหรือน้ำยาเช็ดกระจก
2
ใช้น้ำมันหอมระเหยเลมอนหรือส้ม. น้ำมันหอมระเหยได้รับความนิยมในประโยชน์ทั้งด้านสุขภาพและการทำความสะอาด น้ำมันหอมระเหยที่ทำมาจากผลไม้รสเปรี้ยวอย่างเลมอนและส้มสามารถทำความสะอาดตะกอนที่เกิดจากน้ำได้ และยังมีประโยชน์อย่างอื่นอีกด้วย นั่นคือ น้ำมันนั้นมีแนวโน้มเป็นตัวทำละลายน้ำ และอาจป้องกันไม่ให้เกิดคราบน้ำเกิดขึ้นได้อีก
- หยดน้ำมันหอมระเหยลงในน้ำหลายๆ หยด จากนั้นใช้ฟองน้ำหรือผ้าขนหนูจุ่มน้ำเช็ดกระจก
- ปล่อยทิ้งไว้ จากนั้นถูเบาๆ ด้วยผ้าขนหนูหรือฟองน้ำ
- แล้วใช้น้ำเปล่าหรือน้ำยาเช็ดกระจกทั่วไปเช็ดออกจากกระจก
3
ทายาสีฟันบริเวณที่เป็นคราบ. อาจฟังดูแปลก แต่ยาสีฟันนั้นสร้างมาเพื่อกำจัดคราบที่ก่อตัวขึ้น ฉะนั้นมันจึงค่อนข้างได้ผลดีในการกำจัดคราบน้ำฝังแน่นเลยล่ะ^{[5]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ผสมน้ำเข้ากับยาสีฟัน เพื่อให้ส่วนผสมกระจายตัวได้ง่าย และจะได้ใช้ยาสีฟันน้อยลง
- ทาส่วนผสมนั้นลงบนกระจกและทิ้งเอาไว้
- ถูเบาๆ ด้วยแปรง ผ้าขนหนู หรือฟองน้ำ
- ล้างออกจากกระจกด้วยน้ำเปล่า
- ล้างกระจกอีกครั้งด้วยน้ำเปล่าหรือน้ำยาเช็ดกระจก และต้องเช็ดให้แห้งเพื่อไม่ให้คราบน้ำก่อตัวขึ้นอีก
4
ผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำส้มสายชู. สารนี้จะขึ้นฟองเมื่อคุณผสมมันเข้าหากัน จะรอให้ฟองหายไปก่อนค่อยใช้หรือใช้ทาลงบนกระจกตอนที่มันยังผุดขึ้นมาอยู่ก็ได้ อย่าผสมน้ำส้มสายชูกับเบกกิ้งโซดาในภาชนะปิดล่ะ เพราะก๊าซที่ก่อตัวขึ้นอาจไปดันให้ฝากระเด็นออกมาได้
- ทาส่วนผสมลงบนกระจกและทิ้งเอาไว้^{[6]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ขัดเบาๆ ด้วยแปรง ผ้าขนหนู หรือฟองน้ำ
- ล้างออกด้วยน้ำเปล่า
- ล้างกระจกอีกครั้งด้วยน้ำเปล่าหรือน้ำยาเช็ดกระจก และต้องเช็ดให้แห้งเพื่อไม่ให้คราบน้ำก่อตัวขึ้นอีก
โฆษณา

วิธีการ 3

วิธีการ 3 ของ 5:

ใช้น้ำยาผสมผงขัด (Abrasive cleaner)

ดาวน์โหลดบทความ

ใช้ผงขัดยี่ห้อต่างๆ เช่น Comet, Barkeeper’s friend หรือแค่เบกกิ้งโซดาธรรมดาๆ ก็ได้^{[7]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} ผงพวกนี้สามารถใช้โรยบนพื้นที่ที่เกิดคราบได้
การทำให้กระจกเปียกก่อนจะทำให้จัดการอะไรๆ ง่ายขึ้น จากนั้นก็โรยผงขัดลงไป แล้วผงขัดก็จะติดกับผิวกระจก น้ำกับผงขัดจะทำงานร่วมกันในการเป็นน้ำยาผสมผงขัดทำความสะอาดนั่นเอง
ผงขัดอเนกประสงค์มักจะมีรูหลายๆ รูด้านบนบรรจุภัณฑ์เพื่อให้โรยออกมาได้ ถ้าของคุณไม่มี หรือใช้เบกกิ้งโซดาแทน จะใส่ผงขัดลงไปในภาชนะอื่นที่ใช้โรยได้แล้วค่อยมาโรยก็ได้
ประโยชน์หลักๆ ของสารทำความสะอาดคือการอนุภาคเล็กๆ ที่จะช่วยทำความสะอาดได้^{[8]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} เพื่อที่จะให้เม็ดอนุภาคเล็กๆ นี้ทำงาน คุณจะต้องขัดถูแรงๆ สักหน่อย คิดซะว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ทั้งได้ความสะอาดและได้ออกกำลังกายอีกด้วยนะ!
สารทำความสะอาดบางอย่างอาจทิ้งไว้บนกระจกได้ แต่ผงขัดเหมือนจะยังทิ้งตะกอนเอาไว้ได้ เพราะมันไม่ได้มีไว้เพื่อเช็ดกระจกโดยเฉพาะ ให้ล้างผงขัดให้สะอาดด้วยน้ำเปล่า จากนั้นก็เช็ดด้วยน้ำยาเช็ดกระจก เป็นวิธีที่ดีที่สุดเพื่อไม่ให้หลงเหลือคราบใดๆ
หลังจากที่ล้างทำความสะอาดไปเป็นที่เรียบร้อย ให้เช็ดผิวกระจกให้แห้งเพื่อไม่ให้เกิดคราบน้ำขึ้นอีกในครั้งหน้
มีอีกวิธีในการใช้ผงขัด คือการใช้กับที่ขัดนั่นเอง ที่ขัดจะมีผิวคล้ายกับกระดาษทรายละเอียดที่จะช่วยกำจัดคราบที่ก่อตัวขึ้นบนผิวกระจกได้ ที่ขัดบางอันอาจทำมาจากขนสัตว์^{[9]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} ฟองน้ำหยาบด้านสีเขียว และผลิตภัณฑ์ที่รู้จักกันในชื่อ Magic eraser ซึ่งเป็นฟองน้ำขจัดคราบเนื้อละเอียดนั่นเอง
โฆษณา

วิธีการ 4

วิธีการ 4 ของ 5:

ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด

ดาวน์โหลดบทความ

1
หาซื้อผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่สามารถขจัดคราบน้ำฝังแน่นได้. มีผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อกำจัดคราบน้ำฝังแน่นบนผิวกระจกและพื้นผิวอื่นๆ โดยเฉพาะ คุณอาจอยากลองใช้ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในบ้านดูก่อน เพราะการซื้อผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเพื่อมาทำความสะอาดเพียงจุดประสงค์เดียวก็อาจดูไม่คุ้มราคาเท่าไร^{[10]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} และนี่คือชื่อยี่ห้อของผลิตภัณฑ์ที่มีไว้ช่วยทำความสะอาดคราบน้ำฝังแน่นได้
- CLR
- Barkeeper’s Friend
- Kaboom
- Lime-away
2
ใช้ผลิตภัณฑ์ตามคำแนะนำบนฉลากบรรจุภัณฑ์. ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบสเปรย์หรือไว้ใช้กับฟองน้ำหรือผ้าขนหนู ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นมักจะให้พักทิ้งไว้ แช่บนผิวที่เกิดคราบที่จะทำความสะอาด
- ผลิตภัณฑ์บางชนิดก็ต้องใช้เช็ดทำความสะอาด แต่อย่าไปขัดถูมัน ไม่อย่างนั้นอาจทำให้เกิดการกระเซ็นได้^{[11]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- จะให้ดีที่สุดก็ต้องลองใช้ผลิตภัณฑ์ในบริเวณจุดเล็กๆ บนพื้นผิวก่อน เพื่อให้แน่ใจว่ามันจะไม่สร้างความเสียหายให้กับพื้นผิว
- คอยระวังให้ผลิตภัณฑ์อยู่บนผิวกระจกที่จะทำความสะอาดเท่านั้น เพราะมันอาจสร้างความเสียหายให้ผนังที่อยู่ติดกับกระจก ขอบหน้าต่าง กระเบื้อง พื้น หรือสีรถได้
3
ใส่อุปกรณ์ป้องกันหากจำเป็น. ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหลายชนิดสามารถกัดกร่อนและก่ออันตรายกับคนและสัตว์ได้ ฉะนั้นควรสวมถุงมือและแว่นตาป้องกัน อย่างเช่นแว่นตากันลม หากจำเป็น
- ล้างมือทันทีหลังจากที่ได้สัมผัสกับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และอย่านำมือเข้าปาก แตะจมูกหรือตาทันทีหลังจากที่ได้สัมผัสกับผลิตภัณฑ์แล้ว
- ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดส่วนใหญ่ควรใช้ในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก เพื่อไม่ให้เกิดผลร้ายต่อร่างกายจากละอองของผลิตภัณฑ์
- อ่านคำเตือนบนฉลากอย่างระมัดระวังก่อนใช้งาน
ทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่าหรือสารละลายน้ำส้มสายชู. หลังจากที่ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแล้ว ต้องทำความสะอาดกระจกด้วยน้ำเปล่าหรือน้ำส้มสายชูเพื่อกำจัดผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ยังตกค้างอยู่ และขอให้ทำความสะอาดกระจกให้แห้งสนิทด้วย
ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดควรเก็บเอาไว้ด้านนอก โดยห่างจากเด็กและสัตว์ ฝาต้องปิดให้สนิทและต้องเช็ดสารที่หกเกินติดกับบรรจุภัณฑ์ให้สะอาด โดยแนะนำให้วางไว้บนชั้นวางสูงๆ หลังประตูในที่ที่เด็กเอื้อมไม่ถึงจะดีที่สุด
โฆษณา

วิธีการ 5

วิธีการ 5 ของ 5:

ป้องกันไม่ให้เกิดคราบน้ำขึ้นอีก

ดาวน์โหลดบทความ

ถ้าได้ทำความสะอาดคราบน้ำออกตั้งแต่ตอนที่มันกำลังจะก่อตัวขึ้น คราบก็จะฝังไม่แน่นเท่าใดนัก และง่ายต่อการกำจัดออกด้วย เพียงแค่สเปรย์บริเวณที่เป็นคราบด้วยสารละลายน้ำส้มสายชูอาทิตย์ละครั้ง เมื่อมันจะเริ่มก่อตัวขึ้น ก็น่าจะเพียงพอแล้ว
2
เช็ดน้ำที่หลงเหลืออยู่ออก. การป้องกันเป็นวิธีรับมือที่ดีที่สุดกับคราบน้ำฝังแน่น คือไม่ปล่อยให้มีน้ำเกาะอยู่และระเหยออกไปเลยนั่นเอง ถือเป็นหัวใจหลักสำคัญในการป้องกันการก่อตัวของคราบตั้งแต่แรก^{[12]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- เช็ดกระจกเปียกด้วยผ้าขนหนูแห้ง ถ้าคุณเห็นว่ามีน้ำเกาะอยู่บนนั้น
- ใช้ไม้กวาดหุ้มยางปาดน้ำที่เกาะบนผิวกระจกออก มันจะทำให้กระจกของคุณดูสะอาดและใสกิ๊ง^{[13]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการเลี่ยงไม่ให้เกิดคราบน้ำก่อตัวขึ้น ถ้าคุณเจอปัญหาคราบน้ำเกาะบนกระจกรถ ก็ให้ไปจอดในที่ที่มีหลังคาบัง เช่นในโรงรถ ติดผ้าม่านเอาไว้เพื่อกันน้ำเข้าหน้าต่างใกล้ๆ ครัวหรืออ่างล้างหน้า
ผลิตภัณฑ์ที่กันน้ำได้ อย่างผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีสารตั้งต้นเป็นน้ำมัน หรือผลิตภัณฑ์ยี่ห้อ rain-x อาจช่วยให้ไม่เกิดการก่อตัวของคราบน้ำขึ้นได้^{[14]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} อย่าใช้ผลิตภัณฑ์นี้กับกระจกรถยนต์ ยกเว้นว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตมาเพื่อใช้กับกระจกรถโดยเฉพาะ และจะไม่รบกวนการมองเห็นไม่ว่าจะเป็นเวลาที่กระจกเปียกหรือแห้ง
โฆษณา

เคล็ดลับ

วิธีที่คุณใช้นั้นขึ้นอยู่กับคราบน้ำที่ฝังแน่นที่มี อาจต้องใช้วิธีที่หนักขึ้นสำหรับคราบที่ฝังแน่นมาเป็นเวลานานกว่า
คุณสามารถใช้วิธีเดียวกันเพื่อกำจัดคราบที่เกิดกับหม้อต้มกาแฟก็ได้ โดยผสมน้ำส้มสายชูใส 25% เข้ากับน้ำ 75% เติมลงในส่วนที่ใส่น้ำ จากนั้นก็เสียบปลั๊กทำงานหม้อต้มกาแฟ และทำซ้ำถ้าหากว่าคราบยังไม่หายไป
ยิ่งทิ้งตะกอนแร่ธาตุไว้นานแค่ไหน ก็จะยิ่งกำจัดออกได้นานขึ้นเท่านั้น
คุณสามารถใช้น้ำส้มสายชูแทนน้ำเลมอนได้ ถ้าหากว่ามีเตรียมพร้อมไว้แล้ว เพราะเลมอนก็มีฤทธิ์กรดเท่าๆ กันที่จะช่วยละลายสารที่เป็นด่างนั่นเอง
ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดคราบอาหารบนแก้วก็ใช้ได้ดีเช่นกัน และยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดคราบในครั้งหน้าได้อีกด้วย

โฆษณา